“หากไม่ใช่เพราะท่านอาจารย์ดูเหมือนจะให้ความสนใจกับมัน ข้าไหนเลจะแยแสคนเช่นมัน”
หลังได้ยยินคำพูดของซั่งกวนฉงเฟิง ร่างชายหนุ่มในชุดคลุมสีทองเข้มก็ส่ายหัวไปมา พลางกล่าวด้วย้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “ต่อให้มันจะเป็นอัจฉริยะแล้วอย่างไร หากมันไม่อาจเติบโตได้ ทุกอย่างก็เปล่าประโยชน์!”
ชายหนุ่มคนนี้มีนามว่า ‘หลงเซียว’ มันเป็นศิษย์คนโตของอาวุโสเหล่ย ฉือถงหมิงที่ไปชวนต้วนหลิงเทียนเข้าสำนักอาวุโสเหล่ยครั้งก่อน ก็เป็นศิษย์น้องของมัน
ตอนนั้นหลังจากฉือถงหมิงกลับมารายงานอาจารย์เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนปฏิเสธการเป็นศิษย์ ถึงแม้อาจารย์ของมันจะคลี่ยิ้ม แต่มันย่อมสังเกตเห็นความไม่พอใจในแววตาของอาจารย์ชัดเจน
มันจึงเก็บเรื่องดังกล่าวเอาไว้ในใจนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
วันนี้พอมันได้ยินสายรายงานมาว่าต้วนหลิงเทียนได้เดินทางไปยังตำหนักแลกเปลี่ยน และใช้อุปกรณ์เทพขั้นกลางชิ้นหนึ่งเพื่อแลกกับโอสถเสริมโชคแค่ 2 เม็ด…ทำให้มันบังเกิดความคิดกลั่นแกล้งต้วนหลิงเทียนขึ้นมาทันที
จากนั้นมันก็เลยติดต่อไปหาสหายของมันอย่างซั่งกวนฉงเฟิง เพื่อให้อีกฝ่ายไปแย่งโอสถเสริมโชค 2 เม็ดนั่นมา เพื่อระบายความโกรธในใจ
ซั่งกวนฉงเฟิงก็เป็นถึงศิษย์คนโตของอาวุโสฟง ส่วนตัวมันในฐานะศิษย์คนโตของอาวุโสเหล่ย ย่อมความสนิทสนมกับอีกฝ่ายพอสมควร แค่หนึ่งข้อความก็ทำให้ซั่งกวนฉงเฟิงออกหน้าลงมือให้แล้ว
“เจ้าคิดจะทำอะไรต่อไปเล่า จะแกล้งมันต่อหรือพอแค่นี้?”
ซั่งกวนฉงเฟิงเอ่ยถามด้วยท่าทางสนุกสนาน
“มันถึงกับกล้าปฏิเสธอาจารย์ข้า สั่งสอนมันเท่านี้ยังจะนับเป็นอะไรได้”
หลงเซียวเย้ยหยัน สองตาหดเล็กลงก่อนเผยประกายเย็นชาเรืองขึ้นวาบหนึ่ง “ต่อจากนี้ ข้าจะทำให้มันต้องอับอายขายขี้หน้าผู้คน โปะเกลือลง ‘แผล’ ของมัน!”
“ฮ่าๆๆๆ…”
ซั่งกวนฉงเฟิงหัวเราะชอบใจ “เจ้ารีบบอกมาเร็ว เจ้าจะจัดการกับมันอย่างไร?”
