ตอนที่ 3588 ทยอยกันตายตก

WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์

‘ความเข้าใจในกฏมิติของข้า ดูเหมือนจะด้อยกว่าความเข้าใจในกฏแห่งทองของมัน…’
  ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
  การลงมือเมื่อครู่เขาเกือบใช้พลังทั้งหมดแล้วแท้ๆ แต่กลับทำได้แค่เสมอกับถานจินเท่านั้น สิ่งนี้เผยให้เห็นชัดเจนว่าความสำเร็จในกฏแห่งทองของถานจิน เหนือกว่าความสำเร็จในกฏมิติของเขา!
  ต้องทราบด้วยว่า เมื่อครู่เขาใช้ออกทั้งวิถีควบคุม กับมรรคากระบี่มิติแล้ว
  แต่กระนั้นยังไม่มีเปรียบแม้แต่นิดเดียว
  ต้องทราบด้วยว่าพลังของวิถีควบคุมกับมรรคากระบี่มิติ ทำให้การโจมตีของเขาทรงพลังขึ้นอย่างมาก แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น ทว่าการลงมือที่เขาใช้พลังออกไป 7-8 ส่วน กลับทำได้แค่หักล้างกับพลังของถานจิน
  ‘ถานจินผู้นี้ สมแล้วที่เป็นเทพสงคราม 9 ดาราอันดับต้นๆของสมรภูมิ 9 ยมโลก’
  เรื่องที่ถานจินมีพลังฝีมือร้ายกาจ ต้วนหลิงเทียนรับทราบแต่แรก เพียงแต่เมื่อมาเห็นกับตาปะทะกับมือ จึงได้รู้ซึ้ง…
  อันที่จริงไม่ใช่แค่ต้วนหลิงเทียนเท่านั้นที่ตกใจ แม้แต่ถานจินเองก็ตกใจไม่น้อย ‘ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ ถึงจะไม่มีอุปกรณ์เทพขั้นสูงนั่น แต่ยังร้ายกาจขนาดนี้เชียวหรือ?’
  ต้องทราบว่าเมื่อครู่ไม่ใช่แค่ต้วนหลิงเทียนเท่านั้น ที่เกือบใช้พลังทั้งหมด กระทั่งตัวมันเองก็เช่นกัน
  กระนั้นมันกลับไม่ได้เปรียบอะไรต้วนหลิงเทียนเลย เพียงแค่เสมอกับต้วนหลิงเทียน จังหวะนี้สีหน้ามันเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที พอมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ในแววตาก็ฉายชัดถึงความระแวดระวัง
  อย่างไรก็ตาม พอหางตามันเหลือบไปเห็นว่าเหอชุนลี่เข้าใกล้ทองเทพสุดลี้ลับของมันกับเทพเบญจธาตุอื่นๆ มันก็ได้แต่ลอบหายใจอย่างโล่งอก
  ถึงมันจะไม่อาจเอาชนะหรือฆ่าต้วนหลิงเทียนได้ แต่อย่างน้อยๆมันก็พัวพันต้วนหลิงเทียนให้ไม่อาจไปไหน ทำให้เหอชุนลี่มีโอกาสช่วยเหลือเทพเบญจธาตุได้ไม่ยาก
  หากทางหยางเหมิงกับอสูรเพลิงเห็นเหอชุนลี่เข้าใกล้เหล่าเทพเบญจธาตุได้แล้ว พวกมันก็คงมีความสุขไม่ต่างอะไรจากถานจิน
  อนิจจาตอนนี้พวกมันได้แต่ทุ่มจิตสมาธิทั้งหมดเพื่อต้านทานรับมือหวงเอ้อ จนไม่อาจวอกแวกฟุ้งซ่านอะไรได้เลย…และยิ่งมาสัตว์อสูรก็ยิ่งลดน้อยลงเรื่อยๆ!
  เช่นนั้นยิ่งมาพวกมันก็ยิ่งตกอยู่ในสถานะลำบากมากขึ้นทุกขณะ!!
  ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
  …
  รังสีกระบี่อันเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างมหาศาลปานจะมีสภาพอยู่รอมร่อ ถล่มเข้าใส่หยางเหมิง อสูรเพลิงและเหล่าสัตว์อสูรปานห่าฝน รังสีพลังกระบี่แต่ละสายยังอัดแน่นไปด้วยจิตสังหารอันเยียบเย็น ขอเพียงหยางเหมิง และอสูรเพลิงประมาทแม้แต่นิดเดียว พวกมันได้ตายคาที่แน่!
