ซู่มม!
ครืนนน!!
…
แหลนน้ำแข็งมหึมายาวกว่า 10 หมี่พุ่งตกฟ้ามาด้วยความเร็วสูงล้ำ หอบไอพลังเยียบเย็นเสียดกระดูกกวาดสะท้านออกไปทั่วทิศ! พลังสภาวะช่างน่ากลัวและครอบงำจิตใจผู้คนโดยรอบนัก!!
และนี่เป็นการลงมือเต็มกำลังของเหมิงซานแล้ว!
อย่างไรก็ตามแม้แหลนน้ำแข็งจะบรรจุไว้ด้วยพลังและความเข้าใจชั่วชีวิตของเหมิงซาน แต่เมื่อปะทะเข้ากับดัชนีกระบี่สีเทาของต้วนหลิงเทียน ก็จำต้องป่นสลายเป็นละอองเย็นในพริบตา! ด้วยเพราะดัชนีกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนจี้ยิงออกมาไม่ได้มีแค่พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดผสานพลังธาตุมิติเท่านั้น แต่ยังมีความลึกซึ้งของกฏมิติไม่เว้นมรรคากระบี่มิติ 1 ใน 4 วิถีสวรรค์และโลกอีกด้วย!!
ฟั่ฟฟ!!
ท่ามกลางสายตาของทุกคน หลังจากเห็นแหลนน้ำแข็งมหึมากว่า 10 หมี่ที่ร่วงฟ้ามาด้วยสภาวะพลังกล้าแกร่งปานดาวตกถูกดัชนีกระบี่ทำลายลงได้อย่างราบคาบ! ดัชนีกระบี่ดังกล่าวก็ยังไม่สิ้นสูญพลังสภาวะ จี้เข่นฆ่าเข้าใส่เหมิงซานสืบต่อ!!
‘ชีวิตข้าจบสิ้นกันแล้ว!’
วินาทีนี้ดวงตาของเหมิงซานฉายแววสิ้นหวังจับใจ มันไม่เหลืออะไรจะไปต่อต้านรับมือดัชนีกระบี่ที่เข่นฆ่าเข้ามาถึงเบื้องหน้าอีกต่อไป และมันยังอดไม่ได้ที่จะเสียใจสุดแสน ด้วยเพราะมันไม่ได้ใช้อุปกรณ์อมตะแต่แรก!
จะมาใช้อุปกรณ์อมตะเอาตอนนี้ ก็สายไปแล้ว
ซัวว!!
อย่างไรก็ตามในขณะที่เหมิงซานสิ้นหวัง และรอรับความตายโดยสดุดี ดัชนีกระบี่ที่ทะลวงมาถึงหว่างคิ้วมัน อยู่ดีๆก็ไหววูบดั่งเงาเลือนก่อนจะอันตรธานหายไปในฉับพลัน ประหนึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน
เหมิงซานที่รอดพ้นความตายมาได้ ก็อื้ออึงกับเรื่องราวอยู่พักหนึ่ง ค่อยประสานมือโค้งคารวะให้ต้วนหลิงเทียนด้วยท่าทีจริงจัง “ขอบคุณคุณชายชุดม่วงที่เมตตา”
วินาทีนี้เหมิงซานย่อมตระหนักได้ชัดเจน ว่าสิบในสิบไม่พ้นชายหนุ่มเบื้องหน้าก็คือ คุณชายชุดม่วง ที่พึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือในพื้นที่แถบนี้และได้รับความสนใจจากระดับสูงของกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ตัวจริง!
คุณชายชุดม่วง สวมใส่ชุดสีม่วงตลอด เป็นชายหนุ่มแลดูอ่อนวัย เก่งกฏมิติ…
ทั้งหมดตรงตามข้อมูล!
สิ่งเดียวที่ไม่ถูกอยู่บ้างก็คือความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย!
ในอดีตข่าวที่กองกำลังพันธมิตรสวรรค์ของมันรวบรวมมา คุณชายชุดม่วงสมควรเป็นแค่เทพสงคราม 7 ดาราทั่วไปเท่านั้น!
แต่การได้ประมือกับคุณชายชุดม่วงเมื่อครู่ ทำให้เหมิงซานตระหนักได้ชัดถนัดใจ
คุณชายชุดม่วงไหนเลยจะเป็นแค่เทพสงคราม 7 ดาราทั่วไปได้? อีกฝ่ายเป็นถึงยอดฝีมือเทพสงคราม 7 ดารา! ยังสมควรร้ายกาจเป็นอันดับต้นๆของเหล่ายอดฝีมือเทพสงคราม 7 ดาราด้วยซ้ำ!!
