“ในเมื่อเจ้าเข้าใจความลึกซึ้งผ่ามิติถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยแล้ว…พลังฝีมือของเจ้าสมควรเหนือกว่าผู้ใด แล้วไฉนเดือนก่อนเจ้าต้องร่วมมือกับข้าด้วย?”

หว่านชิงชิงที่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก สุดท้ายก็เลือกจะส่งเสียงผ่านพลังไปถามต้วนหลิงเทียนตรงๆ

ในสายตานาง ต้วนหลิงเทียนที่เข้าใจความลึกซึ้งผ่ามิติถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อย ต่อให้ในแง่ความเร็วจะสู้ 6 คนนั่นไม่ได้ แต่ก็สามารถใช้ความลึกซึ้งผ่ามิติเพ่งเล็งสังหารทั้ง 6 ได้อย่างง่ายดาย

เพราะความเร็วในการเข่นฆ่าสังหารของคมมีดมิติ จากความลึกซึ้งผ่ามิติขั้นตอนเล็กน้อยนั้น…มันเหนือล้ำ สุดที่ทั้ง 6 จะหลีกเลี่ยงได้!

ดุจเดียวกับกงซุนอู๋จี๋เมื่อครู่ แม้มันจะรวดเร็วถึงขั้นไหวตัวทัน และพุ่งร่างฉีกระยะออกไปทันทีเมื่อพบว่าต้วนหลิงเทียนวูบร่างมาดักหน้า แต่สุดท้ายเมื่อต้วนหลิงเทียนปลดปล่อยผ่ามิติออกมา มันก็ไม่มีแม้แต่เวลาจะตอบสนองสิ่งใด ร่างถูกคมมีดมิติทั้ง 3 สายสะบั้นสังหารในพริบตา

“เดือนที่แล้ว…ความลึกซึ้งผ่ามิติของข้ายังไม่บรรลุขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยเลย”

ได้ยินคำถามผ่านพลังของหว่านชิงชิง ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวตอบออกไปตามตรง เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ความลับอะไร และไม่จำเป็นต้องปิดบัง

ตราบใดที่เขาไม่เปิดเผยการคงอยู่ของผลึกสำนึกผู้แข็งแกร่งที่สุดเป็นพอ

อันที่จริงกระทั่งตัวต้วนหลิงเทียนเองก็คิดไม่ถึงด้วยซ้ำ ว่าในเวลาแค่ช่วงสั้นๆ ผลึกสำนึกผู้แข็งแกร่งที่สุด จะช่วยให้เขาตระหนักรู้ความลึกซึ้งผ่ามิติถึงจนบรรลุความเข้าใจขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยได้

เป็นดั่งที่เพลิงเทพโกลาหลกล่าวไว้ไม่มีผิด ผลึกสำนึกผู้แข็งแกร่งที่สุดนั้น ก็คือภูมิปัญญาและองค์ความรู้ของกฏที่ตกผลึกแล้ว เรียกว่าทุกอย่างที่เขาเห็นในฝันไม่ต่างอะไรจากแก่นแท้ของความลึกซึ้งนั้นๆ

ด้วยวิธีนี้ ผลึกสำนึกผู้แข็งแกร่งที่สุด จึงทำให้เขาตระหนักรู้ความลึกซึ้งได้ง่ายดาย จากที่เข้าใจแค่ขั้นตอนเบื้องต้น ก็กลายเป็นเข้าใจถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อย

นอกจากความหมายแห่งมิติแล้ว ความลึกซึ้งที่เหลือนั้นระดัการเข้าใจในขั้นตอนเบื้องต้นกับเล็กน้อย เป็นดั่งคนละโลกกันเลยก็ว่าได้ เพราะพลังอำนาจของมันอยู่กันคนละระดับโดยสมบูรณ์

ด้วยเหตุนี้ ต้วนหลิงเทียนที่เข้าใจความลึกซึ้งผ่ามิติถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยแล้ว จึงมีพลังเข่นฆ่าเพิ่มขึ้นอีกหลายระดับ!

“เจ้าหมายความว่า…ความลึกซึ้งผ่ามิติของเจ้า พึ่งจะมาตระหนักรู้จนทำให้เจ้าเข้าใจมันถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเนี่ยนะ!?”

ถึงแม้เรื่องราวจะฟังดูน่าเหลือเชื่ออยู่บ้าง แต่หว่านชิงชิงก็เลือกที่จะเชื่อต้วนหลิงเทียน

“ใช่”

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าส่งเสียงตอบกลับ

“แล้วความลึกซึ้งที่เหลือเล่า? ในเมื่อเจ้าเข้าใจความลึกซึ้งผ่ามิติถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยได้ หมายความว่าความลึกซึ้งของกฏมิติประการอื่นๆที่เหลือ เจ้าก็ต้องเข้าใจพวกมันถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นแต่แรกแล้วสิ?”