  “พฤกษาเทพครองสวรรค์!”
  เหอชุนลี่ที่ไร้ผู้ใดขัดขวางไม่นานก็มาถึงร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิว หลังสำรวจพฤกษาเทพครองสวรรค์ของตัวเองปราดหนึ่ง นางก็เร่งตะโกนเรียกหาเสียงดังลั่นทันที “ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว!”
  พอกล่าวจบคำ เหอชุนลี่ก็ลงมือทันที
  ครึก! ครึก! เอียดด!
  …
  เถาวัลย์เส้นเขื่องแลดูแข็งแกร่งผุดขึ้นจากความว่างเปล่า และพวกมันก็สร้างขึ้นจากพังของเหอชุนลี่ บัดนี้คล้ายกลับกลายเป็นอสรพิษดุร้ายพุ่งทะยานแหวกอากาศไปทางร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิว
  ดูท่าแล้ว เห็นชัดว่าคิดทำลายร่างงอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวในคราวเดียว
  พริบตาเถาวัลย์เส้นเขื่องปานอสรพิษที่ว่าก็เจียนบรรลุถึงร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิว!
  ทว่าวินาทีสุดท้ายก่อนจะปะทะกับร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิว ก็ปรากฏแสงสว่างเจิดจ้า ฉาบเคลือบไปทั่วร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิว ป้องกันเถาวัลย์ของเหอชุนลี่ได้ชะงัด!
  เหอชุนลี่ตกใจกับพลังป้องกันดังกล่าวยกใหญ่ เพราะเมื่อครู่นางได้ทุ่มพลังทั้งหมดจู่โจมออกไปแล้วแท้ๆ แต่กลับไม่ได้ผลอะไรเลย!
  อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักนางก็ตระหนักได้ว่าการลงมือของนางไม่ได้ไร้ผล
  ภายใต้สถานการณ์ปกตินางสมควรมีความสุข
  เพราะหากการลงมือไม่ได้ไร้ผล เช่นนั้นขอแค่ระเบิดพลังงจู่โจมอีกสักหลายๆครั้ง อย่างไรก็ต้องทำลายการป้องกันของร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวได้แน่…
  แต่ตอนนี้หลังจากโจมตีเข้าใส่มันครั้งหนึ่ง นางก็ลังเลไม่กล้าเคลื่อนไหวอะไรอีก!
  กระทั่งมองไปยังพฤกษาเทพครองสวรรค์ของตัวเองอีกครั้ง สองตานางยังเบิกโพลงด้วยยความไม่อยากจะเชื่อ “ไฉน…พฤกษาเทพครองสวรรค์ถึงช่วยมันล่ะ!?”
  “ไม่!”
  “ไม่ใช่แค่พฤกษาเทพครองสวรรค์ของข้าเท่านั้นที่ช่วยมัน…แต่ทองเทพสุดลี้ลับของถานจิน ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินของหยางเหมิง วารีเทพชำระโลกาของหานเซวียน รวมถึงเพลิงเทพโกลาหลของอสูรเพลิง ก็พากันจ่ายพลังมาป้องกันการโจมตีของข้า!”..
  บัดนี้เหอชุนลี่พลันตระหนักว่าหลังจากที่นางจู่โจมเข้าใส่ ไม่เพียงแต่กลิ่นอายพลังของพฤกษาเทพครองสวรรค์ของนางจะอ่อนโทรมลง แต่กลิ่นอายพลังเทพเบญจธาตุของคนอื่นๆที่เหลือก็อ่อนโทรมลงเช่นกัน!
  กลับกัน กลิ่นอายพลังของร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิว รวมถึงเทพเบญจธาตุของต้วนหลิงเทียนที่อยู่โคนต้น กลับไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่นิดเดียว!
  ไม่สิ!
  ไม่อาจพูดได้ว่าไม่เปลี่ยนแปลง!
  อย่างน้อยๆกลิ่นอายพลังของเทพเบญจธาตุทั้ง 5 ของต้วนหลิงเทียนก็เปลี่ยนแปลงอยู่ทุกขณะเวลา!