พลังฝีมือของมัน เรียกว่าห่างชั้นกับอีกฝ่ายไกลลิบโลก!
คุณชายชุดม่วง!
ถึงแม้ผู้คนในปัจจุบันก็เริ่มคาดเดาได้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนคือคุณชายชุดม่วง แต่พอเห็นเหมิงซานแพ้พ่ายในพริบตา พวกมันก็อดตกใจไม่ได้ ยังอุทานเรื่องต้วนหลิงเทียนเป็นคุณชายชุดม่วงออกมาด้วยความแตกตื่น “สวรรค์! มันคือคุณชายชุดม่วงตัวจริง!!”
“มิผิดแน่! เพราะมีเพียงคุณชายชุดม่วงตัวจริงเท่านั้นที่จะมีพลังฝีมือกล้าแข็งถึงระดับนี้ได้…กระทั่งผู้พิทักษ์ 7 เหมิงซาน ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ด้วยซ้ำ!”
“ว่าแต่พันธมิตรสวรรค์ก็ประกาศเชิญคุณชายชุดม่วงไปแล้วไม่ใช่หรือไร…ไฉนต้องมาเข้าร่วมการทดสอบคัดเลือกอะไรเช่นนี้อีกด้วยเล่า…ไม่ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากไปหน่อยหรือ?”
“เหอะๆ ผู้ใดจะไปรู้เล่า…บางทีผู้อื่นเขาอาจจะอยากสัมผัสประสบการณ์การทดสอบคัดเลือกของพันธมิตรสวรรค์ดูก็ได้? โลกของยอดฝีมือ มิใช่อะไรที่พวกเราจะเข้าใจได้หรอก…”
…
ในขณะที่เหมิงซานยืนยันผ่านการประมือได้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคุณชายชุดม่วงตัวจริง ฉากเรื่องราวหน้าค่ายกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ก็ครึกครื้นขึ้นมาทันที ด้านชายหนุ่มชุดคลุมน้ำเงินที่กล่าวถากถางดูหมิ่นต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่ บัดนี้สีหน้าของมันก็ซีดลงปานขี้เถ้า!
มันได้แต่ลอบมองไปทางต้วนหลิงเทียนด้วยความหวาดกลัว จากนั้นก็เร่งประสานมือโค้งหัวขอขมาลาโทษทันที “คุณชายชุดม่วง…ข้า…เป็นข้าไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงของท่าน ถึงได้ล่วงเกินท่านไป หวังว่าท่านจะอภัยให้ข้าด้วย”
“หืม?”
ต้วนหลิงเทียนยังไม่ทันได้ว่าอะไร กลับเป็นเหมิงซานที่หน้าเปลี่ยนสี เร่งมองจ้องไปยังชายหนุ่มชุดคลุมน้ำเงินตาขวางทันที “เจ้าหนู นี่เจ้ากล้าล่วงเกินคุณชายชุดม่วงได้อย่างไร? เจ้าไม่รู้หรือว่าถ้าคุณชายชุดม่วงเข้าร่วมกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ อย่างน้อยๆก็ต้องเป็นชนชั้นผู้พิทักษ์ แต่เจ้ายังกล้าล่วงเกิน?!”
“ผู้พิทักษ์กฏเหมิงซาน ข้า…ข้ามิได้ตั้งใจ ทั้งหมดเป็นเพราะตอนแรกข้าไม่รู้ตัวตนของคุณชายชุดม่วง!”
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินหวาดกลัวจนหน้าซีดไม่มีสีเลือดแล้ว ขณะเดียวกันมันก็ลอบมองส่งสายตาไปยัง 1 ใน 2 ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลังเหมิงซานเพื่อขอความช่วยเหลือทันที
และชายวัยกลางคนดังกล่าว ก็เร่งออกหน้าให้อย่างไม่รอช้า มันหันไปมองกล่าวกับเหมิงซานด้วยรอยยิ้มขื่นขมว่า “ผู้พิทักษ์เหมิงซาน นี่เป็นรุ่นเยาว์ในตระกูลของข้าเอง มันพึ่งจะมายังสมรภูมิ 9 ยมโลกได้ไม่นานจึงไม่ค่อยประสีประสา…หวังว่าท่านจะเมตตามันสักครั้ง”
“หึ!”
