ซัว! ซัว!
  แทบจะพร้อมกันกับที่สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับกล่าวจบคำ สองตาของหมี่ซวนก็ทอแสงเรืองรองขึ้นมา จากนั้นก็ปรากฏลำแสงสีเทาสลัวยิงพุ่งออกไปฉับไว จมหายไปในหว่างคิ้วของสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับที่กล่าวถามทันที
  จากนั้นสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับทั่งมีชีวิตอยู่เมื่อครู่ สองตาก็กลับกลายเป็นหมองหม่นไร้ประกาย คนทรุดล้มลงกับพื้นราวหุ่นกระบอกถูกตัดด้ายอย่างแรง สะเก็ดน้ำแข็งซ่านกระเซ็น
  ฉากเรื่องราวเบื้องหน้าทำให้สีหน้าท่าทีของสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับเปลี่ยนไปทันที
  แม้แต่ชนชั้นอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่นั่งขัดสมาธิอยู่ บัดนี้ก็ได้ลืมตาขึ้นมามองหมี่ซวนด้วยความตกใจ
  การโจมตีทางวิญญาณอันรวบรัดหมดจดนั่น ทำให้มันอดตะลึงไม่ได้จริงๆ
  นับประสาอะไรกับช่วยชีวิตคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับ เมื่อครู่ตัวมันยังไม่อาจตอบสนองใดๆได้ทันเลยด้วยซ้ำ!
  “ท่านเป็นผู้ใด ไฉนถึงบุกมาเข่นฆ่าคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับเราอย่างไร้เหตุผล?”
  ชนชั้นอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับ ยืนขึ้นมากล่าวถามด้วยสีหน้าตึงเครียด ขณะเดียวกันมันก็เร่งส่งข้อความไปหาหัวหน้ามัน ซึ่งเป็นผู้คุมกฏคนหนึ่งของพันธมิตรอุดรลี้ลับอย่างไม่รอช้า
  “ข้าจะรีบไป”
  ผู้คุมกฏที่ว่าก็คือ ฉีชางอวี่ ผู้คุมกฏ 6 ของพันธมิตรอุดรลี้ลับ เป็นชายหนุ่มในชุดสีฟ้าหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง กำลังเดินหมากกับชายวัยกลางคนอยู่
  พอเห็นว่าอยู่ๆสีหน้าของฉีชางอวี่ก็เปลี่ยนไปเป็นไม่สู้ดี ชายวัยกลางคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็แปลกใจอยู่บ้าง “ผู้คุมกฏ 6 มีเรื่องอันใดหรือ?”
  “ผู้คุมกฏ 4 เมื่อครู่คนของข้าพึ่งแจ้งมาว่ามีคนบุกมาเข่นฆ่าคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับเราถึงหน้าประตูทิศใต้”
  พอกล่าวจบคำ ร่างฉีชางอวี่ ก็วูบหายไปราวสามพัด
  “อะไร?!”
  ชายวัยกลางคนเองก็ลุกพรวดขึ้นมาทันที สีหน้ายังกลายเป็นดุร้าย “เป็นผู้ใดกันแน่ ถึงได้หาญกล้ามาก่อการอุกอาจถึงหน้าประตูพันธมิตรอุดรลี้ลับเรา!”
  จากนั้นชายวัยกลางคนที่แลดูเดือดดาล ก็พุ่งพรวดออกไปอย่างแรงจนโต๊ะหินอ่อนรวมถึงกระดานหมากล้มคว่ำ ติดตามฉีชางอวี่ไปอย่างรวดเร็ว
  พริบตาทั้งคู่ ก็บรรลุถึงหน้าประตูทิศใต้ของพันธมิตรอุดรลี้ลับ
  “ผู้คุมกฏ 4 ผู้คุมกฏ 6”
  เมื่อเห็น 2 ร่างที่ปรากฏตัวขึ้นติดๆกัน ชนชั้นอาวุโสพันธมิตรอุดรลี้ลับที่เฝ้าประตูรวมถึงสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับอีกไม่กี่คน ก็เร่งประสานมือคารวะทักทายด้วยเคารพ ขณะเดียวกันในแววตาก็ฉายความฮึกเหิมขึ้นมาทันที
  ผู้คุมกฏของพันธมิตรอุดรลี้ลับ ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนแล้วแต่เป็นเทพสงคราม 7 ดารา!