  เพราะพวกมันกำลังกลืนกินเทพเบญจธาตุขั้นที่ 8 อยู่ ความเร็วในการกลืนกินจึงช้ามาก แต่พอเหอชุนลี่โจมตีเข้าใส่ จนเป็นเหตุให้กลิ่นอายพลังของเทพเบญจธาตุของพวกนางอ่อนโทรมลง ความเร็วในการกลืนกินของพวกมันก็เหมือนเพิ่มขึ้น ราวลงแรงครึ่งเดียวได้ผลลัพธ์เพิ่มขึ้นสองเท่า!
  กล่าวได้ว่า การลงมือของเหอชุนลี่ กลายเป็นช่วยส่งเสริมพวกมันเสียอย่างนั้น!
  และนี่ก็เป็นความเลิศล้ำของค่ายกลกลืนกินวิญญาณเทพเบญจธาตุของ วารีเทพชำระโลกา เทพเบญจธาตุที่มีอายุมากที่สุดในบรรดาเทพเบญจธาตุของต้วนหลิงเทียน ฉากเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ต้วนหลิงเทียน ล่วงรู้แต่แรกแล้ว…
  เหอชุนลี่เสมือนงับเหยื่อเข้าจังๆ
  “เป็นเพราะค่ายกลบัดซบนี่!”
  เดิมทีเหอชุนลี่ก็อื้ออึงไม่น้อย ด้วยไม่เข้าใจว่านางโจมตีเข้าใส่ร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวแท้ๆ แต่ไฉนพฤกษาเทพครองสวรรค์ของนางกับเทพเบญจธาตุของพวกหยางเหมิงถึงเป็นฝ่ายสูญเสียพลัง
  แต่หลังจากที่แผ่สำนึกเทวะออกไปตรวจสอบเรื่องราวไม่นาน ไม่นานนางก็พบว่าพลังที่ป้องกันร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวนั้น ถูกชักนำมาจากเหล่าเทพเบญจธาตุของพวกนาง
  แม้แต่พลังที่คอยขับเคลื่อนประคองค่ายกล ก็ยังมาจากเหล่าเทพเบญจธาตุของพวกนาง!
  หลังจากค้นพบสิ่งนี้ เหอชุนลี่ก็แทบจะกระอักเลือดตาย
  ต้วนหลิงเทียนจะไม่ไร้ยางอายเกินไปหน่อยหรือ!?
  คิดจะช่วงชิงเทพเบญจธาตุของพวกนางไปก็ไม่นับเป็นอะไร แต่กลับออกอุบายดังกล่าวเพื่อให้พวกนางทำได้แค่ทำลายเทพเบญจธาตุของตัวเองแบบนี้?
  “ไม่สำคัญหรอก…ถึงแม้จะถูกสูบพลังไป แต่หากได้พักฟื้นจะอย่างไรก็สามารถฟื้นฟูได้ สุดท้ายการสูญเสียพลังไปก็ไม่ส่งผลใดๆต่อระดับขั้นถาวร แค่เข้าสู่ห้วงนิทราก็สามารถฟื้นคืนกลับมาได้…”
  หลังจากคิดถึงจุดนี้ เหอชุนลี่ก็วางแผนจะลงมืออีกรอบ และหมายทำลายร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวให้เร็วที่สุด
  นางอยากจะรู้นักว่าร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวต้วนหลิงเทียนมันยังจะทนได้นานแค่ไหน หากพลังของเทพเบญจธาตุพวกนางหมดลง?
  อย่างไรก็ตาม ในขณะที่นางกำลังจะลงมืออีกครั้ง สองตานางก็เบิกโพลงด้วยพึ่งนึกอะไรขึ้นได้ จากนั้นก็มองไปยังเหล่าเทพเบญจธาตุของต้วนหลิงเทียนที่อยู่บริเวณโคนต้นไม้เทพสนหลิวทันที!
  “ช้าก่อน! ไฉนข้าถึงลืมพวกมันไปได้…”
  “ไม่ใช่ต้วนหลิงเทียนตั้งใจให้เทพเบญจธาตุของมันกลืนกินเทพเบญจธาตุของพวกเราหรือไร…แถมตอนนี้พวกมันก็เอาแต่สนใจเรื่องกลืนกินพลังของเทพเบญจธาตุพวกเรา เช่นนั้นขอเพียงข้าเล่นงานพวกมันให้เสียพลัง มิใช่พวกมันก็ไม่อาจกลืนกินพลังของเทพเบญจธาตุพวกเราได้หรือไร?”
