“ใช่”
  นักศึกษา 10 ดาวที่มาเยือนถึงหน้าประตูบ้านลานของต้วนหลิงเทียน มีรูปลักษณ์เป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างปานกลางหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสแลดูอารมณ์ดี แม้สองตาจะเผยประกายสดใสอยู่บ้าง แต่สีหน้าของมันก็ให้ความรู้สึกเสมือนขี้อายอยู่บ้าง ดูแล้วน่าจะเป็นคนซื่อๆไม่ดุร้ายคนหนึ่ง
  “เจ้านับว่ายอดเยี่ยมทีเดียว”
  ผู้มาเยี่ยมกล่าวพลางถอนหายใจ “สถานศึกษาหมอกเร้นลับของพวกเรา ไม่มีนักศึกษา 10 ดาวหน้าใหม่มาเกือบ 30 ปีแล้ว…”
  “สหาย เข้ามาคุยกันในบ้านเถอะ”
  ต้วนหลิงเทียนผายมือเชื้อเชิญอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เดินไปนั่งบนโต๊ะไม้ในลานหน้าบ้านและหยิบยกชุดชาออกมาชงเพื่อรับแขกคนแรก “มานั่งก่อนสิ ชาพื้นบ้านของข้ารสดีไม่น้อย ว่าแต่ข้าชื่อต้วนหลิงเทียน แล้วเจ้าเล่า?”
  ถึงแม้ระหว่างมาที่นี่ถงกู่เยว่จะแนะนำเรื่องราวต่างๆให้เขาฟังแล้ว แต่มันก็แค่เรื่องราวผิวเผินเท่านั้น ต้วนหลิงเทียนเองก็คิดอยู่พอดีว่าหลังจากเข้าที่พักอะไรแล้ว ก็จะลองไปสอบถามเพื่อรับทราบสถานการณ์ที่แท้จริงดู
  พอมีนักศึกษา 10 ดาวมาเยือนถึงที่ เขาย่อมยินดีต้อนรับอีกฝ่ายเป็นธรรมดา
  “ข้าเรียกว่าหลิวจิน”
  ผู้มาเยือนก็คลี่ยิ้มจริงใจ จากนั้นก็ก้าวอาดๆเข้ามาในลานและนั่งลงบนโต๊ะอย่างไม่เกรงใจ
  หลังจากสิ้นเปลืองแค่ชาไม่กี่กากับอาหารที่ซื้อเก็บไว้ไม่เท่าไหร่ ในเวลาแคครึ่งชั่วยามต้วนหลิงเทียนก็ได้ซักถามเรื่องราวต่างๆจากหลิวจินมากมาย เรียกว่าหลิวจินยังได้แนะนำนักศึกษาที่พักในหอพักระดับกลาง และระดับสูงให้เขาฟังไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องที่ใครแข็งแกร่งจริงๆหรือใครที่ไม่ได้แข็งแกร่งแต่มีภูมิหลังยิ่งใหญ่
  ในบรรดานักศึกษาทั้ง 5 คนที่ครอบครองหอพักระดับสูงนั้น ก็มี 4 คนมาจากตระกูลราชาเทพใหญ่ที่เป็นดั่งผู้ปกครองเมืองวายุสวรรค์ ส่วนอีกคนก็คือศิษย์จากขุมกำลังระดับราชาเทพที่ปกครองเมืองเล็กๆใกล้ๆกับเมืองวายุสวรรค์
  พวกมันแม้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด
  ในหอพักระดับกลาง มีนักศึกษาที่มีพลังฝีมือร้ายกาจกว่าพวกมันมากมาย แต่นักศึกษาเหล่านั้นก็ไม่กล้าตอแยล่วงเกินทั้ง 5 คนง่ายๆ เพราะไม่ได้มีพื้นเพภูมิหลังยิ่งใหญ่อะไร
  กระทั่งในหอพักระดับต่ำ ยังมีบางคนที่พลังฝีมือร้ายกาจทัดเทียมคนในหอพักระดับสูงด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากเป็นคนจากครอบครัวเล็กๆในเมือง จึงไม่กล้าแข่งขันกับคนอื่นๆด้วยกลัวเภทภัยจะลามไปถึงคนในครอบครัว
  หากไม่นับเรื่องภูมิหลังความเป็นมา มีคนในหอพักระดับกลางมากมาย ที่สามารถเข้าไปอยู่ในหอพักระดับสูงได้ด้วยซ้ำ
  และบางคนในหอพักระดับต่ำ ก็สามารถเข้าไปอยู่ในหอพักระดับกลางง่ายๆ
  “ว่าแต่สหายหลิวเจ้าพักอยู่ที่ไหนรึ?”
  ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามหลิวจิน
  ด้าหลิวจินพอได้ยินคำถามดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน มันก็คลี่ยิ้มเขินอายกล่าวออกมาเสียงเบา “ข้าเองก็พักอยู่ในส่วนหอพักระดับต่ำเหมือนเจ้านี่ล่ะ บ้านข้าก็หลังโน้นเอง…แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เพราะข้ากลัวเบื้องหลังของคนในหอพักระดับต่ำอะไรหรอกนะ เพราะหลายๆคนยังมีพื้นเพครอบครัวด้อยกว่าข้าด้วยซ้ำ…”
  “ที่ข้าอยู่ในหอพักระดับต่ำ เพราะพลังฝีมือข้าอ่อนด้อยกว่าผู้อื่นเขาจริงๆ”
  “และข้าก็เป็นนักศึกษา 10 ดาวคนล่าสุดก่อนที่เจ้าจะมา”
  “ก่อนหน้านี้ข้าที่ข้ายังอายุไม่ครบ 2,800 ปี ข้าก็ยังเป็นแค่นักศึกษา 9 ดาวอยู่เลย…พออายุถึงเกณฑ์ก็เลยโดนบังคับให้เข้าทดสอบ และพอดีข้าพอถูไถผ่านมาได้น่ะ…”
  หลิวจินกล่าวด้วยรอยยิ้มแหยๆ
  “แบบนี้นี่เอง”
  ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จะอย่างไรก็ยินดีที่ได้รู้จักเจ้า และขอบคุณเจ้ามากที่แนะนำเรื่องราวต่างๆให้ข้าฟังมากมาย”
  พอกล่าวจบ ต้วนหลิงเทียนก็ลุกขึ้น ท่าทางเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก
  “เอ๋? เจ้าจะไปไหนหรือ?”
  หลิวจินแปลกใจ
  “ข้าจะไปเอาสาสน์ท้าประลองไปแขวนบ้านผู้อื่นน่ะ…”
  ต้วนหลิงเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ
  “หา?”
  หลิวจินอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นพอกลับมารู้สึกตัวก็เอ่ยถามต้วนหลิงเทียนด้วยความสนใจ “สหายต้วน…เจ้าคิดจะท้าชิงหอพักระดับต่ำเหรอ?”
  “ใช่”
  ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า “ว่าแต่เจ้าจะรอข้าอยู่ที่นี่หรือไปกับข้าเลยเล่า อันที่จริงข้าก็รู้แค่ว่าต้องไปเอาสาสน์ท้าทายที่ไหนเท่านั้น แต่ข้ายังไม่รู้ขั้นตอนอะไร…หากเจ้าว่างไปด้วยและคอยแนะนำอะไรข้าได้ ข้าก็จะขอบคุณเจ้ามาก”
  “ข้าว่างๆ มาสิข้าจะพาเจ้าไปเอง”
  หลิวจินลุกขึ้นรับคำด้วยรอยยิ้มร่าแลดูจริงใจ จากนั้นก็เดินออกจากบ้านไปพร้อมต้วนหลิงเทียนทันที มุ่งหน้าไปยังอาคารแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างจากเขตหอพักระดับต่ำสุดเท่าไหร่…
  โถง 10 ดาว!
