ตอนที่ 3,410 : ลี่เฟย ต้วนเนี่ยนเทียน หานเฉวี่ยไน่!
นอกจากเค่อเอ๋อกับลี่เฟยแล้ว เจ้าตัวเล็กทั้ง 3 ไม่ว่าจะเสี่ยวเฮย เสี่ยวไป๋ หรือเสี่ยวจินก็สนิทสนมกับเฟิ่งเทียนหวู่และลี่หลัวมากที่สุด
หลังจากผ่านไปนับร้อยๆปี พอมาได้เห็นเฟิ่งเทียนหวู่กับลี่หลัวอีกครั้ง ไม่เพียงแต่เสี่ยวไป๋เท่านั้นที่ตื่นเต้นยินดี กระทั่งเสี่ยวเฮยเองใบหน้ายังยิ้มร่าออกอาการชัดเจน
“พี่สาวเทียนหวู่ ป้าหลัว ลุงเฟิง!”
ใบหน้าที่เคยเย็นชาเคร่งขรึมของเสี่ยวเฮย จังหวะนี้หายไปไม่เหลือเค้า เอาแต่ยิ้มแก้มปริปานเด็กน้อย
เสี่ยวไป๋เองก็ร่ำไห้ออกมาด้วยความยินดี
“ผู้เฒ่าหั่ว พวกเราไปกันต่อเถอะ”
หลังจากเสี่ยวเฮยและเสี่ยวไป๋เข้าโลกใบเล็กเพื่อพบหน้ากับครอบครัวแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็หันไปเอ่ยทักผู้เฒ่าหั่ว ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามระนาบเทวโลกของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนทันที
ในขณะเดินทาง ใจต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกหนักอึ้งนัก
การออกเดินทางตามหาครอบครัวและมิตรสหายครั้งนี้ ถึงแม้จะได้พบเรื่องน่ายินดีมากมาย แต่ก็พบว่ามีแค่เฟิ่งหวู่เต้ากับบิดาเขา ต้วนหรูเฟิง เท่านั้นที่สถานการณ์ค่อนข้างราบรื่น…
ทั้งมารดาเขา หรือศิษย์น้องหญิงมู่อีอี ล้วนตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ค่อยจะสู้ดีทั้งคู่
กับมารดาเขายังไม่เป็นไร เพราะเขามาได้ทันเวลา ยังไม่เกิดโศกนาฎกรรมที่ไม่อาจย้อนคืน
แต่มู่อีอี เป็นเขามาสายเกินไป…
‘เสี่ยวเฟยเอ๋อ เนี่ยนเทียน เฉวี่ยนไน่…’
ต้วนหลิงเทียนได้แต่ลอบภาวนาในใจ หวังให้คนที่เหลือแคล้วคลาดปลอดภัย
ถึงแม้ลูกแก้ววิญญาณของลี่เฟย ต้วนเนี่ยนเทียน และหานเฉวี่ยไน่จะยังอยู่ดี แต่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่อาจมั่นใจได้เลย เพราะจะมารดาเขาหรือมู่อีอี ไม่ใช่ว่าลูกแก้ววิญญาณของทั้งคู่ก็อยู่ดีหรือไร?
สุดท้ายเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองคนล่ะ?