  “ผู้คุมกฏ 4 ผู้คุมกฏ 6…เป็นเจ้านั่น ที่เข่นฆ่าคนพันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกเรา”
  อาวุโสพันธมิตรอุดรลี้ลับกล่าวออกเสียงเศร้า
  ด้านฉีชางอวี่กับชายวัยกลางคนที่พึ่งออกมาถึงหน้าประตู มองไปก็เห็นร่างไร้วิญญาณของสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับนอนตัวเย็นอยู่บนพื้นน้ำแข็ง ร่างอีกฝ่ายไม่มีบาดแผลใด แต่สองตาที่เบิกว้างนั่นเผยความเลื่อนลอยหมองหม่นนัก
  บ่งชี้ชัดว่าอีกฝ่ายถูกการโจมตีทางวิญญาณจนตาย!
  “เจ้านั่นมันเก่งเรื่องการใช้พลังวิญญาณเช่นนั้นหรือ?”
  คู่ต่อมา ฉีชางอวี่ ก็หันไปมองชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกล
  “มีมาอีก 2 คนรึ…ก็ดี”
  พอเห็นคนอีก 2 คนปรากฏตัวขึ้น หมี่ซวนก็ฉีกยิ้มออกมา “พวกเจ้าที่พึ่งออกมาฐานะคงสูงกว่าพวกลิ่วล้อนี่ คงรู้กระมังว่าผู้คุมกฏอาวุโสของพวกเจ้าอยู่ที่ใด?”
  “เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่ ไฉนต้องมาฆ่าคนพันธมิตรอุดรลี้ลับของเราด้วย?”
  ฉีชางอวี่มองหมี่ซวนด้วยใบหน้าถมึงทึง ก่อนจะย้อนถามกลับไปเสียงเย็น ไม่สนใจจะตอบคำถามของหมี่ซวน
  “หาญกล้าฆ่าคนพันธมิตรอุดรลี้ลับเรา เช่นนั้นเจ้าก็อยู่มันที่นี่อย่าได้คิดจากไป!”
  ชายวัยกลางคนที่ออกมาพร้อมฉีชางอวี่ ผู้คุมกฏ 4 ของพันธมิตรอุดรลี้ลับ ชิวฝู มองหมี่ซวนด้วยสายตาดุร้าย พอกล่าวคำด้วยน้ำเสียงอำมหิตจบคำ ก็ตบฟาดฝ่ามือสังหารออกไปอย่างเกรี้ยวกราด!
  “หึ!”
  หมี่ซวนเพียงแค่นคำดูแคลนเสียงเย็น ก่อนจะสะบัดตบฝ่ามือสวนกลับไปส่งๆ
  ปงงง!!
  อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นฝ่ามือที่หมี่ซวนตบฟาดออกมาส่งๆ แต่พลังอานุภาพก็ร้ายกาจนัก ห้วงอากาศแตกระเบิดส่งเสียงสนั่น ฝ่ามือพลังไร้สภาพขุมหนึ่งพุ่งแหวกฟ้าออกไปฉับไว ทำลายพลังฝ่ามือของชิวฝูลงได้อย่างง่ายดาย กระทั่งไม่ทันที่ชิวฝูจะตอบสนองใดๆ พลังฝ่ามือดังกล่าวก็ซัดกระแทกเข้าร่างมันแล้ว
  พริบตาต่อมา ร่างชิวฝูก็ไม่ได้กระเด็นไปไหน หากแต่คนทั้งคนพลันระเบิดบึ้มขึ้นมาปานพลุไฟ! กลับกลายเป็นหมอกโลหิตกองหนึ่งฟุ้งกระจายไปทั่ว!!..
  หมอกโลหิตที่ว่า ยังปลิวไปกระทบใบหน้าฉีชางอวี่ และคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่เหลือ พาลให้พวกมันสัมผัสได้ถึงไอเย็นเยียบสายหนึ่งแล่นพล่านจากปลายเท้าจรดศีรษะ!
  บัดนี้พวกมันรู้สึกเสมือนร่างกายเสียการควบคุมมือเท้าไร้เรี่ยวแรง พูดอะไรไม่ออก ได้ยินก็แต่เสียงหัวใจที่เต้นแรงสนั่นในอก
  สวรรค์!