“อีกเรื่อง…ข้าว่าหลังจากที่มันทะลวงถึงขอบเขตราชาเทพแล้ว พวกเรารีบหาโอกาสฆ่ามันกันเถอะ ถึงวันนี้มันดูเหมือนจะเป็นตัวขี้ขลาด แต่พูดกันตรงๆข้าว่ามันกำลังกล้ำกลืนความอัปยศอยู่”
“หากพวกเราไม่รีบฆ่ามันก่อน ด้วยพรสวรรค์กับความเข้าใจของมัน วันหน้ามันต้องขี่หัวพวกเราแน่…ถึงตอนนั้นสำหรับพวกเราคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ และคงยากจะทำอะไรมันได้อีก”
ขณะกล่าวประโยคท้าย สองตาซั่งกวนฉงเฟิงยังฉายแววอำมหิตออกมาวูบวาบ
“เรื่องนี้ไม่ต้องรีบ”
หลงเซียวฉีกยิ้มเล็กน้อย “ลองดูว่ามันเต็มใจจะคลานเข่า 10 ลี้เพื่อร้องขอให้ท่านอาจารย์รับมันเป็นศิษย์หรือไม่…อย่างไรก็ตาม จากนิสัยของท่านอาจารย์ที่ข้ารู้มา หากต้วนหลิงเทียนมันทำแบบนั้นจริงๆ ท่านอาจารย์ไม่มีวันรับมันเป็นศิษย์อีกแน่นอน”
“และหลังจากเรื่องนี้จบลง ต่อไปก็เอาอย่างเจ้าว่า มันทะลวงถึงขอบเขตราชาเทพเมื่อไหร่ ก็หาโอกาสฆ่ามันทิ้งเสีย”
“การฆ่ามันทิ้งตอนนี้ จะทำให้มันตายสบายเกินไป”
“รอให้มันทะลวงถึงขอบเขตราชาเทพ และคิดว่ากำลังมีอนาคตสดใสรออยู่ ถึงตอนนั้นเมื่อฆ่ามันย่อมทำให้มันบังเกิดความสิ้นหวังถึงขีดสุด”
กล่าวจบคำ สองตาหลงเซียวก็ฉายชัดถึงเจตนาฆ่าฟันอำมหิต
“บ๊ะ! ความคิดเจ้ามันน่าสนุกจริงๆ!”
ซั่งกวนฉงเฟิงตบหน้าขาดังฉาด ก่อนจะพยักหน้าด้วยรอยยิ้มสนุกสนาน “เอาตามที่เจ้าว่าเถอะ เจ้าจะให้ข้าทำอะไรก็บอกมา”
…
โอสถเสริมโชค 2 เม็ดถูกช่วงชิงไปแบบนี้ สำหรับต้วนหลิงเทียนแล้วนับว่าเป็นความเสียหายอันใหญ่หลวงทีเดียว
เดิมทีเขาคิดจะใช้โอสถเสริมโชคทั้ง 2 เพื่อทะลวงถึงขอบเขตราชาเทพในวันเดียว…แต่บัดนี้โอสถเสริมโชคกลับถูกชิงไปแล้ว ต่อให้เขาจะมีโอสถเสริมการบ่มเพาะอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้มีผลเลิศล้ำเหมือนโอสถเสริมโชค
และในเมื่อเรื่องราวมันเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน เท่ากับว่าผลกู้เปิ่น ผลไม้เทพที่เป็นรางวัลจากการเป็นศิษย์หลักของเขา ก็คงไม่ได้ใช้ในเร็ววัน
“จริงสิ!”
ทันใดนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนคล้ายจะฉุกคิดอะไรได้ออก สองตาพลันทอแสงจ้าขึ้นมา “ข้าลืมตระกูลจ้งไปได้อย่างไร…”
ตระกูลจ้งแห่งเมืองวายุสวรรค์ ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องกับเขาและถังชุนในเหลาอาหารวันนั้น อีกฝ่ายเพื่อจะสลายความแค้นกับเขา จึงได้มอบทรัพย์สมบัติมากมายเพื่อชดใช้ให้เขา
ในบรรดาสมบัติที่ว่า ก็มีโอสถเสริมโชคถึง 5 เม็ด
และจากการประเมินของเขา ตระกูลจ้งสมควรนำทรัพย์สินราวๆครึ่งหนึ่งมามอบให้เขาเพื่อชดใช้
หากเขาเดาไม่ผิด ในตระกูลจ้งน่าจะมีโอสถเสริมโชคเก็บไว้อีกราวๆ 5 เม็ด!
“ไปตามหาเจ้านั่นก่อน…ดูเหมือนจะชื่อ จ้งเทียนอู่ กระมัง…”
หลังมาถึงจวนหลังขนาดย่อมที่จางจิ่นพามาถึงได้ไม่ทันไร ต้วนหลิงเทียนก็ออกจากจวนที่พักใหม่ของเขา และย้อนกลับไปยังทางเดิมที่พึ่งมา
จากนั้นไม่นานนักเขาก็ออกจากเขตที่พักสำหรับศิษย์หลัก
เขตที่พักบ่มเพาะสำหรับศิษย์หลักมีทั้งพื้นที่ภูเขา พื้นที่ราบลุ่มกระทั่งพื้นที่ป่า และมีจวนที่พักรูปร่างแตกต่างกันออกไปมากมายปลูกสร้างไว้นับร้อยหลัง
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีแค่จวนไม่กี่สิบหลังเท่านั้นที่มีคนอยู่
และจวนหลังเล็กที่เขาพึ่งจับจอง ก็เป็นหนึ่งในจวนว่างที่เขาตั้งใจเลือก
ในนิกายหมอกเร้นลับ คำว่าเขตที่พักศิษย์หลักก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่าสถานที่ๆเหล่าศิษย์หลักพักอาศัยและใช้บ่มเพาะ ในด้านสภาพแวดล้อมสำหรับการบ่มเพาะแล้ว มันไม่ได้แตกต่างอะไรจากเขตที่พักของเหล่าศิษย์สายในแม้แต่น้อย ไร้ซึ่งการแข่งขันชิงที่พักเหมือนในสถานศึกษาหมอกเร้นลับ
“นายน้อยต้วน มิทราบท่านมีธุระอะไรกับข้าน้อยหรือ?”
