“ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าผู้พิทักษ์ 7 เหมิงซาน แห่งพันธมิตรสวรรค์จะออกมาต้อนรับพวกเราด้วยตัวเอง”
ฟังจากเสียงซุบซิบคุยกันทั้งถอนหายใจโดยรอบแล้ว ดูเหมือนผู้มาใหม่จะเป็นที่นับหน้าถือตาไม่น้อย
“ผู้พิทักษ์ 7 เหมิงซาน แห่งพันธมิตรสวรรค์ เสียงว่าพลังฝีมือร้ายกาจเจียนเป็นชนชั้นยอดฝีมือเทพสงคราม 7 ดาราเต็มที ครั้งหนึ่งสามารถฆ่าผู้ที่พึ่งแตะระดับเทพสงคราม 7 ดาราได้ในกระบวนท่าเดียว! อีกทั้งเทพสงคราม 7 ดาราผู้นั้นยังมีสหายที่เป็นถึงยอดฝีมือเทพสงคราม 6 ดาราอีกคน…ทั้งคู่ร่วมมือกันยังไม่อาจรับมือเหมิงซานได้เกิน 3 กระบวนท่า!!”
หลายคนมองจ้องเหมิงซานด้วยสายตาเร่าร้อนแฝงเทิดทูน กล่าวเล่าประวัติอันรุ่งโรจน์ของเหมิงซานในอดีตออกมา และเรื่องที่มันเล่ายังเป็นการต่อสู้ที่ทำให้เหมิงซานมีชื่อเสียงโด่งดังในพื้นที่แถบนี้ ทำให้หลายๆคนที่ไม่ทราบมาก่อนได้รู้ว่าเหมิงซานเป็นเทพสงคราม 7 ดาราที่ร้ายกาจไม่ใช่ชั่ว!
ด้านเหมิงซานพอปรากฏตัว ก็กวาดสายตาแหลมคมผ่านทุกคนที่อยู่หน้าประตูค่าย จนในที่สุดก็มาจับจ้องมองเหล่าคนที่ใส่ชุดม่วงเป็นพิเศษ เอ่ยออกเสียงเรียบว่า “ตอนนี้ขอให้ผู้ที่ใส่ชุดม่วงกลับไปเสีย!”
“พันธมิตรสวรรค์เรา มิต้อนรับพวกหน้าซื่อใจคดฉวยโอกาส!”
“พวกเจ้าคิดจริงๆหรือว่าการใส่ชุดสีม่วงจะทำให้พวกเจ้าเป็น ‘คุณชายชุดม่วง’ ผู้นั้นได้?”
กล่าวถึงประโยคท้าย เสียงเหมิงซานก็แฝงความเย้ยหยันไม่น้อย
และพอเหมิงซานพูดออกมาแบบนี้ สีหน้าผู้ที่ใส่ชุดม่วงหลายต่อหลายคนก็เปลี่ยนไปเป็นแถบ ขณะเดียวกันก็เริ่มสำนึกเสียใจขึ้นมาแล้วที่ไม่เชื่อคำพูดของชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินเมื่อครู่ แล้วไปเปลี่ยนชุดให้ทันเวลา
“ผู้พิทักษ์ 7!”
ตอนนี้เองพลันมีชายหนุ่มในชุดสีม่วงคนหนึ่ง มองกล่าวกับเหมิงซานด้วยสายตาไม่เต็มใจ น้ำเสียงยังกระด้างกระเดื่องอยู่บ้าง “ที่ข้าใส่ชุดสีม่วง มิได้มีเจตนาแอบอ้างเป็นคุณชายชุดม่วงอันใดทั้งสิ้น เพราะปกติข้าก็ชมชอบใส่เสื้อผ้าสีม่วงเช่นนี้อยู่แล้ว…”
“หรือท่านจะกีดกันและตัดสิทธิ์เข้าร่วมการทดสอบพันธมิตรสวรรค์ของข้า เพียงเพราะความเคยชินของข้า?”
ชายหนุ่มกล่าวถึงท้ายประโยค น้ำเสียงก็เริ่มแข็งกร้าวแฝงความไม่พอใจมากขึ้น
และพอชายหนุ่มกล่าวจบคำ เหล่าผู้ที่สวมชุดม่วงหลายคนก็เริ่มกล่าวตามทันที “ใช่แล้วผู้พิทักษ์ 7 ข้าเองก็ไม่ได้จงใจแอบอ้างแต่อย่างไร! ปกติข้าก็ใส่ชุดสีนี้อยู่แล้ว ขอท่านอย่าได้เข้าใจข้าผิดไป”
“นั่นสิผู้พิทักษ์ 7 แค่พวกเราสวมใส่ชุดสีม่วง ก็ถือว่าเป็นการแอบอ้างคุณชายชุดม่วงแล้วหรือไร?”