  ผู้คุมกฏ 4 ของพันธมิตรอุดรลี้ลับ ยอดฝีมือเทพสงคราม 7 ดารากลับถูกชายเบื้องหน้าตบจนตายเช่นนี้?
  ในพันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกมัน มีแต่ผู้นำ รองผู้นำ และก็ผู้คุมกฏอาวุโสที่เป็นดั่งมังกรเทพยดาเห็นหัวไม่เห็นหางเท่านั้นที่มีพลังสามารถดังกล่าว!
  “ในพวกเจ้า มีผู้ใดรู้บ้างว่าผู้คุมกฏอาวุโสอยู่ที่ไหน?”
  หมี่ซวนเอ่ยถามออกมาเสียงเรียบ อย่างไรก็ตามสายตาที่เคยไร้แยแส บัดนี้ได้ฉายความดุร้ายออกมาปานจะกลืนกินเลือดเนื้อผู้คน
  “ข้า…ข้ารู้”
  โดนหมี่ซวนจ้องมาด้วยสายตากระหายเลือด สมาชิกทั่วไปของพันธมิตรอุดรลี้ลับคนหนึ่งที่รู้สึกหายใจไม่ออก เพราะร่างกายจิตใจคล้ายถูกแรงกดดันที่มองไม่เห็นบีบคั้นอย่างหนัก สุดท้ายก็ทนไม่ไหวสืบไป เร่งปริปากกล่าวคำออกมา
  และคำพูดของมัน ก็ทำให้สีหน้าผู้คุมกฏ 6 ของพันธมิตรอุดรลี้ลับ ฉีชางอวี่ เปลี่ยนสีไปทันที
  เจ้านี่มันคิดจะทรยศผู้คุมกฏอาวุโสหรือไร!?
  ไม่ใช่รนหาที่ตาหรอกหรือ!?
  “ดี!”
  และแทบจะพร้อมๆกันกับที่สมาชิกทั่วไปคนดังกล่าวของพันธมิตรอุดรลี้ลับกล่าวจบคำ หมี่ซวนก็พยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นก็ยกมือขึ้นสะบัดตบออกไปตามอำเภอใจ ห้วงอากาศเบื้องหน้าพลันแตกระเบิดสนั่นอีกครั้ง
  พริบตาต่อมา
  ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
  …
  เสียงพลังซัดทำลายดังขึ้นพร้อมๆกันหลายสำเนียง นอกจากสมาชิกทั่วไปของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่พูดว่ารู้ออกมา คนอื่นๆไม่เว้น ฉีชางอวี่ ผู้คุมกฏ 6 ก็ถูกพลังป่นร่างกลายเป็นหมอกโลหิตหมดสิ้น
  ทุกเรื่องราวอุบัติขึ้นในชั่วพริบตา!
  สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับที่รอดตายมาได้ตื่นตระหนกจนสติหลุดลอย ร่างแข็งค้างไปราวตัวโง่งม พอได้สติกลับมา สองขาเสมือนไร้เรี่ยวแรง คนทรุดยวบลงไปนั่งบนพื้นราวโคลนเหลว จากนั้นก็ปรากฏกองน้ำสีเหลืองเจิ่งนองขึ้นบนพื้นน้ำแข็ง
  “นำทางไป”
  หมี่ซวนเหลือบมองสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับดังกล่าวด้วยสายตาขยะแขยง ขมวดคิ้วกล่าวด้วยน้ำเสียงใกล้สิ้นความอดทน
  “ทะ…ทราบแล้วใต้เท้า”
  สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับบที่ขายังสั่นไม่หาย พอได้ยินวาจาของหมี่ซวน ร่างมันพลันสะดุ้งขึ้นมาดั่งนกหวาดเกาทัณฑ์ รีบลุกและเหินร่างนำทางไปทันที ด้วยกลัวว่าหากชักช้าจะพบพานชะตาดุจเดียวกับผู้คุมกฏ 4 ผู้คุมกฏ 6 และคนอื่นๆ…
  ‘คนผู้นี้ตั้งใจมาหาผู้คุมกฏอาวุโสโดยเฉพาะ…ทั้งๆที่น่าจะรู้อยู่แล้วว่าผู้คุมกฏอาวุโสร้ายกาจแค่ไหน หรือมันจะเป็นเทพสงคราม 9 ดารา?’
  สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับที่เร่งรุดนำทางทั้งเป้าเปียกเหม็นฉุน พอได้สติก็ฉุกคิดขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว
  มันเชื่อว่าตอนนี้อย่าว่าแต่เขต 2 ภาคเหนือ ให้มองไปทั่วทั้งภาคเหนือ กระทั่งทั่วทุกภาคของสมรภูมิ 9 ยมโลก ก็น่าจะมีน้อยคนที่ไม่รู้ถึงความร้ายกาจของผู้คุมกฏอาวุโสพันธมิตรอุดรลี้ลับของมัน
  แต่อีกฝ่ายที่สมควรรู้แล้ว ยังกล้ามาแบบนี้ หากไม่ใช่ตั่วโง่งมไร้ความกลัว ก็ต้องเป็นยอดฝีมือ!
  และในเมื่ออีกฝ่ายดูอย่างไรก็ไม่คล้ายตัวโง่งม เช่นนั้นก็เป็นได้แค่ยอดฝีมือที่มีพลังกล้าแข็ง!
  สมาชิกทั่วไปของพันธมิตรอุดรลี้ลับคนนั้น เร่งรุดนำหมี่ซวนเข้าสู่ค่ายพันธมิตรอุดรลี้ลับไปด้วยความกลัว
  ระหว่างทางก็มีคนเหินร่างขึ้นมาด้วยคิดสกัดขวาง
  อย่างไรก็ตามหลังได้ยินเสียงผ่านพลังด้วยความร้อนใจของสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับที่นำทางคนนอกเข้ามา คนที่เร่งรุดขึ้นมาหมายสกัดขวาง ก็พากันชะงักร่างหยุดลงกลางหาวแทบไม่ทัน บางคนที่คุมสติได้ดีก็เร่งรุดแจ้งไปยังผู้นำและรองผู้นำทันที
  และถ้อยคำที่สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับผู้นำทางหมี่ซวนแจ้งถึงทุกคนก็มีความว่า “คนที่ตามข้ามาด้านหลัง มันสามารถฆ่าผู้คุมกฏ 4 และผู้คุมกฏ 6 ได้ในชั่วพริบตา และจงใจมาหาผู้คุมกฏอาวุโสโดยเฉพาะ ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นเทพสงคราม 9 ดารา!”
  ด้วยประโยครวบรัดดังกล่าว ก็ทำให้ร่างผู้ที่คิดมาสกัดขัดขวางไม่กล้าไปต่อแม้ครึ่งก้าว
  “เจ้านับว่าใจดีไม่เบานี่ มีแจ้งพวกมันด้วย”
  หมี่ซวนที่ติดตามสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับเข้ามา กล่าวด้วยรอยยิ้มเยียบเย็น
  ถึงแม้ตั้งแต่ต้นจนจบสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับที่นำทางจะใช้การส่งเสียงผ่านพลัง แต่มันก็ไม่ได้ตาบอด ย่อมเห็นชัดว่าทุกคนคิดเข้ามาสกัดขวางมัน อยู่ๆก็ชะงักร่างมองมันด้วยสายตาหวาดกลัว ไม่กล้าทำอะไรอีก
  ให้ใครมาพูดว่าสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับที่นำทางไม่ได้ส่งเสียงผ่านพลังไปแจ้งเตือน มันก็ไม่มีวันเชื่อ
  “ใต้เท้า…”
  สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับที่เป้าคลุ้งกลิ่นฉี่ เอ่ยออกด้วยน้ำเสียงขื่นขม “ผู้ยิ่งใหญ่เช่นพวกท่านปะทะกัน ไม่เห็นต้องทำร้ายผู้น้อยเยี่ยงปลาซิวปลาสร้อยอย่างพวกเราเลย…ถึงพลังของพวกเราจะอ่อนด้อยเยี่ยงมดในสายตาท่าน แต่กว่าพวกเราจะมีวันนี้กันได้ ก็ลำบากยากเข็ญไม่น้อย…”
  “วางใจเถอะ…ขอเพียงคนอื่นไม่ตอแยหรือขัดตาข้า เช่นนั้นข้าก็ไม่คิดสนใจระรานผู้ใด”
  หมี่ซวนกล่าวออกเสียงเฉย “หากผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับเจ้า มิใช่คนที่ข้ากำลังตามหา…ข้าก็ไม่คิดทำให้มันลำบากใจ”