เมื่อจ้งเทียนอู่เห็นต้วนหลิงเทียนมาหา มันก็รู้สึกประหม่าพอสมควรและนอกจากประหม่าก็มีความหวาดกลัวอีกด้วย
เพราะวีรกรรมที่ต้วนหลิงเทียนสร้างขึ้นหลังมาถึงนิกายหมอกเร้นลับ ไม่เพียงแต่จะสร้างความประหลาดใจให้ผู้คนทั้งนิกายหมอกเร้นลับเท่านั้น แต่ยังสร้างความหวาดกลัวให้มันอีกด้วย เพราะมันไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าพรสวรรค์ของต้วนหลิงเทียนจะร้ายกาจปานสัตว์ประหลาดแบบนี้
ในอดีตมันคิดว่า ต้วนหลิงเทียนก็แค่มีภูมิหลังยิ่งใหญ่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม พอพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบัน เกรงว่าอีกไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งความเป็นมาอะไร อาศัยแค่พลังฝีมือของตัวเองก็มากพอจะกวาดล้างทั้งตระกูลจ้งของพวกมันได้แล้ว
“มีบางอย่างจริงๆ”
ต้วนหลิงเทียนไม่รอช้า เปิดประตูเห็นภูผากล่าวออกตรงๆ “ที่ข้ามาหาเจ้า เพราะอยากให้เจ้าติดต่อไปหาพ่อบุญธรรมของเจ้าหน่อย ถามมันดูว่าในตระกูลจ้งเหลือโอสถเสริมโชคอีกหรือไม่ หากยังเหลือ ข้าต้วนหลิงเทียนยินดีใช้อุปกรณ์เทพขั้นกลางเพื่อแลกเปลี่ยน”
“และอุปกรณ์เทพขั้นกลางชิ้นหนึ่ง ข้าขอแลกโอสถเสริมโชค 3 เม็ดก็พอ”
ต้วนหลิงเทียนให้ราคาสูงกว่าราคากลางพอสมควร หากทางตระกูลจ้งยังมีโอสถเสริมโชคเหลืออยู่จริงๆ พวกมันไม่มีทางปฏิเสธแน่
“นายน้อยต้วนโปรดรอสักครู่ ข้าน้อยจะติดต่อไปถามท่านพ่อเดี๋ยวนี้”
หลังได้ยินวัตถุประสงค์ของต้วนหลิงเทียน จ้งเทียนอู่ก็ไม่กล้าละเลย รีบส่งข้อความไปหาพ่อบุญธรรมของมัน ผู้นำตระกูลจ้งคนปัจจุบันแห่งเมืองวายุสวรรค์ จ้งต้า ทันที
หลังจากใช้เวลาส่งข้อความครู่หนึ่ง จ้งเทียนอู่ก็หน้าเปลี่ยนสี มันรีบหันไปมองกล่าวคำขอขมากับต้วนหลิงเทียนทันที “นายน้อยต้วน ท่านพ่อบุญธรรมฝากข้าขออภัยต่อท่านด้วย…ตอนแรกตระกูลจ้งของพวกเรายังเหลือโอสถเสริมโชค 5 เม็ด อย่างไรก็ตาม 4 เม็ดได้ถูกแจกจ่ายออกไปเมื่อไม่นาน และทุกคนก็ใช้ไปแล้ว…”
“ทำให้ในตระกูลจ้งของพวกเราตอนนี้เหลือโอสถเสริมโชคแค่เม็ดเดียวเท่านั้น”
“ท่านพ่อบุญธรรมกล่าวว่า จะให้คนรีบนำโอสถเสริมโชคเม็ดสุดท้ายดังกล่าวมาส่งให้นายน้อยต้วนทันที และท่านไม่จำเป็นต้องจ่ายอันใด”
จ้งเทียนอู่กล่าวคำด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ
ถึงแม้จะผิดหวังอยู่บ้าง แต่ในเมื่อได้โอสถเสริมโชคมาเม็ดหนึ่งเปล่าๆ ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกยินดีเป็นธรรมดา “เช่นนั้น ข้าฝากขอบคุณพ่อบุญธรรมของเจ้าด้วย”
ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะเคยโหดร้ายกับตระกูลจ้ง และยังมีความแค้นอยู่ แต่ในตอนนี้ก็อดทำให้เขาใจอ่อนลงไม่ได้
ในเมื่อตระกูลจ้งให้ความร่วมมือกับเขาดีแบบนี้ เช่นนั้นเขาก็ไม่คิดจองล้างจองผลาญตระกูลจ้งมากเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีวันลืมพวกเดนตายที่ตระกูลจ้งส่งมา และเขาก็ไม่เคยคิดจะละเว้นคนตระกูลจ้งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องส่งคนมาฆ่าเขา มันต้องตาย!