“ข้าเองก็ใส่ชุดม่วงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ท่านผู้พิทักษ์ 7 ตัดสิทธิ์ข้าเช่นนี้ก็มิถูกอยู่บ้าง หรือกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ ที่แท้ก็ไร้เหตุผล?”
“ใช่แล้วผู้พิทักษ์ 7 ท่านต้องทราบด้วยว่าบางคนเช่นข้าก็ไม่ได้มีเจตนาแอบอ้างอ้างอันใด เพราะปกติข้าก็ใส่สีม่วงเป็นประจำ!”
…
หน้าค่ายของกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ พอมีชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวเปิด เรียกว่าเสียงโต้แย้งของเหล่าคนใส่ชุดม่วงก็ดังขึ้นระงมปานตลาดสดยามเช้า ทุกคนกล่าวอ้างเหตุผลออกมายกใหญ่ หมายให้ผู้พิทักษ์ 7 เหมิงซานเปลี่ยนใจ เลือกจะไม่ตัดสิทธิ์พวกมันไม่ให้ทดสอบ
การทดสอบคุณสมบัติเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์นั้น จัดขึ้นทุกๆ 1 ปี หากพวกมันไม่อาจเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์รอบนี้ได้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะเอาชีวิตรอดได้จนถึงปีหน้ารึเปล่า…
ถึงแม้ว่าพวกมันจะสามารถออกจากสมรภูมิ 9 ยมโลกได้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามในเมื่อพวกมันมาถึงที่นี่แล้ว ก็ย่อมไม่เต็มใจจะจากไปง่ายๆ หากพวกมันต้องจากไปทุกครั้งเพื่อรักษาชีวิต แล้วพวกมันจะเข้ามาที่นี่แต่แรกทำอะไร?
หากเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ได้ พวกมันก็จะมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น ดีกว่าลุยเดี่ยวในสมรภูมิ 9 ยมโลกเป็นไหนๆ
มาตอนนี้เพียงเพราะใส่ชุดสีม่วงแต่พวกมันกลับถูกตัดสิทธิ์ ไม่มีแม้แต่โอกาสทดสอบการประเมินคุณสมบัติเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ด้วยซ้ำ แล้วพวกมันจะไปยอมรับได้อย่างไร?
“ที่ข้าพูดมันยังไม่ชัดอีกรึ?”
เหมิงซานที่เผชิญคำทัดทานของเหล่าผู้ใส่ชุดสีม่วง ยังคงมีสีหน้าสงบไม่แยแส เพียงเหลือบมองเหล่าผู้ใส่ชุดสีม่วงที่กล่าวอ้างไม่หยุดปากด้วยสายตาเฉยเมย เอ่ยออกเสียงเบาว่า “ข้าจะให้เวลาพวกเจ้า 10 ลมหายใจ…หากผ่านไปครบ 10 ลมหายใจแล้ว หากพวกเจ้ายังไปไม่พ้นหน้าข้า เช่นนั้นข้าก็ไม่รังเกียจที่จะลงมือจัดการพวกเจ้าให้หายไปจากสายตาข้าด้วยตัวเอง!”
“ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งลมหายใจแล้ว”
แทบจะทันทีที่เหมิงซานเอ่ยวาจาดังกล่าวจบคำ สีหน้าของเหล่าชนชุดม่วงที่กล่าวอ้างคอเป็นเอ็นก็เปลี่ยนไปทันที
พวกมันไม่คิดโต้เถียงยกอ้างอะไรอีก!
ตอนนี้เหลือเวลาหนีไปให้พ้นสายตาของเหมิงซวนอีกแค่ 9 ลมหายใจเท่านั้น! เมื่อเวลาลดลงทุกขณะก็ไม่มีใครกล้าล้อเล่นกับชีวิตอีกต่อไป!!
“เจ้าไม่คิดจะรีบหนีไปเหมือนผู้อื่นด้วยรึ? หรือคิดจะลองดีกับผู้พิทักษ์ 7 ของเรา?”
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินที่อยู่ข้างๆต้วนหลิงเทียน พอเห็นต้วนหลิงเทียนไม่รีบแจ้นหนีเตลิดเหมือนคนอื่น ก็ยิ้มกล่าวถากถางออกมา “เจ้าคงไม่ใช่กำลังคิดว่าผู้พิทักษ์ 7 พูดเล่นอยู่กระมัง? ไอ้หนูข้าขอเตือนอะไรเจ้าสักคำ ผู้พิทักษ์ 7 เมื่อกล่าวคำไหนแล้วย่อมเป็นคำนั้น!”