  อาคารที่คอยอำนวยความสะดวกแบริการนักศึกษา 10 ดาว เรียกว่า ‘โถง 10 ดาว’ มีอาจารย์ของสถานศึกษาหมอกเร้นลับมากมายผลัดกันมาทำงานที่นี่ และภายใต้การนำทางของหลิวจิน ต้วนหลิงเทียนก็ถูกพาไปยังโต๊ะบริการที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งภายในโถง
  ที่นั่น มีชายวัยกลางคนที่แต่งชุดสุภาพเหมือนจะเป็นอาจารย์ของสถานศึกษาหมอกเร้นลับคนหนึ่ง เอนหลังงีบอยู่หลังโต๊ะบริการ…
  “ต้วนหลิงเทียน หากเจ้าคิดจะท้าทายนักศึกษา 10 ดาวที่อยู่ในหอพักระดับต่ำ เจ้าก็เลือกท้าคนที่ข้าพึ่งบอกไปไม่กี่คนระหว่างมานี่เถอะ…แม้พวกมันจะแข็งแกร่งกว่าข้าก็จริง แต่พวกมันก็ล้วนเป็นนักศึกษา 10 ดาวในหอพักระดับต่ำที่ค่อนข้างอ่อนแอแล้ว…”
  หลิวจินหันไปกล่าวแนะนำต้วนหลิงเทียนด้วยสีหน้าจริงจัง
  อย่างไรก็ตามหลังได้ยินคำแนะนำของหลิวจิน ต้วนหลิงเทียนเพียงคลี่ยิ้มบางๆแต่ไม่ได้ตอบคำอะไรออกมาให้แน่ชัด
  สำหรับหลิวจิน ก็คิดว่าต้วนหลิงเทียนเข้าใจแล้วจึงไม่ได้พูดซ้ำ
  “อาจารย์ซู”
  หลิงจินที่พาต้วนหลิงเทียนเดินมาถึงโต๊ะบริการ ก็เอ่ยทักชายวัยกลางคนที่เอนหลังหลับตาอยู่ด้วยรอยยิ้ม
  ชายวัยกลางคนที่เอนหลังหลับตาอยู่ พอได้ยินก็ลืมตาขึ้นมาทันที จากนั้นพอเห็นหลิวจินมันก็ยิ้มถามว่า “อะไรหลิวจิน เจ้าเบื่อหอพักระดับต่ำสุด แล้วคิดจะท้าชิงหอพักระดับต่ำแล้วหรือ?”
  “เจ้ามั่นใจว่าสู้ไหวแล้วรึ?”
  เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนผู้นี้รู้จักหลิวจิน กระทั่งยยังเหมือนจะสนิทด้วยไม่น้อย
  เนื่องเพราะสถานศึกษาหมอกเร้นลับเองก็ไม่ได้มีนักศึกษา 10 ดาวมากมาอะไร อาจารย์ที่มาทำงานในโถง 10 ดาวจึงรู้จักนักศึกษา 10 ดาวทุกคนดี และเพราะนักศึกษาบางคนเองก็อัธยาศัยดี จึงทำให้สนิทสนมกับอาจารย์ในโถง 10 ดาว
  อย่างเช่นหลิวจินเองก็สนิทกับอาจารย์ในโถง 10 แทบทุกคน
  “อาจารย์ซู ท่านเข้าใจผิดแล้ว”
  หลิวจินส่ายหัวไปมา “วันนี้ข้ามากับต้วนหลิงเทียน…จริงสิท่านเองก็คงทราบแล้วกระมัง ว่าพวกเรามีนักศึกษา 10 ดาวเพิ่มมาอีกคน?”
  ในฐานะอาจารย์ที่มาทำงานในโถง 10 ดาว เมื่อมีนักศึกษา 10 ดาวคนใหม่มาลงทะเบียน พวกมันก็จะได้รับแจ้งทันที
  ดังนั้นพอได้ยินคำพูดของหลิวจิน อาจารย์ซูที่ว่าก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพียงมองไปยังต้วนหลิงเทียนแล้วเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย “เจ้าคงเป็นนักศึกษา 10 ดาวคนใหม่ที่พึ่งผ่านการทดสอบและลงทะเบียนกระมัง ใช่ชื่อต้วนหลิงเทียนหรือไม่?”
  “ไม่ผิด อาจารย์ซู”
  ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าให้อาจารย์ซู
  “ประเสริฐ!”
  อาจารย์ซูเองก็พยักหน้าให้ต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม “กล่าวไปสถานศึกษาหมอกเร้นลับเราก็ไม่ได้มีนักศึกษา 10 ดาวเข้ามาใหม่นานแล้ว และการมาของเจ้าก็สมควรทำให้นักศึกษา 10 ดาวทั้งหลายคึกคักไม่น้อย”
  “ข้าเรียกว่าซูเฟิงหยาง และเป็นอาจารย์ประจำโถง 10 ดาว”
  พอซูเฟิงหยางกล่าวแนะนำตัวเองจบ ก็มองถามต้วนหลิงเทียนด้วยความสนใจ “ว่าแต่เจ้าคิดจะท้าทายนักศึกษา 10 fดาวคนไหนในหอพักระดับต่ำเล่า?”
  “ตามกฏของสถานศึกษาหมอกเร้นลับเรา ยามมีนักศึกษาคิดออกสสาส์นท้าประลอง ก็จำต้องระบุตัวผู้ถูกท้าให้แน่ชัด…สิ่งนี้เพื่อให้โถง 10 ดาวเราทำการเก็บข้อมูลได้สะดวก”
  หลังจากซูเฟิงหยางกล่าว มันก็เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “ตกลงเจ้าคิดท้าผู้ใดรึ?”
