“นักฆ่าองค์กรกะโหลกเลือด? 3 คน?”

ได้ยินคำถามชวนคิดของผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยว หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายาก็ขมวดคิ้วเป็นปม “ผู้นำจง ไฉนท่านถึงปล่อยให้มือสังหารของกะโหลกเลือดมาป้วนเปี้ยนนอกคฤหาสน์ได้เล่า?”

“นั่นเพราะพวกมันยังไม่ได้ทำอะไร พวกเราก็ไม่สะดวกที่จักลงมือตามอำเภอใจ…สุดท้ายองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดนั่น ในฐานะ 1 ใน 3 องค์กรมือสังหารชั้นนำของแดนสวรรค์ใต้ ก็มีความเป็นมาไม่ธรรมดาเช่นกัน”

ผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวกล่าว

“พวกมัน…คงไม่ได้มาเพราะคิดเล่นงานต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวท่านกระมัง?”

หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายาเอ่ยคาด “ต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียโยวท่าน กระทั่งข้าที่ไม่ค่อยออกนอกเผ่าไปไหน ยังประหนึ่งฟ้าร้องในหู เห็นว่าอายุไม่ถึงร้อยปี ไม่เพียงบรรลุถึงขุนนางอมตะ 10 ทิศ แต่ยังเข้าใจความลึกซึ้งผ่ามิติถึงขั้นตอนเล็กน้อยแล้ว?”

“อาวุโสจาง ท่านนับว่ารู้จักต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวพวกเราดีจริงๆ อย่างไรก็ตามข่าวสารท่านล้าสมัยไปอยู่บ้าง เพราะตอนนี้ต้วนหลิงเทียนมิได้เป็นขุนนางอมตะ 10 ทิศอีกต่อไป แต่บรรลุถึงราชาอมตะเรียบร้อย”

ผู้นำคฤหาสน์ยิ้มกล่าว

“ทะลวงด่านแล้วรึ?”

หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายาพอได้ฟังก็ประหลาดใจอยู่บ้าง จากนั้นค่อยตระหนักได้ว่า “ไม่น่าแปลกใจเลยที่ข้าได้ข่าวว่า มันไม่ได้เข้าแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางอีกเลย ข้าหลงคิดว่าเพราะมันรู้สึกว่าไร้คู่ต่อสู้ และรังเกียจจะเข้าไปรังแกผู้อื่นในนั้นเสียอีก…ไม่คิดเลยว่าจะสามารถทะลวงด่านพลังไปได้แล้วแบบนี้”

“ผู้นำจง ไม่ทราบว่าข้าพอจะมีวาสนาได้พบพานต้วนหลิงเทียนที่ร่ำลือหรือไม่?”

สองตาหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายาฉายแสงงขึ้นมาขณะถาม

ถึงแม้ว่าก่อนที่คนของเผ่าจิ้งจอกมายาทั้ง 2 ของพวกมันจะตกตายใกล้คฤหาสน์เฉวียนโยว สาเหตุจะเป็นเพราะลอบติดตามสตรีที่สงสัยว่าจะเป็นจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายา

ยิ่งไปกว่านั่นสตรีที่ว่าอายุยังไม่ถึงร้อยปี แต่เป็นขุนนางอมตะ 10 ทิศแล้ว

อย่างไรก็ตามพอนึกถึงชื่อเสียงอันเลื่องลือของต้วนหลิงเทียนแห่งคฤหาสน์เฉวียนโยว มันก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย…ว่าอีกฝ่ายจะใช่จิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาที่เผ่าหลักของพวกมันกำลังตามหาหรือไม่?

ท้ายที่สุดแล้ว จิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาที่ปรากฏตัวขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อนของเผ่าจิ้งจอกมายาก็เป็นผู้ชาย

นอกจากนั้นหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายายังไม่ล้วงรู้เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนได้ผลเทพสังเวยสวรรค์ หาไม่แล้วมันคงไม่คิดแบบนี้แน่นอน

“พอดีตอนนี้เจ้าหนุ่มนั่นปิดด่านบ่มเพาะในวังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อย…หากหัวหน้าเผ่าคิดพบเจอ ข้าต้องไปถามจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยเสียก่อน”

ผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวกล่าว

“วังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อย?”

หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายาพอได้ยินก็ตกใจไม่น้อย “ผู้นำจง หรือต้วนหลิงเทียนผู้นั้นมีคุณสมบัติเป็นผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยวท่านแล้ว…แต่จะว่าไปด้วพรสวรรค์และสติปัญญาก็นับว่ามีคุณสมบติจริงๆ!”