เหมิงซานพ่นลมสบถออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา หากแต่ไม่ได้สืบสาวหาความอะไรชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินอีก เห็นได้ชัดว่ามันเห็นแก่หน้าชายวัยกลางคน
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มันลอบสังเกตเห็นว่าคุณชายชุดม่วงไม่ได้เห็นชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย และท่าทางจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลย เช่นนั้นมันก็เลยเลือกจะไว้หน้าชายวัยกลางคนด้านหลัง
แต่ถ้าหากคุณชายชุดม่วงคิดเอาความล่ะก็ มันก็มีแต่ต้องสละชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินเท่านั้น
“คุณชายชุดม่วง ท่านมาเยือนพันธมิตรสวรรค์ของพวกเราช่วงนี้ มิทราบท่านต้องการสิ่งใดหรือ?”
เหมิงชานแลดูกระตือรือร้นนัก
“ข้าคิดจะเข้าร่วมกับกองกำลังพันธมิตรสวรรค์…”
ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวตอบอย่างตรงไปตรงมา
ถึงแม้เหมิงซานจะพอคาดเดาได้แล้ว แต่พอได้ยินต้วนหลิงเทียนตอบออกมากับปาก มันก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ แต่ยังเลือกจะเอ่ยถามด้วยยความสงสัยต่อว่า “คุณชายชุดม่วง เดิมทีพวกเราพันธมิตรสวรรค์ ก็ได้ออกประกาศเชื้อเชิญท่านให้มาเข้าร่วมกับพันธมิตรสวรรค์ของพวกเราแล้ว…เช่นนั้นก่อนหน้าท่านแค่มาแสดงตัวที่พันธมิตรสวรรค์เราก็ได้ ไฉนต้องมาเข้าร่วมการทดสอบให้เสียเวลาเช่นนี้ด้วยเล่า?”
“ด้วยพลังฝีมือของท่าน การเข้าร่วมการทดสอบของพันธมิตรสวรรค์เรา ก็ไม่ต่างอะไรจากมาทำบททดสอบของเด็กน้อย ยังไม่เกินจำเป็นไปหน่อยหรือ?”
เหมิงซานกล่าวจบก็รอฟังคำตอบด้วยความอยากรู้
“ข้าไม่รู้เรื่องที่พวกเจ้าประกาศเชิญข้า”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา ค่อยเอ่ยถามตรงๆ “แล้วตอนนี้ข้ายังเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ได้อยู่หรือไม่?”
“ย่อมได้แน่นอน!”
เหมิงซานเร่งพยักหน้าราวลูกเจี๊ยบจิกเม็ดข้าว ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญ “ขอเชิญคุณชายชุดม่วงมาพบผู้นำพันธมิตรสวรรค์ของพวกเราก่อนเถอะ…เป็นท่านผู้นำได้ออกคำสั่งให้พวกเรารอต้อนรับท่านแต่แรกแล้ว”
“อืม”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า จากนั้นก็ลอยยขึ้นไปบนฟ้า และมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่เหมิงซานผายมือ
ขณะเดียวกันเหมิงซานก็ไม่ลืมหันไปกำชับชายวัยกลางคนทั้ง 2 ด้านหลังเสียงเรียบว่า “พวกมัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้า 2 คน….คราวนี้ให้พวกเจ้าเป็นคนประเมินพวกมันเสีย”
“ทราบแล้ว ผู้พิทักษ์ 7”
สองชายวัยกลางคนเร่งตอบคำด้วยเคารพ จากนั้นก็มองส่งเหมิงซานที่เหินร่างนำพาคุณชายชุดม่วงเข้าไปยังด้านในค่ายกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ด้วยตัวเองจนหายลับตา
“ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าพลังฝีมือของคุณชายชุดม่วงที่แท้จะร้ายกาจถึงขนาดนี้ แม้แต่ผู้พิทักษ์ 7 ยังห่างไกลเกินกว่าจะเทียบได้…”
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งหันไปมองชายวัยกลางคนอีกคนพลางกล่าว น้ำเสียงฟังแล้วดูเหมือนมันยังตกใจไม่หาย
“ใช่ ร้ายกาจยิ่ง…พลังฝีมือของมัน ข้าเกรงว่าต่อให้เป็นผู้พิทักษ์ 2 ก็ไม่ใช่ว่าจะเหนือกว่า”
คนหลังก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง…
ด้านกลุ่มคนด้านหน้าค่ายไม่เว้นชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินที่มารอทดสอบเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ จนเมื่อแผ่นหลังของต้วนหลิงเทียนหายลับสายตาไปแล้ว พวกมันถึงจะดึงสติให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้อีกครั้ง
อย่างไรเสียแต่ละคนก็ยังรู้สึกเสมือนฝันไปไม่หาย
พวกมันกลับได้พบเจอคุณชายชุดม่วงที่กำลังโด่งดังอย่างไม่คิดไม่ฝัน!