“หากเป็นเช่นนั้น เจ้าที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติทั้ง 9 ประการ พลังฝีมือย่อมไม่ด้อยกว่าผู้ใดในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเลย ไฉนยังต้องมาขอความร่วมมือจากข้าด้วยล่ะ?”

หว่านชิงชิงเอ่ยถามผ่านพลังไปอีกครั้ง ทีท่าของนางยังคล้ายคนทุบหม้อจมเรือที่ต้องรู้ให้ได้ ทำให้ต้วนหลิงเทียนเองก็อึกอักไปพักหนึ่งด้วยไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี

“ข้าเองก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร…เจ้ารู้แค่ว่า เมื่อเดือนก่อน หากข้าลงมือคนเดียว ข้าไม่มีทางจัดการพวกมันได้แน่นอน เว้นเสียแต่พวกมันจะเลือกสู้กับข้าจนถึงที่สุด”

“หากข้าจัดการพวกมันได้เพียงลำพัง ข้าคงไม่ร่วมมือกับเจ้าหรอก”

หลังต้วนหลิงเทียนกล่าวผ่านพลังจบคำ เขาก็หันไปกวาดตามองทุกคนที่มาชมดูเรื่องราวการปะทะกันระหว่างเขากับกงซุนอู๋จี๋ทันที มุมปากยังยกยิ้มอ่อนๆ

“ฉิบหายแล้วไง!!”

แน่นอนว่ารอยยิ้มอ่อนๆของเขานั้น สำหรับเหล่าศิษย์คฤหาสน์อมตะระดับ 6 ทั้งหลายที่มามุงชมเรื่องราว มันไม่ต่างอะไรจากรอยยิ้มของปีศาจแม้แต่น้อย

วูบ!

ทันใดนั้นเอง ร่างต้วนหลิงเทียนพลันอันตรธานหายไปในอากาศ ปรากฏตัวอีกครั้งก็ไปขวางทางศิษย์กลุ่มหนึ่งที่มามุงชมเรื่องราว แต่กำลังจะตีเนียนจากไป

“พี่ท่านทั้งหลาย…หรือจะให้ข้าลงมือ?”

ต้วนหลิงเทียนมองกล่าวกับกลุ่มคนเบื้องหน้าด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ เอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า

“อั้ย! พวกเราไหนเลยจะกล้ารบกวนศิษย์พี่ต้วนเล่า พวกเราจักจัดการเอง”

“ไม่รบกวนๆ”

สีหน้าของกลุ่มคนที่ถูกต้วนหลิงเทียนวูบมาหยุดขวางบิดเบี้ยวอัปลักษณ์นัก หลังกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้มฝืนๆ พวกมันก็เรียกป้ายหยกสะสมคะแนนออกมาทุบทำลายด้วยแววตาสลด

พอได้รับคะแนนสะสมของคนกลุ่มนี้แล้ว ร่างต้วนหลิงเทียนก็วูบไปดักกลุ่มคนที่คิดเคลื่อนไหวต่อทันที

สุดท้ายนอกจากคนของคฤหาสน์เฉวียนโยวกับคนของคฤหาสน์อู่จ้าน จะเลือกหลบหนีก็ดี หรือรอรับชะตากรรมก็ดี ต้วนหลิงเทียนไปเยือนด้วยรอยยิ้มหมด

สำหรับคนของคฤหาสน์ปี้ชิงนั้น ในเมื่อพวกมันอยู่ในค่ายพัก เขาก็ไม่อาจทำอะไรพวกมันได้ และก็ไม่มีใครหาญกล้าก้าวออกมานอกเขตค่ายพักแม้แต่ก้าวเดียว ดังนั้นหลังจัดการกงซุนอู๋จี๋แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไม่อาจจัดการคนของคฤหาสน์ปี้ชิงได้อีกแม้แต่คนเดียว

สำหรับคนของคฤหาสน์อู่จ้าน เดิมทีก็คิดว่าต้องซวยเหมือนคนอื่นๆแน่นอนแล้ว แต่พวกมันคิดไม่ถึงว่าต้วนหลิงเทียนกลับไม่คิดทำอะไรพวกมัน ทำให้หลายคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“ศิษย์น้องหญิงชิงชิง ดูเหมือนที่พวกเรารอดตัวมาได้ ต้องขอบคุณเจ้าแล้วล่ะ”