มันเองก็เคยได้ยินเรื่องผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยวมาก่อน

“ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนเป็นผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของพวกเราแล้ว”

ผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวพยักหน้ารับคราหนึ่ง จากนั้นก็ส่งข้อความไปหาจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อย บรรพจาร์ยของมันว่าจะยอมให้ต้วนหลิงเทียนเจอหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายาหรือไม่

จ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยก็ไปถามต้วนหลิงเทียนอีกที

“ข้าจะไปพบมันดู”

ต้วนหลิงเทียนที่ถูกปลุกให้ตื่นจากภวังค์บ่มเพาะ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอยู่บ้าง เพราะไม่คิดว่าการตายของเผ่าจิ้งจอกมายา 2 คนนั่น จะมีปัญหามากกว่าที่คิด ถึงขั้นที่หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายาสาขาแดนสวรรค์ใต้จะมาด้วยตัวเอง

นอกจากนั้นอีกฝ่ายยังอยากเจอเขาอีก

‘ที่มันอยากเจอข้า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการตายของ 2 คนนั่น…แต่สมควรเป็นเพราะสาเหตุอื่นมากกว่า’

ต้วนหลิงเทียนตัดสินใจจะไปพบเจออีกฝ่าย เพราะสุดท้ายอีกฝ่ายก็อาจเป็นภัยคุกคามต่อฮ่วนเอ๋อ

เผลอๆบางทีอีกไม่นานอาจจะกลายเป็นศัตรูที่ต้องฆ่ากันให้ตายก็เป็นได้

ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสเจออีกฝ่าย เขาก็จะได้ไปสำรวจอีกฝ่ายดูหน่อย

จากนั้นด้วยมีคนที่ผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวส่งมารับ ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็มาถึงโถงรับรองที่ผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวใช้ต้อนรับหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายา

“ผู้นำ”

หลังต้วนหลิงเทียนทักทายผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวแล้วเสร็จ เขาก็เหลือบไปมองอีก 3 คนที่อยู่ในห้องรับรองทันที

ใน 3 คนนั่น มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่นั่งอยู่ ก็คือชายหนุ่มที่เส้นผมขนคิ้วเป็นสีขาวโพลน

ชายชรา 2 คนยืนประกบอยู่ด้านหลังมันแน่นิ่ง ราวกับผู้คุ้มกันมากระเบียบ

“ต้วนหลิงเทียน นี่คือหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายา อาวุโสจาง…อาวุโสจางได้ยินเรื่องเจ้ามานานแล้ว ที่มาเยือนคฤหาสน์เฉวียนโยวเราคราวนี้ ส่วนหนึ่งเพราะอยากพบเจอเจ้า”

ผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“หัวหน้าเผ่าจาง”

ต้วนหลิงเทียนก็หันไปกล่าวคำทักทายอีกฝ่ายทันที

ขณะเดียวกันในหูเขาก็ได้ยินเสียงผ่านพลังของผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยว “ต้วนหลิงเทียน เจ้านี่มันเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์โดยแท้…ในเมื่อ จางตงหนาน ผู้นี้เจาะจงพบเจ้า เช่นนั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลแน่ เจ้าคุยกับมันก็ระวังด้วย”

“ต้วนหลิงเทียน ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามานานแล้ว…ได้พบเจ้าวันนี้นับว่าสมคำร่ำลือจริงๆ เจ้านับเป็นสุดยอดอัจฉริยะดั่งมังกรในหมู่มนุษย์โดยแท้”

จางตงหนานมองต้วนหลิงเทียน กล่าวพลางถอนหายใจ

ทันทีที่มันเห็นต้วนหลิงเทียน มันก็บอกได้ทันทีว่าต้วนหลิงเทียนไม่ใช่จิ้งจอกน้ำแข็งพันมายา เพราะต้วนหลิงเทียนไม่มีกลิ่นอายของจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาอยู่เลย อีกฝ่ายไม่ใช่แม้แต่ผู้ต้องสงสัยด้วยซ้ำ

จิ้งจอกน้ำแข็งพันมายานั้น ขอเพียงพลังฝึกปรือบรรลุถึงขุนนางอมตะ 10 ทิศ ตัวมันก็ไม่อาจยืนยันได้แล้ว ทำได้แค่สัมผัสถึงกลิ่นอายจางๆเหมือน 2 คนที่ตายตกไปเท่านั้น

ที่ผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวกล่าวเตือนต้วนหลิงเทียน เพราะคิดว่าจางตงหนานจะพยายามหลอกถามเรื่องราวจากต้วนหลิงเทียน