ที่สำคัญยังได้เห็นพลังฝีมืออันน่าทึ่งของคุณชายชุดม่วงอีกด้วย แถมร้ายกาจกว่าคำร่ำลือจมหู!
หากไม่เห็นกับตาใครจะไปเชื่อ ผู้พิทักษ์ 7 ของพันธมิตรสวรรค์ เหมิงซาน ที่พลังฝีมือเหนือกว่าเทพสงคราม 7 ดาราทั่วไป กลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณชายชุดม่วงเลย น่าตกตะลึงนัก!
ส่วนอีกด้าน
ภายใต้การนำทางของเหมิงซาน ต้วนหลิงเทียนก็ได้เข้าสู่ค่ายของกองกำลังพันธมิตรสวรรค์มาอย่างราบรื่น ไม่นานก็มาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง ภายในหุบเขามีอาคารที่คล้ายสร้างขึ้นจากพลังของกฏแห่งดินมากมาย น่านฟ้าปรากฏร่างเหินผ่านไปมาเป็นครั้งคราว
“ผู้พิทักษ์ 7!”
“ผู้พิทักษ์ 7!”
…
หลายคนที่เหินร่างผ่านต้วนหลิงเทียนกับเหมิงซาน พอเห็นเหมิงซานแต่ละคนก็ทักทายเหมิงซานด้วยท่าทีสุภาพ
ไม่ว่าใครก็มองมาทางต้วนหลิงเทียนด้วยความแปลกใจทั้งสิ้น
เพราะทุกคนสัมผัสได้ว่าเหมิงซานให้ความเกรงใจต่อต้วนหลิงเทียนไม่น้อย
“คุณชายชุดม่วง ท่านคงมิเคยเข้าร่วมขุมกำลังงใดๆในสมรภูมิ 9 ยมโลกกระมัง?”
เหมิงซานเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย และนี่ยังเป็นการเลียบๆเคียงๆกล่าวถามหยั่งเชิงเพื่อหาข้อมูลของคุณชายชุดม่วงด้วย ว่าที่แท้อีกฝ่ายใช่ถูกกองกำลังคู่อริของพวกมันส่งให้มาแฝงตัวหรือไม่ และการเข้าสู่พันธมิตรสวรรค์ของอีกฝ่ายที่แท้มีแรงจูงใจอะไรซ่อนเร้นรึเปล่า…
อยู่ดีๆในเขตพื้นที่ของกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ ก็ปรากฏคนอย่างคุณชายชุดม่วงขึ้นมา ทำให้มันอดคิดไปทำนองดังกล่าวไม่ได้จริงๆ
“ข้าพึ่งจะเข้าสู่สมรภูมิ 9 ยมโลกได้ราวๆ ครึ่งปีเท่านั้น”
ต้วนหลิงเทียนก็เอ่ยตอบเหมิงซานไปตามตรง “ข้าก็ไม่รู้ว่าภายในสมรภูมิ 9 ยมโลกจะวุ่นวายถึงขนาดนี้ แทบจะหาสถานที่บ่มเพาะพลังเงียบๆไม่ได้เลย”
“เข้าใจแล้ว”
แม้เหมิงซานจะแลดูประหลาดใจกับคำตอบของต้วนหลิงเทียน แต่มันก็เลือกจะฟังหูไว้หู ด้วยไม่อาจทราบได้ว่าที่ต้วนหลิงเทียนพูดมามันเป็นความจริงหรือไม่
“คุณชายชุดม่วง มิทราบที่แท้ท่านเรียกว่าอะไรหรือ?”