เหิงเฟิงมองกล่าวกับหว่านชิงชิงด้วยรอยยิ้มแหยๆ

ไม่ยากที่มันจะเดาได้ว่าไฉนต้วนหลิงเทียนถึงไม่คิดเอาคะแนนของศิษย์คฤหาสน์อู่จ้าน

ทั้งหมดไม่พ้นเพราะเห็นแก่หน้าหว่านชิงชิง

นอกจากเรื่องนี้ มันก็คิดหาสาเหตุอื่นไม่ออกแล้ว

ด้านค่ายคฤหาสน์ปี้ชิง ผู้คนก็ทยอยกันใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายเพื่อกลับออกไปทีละคนๆ

จากนั้นข่าวการตายของกงซุนอู๋จี๋ ก็เริ่มแพร่สะพัดไปทั่วคฤหาสน์ปี้ชิง

ตูมมมม!!

ผู้นำคฤหาสน์ปี้ชิง หลังจากเรียกประชุมเหล่าอาวุโสทั้งหลายแล้ว มันก็อดไม่ได้ที่จะฟาดโต๊ะข้างๆจนปี้ป่นด้วยโทษะ

“ต้วนหลิงเทียนนั่นมันฆ่ากงซุนอู๋จี๋ไปแล้ว…จากนี้ต่อไปคฤหาสน์ปี้ชิงของพวกเรา เกรงว่าคงยากจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการติด 10 อันดับแรกในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางอีกต่อไป!”

“บัดซบ! ทั้งหมดเป็นนเพราะสารเลวแซ่ต้วนนั่นคนเดียว!!”

“ถล่มมารดามัน! อย่าให้ข้าเจอมันเชียว หาไม่แล้วข้าจะบดร่างมันให้แหลกคามือ!!”

เหล่าอาวุโสของคฤหาสน์ปี้ชิงเดือดดาลไม่น้อย

กงซุนอู๋จี๋เป็นดั่งไพ่ตายใบสำคัญของคฤหาสน์ปี้ชิงที่จะทิ้งลงแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง แต่ตอนนี้กลับถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าตายไปแล้ว พวกมันก็ไม่เหลือไพ่อะไรให้ทิ้งอีก

ความสูญเสียระดับนี้ คฤหาสน์ปี้ชิงไม่เคยประสบมาก่อนเลย

กล่าวได้ว่านี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆ ตั้งแต่มีเรื่องกับคฤหาสน์เฉวียนโยวแล้วคฤหาสน์ปี้ชิงของพวกมันเสียท่าถึงขนาดนี้!

“จ้างวานนักฆ่ากันเถอะ…หาคนไปฆ่าสารเลวน้อยแซ่ต้วนนั่น!!”

รองผู้นำคฤหาสน์ปี้ชิงคนหนึ่งกล่าวเสนอออกมาด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม “ข้าพอมีเส้นสายอยู่บ้าง…สามารถติดต่อองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดได้!”

“รีบติดต่อเสีย”

หลังได้รับการอนุมัติจากผู้นำคฤหาสน์ปี้ชิง รองผู้นำคนดังกล่าวก็ไม่รอข้าเรียกลูกแก้ววิญญาณทั้งยันต์อมตะสื่อสารทางวิญญาณออกมาใช้ ติดต่อไปยังอาวุโสขององค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดที่มันรู้จักทันที

แต่ทว่าหลังจากติดต่อไปไม่นาน หน้าของมันก็เปลี่ยนสีไปทันใด

“เกิดอะไรขึ้น?”

“มีปัญหาอันใดรึ?”

“คงมิใช่ว่าต้วนหลิงเทียนนั่นมีความเป็นมาน่าทึ่ง จนองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดไม่กล้ารับงานหรอกนะ?”

“องค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดจัดเป็น 1 ใน 3 องค์กรมือสังหารระดับแนวหน้าของแดนสวรรค์ใต้เราแล้ว…หากกระทั่งพวกมันยังไม่กล้ารับภารกิจสังหารต้วนหลิงเทียน ข้าเกรงว่าคงไร้องค์กรมือสังหารใดในแดนสวรรค์ใต้กล้ารับภารกิจสังหารต้วนหลิงเทียนอีก!”