แต่มันไม่คิดเลยว่าหลังอีกฝ่ายพบเจอต้วนหลิงเทียนเข้าจริงๆ จางตงหนานนั่นกลับไม่ได้พยายามถามหาข้อมูลอะไรจากต้วนหลิงเทียนเลย แค่สนทนาเรื่อยเปื่อยเท่านั้น

จังหวะนี้มันอดไม่ได้ที่จะงุนงงอยู่บ้าง

ต้วนหลิงเทียนก็พบว่ามันแปลกพิกลที่จางตงหนานอยากพบเจอเขาเฉยๆแบบนี้

หลังจากคุยเล่นเรื่อยเปื่อยกับต้วนหลิงเทียนไปอีกราวๆ 2 เค่อ จางตงหนานก็ทำท่าราวจะนึกอะไรได้ออก จึงหันไปมองถามผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวว่า “จริงสิผู้นำจง ว่าแต่ช่วงนี้มีผู้ใดมาเข้าร่วมกับคฤหาสน์เฉวียนโยวอีกหรือไม่ อย่างเช่นคนที่สวมผ้าปิดปากกับหมวกงอบผ้าคลุมหน้าชุดขาวอายุไม่เกินร้อยปี”

“หืม? มิมีนะ ศิษย์ใหม่เพียงคนเดียวที่เข้าร่วมคฤหาสน์เฉวียนโยวเราช่วงนี้มีเพียงต้วนหลิงเทียนเท่านั้น”

ผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวกล่าวตอบจบ ก็เอ่ยเสริมต่อว่า “อาวุโสจางก็สมควรได้ยินมาบ้างแล้ว ว่าคฤหาสน์เฉวียนโยวของพวกเรามักเปิดรับศิษย์เพิ่มตามเวลาที่กำหนด…ปกติแล้วเว้นเสียแต่จะเป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์อย่างต้วนหลิงเทียน หาไม่พวกเราก็ไม่คิดเปิดประตูรับผู้ใดนอกเวลา”

“อืม”

จางตงหนานพยักหน้ารับทราบ จากนั้นมันก็ลุกขึ้นยืนทันที และกล่าวคำอำลาผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวกับต้วนหลิงเทียน

“ต้วนหลิงเทียนหากเจ้าว่างก็แวะมาเที่ยวเผ่าจิ้งจอกมายาของพวกเราบ้าง…เผ่าจิ้งจอกมายาของเรา มีสตรีงดงามมากมาย บางทีเจ้าอาจพบสหายคู่ใจยามมาเยือนเผ่าจิ้งจอกมายาของเราก็ได้”

ก่อนจะเดินทางจากไป จาตงหนาน ไม่ลืมมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาลึกซึ้ง

ได้ฟังคำพูดของจางตงหนาน มุมปากผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวก็ยกยิ้มเย้ยหยันเล็กน้อย ไหนเลยมันจะดูไม่ออกว่าจางตงหนานคิดใช้สตรีมาล่อลวงต้วนหลิงเทียน

เพราะมันเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนไม่มีทางถูกอีกฝ่ายใช้เรื่องนี้มาล่อลวงได้แน่นอน

เนื่องจากบรรพจาร์ยของมันได้แจ้งมาแล้ว ว่าสตรีที่ถูกคนของเผ่ามายา 2 คนลอบติดตามมาจนถูกฆ่าไปนั้น มีรูปโฉมงดงามถึงขั้นยากจะหาผู้ใดเทียบเทียมได้

บรรพจารย์ของมันมีชีวิตอยู่มา 30,000 กว่าปี ได้เห็นสตรีมาก็นับไม่ถ้วน จึงไม่ยากที่มันจะจินตนาการได้ออกว่าสตรีข้างกายต้วนหลิงเทียน จะงดงามพิลาศล้ำขนาดไหน

“หัวหน้าเผ่าจางล้อข้าเล่นแล้ว…ข้าต้วนหลิงเทียนมีครอบครัวทั้งมีลูกแล้ว ย่อมไม่กล้าคิดเด็ดดอกไม้ริมทางอันใดอีก”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบพลางคลี่ยิ้ม

“บุรุษมากสามารถผู้ใดไม่มี 3 ภรรยา 4 สนม? อย่างข้าก็พึ่งรับอนุภรรยาคนที่ 16 มาเมื่อไม่กี่ร้อยปีนี้เอง”

จางตงหนานมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังนำชายชราทั้ง 2 จากไป

“ต้วนหลิงเทียน อย่าลืมซะเล่า…ว่างๆก็มาเป็นแขกเผ่าจิ้งจอกมายาข้า”

กระทั่งตอนที่จางตงหนานจากไปแล้ว ยังไม่วายส่งเสียงผ่านพลังมาเตือนต้วนหลิงเทียนอีกรอบ ทำให้ต้วนหลิงเทียนอดคลี่ยิ้มแหยไม่ได้

ไฉนหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายาทำตัวราวกับจะเป็นพ่อสื่อให้ได้?