ในขณะที่ชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินกล่าวล้อต้วนหลิงเทียน สายตาของคนอื่นๆก็เริ่มหันมามองต้วนหลิงเทียนด้วยความสนใจ
เพราะต้วนหลิงเทียนเด่นเกินไป
เพราะคำพูดข่มขู่ของ เหมิงซาน ผู้พิทักษ์ 7 แห่งพันธมิตรสวรรค์ เหล่าผู้ที่ใส่ชุดม่วงนับร้อยก่อนหน้า แต่ละคนก็เร่งรุดจากไปด้วยความเร็ว บ้างก็เหาะหายลับม่านเมฆ บ้างก็พุ่งตัดฟ้าไปเป็นประกายแสง เรียกว่าแต่ละคนเสมือนหมอกควันเบาบางต้องลม จางหายไปในพริบตา……
เช่นนั้น พอเหลือคนที่สวมใส่ชุดม่วงเพียงคนเดียวในที่เกิดเหตุ จึงแลดูโดดเด่นเป็นพิเศษ
“เหลืออีกแค่ 4 ลมหายใจเท่านั้น…เจ้าว่ามันจะหนีหรือไม่?”
“ข้าว่ามันต้องไปแน่นอน เพียงแค่มันเลือกจะรั้งอยู่ให้นานหน่อยเผื่อผู้พิทักษ์ 7 เปลี่ยนใจ…แต่มันคุ้มแล้วหรือที่มันเลือกจะเสี่ยงทำแบบนี้?”
“ไม่แน่มันอาจอยากให้ผู้พิทักษ์ 7 เห็นความกล้าหาญของมันก็เป็นได้ เพราะมีแต่ผู้กล้าถึงจะมีคนให้ค่า สุดท้ายก็อาจได้รับโอกาสเข้าร่วมการประเมินของพันธมิตรสวรรค์”
…
เหล่าคนที่อยู่รอบๆ เริ่มกระซุบกระซาบคุยกันเสียงดังระงม หลังเห็นต้วนหลิงเทียนยืนนิ่งไม่ไปไหนอยู่คนเดียว
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสายตาลุ้นว่าจะหนีหรือไม่หนี ต้วนหลิงเทียนก็ยังคงยืนนิ่งสงบไม่นำพา ราวกับทุกเรื่องราวไม่เกี่ยวของกับตัวเอง
และเวลา 4 ลมหายใจ ก็ได้ผ่านพ้นไปในพริบตา
“หมดเวลาแล้ว”
“เจ้านั่นตายแน่!”
“ตอนนี้ไม่ทราบเจ้านั่นใช่กลัวตายจนก้าวขาไม่ออกแล้วหรือไม่?”
…
เวลา 10 ลมหายใจที่ผู้พิทักษ์ 7 เหมิงซานกล่าวไว้ก่อนหน้าบัดนี้ก็ได้หมดลงแล้ว กลุ่มคนที่มารอเข้าร่วมการทดสอบ รวมถึงชายวัยกลางคนทั้ง 2 ที่ติดตามอยู่ด้านหลังเหมิงซาน ก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเวทนา
เพราะดูเหมือนต้วนหลิงเทียนจะต้องตายอย่างแน่นอน!
และหลังจากครบกำหนด 10 ลมหายใจได้สักพัก ในที่สุดเหมิงซานก็หันมามองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ใบหน้าที่แต่เดิมสงบเฉยเมย บัดนี้ก็เสมือนฉาบทับไว้ด้วยชั้นน้ำแข็งในฉับพลัน ทั่วร่างมันยังเริ่มแผ่กลิ่นอายเยียบเย็นออกมา ปานจะแช่ห้วงอากาศให้จับตัวแข็ง!
“ดี ดี…ดีมาก!”
เหมิงซานที่มองต้วนหลิงเทียน กล่าวคำดีออกมาถึง 3 ครั้ง แต่ละครั้งน้ำเสียงยังหนักขึ้นเรื่อยๆ “นับว่าเนิ่นนานแล้วที่ไม่มีคนกล้ายึดถือคำพูดข้าเหมิงซานเป็นแค่ลมที่พัดผ่านหู…”
“ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก เช่นนั้นข้าเหมิงซานจักสงเคราะห์ให้!”
เสียงกล่าวเหมิงซานยิ่งมายิ่งเย็นลง และพอกล่าวจบคำ มันก็ยกมือขึ้นและจู่โจมออกมาทันที!