เพียงแค่เรื่องนี้ไม่อาจสะสางได้ในเร็ววัน แค่ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ
เหตุผลที่ตระกูลจ้งหวาดกลัวเขา และยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขาล้มเลิกการทำลายตระกูลจ้ง เป็นเพราะการปรากฏตัวของต้วนเฉียนอวี่ในอดีต ทำให้เขาสามารถทำตัวเป็นจิ้งจอกห่มหนังเสือได้…
หากไม่ใช่เพราะต้วนเฉียนอวี่กับผู้ติดตามข้างกายอย่าง อวี๋ชิวซวน ที่เป็นยอดฝีมือขอบเขตจอมราชันเทพ เกรงว่าตระกูลจ้งคงไม่เกรงกลัวเขาถึงขนาดนี้
…
“ต้วนหลิงเทียน?”
หลังกล่าวลาจ้งเทียนอู่ที่ดูกล้ากลัวๆ ต้วนหลิงเทียนก็ออกจากสถานที่พักบ่มเพาะของศิษย์สายใน และไม่นานเขาก็กลับมาถึงจวนของเขาในเขตที่พักของศิษย์หลัก และพบว่ามีร่างหนึ่งมายืนรอเขาอยู่นอกจวน
อีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มมาในชุดคลุมสีทองเข้ม รูปร่างแลดูสูงใหญ่บึกบึน ไม่เตี้ยไปกว่าเขา อีกทั้งหน้าตายังจัดหว่าหล่อเหลาเอาการ หว่างคิ้วให้ความรู้สึกน่าเกรงขามสง่างาม ความประทับใจแรกเห็นก็คือ อีกฝ่ายแลดูมั่นใจในตัวเองสูงมาก
หลังจากที่ได้ยินอีกฝ่ายเรียกชื่อเขา ต้วนหลิงเทียนก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เจ้าเป็นใครหรือ?”
“หลงเซียว”
พริบตาต่อมา ร่างหลงเซียวก็เหินขึ้นฟ้ามาหยุดลงตรงหน้าต้วนหลิงเทียน ก่อนจะมองสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
“หลงเซียว?”
ใจต้วนหลิงเทียนจมลงโดยพลัน หากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงไม่รู้ว่าหลงเซียวเป็นใคร อย่างไรก็ตามหลังจากโดนซั่งกวนฉงเฟิงรีดไถโอสถเสริมโชค 2 เม็ดไป เขาก็ได้รู้จากอาวุโสฝ่ายในจางจิ่นถึงการคงอยู่ของหลงเซียว
หลงเซียวนั้นเป็นศิษย์คนโตของอาวุโสเหล่ย
และอาวุโสเหล่ยที่คิดรับเขาเป็นศิษย์แต่โดนเขาปฏิเสธไป ก็คืออาวุโสสูงสุดของนิกายหมอกเร้นลับ และยังเป็น 1 ใน 4 อาวุโสสูงสุดที่แข็งแกร่งที่สุด!