  “ผู้ใดก็ได้”
  ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มมั่นใจ กล่าวกับอาจารย์ซูว่า “อาจารย์ซู หรือท่านเลือกเป้าหมายให้ข้าดี?”
  ทันใดนั้นเอง หลิวจิน ที่ยืนอยู่ข้างๆต้วนหลิงเทียนอดขมวดคิ้วไม่ได้ มันเร่งส่งเสียงผ่านพลังไปหาต้วนหลิงเทียนทันที “เอ๋า ต้วนหลิงเทียน ข้าไม่ได้บอกชื่อนักศึกษา 10 ดาวในหอพัระดับต่ำที่ค่อนข้างอ่อนแอให้เจ้าแล้วหรือไร? ไฉนไม่เลือกท้าหนึ่งในพวกนั้นเล่า?”
  “ตอนนี้เจ้าเล่นให้อาจารย์ซูเลือกให้ ไม่พ้นอาจารย์ซูต้องมองว่าเจ้าหยิ่ง ไม่ก็ดูเบานักศึกษา 10 ดาวคนอื่นเกินไปหรอก…”
  แทบจะพร้อมๆกับที่หลิวจินส่งเสียงผ่านพลังมาแจ้งเรื่องดังกล่าว รอยยิ้มบนใบหน้าซูเฟิงหยางพลันชะงักค้างทันที จากนั้นก็หยีตามองลึกไปทางต้วนหลิงเทียน “ต้วนหลิงเทียนเจ้าคิดจะให้ข้าเลือกคู่ต่อสู้ให้เจ้าจริงๆ?”
  “ข้าขอเตือนเจ้าไว้อย่าง…หากเจ้าคิดให้ข้าเลือกให้ ข้าจักเลือกเฉพาะนักศึกษา 10 ดาวที่ร้ายกาจที่สุดในหอพักระดับต่ำเท่านั้น…”
  “เจ้าคิดดีแล้วรึ?”
  ซูเฟิงหยางกล่าวถามจบคำ มุมปากมันก็เริ่มยกยิ้มเย้ยหยันขึ้นมา ราวกับรอดูชมต้วนหลิงเทียนถอดใจล้มเลิกความคิดเสีย
  “อาจารย์ซู..”
  ในขณะที่หลิวจินคลี่ยิ้มแหยๆมองไปทางซูเฟิงหยางคล้ายกำลังจะกล่าวคำอะไรบางอย่าง ก็เป็นต้วนหลิงเทียนที่เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน “อาจารย์ซู เช่นนั้นท่านคิดว่าผู้ใดแข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักศึกษา 10 ดาวที่อยู่ในหอพักระดับต่ำท่านก็จัดมาให้ข้าเถอะ…ข้าท้าสู้คนนั้นล่ะ”
  แต่ต้นจนจบสีหน้าท่าทีต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้แปรเปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว คนแลดูสงบนิ่งไม่อีนังขังขอบ
  และความสงบดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน พอตกอยู่ในสายตาซูเฟิงหยาง ก็ทำให้สีหน้าซูเฟิงหยางเริ่มเปลี่ยนเป็นจริงจัง “นี่เจ้าจะเอาเช่นนั้นจริงๆรึ?”
  “อาจารย์ซู ท่านคิดว่าข้อล้อเล่นหรือ?”
  ต้วนหลิงเทียนส่ายหน้าเบาๆพลางถาม
  “ดี!”
  ซูเฟิงหยางตอบกลับเร็วไว “ในเมื่อเจ้าคิดดีแล้ว…เช่นนั้นข้าจักจัดคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดให้เจ้าเอง!”
  “เช่นนั้นเอาเป็น ติงเหยียน เถอะ!”
  ซูเฟิงหยางตัดสินใจเลือกคู่ต่อสู้ให้ต้วนหลิงเทียนทันที เพราะเท่าที่มันดู ต้วนหลิงเทียนคนนี้เหมือนจะไม่เห็นนักศึกษาหอพักกระดับต่ำอยู่ในสายตาจริงๆ
  ด้วยเหตุนี้มันจึงอดส่งข้อความไปถามไถ่อวิ๋นฮุ่ยที่รับหน้าที่ทดสอบนักศึกษา 10 ดาวไม่ได้
  อวิ๋นฮุ่ย นั้นฐานะอีกฝ่ายในนิกายหมอกเร้นลับก็เปรียบดั่งอาจารย์ลุงของมัน
  และพอมันถามอวิ๋นฮุ่ยไปว่า นักศึกษา 10 ดาวคนใหม่นามต้วนหลิงเทียนนั้น มีพลังฝีมือมากพอจะเอาชนะนักศึกษาที่แข็งแกร่งที่สุดในหอพักระดับต่ำหรือไม่…ด้านอวิ๋นฮุ่ยก็ตอบกลับมาว่า “อย่าว่าแต่หอพักระดับต่ำเลย หากต้วนหลิงเทียนต้องการ กระทั่งหอพักระดับสูง มันก็มีพลังสามารถพอจะช่วงชิงมาได้ง่ายๆ!”