ซู่ม!!
กระบี่น้ำแข็ง 3 ฉื่อสีฟ้าที่ก่อเกิดในฉับพลัน พุ่งทะยานแหวกฟ้าลงมาฉับไวก่อเกิดเสียงหวิวเสียดหู รวดเร็วเสียจนเห็นเป็นเส้นแสงสายหนึ่งลากยาวลงมาจากฟ้าเข่นฆ่าไปทางต้วนหลิงเทียน! กลิ่นอายพลังเยียบเย็นทั้งแหลมคมกำจายไปในบรรยากาศอย่างน่ากลัว!!
และไอเย็นที่แผ่ซานออกมาจากตัวกระบี่ ก็ทำให้ผู้ที่ชมดูอยู่โดยรอบอดขนลุกขึ้นมาไม่ได้
“สมแล้วที่เป็นผู้พิทักษ์ 7 เหมิงซานแห่งพันธมิตรสวรรค์! อาศัยการลงมือส่งๆไม่จริงจัง แต่กระบี่น้ำแข็งนั้นกลับเต็มไปด้วยพลังทำลายอันร้ายกาจ ข้าเกรงว่ากระทั่งเทพสงคราม 6 ดาราทั่วไป ก็ยากจะต้านรับหรือหลีกหนีได้พ้น!”
“เจ้าหนุ่มนั่นเว้นเสียแต่จะมีพลังระดับเทพสงคราม 6 ดาราชนชั้นยอดฝีมือขึ้นไป หาไม่แล้วคงต้องตายคาที่ไม่ต้องสืบ!”
“ยอดฝีมือเทพสงคราม 6 ดารา? มันจะเป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไรเล่า…เอาแค่เทพสงคราม 6 ดารายังต้องเสียเวลามาเข้าร่วมการทดสอบวัดคุณสมบัติเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์อีกหรือไร ปกติแล้วพันธมิตรสวรรค์ก็เปิดประตูต้อนรับผู้ที่มีพลังระดับเทพสงคราม 6 ดาราขึ้นไปทุกเมื่อ แค่เผยพลังพอให้รู้ว่ามิได้ตีเนียน ก็เข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ได้ทุกเวลา!”
…
ต้วนหลิงเทียนที่ยืนนิ่งอยู่ บัดนี้ในใจอดอึ้งไปไม่ได้อยู่บ้างเมื่อได้ยินบทสนทนาโดยรอบ
เรื่องที่พันธมิตรสวรรค์ออกประกาศเชิญเขาตั้งแต่เดือนก่อนเขาก็ไม่รู้…
มาตอนนี้เขาก็พึ่งได้รู้ว่าที่แท้พันธมิตรสวรรค์เปิดประตูต้อนรับตัวตนระดับเทพสงคราม 6 ดาราขึ้นไปตลอดเวลาอีก!
จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกเสมือนข่าวที่เขาไปสอบถามผู้อื่นมา มันช่างไม่ได้เรื่องสิ้นดี!
ภายใต้สายตาของทุกคน ร่างต้วนหลิงเทียนก็ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ คล้ายกับไม่คิดจะต่อต้านการโจมตีของเหมิงซานอย่างไรอย่างนั้น
“อะไร? นี่มันอ่อนด้อยเสียจนมองตามไม่ทันเลยรึ?!”
“เหอะๆ เจ้าหนูนั่นมันเอาชีวิตมาทิ้งแท้ๆ!”
“ตอนนี้ต่อให้มันเป็นเทพสงคราม 6 ดารา แต่ด้วยระยะกระชั้นเช่นนี้ มันคิดจะต้านทานรับมือหรือหลบหลีกอันใดก็รวมพลังไม่ทันแล้ว!”
…
เรียกว่าทุกสายตาที่ชมมองมายังต้วนหลิงเทียน แววตาของพวกมันไม่ต่างอะไรกับมองคนตาย
ซู่มม!!
ในเวลาชั่วพริบตาดุจละอองไฟวาบดับ กระบี่น้ำแข็งก็พุ่งแหวกฟ้าลงมาเจียนจะจ้วงแทงเข้าหว่างคิ้วต้วนหลิงเทียนอยู่รอมร่อ!
ทว่าในขณะที่ทุกคนคิดว่าต้วนหลิงเทียนต้องตายแน่แล้ว ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็เริ่มเคลื่อนไว
วู้ม!