พอคิดถึงจุดนี้ ต้วนหลิงเทียนก็อดเหงื่อตกไม่ได้
…
ณ ฝูโหย่วเทียน
แดนล่องฟ้า
พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์
พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์แห่งฝูโหย่วเทียน ตั้งอยู่บนเกาะที่ลอยล่องบนฟ้าเหนือมหาสมุทร เกาะลอยฟ้าอันเป็นรากฐานดังกล่าวมีขนาดค่อนข้างใหญ่โตไม่น้อย ให้บรรยากาศไม่ต่างอะไรจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์สือฉี่เทียนสักเท่าไหร่
กระทั่งพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ของระนาบเทวโลกส่วนใหญ่ ก็นิยมปลูกสร้างไว้บนเกาะลอยสูงขึ้นไปบนฟ้าเหนือทะเลเมฆเช่นนี้ เพราะนี่ไม่เพียงแต่จะแสดงให้เห็นถึงความสูงส่งของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ แต่ยังปกปิดซุกซ่อนพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์เอาไว้หลังม่านเมฆ ไม่ให้ใครมาพบเจอได้ง่ายๆ
ภายในบ้านลานหลังเล็กๆที่ตั้งอยู่ในหุบเขาอันเงียบสงบมุมหนึ่งของเกาะลอยฟ้ามหึมา ปรากฏร่างสตรีในชุดสีม่วงสะคราญโฉมลักษณะท่วงท่ามั่นใจ แลดูสง่างามนางหนึ่งกำลังยืนใต้ต้นไม้ใหญ่ มือขาวกระจ่างเรียวบางโน้มเกี่ยวกิ่งไม้เล่นอย่างเหม่อลอย…
‘ไม่ทันรู้ตัว ข้าก็มาอยู่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนเกือบ 300 ปีแล้ว…รออีกไม่นาน ให้ข้าบรรลุถึงขอบเขตจักรพรรดิอมตะเมื่อไหร่ ข้าจะได้ออกจากฝูโหย่วเทียนไปตามหาตัวเลวร้าย กับพวกท่านพ่อท่านแม่และซือหลิงได้เสียที’
พอสตรีในชุดม่วงปล่อยมือ กิ่งไม้เล็กๆก็แตกเป็นผง ใบไม้ไม่กี่ใบร่วงหล่นลงมา สองตาสตรีชุดม่วงดังกล่าวก็มองจ้องใบไม้ร่วงฉวัดเฉวียนว่อนไปว่อนมากระทั่งร่วงถึงพื้น สายตาแลดูเลื่อนลอยนัก
“พี่สาวเฟยเอ๋อ!”
จนเมื่อมีเสียงเรียกทักหนึ่งโพล่งดังขึ้นจากนอกลานบ้าน สตรีในชุดม่วงที่เหม่อลอยก็ผงะเล็กน้อยค่อยดึงสติกลับมา เอ่ยขึ้นเบาๆว่า “เฉวี่ยไน่?”
จากนั้นไม่ทันไร ก็ปรากฏสตรีร่างหนึ่งเหินร่างมาหยุดลงบนลานบ้านใกล้ๆต้นไม้อันมีสตรีในชุดม่วงยืนอยู่ หน้าตาสตรีนางนี้นับว่างดงามไม่น้อย ท่วงท่าลักษณะแลดูมีชีวิตชีวาร่าเริง และสีหน้ายังฉายชัดถึงความตื่นเต้นยินดีมากกว่าที่เคย
“เฉวี่ยไน่ เกิดอะไรขึ้น ไฉนเจ้ายิ้มร่ามาแต่ไกลเลยเล่า?”
สตรีในชุดสีม่วงไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นลี่เฟยที่ออกจากระนาบโลกียะ หนามม่วง เมื่อเกือบ 300 ปีก่อน และมาถึงพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนแห่งนี้
และในตอนนั้น ลี่เฟยก็พาลูกชาย ต้วนเนี่ยนเทียน และหานเฉวี่ยไน่มาด้วย
“พี่สาวเฟยเอ๋อ ข้าได้รับข้อความจากพี่สาวเทียนหวู่แหล่ะ!”
หานเฉวี่ยไน่เร่งกล่าวบอกลี่เฟยด้วยท่าทางตื่นเต้นคึกคัก “เมื่อครู่อยู่ๆข้าก็ได้รับข้อความของพี่สาวเทียนหวู่…ตอนนี้พี่หลิงเทียน กับทุกคนได้เดินทางมาถึงฝูโหย่วเทียนแล้ว และได้ลองติดต่อมาดูว่าพวกเราใช่อยู่ที่ฝูโหย่วเทียนรึเปล่า!”