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธอาวุโสเหล่ยตรงๆ แต่ปฏิเสธฉือถงหมิง ลูกศิษย์ที่อาวุโสเหล่ยส่งมา
และเหตุไฉนที่จางจิ่นถึงบอกเรื่องหลงเซียวให้เขารู้ ก็เพราะอีกฝ่ายสงสัยว่าการปรากฏตัวของซั่งกวนฉงเฟิงที่มารีดไถโอสถเสริมโชค 2 เม็ดของเขาไป อาจเป็นหลงเซียวที่อู่เบื้องหลัง…
หาไม่แล้ว จางจิ่นก็ไม่อาจหาเหตุผลได้จริงๆว่าทำไมซั่งกวนฉงเฟิงถึงต้องมากลั่นแกล้งเขาแบบนั้น
ในอดีตก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข่าวศิษย์สายในที่มีโอสถเสริมโชค แต่ไม่เห็นซั่งกวนฉงเฟิงจะไปรีดไถกับผู้ใดจนทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสียมาก่อนเลย
ถึงแม้ซั่งกวนฉงเฟิงจะทำอะไรตามอำเภอใจและไม่สนใจเรื่องที่ตัวเองจะมีชื่อเสียงเสื่อมเสียหรือไม่ แต่ขีดจำกัดของมันก็คือไม่สร้างความเสื่อมเสียไปถึงอาวุโสฟง
ด้วยเหตุนี้จางจิ่นจึงสันนิษฐานว่าการมาของซั่งกวนฉงเฟิง สมควรมีหลงเซียวอยู่เบื้องหลัง
เพราะทั้งคู่รู้จักกันดี ยังเป็นเพื่อนกันอีกด้วย
เป็นธรรมดาว่าจางจิ่นกล่าวบอกต้วนหลิงเทียนว่าทั้งหมดเป็นแค่การคาดเดาส่วนตัว และเรื่องจริงอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่หลังได้ฟังต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ทันทีว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่ไฉนจางจิ่นบอกซ้ำๆแค่เดาแต่ไม่แน่ว่าจะใช่ ทั้งหมดก็แค่เพราะกลัวตัวเองจะเดือดร้อน
‘ดูเหมือนอาวุโสจางจิ่นจะเดาถูกจริงๆ’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
“ข้าขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการก่อนแล้วกัน”
หลงเซียวมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย่อหยิ่ง ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าคือหลงเซียว ศิษย์คนโตของอาวุโสเหล่ย”
“ฉือถงหมิงที่ไปพบเจ้าวันก่อน เป็นศิษย์น้องของข้าเอง”
หลงเซียวกล่าว
“แล้วที่เจ้ามาหาข้าแบบนี้ มีอะไรงั้นเหรอ?”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามเสียงเรียบ
“ก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก”
หลงเซียวส่ายหัว จากนั้นก็มองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยท่าทางขี้เล่น “ต้วนหลิงเทียน ข้าได้ยินมาว่าโอสถเสริมโชค 2 เม็ดที่เจ้าพึ่งใช้อุปกรณ์เทพขั้นกลางแลกมาวันนี้ถูกไถไปงั้นหรือ?”
“คนที่รีดไถเจ้าไปสมควรเป็นซั่งกวนฉงเฟิง ศิษย์คนโตของอาวุโสฟงกระมัง?”
หลงเซียวทำทีเหมือนพึ่งจะเคยได้ยินเรื่องนี้
“เจ้ามาเพื่อหัวเราะเยาะข้า?”
สองตาต้วนหลิงเทียนยังคงสงบเฉยเมย ไร้ซึ่งอารมณ์ขุ่นมัวใดๆ เพราะเขาคาดเดาเจตนาอีกฝ่ายได้แล้ว และไม่มีอะไรมากไปกว่ามาเพื่อซ้ำเติมเขา
“แน่นอนว่าไม่”
หลงเซียวส่ายหัวไปมาอีกรอบ “ที่มาข้าหาเจ้า เพราะคิดจะชี้ทางสว่างให้เจ้า”
“ซั่งกวนฉงเฟิงกล้าที่จะรีดไถโอสถเสริมโชค 2 เม็ดของเจ้าไปดื้อๆ ไม่ใช่เพราะเจ้าต้วนหลิงเทียนไร้ผู้ใดหนุนหลังจึงโดนรังแกได้ง่ายหรือไร?”
“หากเจ้าเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์ข้า อาวุโสเหล่ย ก็ถือว่าเป็นศิษย์น้องของข้าหลงเซียวผู้นี้ พอถึงตอนนั้นเจ้าว่าซั่งกวนฉงเฟิงมันจะกล้ารังแกเจ้าอีกหรือไม่?”
“กระทั่งทันทีที่เจ้ากลายเป็นศิษย์น้องของข้าหลงเซียว ซั่งกวนฉงเฟิงนั่นมันก็ต้องคายโอสถเสริมโชค 2 เม็ดออกมาคืนเจ้าแต่โดยดี!”