  “กระทั่งบางทีข้าอาจจะทำร้ายพวกมันจนเข้าสู่ห้วงนิทรา หลังจากนั้นก็จับมันเอาไว้ให้เป็นอาหารของเทพเบญจธาตุพวกเราแทน!”
  พอคิดถึงจุดนี้ สองตาเหอชุนลี่ก็เปล่งแสงจ้า จากนั้นนางก็ล้มเลิกความคิดทำลายร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิว แต่ตั้งใจจะเล่นงานเหล่าเทพเบญจธาตุของต้วนหลิงเทียนแทน! เถาวัลย์เส้นเขื่องอุบัติขึ้นจากความว่างเปล่าอีกครั้ง จากนั้นมันก็พุ่งทะลวงแหวกว่างเปล่าไปฉับไว ราวอสรพิษกระหายเลือดหมายฉกกัดเหล่าเทพเบญจธาตุของต้วนหลิงเทียน!!
  อย่างไรก็ตาม ไม่นานเหอชุนลี่ก็พบว่า…
  พฤกษาเทพครองสวรรค์ของนาง รวมถึงเหล่าเทพเบญจธาตุของคนอื่นๆ ได้ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างไม่คาดฝัน สร้างม่านพลังป้องกันให้เหล่าเทพเบญจธาตุของต้วนหลิงเทีนเช่นกัน “บัดซบ! ค่ายกลน่าตายนี่!!”
  ถึงแม้จะรู้ดีว่านี่เป็นผลของค่ายกล แต่เหอชุนลี่ก็โมโหจนแทบกระอักเลือด เพียงแต่ยังกล้ำกลืนฝืนกลืนเลือดคำดังกล่าวลงคอทันเวลา…
  ขณะเดียวกัน เหอชุนลี่ก็พบว่ากลิ่นอายพลังเทพเบญจธาตุของนางกับพวกหยางเหมิงอ่อนโทรมลงอีกครั้ง…
  ยังผลให้เหล่าเทพเบญจธาตุของต้วนหลิงเทียนกลืนกินได้เร็วขึ้น
  เป็นเหอชุนลี่ส่งเสริมพวกมันแท้ๆ…
  ฉากเรื่องราวดังกล่าวทำให้เหอชุนลี่หัวร้อนแทบหน้ามืด ครู่ต่อมานางก็ระเบิดพลังมือด้วยโทสะ หมายเร่งรุดทำลายค่ายกลให้เร็วที่สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือกลิ่นอายพลังพฤกษาเทพครองสวรรค์ของนาง กับเทพเบญจธาตุของพวกหยางเหมิงอ่อนโทรมลงเรื่อยๆ….
  และยิ่งมาเหล่าเทพเบญจธาตุของต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งกลืนกินเทพเบญจธาตุของพวกนางเร็วขึ้น!
  “หลังจากลงมือเต็มกำลังอีก 2 ครั้ง พลังของเทพเบญจธาตุพวกเราก็จะหมดลง…แต่ถึงตอนนั้นค่ายกลนี่ต้องถูกข้าทำลายจนพินาศสิ้น! จากนั้นก็แค่ลงมือปราบเทพเบญจธาตุของต้วนหลิงเทียนให้สิ้นพลัง แล้วจับพวกมันไว้ให้เป็นอาหารเสีย!!”
  ในดวงตาของเหอชุนลี่เริ่มฉายแสงแห่งความหวัง
  ปงงง!!
  อย่างไรก็ตามหลังลงมือสุดตัวอีกครั้ง เหอชุนลี่ที่ยังไม่ทันรวมรั้งพลังเพื่อลงมืออีกรอบแล้วเสร็จ นางก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความสิ้นหวัง “ถานจิน เหอชุนลี่ ช่วยข้าด้วย!!”
  เสียงกรีดร้องดังกล่าว ทำให้หน้าเหอชุนลี่เปลี่ยนสีไปทันที
  พอเหอชุนลี่หันกลับไปมองโดยไม่รู้ตัว นางก็เห็นร่างจิตวิญญาณกระบี่ในชุดกระโปรงยาวสีรุ้งท่องกระบี่ เพียงจี้ดัชนีออกตามอำเภอใจ ก็ปรากฏลำแสงทำลายล้างหนึ่งพุ่งทะลวงผ่านปราการป้องกันของหยางเหมิงหลายชั้นได้ง่ายดายราวย่ำเหยียบใบไม้แห้งกรอบ ก่อนจะเสือกเจาะเข้าหว่างคิ้วหยางเหมิง ปลิดชีพอีกฝ่ายในพริบตา….