“แถมพี่สาวเทียนหวู่ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ป้าหลัว ลุงเฟิง แล้วก็ลุงหวู่เต้า ก็ได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากับพี่หลิงเทียนเรียบร้อย!”
“อ่อจริงสิ…เจ้าพวกตัวแสบอย่าง เสี่ยวเฮย เสี่ยวไป๋ แล้วก็เสี่ยวจินก็มาด้วยกัน!”
วาจาที่หานเฉวี่ยไน่กล่าวรัวออกมารวดเดียวจบ ได้บอกประเด็นสำคัญที่เฟิ่งงเทียนหวู่ส่งมาทั้งหมดเรียบร้อย “ข้าได้บอกพี่สาวเทียนหวู่ไปแล้วด้วย ว่าท่านกับเนี่ยนเทียนเองก็อยู่กับข้า!”
“พี่สาวเทียนหวู่ยังถามมาอีกด้วยว่าตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนกัน…พวกเราจะตอบนางกลับไปเลยไหม?”
ขณะที่เอ่ยถามเรื่องนี้ หานเฉวี่ยไน่ก็แลดูลังเลอยู่บ้าง
“ตอบสิ! ต้องตอบให้เร็วเลย! ไฉนจึงไม่ตอบเล่า! สุดท้ายหากตัวเลวร้ายไม่มาหาข้าตอนนี้ หลังด่านพลังข้าทะลวงถึงขอบเขตจักรพรรดิอมตะข้าก็จะออกไปตามหาเองแต่แรกแล้ว!!”
สองตาลี่เฟยแดงก่ำไปด้วยความตื่นเต้น หยาดน้ำตาแห่งความปิติยินดียังไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันนางก็ไม่รอให้หานเฉวี่ยไน่เป็นคนส่งข้อความ กุลีกุจอหยิบลูกแก้ววิญญาณของเฟิ่งเทียนหวู่ออกมาแล้วส่งข้าความไปหาเฟิ่งเทียนหวู่เองทันที “เทียนหวู่! ตอนนี้พวกเราอยู่ที่พระราชวังจักรพรดริสวรรค์ของฝูโหย่วเทียน…เจ้าใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามระนาบเทวโลก มายังเขตคฤหาสน์ต้าถงในแดนล่องฟ้าได้เลย พอมาถึงแล้วเจ้าก็ไปหาเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุด จากนั้นค่อยติดต่อมาบอกข้าว่าเมืองไหน ข้าจะรีบพาเนี่ยนเทียนกับเฉวี่ยไน่ไปหาพวกเจ้า!!”
หลังส่งข้อความไปแล้ว ท่าทางของลี่เฟยยก็แลดูตื่นเต้นกระวนกระวายอยู่บ้าง
นางตื่นเต้นมากจริงๆ
“พี่สาวเฟยเอ๋อ!”
เฟิ่งเทียนหวู่พอได้รับข้อความจากลี่เฟยก็ตื่นเต้นไม่น้อย แม้เมื่อครู่นางจะได้รับทราบจากข้อความของหานเฉวี่ยไน่แล้วว่าอยู่กับลี่เฟย แต่พอได้รับข้อความเสียงจากลี่เฟยจริงๆ ก็อดตื่นเต้นไม่ได้
“พี่ใหญ่ด้วน!”
ขณะเดียวกัน เฟิ่งเทียนหวู่ก็รีบส่งลูกแก้ววิญญาณของลี่เฟยให้ต้วนหลิงเทียนทันที “พี่สาวเฟยเอ๋อ อยู่ฝูโหย่วเทียนแห่งนี้!”
“เสี่ยวเฟยเอ๋อ?”
ต้วนหลิงเทียนเองก็สงสัยอยู่บ้าง ว่าไฉนอยู่ๆเฟิ่งเทียนหวู่ถึงเรียกเขาจากในโลกใบเล็ก แถมส่งลูกแก้ววิญญาณให้เขาอีก หรือว่ามีใครตอบกลับมาแล้วอยากให้เขาคุย? จนเมื่อได้ยินคำพูดของเฟิ่งเทียนหวู่ ใบหน้าต้วนหลิงเทียนก็ฉายชัดถึงความสุขความยินดีออกมาทันที!!
