“เฉินเฮ่อเหลียง”
พอฉู่หานรู้ตัวตนของตู้เชียนจวินแล้ว มันก็เลยแนะนำชายหนุ่มชุดแดงซึ่งเป็นศิษย์นิกายมังกรสวรรค์ที่พามาด้วยให้ตู้เชียนจวินรู้จัก ดังนั้นตู้เชียนจวินก็เลยจำชื่ออีกฝ่ายได้
“เรื่องนี้ข้าจะเร่งติดต่อไปหาอาจารย์ปู่ฉีของเจ้าเดี๋ยวนี้…ข้าคิดว่าอาจารย์ปู่ฉีของเจ้าบัดนี้คงมีโมโหทั้งร้อนใจแทบตายแล้ว”
หลังตู้จ้านกล่าวจบคำ มันก็เร่งส่งข้อความถึงศิษย์พี่ในนิกายมังกรสวรรค์ทันที
ศิษย์พี่ของตู้จ้าน ก็เคยเป็นศิษย์ของนิกายหมื่นปีศาจและยังเป็นบุตรแห่งสวรรค์ของนิกายหมื่นปีศาจอีกด้วย สุดท้ายก็เข้าสู่นิกายมังกรสวรรค์ จนได้กลายเป็นผู้อาวุโสฝ่ายใน
ต้องทราบว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะเป็นอาวุโสฝ่ายในของนิกายมังกรสวรรค์ได้ เพราะอย่างน้อยๆด่านพลังต้องบรรลุถึงขอบเขตจอมราชันเทพขั้นกลาง
ศิษย์พี่ของตู้จ้านคนนี้มีชื่อว่า กวงเทียนเจิ้ง รูปลักษณ์เป็นชายชราที่มีใบหน้าอ่อนกว่าวัยเหมือนตู้จ้าน เพียงแค่ร่างกายมันไม่ได้สูงใหญ่เหมือนตู้จ้าน
“เฉินเฮ่อเหลียง?”
ด้านกวงเทียนเจิ้งพอได้รับข้อมูลดังกล่าวจากศิษย์น้องในนิกายหมื่นปีศาจอย่างตู้จ้านมันก็อึ้งไปพักหนึ่ง ด้วยไม่คิดเลยว่าในขณะที่มันหาเบาะแสอะไรไม่พบ อีกฝ่ายจะมอบเบาะแสสำคัญมา
“ศิษย์พี่ถึงแม้หลานข้าจะซุกซน แต่ในเรื่องสำคัญมันไม่เคยล้อเล่น ข้าเชื่อใจหลานข้า”
หลังส่งข้อความแจ้งข้อมูลไปแล้ว ตู้จ้านก็ส่งข้อความไปยืนยันอีกประโยค เพื่อโน้มน้าวกวงเทียนเจิ้งให้ใส่ใจกับข้อมูล
สาเหตุที่มันต้องเน้นย้ำ เพราะมันรู้ว่าศิษย์พี่ของมันไม่ได้สนิทกับหลานชายมันมากมายอะไร และตลอดเวลาที่ผ่านมายามพบปะสนทนากับศิษย์พี่ มันก็เอาแต่บ่นเรื่องความซุกซนและเหลวไหลของหลานชายตัวเอง
“เจ้าเป็นคนระวังตัวแจ ลองเจ้าส่งข้อความมายืนยันแบบนี้ เป็นธรรมดาว่าข้อมูลของเจ้าสมควรถูกต้อง”
กวงเทียนเจิ้งยิ้มกล่าว
อย่างไรก็ตาม ต่อมาน้ำของมันก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง “เบาะแสที่ข้าหาได้ถึงตอนนี้ เหมือนครั้งล่าสุดที่ฉู่หานออกจากนิกายมังกรสวรรค์พร้อมเฉินเฮ่อเหลียงจริงๆ”
“เพียงแต่…”
“เฉินเฮ่อเหลียงคนนั้นก็ตกตายเหมือนกับฉู่หาน…นอกจากนั้นในแง่ของเวลาแล้ว เฉินเฮ่อเหลียงยังตายก่อนฉู่หานด้วยซ้ำ”
“และนี่คือเบาะแสเดียวที่ข้าพึ่งค้นพบ และก็เบาะแสก็จบลงตรงนี้…”
“ตอนนี้ด้วยข้อมูลที่เจ้าให้มา รวมกับเบาะแสที่ข้าค้นพบ ข้าเริ่มจะเป็นภาพรวมแล้ว…”
กวงเทียนเจิ้งกล่าวคำเสียงหนัก
พอได้ยินคำพูดของกวงเทียนเจิ้ง ตู้จ้านก็ชักสีหน้าเคร่งขรึมทันที ด้านตู้เชียนจวินที่อยู่ข้างๆก็ย่อมสังเกตเห็นเป็นธรรมดา จึงอดถามออกมาด้วยความแปลกใจไม่ได้ “ท่านปู่เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
ตู้จ้านหันไปมองกล่าวกับตู้เชียนจวินเสียงขรึม “ข้าพึ่งได้รับการยืนยันจากอาจารย์ปู่ของเจ้า…เฉินเฮ่อเหลียงก็ตายไปแล้วเช่นกัน นอกจากนั้นมันยังตายก่อนฉู่หานเสียอีก”
พอตู้เชียนจวินได้ยินมันก็อึ้งไปทันที
เฉินเฮ่อเหลียงก็ตายแล้ว แถมยังตายก่อนอีก?