ต้วนหลิงเทียนยกมือขึ้น จี้หนึ่งดัชนีออกไปตามอำเภอใจ ทันใดนั้นก็อุบัติพลังสีเทาขุมหนึ่งพุ่งออกจากปลายนิ้วไปราวหมอกควัน ลบเลือนกระบี่น้ำแข็งที่เหมิงซานยิงพุ่งออกมาได้อย่างง่ายดาย กระทั่งคลื่นพลังไม่เว้นไอเย็นที่เกิดจากกระบี่ก็ถูกสลายหายไปอย่างไร้เรื่องราว…
เรียกว่าในห้วงเวลาเศษเสี้ยวพริบตา การโจมตีของเหมิงซานก็อันตรธานหายไปราวไม่เคยปรากฏมาก่อน!
และในขณะที่ทุกคนกำลังตกใจกับเรื่องราวที่อุบัติขึ้นในฉับพลัน ดัชนีที่ต้วนหลิงเทียนชี้ออกก็เริ่มเปล่งแสงเรืองๆอีกครั้ง จากนั้นก็อุบัติกระบี่สีเทาหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นฟ้าไปทางเหมิงซานปานลำแสง!
“ให้ตายเถอะ! เจ้านั่นมันสวนกลับด้วย!!”
“มันสลายการโจมตีของผู้พิทักษ์เหมิงซานได้แค่ชี้นิ้ว…เช่นนั้นอย่างน้อยๆมันก็สมควรเป็นเทพสงครา 7 ดารากระมัง! มาบัดนี้มันยังจู่โจมสวนกลับอีก!!”
“เทพสงคราม 7 ดารา!? หรือว่ามันจะเป็นคุณชายชุดม่วงตัวจริง!?”
“คุณชายชุดม่วงจำต้องมาเสียเวลาเข้าร่วมการประเมินทดสอบของพวกเราด้วยเหรอ นี่ใช่เสียเวลาโดยใช่เหตุหรือไม่? อีกทั้งไม่ใช่ว่าพันธมิตรสวรรค์เราก็ออกประกาศเชื้อเชิญไปแล้วหรือไร? ขอเพียงมันเต็มใจเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์เรา ก็สามารถกลายเป็นผู้พิทักษ์ 9 ๆได้ทันที ต้องทราบด้วยว่าตัวตนระดับเทพสงคราม 7 ดาราก็มีคุณสมบัติมากพอจะดำรงตำแหน่งผู้พิทักษ์ของพวกเราแล้ว…และเพราะทางเราคาดเดาได้แต่แรกว่าคุณชายชุดม่วงสมควรเป็นเทพสงคราม 7 ดาราถึงได้เร่งออกประกาศเชื้อเชิญไป!!”
…
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน การโจมตีสวนกลับของต้วนหลิงเทียน หนึ่งดัชนีกระบี่ที่ปล่อยออก ก็พุ่งแหวกฟ้ามาถึงครึ่งทางจากตัวเหมิงซานแล้ว!
“เจ้าคือคุณชายชุดม่วง!?”
ขณะที่เหมิงซานอุทานด้วยความประหลาดใจ มันก็รวมรั้งพลังอย่างไม่ลนลาน เพื่อต้านทานรับดัชนีกระบี่ของต้วนหลิงเทียน!
ฮู้ววว! ฮู้ววว! ฮู้ววว!
…
เสียงลมหนาวพัดกรรรโชกดังขึ้น จากนั้นเบื้องหน้าเหมินซานก็เริ่มปรากฏกำแพงน้ำแข็งก่อตัวขึ้นแน่นหนา ให้สภาวะดั่งขุนเขาน้ำแข็งไร้ทลาย ขวางทางดัชนีกระบี่เอาไว้!
อย่างไรก็ตามดัชนีกระบี่ที่พุ่งยิงมาปานเส้นแสง อยู่ๆก็ไหววูบคราหนึ่งจากนั้นก็อันตรธานหายไปในความว่างเปล่า! พอปรากฏอีกครั้งก็ไปผุดโผล่ด้านหลังกำแพงน้ำแข็งอย่างอัศจรรย์!!
“ความลึกซึ้งส่งผ่าน!?”
สีหน้าเหมิงซานเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นมันก็เร่งพุ่งฝ่ามือทั้งสองออกมา ก่อนที่จะรวมรั้งพลังทั้งหมดควบสร้างแหลนน้ำแข็งอันเขื่องยาวประมาณ 10 หมี่ด้วยความเร็ว! แหลนน้ำแข็งร่วงฟ้าลงมาปานดาวตก ไอหนาวยะเยือกกวาดผ่านไปทั่วสารทิศ พาลให้ผู้คนโดยรอบรู้สึกเสมือนฤดูหนาวมาเยือนในฉับพลัน!!