เสี่ยวเฟยเอ๋อ!
ในชีวิตนี้ของเขามีภรรยาประเสริฐ 2 คน หนึ่งก็คือเค่อเอ๋อ ส่วนอีกคนก็คือลี่เฟย
ที่สำคัญลี่เฟยยังคลอดบุตรชายให้เขาแล้วด้วย!
ถึงแม้เขาคิดปันน้ำใส่ชามให้เท่ากัน แต่ในใจเขาจะอย่างไรน้ำหนักของเค่อเอ๋อกับลี่เฟยก็ยังมากกว่าสตรีคนอื่นอยู่บ้าง…
สุดท้ายแล้วเค่อเอ๋อกับลี่เฟยก็เป็นสตรีที่เขารักและติดตามเขามาตั้งแต่ช่วงแรกๆ สำหรับเฟิ่งเทียนหวู่หรือฮ่วนเอ๋อนั้น ทำให้เขารู้สึกผิดอยู่บ้าง เป็นเขารู้สึกผิดต่อเค่อเอ๋อกับลี่เฟย
“เสี่ยว…เสี่ยวเฟยเอ๋อ…รอข้า! ข้าจะไปหาเจ้าเดี๋ยวนี้!!”
หลังต้วนหลิงเทียนส่งข้อความให้ลี่เฟยแล้ว เขาก็ส่งลูกแก้ววิญญาณของลี่เฟยเข้าไปในโลกใบเล็ก เพื่อคืนให้เฟิ่งเทียนหวู่ทันที
ขณะเดียวกัน ต้วนซือหลิง ต้วนหรูเฟิง ลี่หลัว และคนอื่นๆภายในโลกใบเล็กเขา ก็ได้รับทราบข่าวดีพร้อมเพรียงว่าพบเจอลี่เฟยแล้ว
“พี่สาวเฟยเอ๋ออยู่ที่ฝูโหย่วเทียนแห่งนี้เหรอ?!”
“จะได้เจอพี่สาวเฟยเอ๋อแล้ว!?”
…
สองตาของเจ้าตัวแสบทั้ง 3 ฉายชัดถึงความยินดีไม่น้อย ใบหน้าซือหลิงเองก็เผยความตื่นเต้นออกมาชัดเจน “แม่รอง! พบแม่รองแล้วหรือ!?”
ทั้งเค่อเอ๋อกับลี่เฟยล้วนเป็นภรรยาของต้วนหลิงเทียน
อย่างไรก็ตาม ลี่เฟยที่รู้ว่าตัวมาทีหลัง ก็ยกให้เค่อเอ๋อมีลำดับสูงกว่าเสมอ
แม้ว่าเค่อเอ๋อจะไม่เคยสนใจเรื่องคำเรียกหาเลย แต่ลี่เฟยก็บอกให้ต้วนซือหลิงลูกสาวของเค่อเอ๋อคอยเรียกหานางว่าแม่รอง และนางก็บอกให้ต้วนเนี่ยนเทียนลูกชายของตัวเองเรียกเค่อเอ๋อว่าแม่ใหญ่
แต่เป็นธรรมดาว่านางให้ลูกชายเรียกตัวเองว่าแม่เฉยๆ
ตอนที่นางอยู่กับต้วนซือหลิงและต้วนเนี่ยนเทียนพร้อมหน้าพร้อมตา ด้วยความที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ลี่เฟยก็แลดูสนิทสนมและเอ็นดูต้วนซือหลิงมากกว่าลูกชายตัวเองอย่างต้วนเนี่ยนเทียนเสียอีก…ด้วยเหตุนี้ความสัมพันธ์ระหว่างลี่เฟยกับต้วนซือหลิงจึงดีมาก และต้วนซือหลิงเองก็เห็นลี่เฟยไม่ต่างอะไรจากมารดาบังเกิดเกล้าเลย
“เสี่ยวเฟยเอ๋ออยู่ในระนาบเทวโลกแห่งนี้รึ?”