เหล่าอาวุโสของคฤหาสน์ปี้ชิงกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หลังเห็นว่าสีหน้าของรองผู้นำคฤหาสน์ที่ติดต่อับองค์กรกะโหลกเลือดเปลี่ยนไปเป็นไม่สู้ดี

“มิใช่อย่างนั้น…”

ไม่นานรองผู้นำคนนั้นก็ส่ายหัวไปมา พลางกล่าวเสียงอ่อน “สหายที่ข้าพึ่งติดต่อไปได้ตอบกลับมาว่า…ข้าไม่จำเป็นต้องจ้างงานอะไร”

“เนื่องเพราะในองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดของมัน…มีภารกิจสังหารต้วนหลิงเทียนอยู่แล้ว”

รองผู้นำคฤหาสน์ปี้ชิงคนดังกล่าว พูดออกมารวดเดียวจบ

“อะไร? มีภารกิจสังหารไอ้เด็กแซ่ต้วนนั่นอยู่แล้ว?”

“ดูเหมือนว่าสารเลวน้อยแซ่ต้วนนั่นจะขวางหูขวางตาผู้อื่นไม่น้อยเช่นกัน!”

“หึ! เช่นนี้ก็ดี อย่างน้อยๆคฤหาสน์ปี้ชิงของพวกเราก็ไม่ต้องจ่ายค่าจ้างอันใด!”

แตกต่างจากทางด้านคฤหาสน์ปี้ชิงที่บรรยากาศอึมครึม

ทางด้านคฤหาสน์เฉวียนโยว พอได้รับทราบว่ากงซุนอู๋จี๋ ศิษย์หลักขอคฤหาสน์ปี้ชิง ถูกต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่า พวกมันก็ตกอกตกใจกันยกใหญ่

“สารเลวชั่วชาติกงซุนอู๋จี๋ของคฤหาสน์ปี้ชิงนั่น…มันตายแล้วจริงๆหรือ ยิ่งไปกว่านั้นยังตกตายด้วยน้ำมือศิษย์พี่ต้วน?”

“ฟ้ามีตาแล้วจริงๆ! ข้าไม่คิดเลยว่าเดียรัจฉานกงซุนอู๋จี๋นั่นจักมีวันตายด้วย…เปี่ยวเม่ยของข้าถูกมันย่ำยีสังหารต่อหน้าต่อตา! นับว่ามันตายได้ประเสริฐนัก! ตายได้ประเสริฐนัก!!”

“จ้าวสวรรค์ช่วย! ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนทำได้อย่างไรกัน ไฉนอยู่ๆจึงร้ายกาจถึงขั้นเข่นฆ่ากงซุนอู๋จี๋ผู้นั้นได้เล่า!?”

“เมื่อครู่สหายข้าที่พึ่งทุบทำลายป้ายหยกตัวเองเพื่อออกมาบอกข่าวดีเร็วๆบอกว่า…มันเห็นกับตาว่าศิษย์พี่ต้วนใช้ความลึกซึ้งผ่ามิติที่บรรลุขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยออกมา…พริบตาฟ้าก็ปรากฏรอยแยกมิติ 3 รอย คมมีดมิติพุ่งไปเข่นฆ่าสังหารกงวุนอู๋จี๋ฉับไว สุดที่มันจะทันได้ตอบสนองใดๆ!!”

“อะไร!? ความลึกซึ้งผ่ามิติขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อย!? จริงหรือหลอก!? เท่าที่ข้ารู้มา ในประวัติศาสตร์แดนสวรรค์ใต้ราณระดับกลางของแดนสวรรค์ใต้เรา ดูเหมือนจะไม่มีขุนนางอมตะคนใดเข้าใจความลึกซึ้งของกฏถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยแม้แต่คนเดียว!!”

“บ้าไปแล้ว! ศิษย์พี่ต้วนถึงกับเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเชียวหรือ!?”

เหล่าศิษย์และอาวุโสของคฤหาสน์เฉวียนโยวล้วนตื้นเต้นยินดีกับการตายของกงซุนอู๋จี๋แห่งคฤหาสน์ปี้ชิงกันยกใหญ่ และที่ทำให้ตกใจเป็นที่สุดก็คือพลังของต้วนหลิงเทียน!

และตอนนี้ทุกคนก็กำลังฮือฮากับความเคลื่อนไหวในตารางจัดอันดับของต้วนหลิงเทียนนัก!

“ดูเร็ว! คะแนนสะสมของศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนพุ่งกระฉูดทะลุพันอีกรอบแล้ว!!”

เหล่าศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวบริเวณตำหนักเคลื่อนย้ายทั้ง 3 เมื่อเห็นว่าคะแนนสะสมของต้วนหลิงเทียนที่อยู่ในอันดับ 1 ของแดนสวรรค์ใต้โบราณไม่ทันไรก็พุ่งทะลุเกินพันแต้ม ก็อดไม่ได้ที่จะโพล่งกล่าวออกมาด้วยความคึกคัก

“จะร้ายกาจเกินไปแล้ว!!”