เหมิงซานเอ่ยถามเรื่องที่สงสัยออกไปอีกอย่าง เพราะมันรู้แค่คนเบื้องหน้าก็คือคุณชายชุดม่วงเท่านั้น และเหมือนกันกับคนอื่นๆที่ไม่รู้ว่าคุณชายชุดม่วงเป็นใครมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง เป็นอัจฉริยะจากขุมกำลังใดในระนาบเทวโลก หรือที่แท้เป็นแค่ผู้ฝึกตนอิสระ
“ข้าชื่อต้วนหลิงเทียน”
การเข้าสู่สมรภูมิ 9 ยมโลกครั้งนี้ ต้วนหลิงเทียนไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องปิดบังชื่อของตัวเอง เช่นนั้นเมื่อโดนเหมิงซานถาม เขาก็เลือกจะกล่าวบอกออกไปตามตรง
“เป็นชื่อที่ดี”
เหมิงซานพยักหน้ากล่าวชม ค่อยเอ่ยถามสืบต่อ “มิทราบว่าน้องต้วนท่านมาจากระนาบเทวโลกใดหรือ?”
“จี้เมี่ยเทียน”
“แล้วท่านเป็นคนของขุมกำลังใดในจี้เมี่ยเทียนหรือ ร้ายกาจเช่นท่านคงมิน่าจะเป็นผู้ฝึกตนอิสระกระมัง?”
“ข้ามาจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน”
เหมิงซานถาม ต้วนหลิงเทียนก็ตอบ
และพอได้ยินว่าต้วนหลิงเทียนมาจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน เหมิงซานก็อดตกใจไม่ได้ “พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียน!? ข้าได้ยินว่าผู้ที่แข็งแกร่งรองจากจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง ก็คือจักรพรรดิอมตะสวรรค์กร่าง เมิ่งหลัว พลังฝีมือของเมิ่งหลัวก็อยู่ในระดับเทพสงคราม 6 ดาราเท่านั้น…ไฉนข้ามิเคยได้ยินว่ามียอดคนอย่างน้องต้วนท่านในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนเลยเล่า?”
มาบัดนี้ ในใจเหมิงซานอดไม่ได้ที่จะมีความสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ
คุณชายชุดม่วงผู้นี้ คงมิใช่สายลับที่ขุมกำลังงคู่อริของพวกมันส่งมาแฝงตัวจริงๆหรอกนะ!?
แต่หากเป็นสายลับ จะปลอมฐานะความเป็นมา ไฉนไม่ทำให้แนบเนียนหน่อย?
เพราะไม่ว่าใครก็ทราบข้อมูลของขุมกำลังใหญ่ๆระดับพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ของระนาบเทวโลกต่างๆดี และเรื่องที่ในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ ผู้ที่แข็งแกร่งรองจากฟงชิงหยางก็คือเมิ่งหลัวที่เป็นดั่งมือขวาของฟงชิงหยาง ทว่าพลังฝีมือก็เพียงแค่เทพสงคราม 6 ดาราเท่านั้น ใครๆก็รู้กันดี
ทว่าคุณชายชุดม่วงเบื้องหน้า กลับกล่าวบอกว่ามาจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน?
หรือว่าอีกฝ่ายยคือไพ่ลับที่ซ่อนเอาไว้ของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน?
ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ดังกล่าวอยู่ แต่เกรงว่าจะน้อยมากๆ
“มาถึงแล้ว”
เหมิงซานที่สอบถามข้อมูลต้วนหลิงเทียนไปเรื่อย ไม่ทันรู้ตัวก็เหินร่างมาถึงอาคารปลูกสร้างหลังใหญ่แห่งหนึ่งภายในหุบเขา และอาคารหลังนี้ยังเป็นจุดหมายปลายทางของมันอีกด้วย ยังกล่าวแจ้งการมาทันที “เรียนท่านผู้นำ ข้าพาคุณชายชุดม่วงที่หมายเข้าร่วมกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ของพวกเรามาถึงแล้ว”
อาคารปลูกสร้างหลังใหญ่นี้มีลักษณะไม่ต่างอะไรจากจวนขุนนาง พื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง การตกแต่งสวนด้านหน้าก็ค่อนข้างทำได้ดีไม่น้อย มันสงบร่มรื่นและเต็มไปด้วยไม้ใหญ่และบุปผานานาพรรณ เพียงต้วนหลิงเทียนเข้ามาก็รู้สึกผ่อนคลายสบายใจแล้ว ‘ผู้นำกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ช่างเข้าใจอยู่จริงๆ’
แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนเพียงกล่าวในใจไม่ได้พูดออกมาตรงๆ
“คุณชายชุดม่วง?”
ทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงประหลาดใจไม่น้อยดังขึ้นจากด้านในจวน