ลี่หลัวกับต้วนหรูเฟิงก็ตื่นเต้นไม่น้อย อดถามออกมาด้วยความร้อนใจไม่ได้ “แล้วเนี่ยนเอ๋อเล่า เนี่ยนเอ๋ออยู่ที่นี่ด้วยรึเปล่า!?”
พอได้รับทราบว่าทั้งลูกสะใภ้และหลานชายก็อยู่ที่นี่ด้วย ทั้งต้วนหรูเฟิงและลี่หลัวก็ดีใจนัก แต่ในขณะเดียยวกันก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลขึ้นมา เร่งถามออกมาต่อว่า “แล้วตอนนี้ทุกคนสบายดีกันหรือไม่?”
“ป้าหลัวขอท่านอย่าได้กังวล…ตอนนี้พวกพี่สาวเฟยเอ๋ออยู่ดีมาก นางเป็นศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิอมตะหนามม่วง ซึ่งเป็นศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรค์แห่งฝูโหย่วเทียน และจักรพรรดิอมตะหนามม่วงอาจารย์ของพี่สาวเฟยเอ๋อ ก็เป็น 1 ใน 2 จักรพรรดิอมตะสมญานามที่แข็งแกร่งที่สุดในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียน”
เฟิ่งเทียนหวู่เร่งกล่าวออกมาโดยละเอียด เพราะนางรู้ดีว่า ไม่ว่าจะเป็นพี่ใหญ่ต้วน ป้าหลัว ลุงเฟิง และคนอื่นๆ หลังได้รับทราบว่าลี่เฟยอยู่ที่ระนาบเทวโลกแห่งนี้ ทุกคนต้องกังวลถึงสถานการณ์ในปัจจุบันก่อนใดอื่น
“พี่สาวเฟยเอ๋อบอกให้พวกเราใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามระนาบเทวโลกไปยังคฤหาสน์ต้าถงในแดนล่องฟ้า จากนั้นก็ให้พวกเราไปหาเมืองใกล้ๆที่สุดแล้วติดต่อกลับไป นางจะเร่งรุดมาหาพวกเราเอง”
เฟิ่งเทียนหวู่กล่าว
ได้ยินคำพูดของเฟิ่งเทียนหวู่ ต้วนหลิงเทียนก็หันไปกล่าวคำกับผู้เฒ่าหั่วทันที “ผู้เฒ่าหั่ว พวกเราไปหาค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามระนาบเทวโลกที่อยู่ใกล้ๆกัน!”
“มีข่าวแล้วหรือ!?”
ก่อนหน้านี้ผู้เฒ่าหั่วก็สังเกตเห็นท่าทีผิดปกติของต้วนหลิงเทียนแต่แรก พอได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน สองตามันก็ลุกวาวขึ้นมาทันที
“ใช่! แถมอีก 3 คนที่ข้ากำลังตามหา ก็อยู่ระนาบเทวโลกแห่งนี้หมด ทุกคนยังอยู่ด้วยกัน!”
ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้ม
อันที่จริงระนาบฝูโหย่วเทียน ก็เป็นระนาบเทวโลกระนาบที่ 78 แล้วที่ต้วนหลิงเทียนมาเยือน นอกจากที่นี่ก็เหลืออีกแค่ 3 ระนาบเทวโลกเท่านั้นที่ต้วนหลิงเทียนยังไม่ได้ไป
ตอนนี้ถือว่าได้เจอทุกคนครบ ก่อนที่จะไปเยือนครบทุกระนาบเทวโลก
สำหรับคนอื่นๆนอกเหนือจากนี้ ถ้าไม่ใช่คนรอบกายเขาไม่มีลูกแก้ววิญญาณพกติดตัว ก็ตกตายกันไปหมดแล้ว
และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกับผู้เฒ่าหั่วเร่งรุดไปหาค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามระนาบเทวโลก ด้านลี่เฟยที่อยู่ในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนก็ติดต่อเรียกลูกชายของนาง ต้วนเนี่ยนเทียน ให้มาหานางทันที
“เนี่ยนเทียน พ่อของเจ้ามาหาพวกเราแล้ว”
ลี่เฟยไม่พูดพร่ำทำเพลง ยิ้มบอกข่าวดีกับลูกชายทันที
“ท่านพ่อ!?”