  “ขอบคุณใต้เท้าสำหรับความเมตตา”
  สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับที่นำทางเร่งกล่าวขอบคุณออกไปทันที
  ถึงแม้ว่าสถานที่พักบ่มเพาะของงต้วนหลิงเทียนจะถูกกันให้เป็นพื้นที่ส่วนตัว และมีน้อยคนนักที่กล้าเฉียดใกล้
  อย่างไรก็ตาม มีไม่น้อยที่รู้ว่าเขาอยู่ไหน
  ในพันธมิตรอุดรลี้ลับ ขอเพียงไม่ใช่คนที่ปิดด่านฝึกฝนหรืออยู่ด้านนอกมานาน ก็ไม่มีใครที่ไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนพักอยู่ไหน
  เป็นธรรมดาว่าพวกมันไม่รู้ว่าผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับพวกมันคือต้วนหลิงเทียน พวกมันรู้ก็แต่ผู้คุมกฏอาวุโสของพวกมัน เป็นยอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดาราระดับต้นๆนามว่า ลี่เฟิง
  “ใต้เท้า เป็นที่นั่น”
  คนของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่นำทางหมี่ซวนมาถึงชายขอบด้านหนึ่งของค่ายพันธมิตรอุดรลี้ลับ ก็ชี้ไปยังจวนใหญ่เบื้องล่างด้านหน้าทันที
  “ไปเสีย”
  หมี่ซวนเหลือบมองสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับผ่านๆ พอกล่าวจบคำ ร่างสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับก็เร่งรุดจากไปทันที
  จากนั้นจิตสัมผัสของหมี่ซวนก็แผ่ไปปกคลุมพื้นที่โดยรอบเร็วไว
  กระทั่งเพื่อป้องกันไม่ให้คนในจวนมุดดินหนี จิตสัมผัสของมันยังแผ่ลึกลงไปใต้ดิน!
  “หืม?”
  เนื่อจากหมี่ซวนเพียงก่อเรื่องเอะอะด้านอกพันธมิตรอุดรลี้ลับ แต่ไม่ได้ก่อเรื่องเอะอะอะไรในค่ายพันธมิตรอุดรลี้ลับ ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะไม่ได้ทุ่มจิตสมาธิบ่มเพาะพลังทั้งหมด แต่ก็ยากจะค้นพบการมาของหมี่ซวนได้
  เขาไม่ตอบสนองใดๆขจนเมื่อสำนึกเทวะของหมี่ซวนแผ่มาปกคลุมไปรอบๆจวน
  “ใครกัน?”
  สำนึกเทวะที่อยู่ๆก็แผ่มาปกคลุมโดยรอบ ทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกคุ้นเคยพิกลราวกับเคยเจอมาก่อน แต่ปุบปับยังบอกไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน
  “หืม?”
  พริบตาต่อมาลูกตาต้วนหลิงเทียนก็หรี่ลง เนื่องเพราะสำนึกเทวะดังกล่าวยังแผ่มาปกคลุมตัวเขา ราวกับจะไม่ปล่อยให้เขาหลบหนีไปไหนได้
  พร้อมกันนั้นก็มีเสียงไร้แยแสดังขึ้นจากด้านนอก
  “ข้าควรเรียกเจ้าว่า ลี่เฟิง หรือต้วนหลิงเทียนดีเล่า?”
  ได้ยินเสียงดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนยิ่งมาก็ยิ่งคุ้น หลังจากย้อนนึกครู่หนึ่ง เขาก็นึกถึงใครขึ้นมาได้ “ถังซานเป่า?”
  พอต้วนหลิงเทียนออกจากห้องฝึกฝน และเหินร่างขึ้นไปในอากาศเหนือจวน ก็พบร่างหนึ่งทันที
  “เป็นเจ้านั่นจริงๆด้วย”
  มองไปปราดเดียวต้วนหลิงเทียนก็จดจำร่างที่ลอยล่องกลางอากาศได้ทันที อีกฝ่ายก็คือถังซานเป่าที่เขาเคยพบเจอในศึกอัจฉริยยะสวรรค์ มีฐานะเป็นถึงเจ้าวิหารน้อยของวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลัก!