ตอนที่ 3,429 : อำนาจสะกดข่มของฟงชิงหยาง
  “ไฉนถึงมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้ได้?”
  เฟิงเจียนอวี่รู้สึกหัวตื้อไปหมด ใต้หล้ามีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้อยู่จริงๆหรือ บ้านเกิดของงมู่อีอีกับต้วนหลิงเทียนนั่น กลับเป็นบ้านเกิดของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางด้วย?
  ยิ่งไปกว่านั้นคนที่นางส่งไปฆ่าล้างสรรพชีวิตบนระนาบเซียน ก็ถูกคนของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางพบเจอ?
  ที่หนักไปกว่านั้นก็คือ ยอดฝีมืออันดับ 2 แห่งพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนอย่างจักรพรรดิอมตะสวรรค์กร่างเมิ่งหลัว ถึงกับมาด้วยตัวเองทำให้คนที่นางส่งไปตายเกือบหมด?
  “เจ้าเล่ารายละเอียดเรื่องนี้มาให้ข้าฟังชัดๆแต่แรก…ถึงแม้ระนาบเซียนจะเป็นบ้านเกิดของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางจริง แต่ไฉนคนของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนถึงได้รับทราบเรื่องราวเร็วขนาดนั้นได้?”
  เฟิงเจียนอวี่หันไปจี้ถามชายวัยกลางคนเบื้องหน้าเสียงหนัก
  “ท่านธิดาเทพ…เรื่องนี้เกรงว่าจะเกิดจากจักรพรรดิอมตะ 2 คน ที่เป็นคู่หนุ่มสาวกลับไปรายงานเรื่องราวที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน”
  ชายวัยกลางคนกล่าวเล่าเรื่องราวออกมาเสียงเครียด “ข้าสงสัยว่าจักรพรรดิอมตะทั้ง 2 นั่นสมควรเป็นคนที่จักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางส่งมาเฝ้าบ้านเกิดอย่างระนาบเซียนโดยเฉพาะ”
  “คู่ชายหญิง? จักรพรรดิอมตะ?”
  เฟิงเจียนอวี่ขมวดคิ้ว
  “มิผิด!”
  ชายวัยกลางคนพยักหน้า “มีคนของเรา 2 คนบังเอิญพบเจอทั้งงคู่ขณะเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตในทะเลของงระนาบเซียน…และเท่าที่ข้าฟังมาจากคนของเรา เห็นว่าพอคู่จักรพรรดิอมตะนั่นได้เอ่ยถามวัตถุประสงค์ทั้งความเป็นมาของพวกเราแล้ว ก็ใช้ยันต์อมตะเคลื่อนย้ายจากไปทันที”
  “จากนั้นไม่ทันถึงครึ่งชั่วยาม จักรพรรดิอมตะสวรรค์กร่างเมิ่งหลัวก็มาถึง…”
  กล่าวจบคำ จักรพรรดิอมตะวักลางคนก็หันไปมองกล่าวกับเฟิงเจียนอวี่เสียงเครียด “ท่านธิดาเทพ ลองส่งจักรพรรดิอมตะ 2 คนมาเฝ้าระนาบเซียนเช่นนี้…ข้าเกรงว่าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางท่าทางจะให้ความสำคัญกับระนาบเซียนไม่น้อย”
  “เพราะเท่าที่ข้าทราบจากข้อความของคนนที่พบเจอคู่หนุ่มสาวนั่น เห็นว่าฝ่ายชายยังเป็นจักรพรรดิอมตะที่พลังฝีมือแทบจะเข้าข่ายจักรพรดริอมตะสมญานามแล้วอีกด้วย”
  ท้ายประโยค ชายวัยกลางคนยังกล่าวเน้นเสียงหนัก
  “หนึ่งในนั้นลับมีพลังฝีมือเจียนเทียบได้กับจักรพรรดิอมตะสมญานาม?”
  เรื่องที่ชายวัยกลางคนเล่ามา ทำให้เฟิงเจียนอวี่จำต้องงคิดหนักแล้วจริงๆ และนางก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดนัก หันไปมองชายยวักลางคนพลางสั่งเสียงเย็น “เจ้าไปหาท่านประมุขกับข้าเสีย!”
  ประมุขนิกายลั่วสุย ก็คือจักรพรรดินีสวรรค์แห่งลั่วสุ่ยเทียน
  หลังจากที่ซือถูฉูชิงงได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากเฟิงเจียนอวี่และชายวัยกลางคนแล้ว นางก็อดไม่ได้ที่จะอื้ออึงไม่น้อย “ระนาบเซียนนั่น…เป็นบ้านเกิดของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางหรือ?”
  “แถมจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางยังส่งจักรพรรดิอมตะ 2 คนที่เป็นคู่ชายหนุ่มหญิงสาวไปเฝ้า?”
  “มิหนำซ้ำฝ่ายชายยังมีพลังฝีมือจวนเจียนจะเทียบได้กับจักรพรรดิอมตะสมญานามแล้ว?”
  บัดนี้กระทั่งซือถูฉูชิงที่ได้รับฟังเรื่องราว ยังยืนยันได้ทันทีว่าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางให้ความสำคัญกับบ้านเกิดอย่างระนาบเซียนมากจริงๆ!
  “จักมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้ได้อย่างไร…”
  ทำให้สีหน้าซือถูฉูชิงเองก็บบิดเบี้ยวจนดูไม่ได้ทันที
  ในอดีตนางก็ไม่ใช่คู่มือผู้อื่นเขา
  และในปัจจุบัน จักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางผู้นั้น หลังรอดกลับมาจากนรกอสุรา 1 ใน 7 แดนต้องห้ามของระนาบเทวโลก พลังฝีมือยิ่งน่าสะพรึงกลัวไปอีก
  กระทั่งจักรพรรดิอมตะจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์เข่นฆ่าเฉินชิวปั๋ววันนั้น ยังคาดกันว่าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางอาจจะทะลวงถึงขอบเขตเทพไปแล้ว
  ตัวตนดังกล่าวไม่ใช่อะไรที่ตัวนางจะตอแยด้วยได้เลย
  “เจ้า…เจ้าบอกเมิ่งหลัวไปแล้ว ว่าคนที่สั่งให้ฆ่าล้างสรรพชีวิตระนาบเซียนก็คือข้างั้นรึ?”
  ซือถูฉูชิงหันไปจับจ้องชายวัยกลางคนด้วยสายตาราวสายฟ้าฟาด ขณะเอ่ยถามน้ำเสียงแม้จะพยยายยามระงับอารมณ์ไว้แล้ว แต่ก็ยังได้ยินถึงความเย็นชาหนาวเหน็บในนั้น
  “ตะ…ใต้เท้าจักรพรรดินีสวรรค์! เรื่องนี้ข้าน้อยมิได้เป็นคนพูด! ไม่ใช่ข้าน้อยที่บอกเรื่องราวต่อเมิ่งหลัว!!”
  ชายวัยกลางคนเร่งคุกเข่าลง กล่าวคำด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
  อย่างไรก็ตามถึงแม้มันจะบอกว่าไม่ได้พูด แต่ซือถูฉูชิงไหนเลยจะปล่อยไปง่ายๆ มือเรียวยกขึ้นเร็วไว ปรากฏพลังขุมหนึ่งระเหิดร่างชายวัยกลางคนจนหายไปไม่เหลือซาก
  “เจียนอวี่…เจ้ารีบให้คนลงไปตรวจสอบเร็ว ว่าในระนาบเซียนแห่งนั้นมีทาทของงจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางหรือไม่…หากมี แล้วถูกคนของเราฆ่าตายไปแล้วหรือยัง!”
  พอซือถูฉูชิงหันไปมองกล่าวกับเฟิงเจียนอวี่อีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าหน้าผากนางปรากฏเหงื่อเย็นผุดซึมไม่น้อยร่างบางยังสะท้านไปเบาๆ ในแววตาฉายชัดถึงความหวาดกลัว
  ถึงแม้นางจะเป็นจักรพรรดินีสวรรค์ที่ปกครองทั้งระนาบเทวโลกระนาบหนึ่ง แต่ก็มีจักรพรรดิสวรรค์มากมายที่พลังฝีมือเหนือกว่านาง
  ในบรรดาคนที่เหนือกว่า จักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางก็เป็นหนึ่งในนั้น
  และหากอีกฝ่ายเป็นจักรพรรดิสวรรค์ที่เหนือกว่านางธรรมดา นางก็คงไม่หวาดกลัวอะไร
  อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางนั่น ถึงขั้นบุกไปเข่นฆ่าจักรพรรดิสวรรค์คนหนึ่งถึงถิ่น เพียงเพราะอีกฝ่ายทำร้ายเมิ่งหลัวมาแล้ว!
  “ทราบแล้วท่านแม่”
  เฟิงเจียนอวี่ย่อมคาดเดาได้ว่ามารดานางกำลังหวาดกลัวอะไรอยู่ ขณะเดียวกันใจรางก็เต้นระส่ำไปไม่เป็นจังหวะดุจเดียวกัน ได้แต่ภาวนาว่าขออย่าให้มีทายาทของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางถูกคนของพวกนางฆ่าตายเลย!
  หรือให้ดีก็อย่าให้มีทายาทของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางอยู่ที่นั่นแต่แรก!
  อย่างไรก็ตามนางรู้สึกว่าอยย่างหลังนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ เพราหากจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางไม่มีทายาทอยู่ที่ระนาบเซียนจริง ไฉนอีกฝ่ายถึงได้ส่งตัวตนระดับจักรพรรดิอมตะไปเฝ้าที่ระนาบเซียนแบบนั้นด้วย ไม่ต้องพูดถึงว่าหนึ่งในนั้นจวนเจียนจะเป็นจักรพรรดิอมตะสมญานามด้วยซ้ำ!
  ดังนั้นไม่ว่าจะเฟิงเจียนอวี่ก็ดี ซือถูฉูชิงจักรพรรดินีสวรรค์แห่งลั่วสุ่ยเทียนก็ดี ได้แต่ลอบภาวนาในใจดุจเดียวกัน ว่าขอให้คนของพวกนางอย่าได้ไปแตะต้องทายาทของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางเลย!
  “ช้าก่อน!”
  ทว่าไม่ทันที่เฟิงเจียนอวี่จะได้จากไปไหน ซือถูฉูชิงก็กล่าวรั้งนางเอาไว้ “พวกเรารีบออกจากลั่วสุ่ยเทียนกันก่อน แล้วจากนี้พยยายามเก็บตัวเอาไว้…เรื่องไปตรวจสอบทายาทจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง ให้เจ้าแค่ส่งข้อความไปให้ลูกน้องทำเสีย”
  “และกำชับให้พวกมันให้ความสำคัญเรื่องนี้เหนือใดอื่น ตรวจสอบมาให้ได้ว่ามีทายาทหรือกระทั่งผู้สืบทอดมรดกอันใดขจองจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางถูกคนของพวกเราฆ่าตายหรือไม่!”
  เห็นได้ชัดว่าซือถูฉูชิงกำลังตระเตรียมการเผื่อวันหน้าไว้ให้ตัวเองกับลูกสาวแล้ว
  “ท่านแม่…นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร ท่านคิดให้พวกเราหลบหนีหรือ?”
  ลูกตาเฟิงเจียนอวี่หดเล็กลง ใบหน้าของนางฉายชัดถึงความไม่ยินยอมพร้อมใจอยู่บ้าง!
  “การหลบหนีไปก่อนมิใช่เรื่องงน่าอายอันใด หรือเจ้าอยากอยู่รอความตายที่นี่? จักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางนั่นใช่คนใจอ่อนที่ไหน พวกเราสมควรหาทางหนีทีไล่ไว้เสียแต่เนิ่นๆ!”
  ซือถูฉูชิงกล่าว
  …
  ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่ได้รู้เลย ว่าหลังจากคนของนิกายลั่วสุ่ยเทียนที่เมิ่งหลัวไว้ชีวิตให้กลับไปรายงานนั่น หลังจากที่จักรพรรดินีสวรรค์ลุ่วสุ่ยเทียนรับทราบเรื่องราวแล้ว ก็ถึงกับพาลูกสาวอย่างเฟิงเจียนอวี่หลบหนีออกจากพระราชวังจักพรรดิสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนทันที!
  และหลังจากที่แม่ลูกไปปักหลังยยังที่ปลอดภัยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ในลั่วสุ่ยเทียนแล้ว พวกนางก็ส่งคนที่ไว้ใจได้ไปยังระนาบเซียนเพื่อตรวจสอบเรื่องราว แต่อย่างไรก็ตามหลังหลบอยู่ในฐานลับที่ลั่วสุ่ยเทียนได้ไม่นาน ซือถูฉูชิงก็ตัดสินใจพาลูกสาวออกจากลั่วสุ่ยเทียนไปเลย!
  หากต้วนหลิงเทียนล่วงรู้ความเคลื่อนไหวของแม่ลูก ก็คงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะอำนาจสะกดข่มของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางช่างเหลือร้ายนัก คนยังไม่มาก็ทำให้ผู้อื่นหวาดกลัวจนขวัญเตลิดไปนู่นแล้ว
  “นี่…”
  ต้วนหลิงเทียนที่พาเมิ่งหลัวเดินทามาถึงพื้นที่ปกครองของ 10 ราชวงศ์ ก็พบว่าทุกที่ทางล้วนเต็มไปด้วยยสายธารโลหิต จะไปที่ไหนก็ไม่อาจสัมผัสได้แม้แต่ลมหายใจของสิ่งมีชีวิตเลย…
  อย่าว่าแต่ผู้คน กระทั่งสัตว์อสูร ไม่เว้นสุนัขกาไก่ก็ตกตายไม่มีเหลือ!
  “ไม่จริง…!”
  ทั้งหมดนี้ทำให้สองตาต้วนหลิงเทียนแดงฉานขึ้นมาด้วยความโกรธ พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดระเบิดออกมาจนห้วมิติรอบกายแตกปานเศษกระจก คำรามออกมาเสียงดังจนลำคอสะท้าน
  สิ่งที่เขากลัวมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ
  คของนิกายลั่วสุ่ยนั่น สิบในสิบได้ฆ่าล้างสรรพชีวิตบนระนาบเซียนหมดสิ้นแล้ว
  “นายน้อยข้าเสียใจด้วย ขอท่านโปรดหักห้ามใจด้วยเถอะ”
  ระหว่างเดินทางมาเมิ่งหลัวก็ได้รับทราบจากต้วนหลิงเทียนแล้ว ว่าที่นี่คือบ้านเกิดของต้วนหลิงเทียนในระนาบเซียน “เรื่องนี้…รอให้ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์กลับมาเมื่อไหร่ ข้าจักมอบคำอธิบายให้ท่าน!”