  ฉากเรื่องราวดังกล่าวทำให้หนังศีรษะเหอชุนลี่ช้าด้านขึ้นมา อื้ออึงไปชั่วขณะ
  ในบรรดาพวกนาง หยางเหมิงเป็นผู้ที่มีพลังป้องกันมากที่สุด
  แต่ตอนนี้ หยางเหมิงกลับตกตายในดัชนีเดียว…
  จังหวะนี้ไม่ใช่แค่เหอชุนลี่เท่านั้น แต่ถานจินที่ประมือกับต้วนหลิงเทียนอย่างไม่ได้เปรียบเสียเปรียบ ก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันทีหลังเห็นหยางเหมิงถูกฆ่าตายลงง่ายๆ มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าหยางเหมิงจะตายเร็วขนาดนี้!
  “อ๊าคคคค–!!”
  ในขณะที่เหอชุนลี่กับถานจินกำลังตื่นตระหนกเพราะการตายของหยางเหมิง เสียงกรีดร้องพลันดังขึ้นอีกเสียง เนื่องเพราะหลังจากหยางเหมิงตกตายไปแล้ว อสูรเพลิงก็เสมือนเสียปราการป้องกันสำคัญ สุดท้ายก็ถูกรังสีกระบี่ของห้วงเอ้อฆ่าตามไปติดๆ…
  และการตายของหยางเหมิงกับอสูรเพลิง ก็เป็นดั่งการจุดชนวนความสิ้นหวังให้เหอชุนลี่กับถานจินทันที
  เหล่าเทพสงคราม 9 ที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดเหมือนพวกมัน ทยอยกันล้มตายไปทีละคนๆ
  ฉากเรื่องราวดังกล่าวทำให้ถานจินกับเหอชุนลี่ตื่นตระหนกจนขวัญกระเจิงนัก หลังจากพวกมันมองสบตากันไม่ทันไร พวกมันก็สัมผัสได้ถึงสายตาของจิตวิญญาณกระบี่เทพดังกล่าวกำลังหันมามองจ้องที่พวกมัน เช่นนั้นราวกับนัดกันมา เหอชุนลี่กับถานจินปะทุพลังชั่วชีวิต แยกย้ายกันหลบหนีไปทันที!
  ในปัจจุบันพวกมันไม่หลงเหลือความคิดช่วยเทพเบญจธาตุอีกต่อไป หวังแค่รอดชีวิตไปได้ก็พอ…
  แต่พวกมันคิดจะหนี ก็หนีได้ง่ายๆหรือ?
  ฟั่ฟฟ!
  เมื่อทั้งสองคนไม่หลงเหลือความคิดต่อสู้ และระเบิดพลังหลบหนีถ่ายเดียว หวงเอ้อที่แต่ต้นจนจบเพียงลงมือดั่งแมวหยอกหนูมาโดยตลอดเพื่อระบายโทสะ ก็ไม่คิดละเล่นสืบไป คนท่องกระบี่วูบไปตัดศีรษะถานจินฉับไว จากนั้นก็วกร่างทะยานข้ามฟ้าไปไล่ฆ่าเหอชุนลี่ต่อ…
  ทุกเรื่องราวเกิดขึ้นฉับไวนัก กระทั่งเหอชุนลี่ยังหนีไปไม่พ้นเขตค่ายพันธมิตรฟ่านเทียนด้วยซ้ำ!
  สีหน้าเหอชุนลี่ซีดลงแทบไร้สีเลือดเมื่อสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายพลังชีวิตของถานจินดับไปแล้ว พอสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่อยู่ด้านหลัง นางก็ตัดสินใจหยุดร่างลงแล้วหันไปมองต้วนหลิงเทียนพลางตะโกนอย่างร้อนใจทันที “ต้วนหลิงเทียน ขอเพียงท่านไม่ฆ่าข้า! ตัวข้าเหอชุนลี่ยินดีเป็นทาสเพื่อปรนนิบัติรับใช้ท่านไปชั่วชีวิต!!”