ดวงตาต้วนเนี่ยนเทียนเปล่งประกายจ้า จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาก็เผยรอยยิ้มสดใส “ข้าหลงคิดว่าต้องรอให้ท่านแม่ทะวงถึงขอบเขตจักรพรรดิอมตะก่อนเสียอีก พวกเราถึงจะได้ออกไปตามหาท่านพ่อกับคนอื่นๆ…ไม่คิดเลยว่ากลับเป็นท่านพ่อที่ออกตามหาพวกเราเจอก่อน!”
ถึงแม้ตอนนี้ลี่เฟยก็มีความสามารถมากพอจะไปตามหาต้วนหลิงเทียนและคนอื่นในระนาบเทวโลกต่างๆได้แล้ว
อย่างไรก็ตามพออาจารย์ของนาง จักรพรรดิอมตะหนามม่วงล่วงรู้ความคิดดังกล่าว ก็ไม่ยอมให้นางไปทำอะไรแบบนั้นโดยเด็ดขาด และจักรพรรดิอมตะหนามม่วงก็ได้ส่งคนมาลอบติดตามคุ้มครองลี่เฟยอย่างลับๆตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
ทันทีที่ลี่เฟยออกจากเขตพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ ยอดฝีมือดังกล่าวจะลอบติดตามไปให้ความคุ้มครองลี่เฟยทันที
และขอเพียงลี่เฟยไม่ออกจากฝูโหย่วเทียน จักรพรรดิอมตะหนามม่วงก็ไม่ว่าอะไร แต่หากลี่เฟยคิดออกจากฝูโหย่วเทียนเมื่อไหร่ ยอดฝีมือดังกล่าวจะจับตัวลี่เฟยกลับมาทันที
“ข้านัดกับพ่อเจ้า น้าหวู่แล้วก็คนอื่นเอาไว้แล้ว ว่าจะไปพบเจอกันที่เขตคฤหาสน์ต้าถง…รอให้พวกของพ่อเจ้ามาถึงเมืองใดเมืองหนึ่งในเขตคฤหาสน์ต้าถงแล้วติดต่อมา พวกเราก็จะเร่งไปที่นั่นทันที”
ลี่เฟยกล่าว
ต้วนเนี่ยนเทียนพยักหน้าเร็วไว สองตาฉายชัดถึงความตื่นเต้นมีสุข ชั่วชีวิตนี้มันชื่นชมก็แต่บิดา! ถึงแม้ว่าหลายปีที่ผ่านจะพบพานจักรพรรดิอมตะสมญานามที่ร้ายกาจมามากมายแล้วก็ตาม…
ทว่าในความรู้สึกของมัน บิดาที่เป็นแบบอย่างของมันเก่งกล้าสามารถที่สุด!
“พี่สาวเฟยเอ๋อ”
ตอนนี้เองหานเฉวี่ยไน่ที่อยู่ข้างๆ พลันขมวดคิ้วกล่าวออกมาว่า “ข้ารู้ว่าท่านคิดไปพบพี่หลิงเทียน…อย่างไรก็ตามหากเจ้า ข่งโย่วอี้ นั่นมันรู้เรื่องพี่หลิงเทียน…ข้าเกรงว่ามันจะไปกลั่นแกล้งให้พี่หลิงเทียนต้องอับอายขายหน้า”