“ข้าล่ะคิดไม่ถึงจริงๆว่าศิษย์พี่ต้วนจะร้ายกาจถึงขั้นฆ่าสารเลวบัดซบกงซุนอู๋จี๋นั่นได้…เช่นนั้นหมายความว่าต่อให้เจอใครใน 5 คนที่เหลือ ศิษย์พี่ต้วนก็เก็บได้หมด!!”

“ตอนนี้ทั้ง 5 คนนั่นคงได้รับแจ้งข้อมูลที่ศิษย์พี่ต้วนฆ่ากงซุนอู๋จี๋ไปแล้วแน่นอน ต่อไปหากพบเจอศิษย์พี่ต้วน พวกมันคงไม่มีความกล้าจะประมือด้วยซ้ำ!”

“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าคฤหาสน์เฉวียนโยวเราจะมีวันที่ไร้เทียมทานในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางแบบนี้ด้วย…”

“ศิษย์พี่ต้วนร้ายกาจเกินไป…ร้ายกาจถึงขนาดนี้ข้าเกรงว่าคงไม่อยู่ในคฤหาสน์เฉวียนโยวเรานานนักหรอก”

“จริง ศิษย์พี่ต้วนบรรลุความแข็งแกร่งระดับนี้ได้ด้วยวัยไม่ถึง 100 ปี หมายความว่าคฤหาสน์เฉวียนโยวเราถูกกำหนดไว้แล้วว่ามิอาจรองรับผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานทางตระกูลซูต้องส่งคนมารับตัวศิษย์พี่ต้วนไปแน่”

คฤหาสน์อมตะระดับ 6 ทั้งหลาย ล้วนมีตระกูลในบรรดา 10 ตระกูลใหญ่อยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น

และตระกูลใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังคฤหาสน์เฉวียนโยวก็คือ ตระกูล ซู

“ต้วนหลิงเทียน ในเมื่อคะแนนสะสมเจ้าทะลุพันไปแล้ว เช่นนั้นก็ออกมาเลยเถอะ…ท่านจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยเรียกเจ้าไปเข้าพบ”

หลังเห็นว่าคะแนนสะสมของต้วนหลิงเทียนทะลุพันอีกรอบ ฉีเทียนหมิงก็เร่งส่งข้อความไปหาต้วนหลิงเทียนที่อยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางทันที

มันเองก็ตกใจไม่น้อยตอนได้รับทราบว่าต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่ากงซุนอู๋จี๋ได้

และสำหรับเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนเข้าใจความลึกซึ้งผ่ามิติถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยนั้น ก็ทำให้มันตกตะลึงถึงขั้นพูดไม่ออก มันยังอดไม่ได้ที่จะสงสัยอยู่บ้าง ว่าใช่มีคนจงใจปล่อยข่าวลือเกินจริงอะไรรึเปล่า

มันอยากจะเรียกต้วนหลิงเทียนให้ออกมายืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้แต่แรก

“หากเจ้าเข้าใจความลึกซึ้งผ่ามิติถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยแล้วจริงๆ…เช่นนั้นท่านจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์ไม่พ้นต้องยุติการทดสอบของเจ้า และให้เจ้าขึ้นรับตำแหน่งผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยโดยตรงแน่!”

หลังส่งข้อความแรกไป ฉีเทียนหมิงก็เร่งส่งข้อความที่ 2 ไปติดๆ

เมื่อได้รับทราบข้อความทั้ง 2 ที่ฉีเทียนหมิงส่งมา ต้วนหลิงเทียนก็ย้อนกลับค่ายคฤหาสน์เฉวียนโยว และใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายออกมาทันที

ทุกที่ทางที่ต้วนหลิงเทียนเดินผ่าน เหล่าศิษย์และอาวุโสของคฤหาสน์เฉวียนโยว ก็ทักทายเขาด้วยความกระตือรือร้นเป็นที่สุด

เรียกว่าตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจาก ‘คนดัง’ ของคฤหาสน์เฉวียนโยวเลย

หลังกลับออกมาด้านนอก ต้วนหลิงเทียนก็มุ่งหน้าไปยังที่พักฉีเทียนหมิงทันที

“เอาล่ะ ข้าจะพาเจ้าไปพบจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อย”

ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนเจอฉีเทียนหมิง อีกฝ่ายก็พาเขาไปยังวังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยทันที

ระหว่างทางฉีเทียนหมิงที่เต็มไปด้วยความสงสัยก็อดถามออกมาไม่ได้ “เจ้า…นี่เจ้าเข้าใจความลึกซึ้งผ่ามิติถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยแล้วจริงๆหรือ?”