“ต้วนหลิงเทียน จางตงหนานไม่น่าจะมาเพราะ 2 คนที่ตายตกอย่างเดียว…ไม่ทราบว่าสตรีข้างกายเจ้าผู้นั้นเป็นใครหรือ?”

ผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวมองถามต้วนหลิงเทียนด้วยความสงสัย

“ขออภัยด้วยท่านผู้นำ”

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวพลางกล่าว “เรื่องตัวตนของฮ่วนเอ๋อข้าไม่สะดวกจะบอกท่านด้วยเหตุผลบางอย่าง…เช่นนั้นยกโทษให้ข้าด้วย”

เรื่องฮ่วนเอ๋อเป็นจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาเกี่ยวพันถึงชีวิตนาง ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี

ด้านนอกคฤหาสน์เฉวียนโยว

จางตงหนาน หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายาพอออกมาแล้ว มันก็ไม่รีบพาชายชราทั้ง 2 กลับเผ่าแต่อย่างใด

“ผู้นำจงกล่าวไว้ว่าด้านนอกมีนักฆ่าขององค์กรมือสังหารกะโหลกเลือด 3 คน…บางทีพวกมันอาจจะเคยเห็นฉีอวี่กับลี่จง”

สองตาจางตงหนานทอประกายเรืองขึ้นวูบหนึ่ง หันไปสั่งชายชราทั้ง 2 ทันที “พวกเจ้าออกไปตามหาพวกมันเสีย”

“ทราบแล้วท่านหัวหน้า”

ชายชรา 2 คนก็รีบรับคำสั่งและแยกย้ายกันออกตามหาทันที

จางตงหนานเป็นหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายาและบรรลุด่านพลังจอมราชันอมตะ ชายชราทั้ง 2 ที่มันพามาด้วยก็เป็นราชาอมตะ 10 ทิศชนชั้นยอดฝีมือที่โดดเด่นในเผ่า และล้วนตระหนักรู้ความลึกซึ้งบางประการถึงขั้นตอนเล็กน้อยได้แล้ว

กระทั่งในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง ชายชราทั้ง 2 ก็มีชื่อเสียงไม่น้อย

ราวๆ 1 เค่อต่อมา

จางตงหนานก็ได้รับข้อคววามส่งตรงมาถึงวิญญาณ เป็น 1 ใน 2 ชายชราได้พบเจอนักฆ่าทั้ง 3 แล้ว

ทางทิศเหนือของคฤหาสน์เฉวียนโยว บริเวณริมผาของขุนเขาสูงชันลูกหนึ่ง ปรากฏชายชราหนึ่งคนกำลังเผชิญหน้ากับชาย 3 คน

ทั้ง 3 นั่นมาในชุดคลุมลมดำสนิท นำโดยชายวัยกลางคนที่ชักสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง

อย่างไรก็ตามชายวัยกลางคนที่ชักสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังนั้น ยามมองชายชราเบื้องหน้า สายตามันก็ฉายชัดถึงความหวาดกลัว

“ซือถูอวี่ ข้าไม่คิดเลยจริงๆว่าเจ้าจะเป็นผู้นำออกมาทำภารกิจด้วยตัวเอง…ดูท่าเป้าหมายของเจ้าจะไม่ใช่คนธรรมดาแล้วจริงๆ”

ชายชรามองไปยังชายวัยกลางคนผู้นำทั้ง 3 เบื้องหน้า กล่าวถามออกมาด้วยความแปลกใจอยู่บ้าง

ฟังจากที่มันพูด ดูเหมือนมันจะรู้จักอีกฝ่าย

“จางเจิ้นไห่ เจ้าไฉนมาได้?”

ชายวัยกลางคนนาม ซือถูอวี่ เอ่ยถามเสียงหนัก

“จางเจิ้นไห่?”

เมื่อ 2 คนที่ยืนอยู่ด้านหลังซือถูอวี่ ได้ยินชื่อชายชรา ลูกตาของพวกมันก็หดหยีลงทันใด

และหากต้วนหลิงเทียนมาอยู่ที่นี่ด้วย ก็คงบอกได้ทันทีว่าชาย 2 คนด้านหลังซือถูอวี่ ก็คือนักฆ่าขององค์กรกะโหลกเลือด 2 คนที่ดั้นด้นออกจากหลิงหลัวเทียนและตามไปฆ่าเขาถึงอวี้หวงเทียน!