  ทำให้มันตระหนักได้ทันที ว่าต้วนหลิงเทียนมีความมั่นใจจริงๆ
  ได้ยินคำพูดของซูเฟิงหยาง ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะในสายตาเขาสถานศึกษาหมอกเร้นลับแห่งนี้ก็แค่ทางผ่านของเขาเท่านั้น เรื่องเอาชนะนักศึกษาที่ครอบครองหอพักระดับสูงอยู่ มันเป็นแค่เรื่องราวฉากเล็กๆที่กำลังจะผ่านไปฉากหนึ่งในชีวิตเขาเท่านั้น…
  กลับกัน ด้านหลิวจินที่ยืนข้างต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมาเสียงดัง “อะไร!? ติงเหยียนหรือ?!”
  “หลิวจิน เจ้าจักโวยวายทำเพื่อ!”
  ซูเฟิงหยางหันไปถลึงมองหลิวจินที่ทำเสียงดังด้วยสายตาดุๆ ก่อนจะส่งเสียงผ่านพลังไปบอกหลิวจิน “สำหรับต้วนหลิงเทียนแล้ว จะติงเหยียนก็ดีหรือนักศึกษาที่อ่อนด้อยที่สุดในหอพักระดับต่ำ ก็มีค่าเท่ากัน…ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน สุดที่เจ้าจะนึกได้ออก”
  “เอ๋?”
  หลิวจินอดตกใจไม่ได้
  “ช่างเถอะ เจ้ารอดูเดี๋ยวก็รู้เอง”
  ซูเฟิงหยางยังคงส่งเสียงผ่านพลังสืบต่อ “หากทำได้ เจ้ารีบตีซี้ต้วนหลิงเทียนคนนี้เสีย…เรื่องนี้สำหรับเจ้ามีแต่ประโยชน์ไม่มีโทษอันใด”
  “อาจารย์ซู ต้วนหลิงเทียนร้ายกาจมากหรือ?”
  หลิวจินก็อดส่งเสียงผ่านพลังไปกกล่าวถามเพิ่มเติมไม่ได้
  ไม่ยากที่มันจะเดาได้ออกว่าอาจารย์ซูเบื้องหน้าสมควรรู้อะไรบางอย่างมา หาไม่แล้วอยู่ดีๆทัศนคติของอีกฝ่ายที่มีต่อต้วนหลิงเทียนคงไม่เปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้
  “จะร้ายกาจหรือไม่ รอให้มันสู้กับติงเหยียนเจ้าก็จักรู้เอง…เผลอๆบางทีการประมือกับติงเหยียน อาจทำให้เจ้าเห็นพลังฝีมือของมันแค่เล็กน้อยดั่งส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งก็เป็นได้…”
  ซูเฟิงหยางกล่าวผ่านพลังสืบต่อ
  พลังฝีมือของติงเหยียน ให้มองไปในบรรดานักศึกษา 10 ดาวทั้งหมด ก็ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆเท่านั้น…ทว่าจากความเห็นของอวิ๋นฮุ่ยที่มีต่อต้วนหลิงเทียน บ่งบอกให้รู้ว่าต้วนหลิงเทียนน่าจะมีพลังมากพอจัดการนักศึกษา 10 ดาวได้หมด!
  ถึงแม้มันจะตกใจและรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่ออยู่บ้าง แต่มันก็เลือกจะเชื่อคำพูดของอาจารย์ลุง
  เพราะมันรู้ดีว่าอาจารย์ลุงของมันไม่ใช่คนชอบพูดเหลวไหล
  ‘ต้วนหลิงเทียน…’
  พอมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง สายตาของซูเฟิงหยางก็เต็มไปด้วยความคาดหวังประการหนึ่ง
  เพราะจากที่อาจารย์ลุงมันพูด การปรากฏตัวของต้วนหลิงเทียนนั้น สำหรับนักศึกษา 10 ดาวแล้ว…ไม่ต่างอะไรจากหมาป่าบุกเข้ามากลางฝูงแกะ!