เรื่องนี้แตกต่างไปจากที่มันคิดและคาดเดาโดยสิ้นเชิง!
ในจินตนาการของมัน สมควรเป็นฉู่หานที่ถูกเฉินเฮ่อเหลียงลอบแทงข้างหลังเพราะแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัวเมื่อฆ่าศิษย์นิกายหมอกเร้นลับทั้ง 2 ไปแล้ว ทั้งหมดเพื่อฮุบสมบัติเป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว
แต่ตอนนี้ปู่มันกลับบอกว่าเฉินเฮ่อเหลียงก็ตายแล้วเหมือนกัน แถมยังตายก่อนฉู่หานอีก
แล้วที่แท้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“เป็นไปได้หรือไม่…ว่าหลังจากฆ่าศิษย์นิกายหมอกเร้นลับทั้ง 2 คนแล้ว ทั้งคู่ก็พบเจออันตรายในเทพซ่อนแห่งนั้น…ก็เลยตกตายไปด้วยกัน?”
ตู้เชียนจวินอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว
อย่างไรก็ตาม หลังได้ยินคำพูดของตู้เชียนจวิน ตู้จ้านกลับขมวดคิ้ว และเอ่ยถามออกมาว่า “ศิษย์นิกายหมอกเร้นลับที่อยู่ในขอบเขตเทพขั้นสูงนั่น เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันชื่ออะไร?”
มันมักติดใจกับเทพคนสูงคนนั้นเสมอ และรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
เพราะไม่นานมานี้ มันพึ่งได้ยินว่าในนิกายหมอกเร้นลับ ปรากฏศิษย์สายในขอบเขตเทพขั้นสูงที่พลังฝีมือร้ายกาจมาก ถึงขั้นผ่านการทดสอบประเมินศิษย์หลัก และกลายเป็นศิษย์หลักขอบเขตเทพคนแรกในรอบหมื่นปี!
“เรื่องนี้ข้าไม่ทราบ”
ตู้เชียนจวินส่ายหัวไปมา “ข้าได้ยินก็แต่หวูอี้ซานนั่นมันเรียกหาอีกฝ่ายว่า ‘ศิษย์น้องต้วน’ เท่านั้น แต่หวูอี้ซานไม่เคยกล่าวถึงชื่อของมันออกมาเลย ไม่แม้แต่จะพูดถึงนามแฝงอะไร”
“ท่านปู่ ท่านคงไม่คิดว่ามันจะมีพลังฝีมือสูงพอจะร่วมมือกับหวูอี้ซานจนฆ่าฉู่หานกับเฉินเฮ่อเหลียงหรอกนะ? ข้าว่าเรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้ กับอีแค่เทพขั้นสูงข้ายังฆ่าได้ในท่าเดียวเลย!”
กล่าวถึงจุดนี้มุมปากตู้เชียนจวินก็ฉายความดูแคลนหยันหยาม
“ศิษย์หลักขอบเขตเทพในนิกายหมอกเร้นลับที่ร่ำลือกันว่าร้ายกาจผู้นั้น มันพึ่งจะผ่านการทดสอบประเมินศิษย์หลักขอบเขตเทพคนแรกในรอบหมื่นปีมา…และมันเองก็มีแซ่ต้วน เรียกว่าต้วนหลิงเทียน!”
ตู้จ้านมองลึกไปทางตู้เชียนจวิน กล่าวคำออกมาเสียงหนัก “ต้วนหลิงเทียนผู้นั้น ผู้คนกล่าวขานกันว่ามันเข้าใจการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏมิติ 3 ประการได้ 2 ชุด และเพราะโชคดีจึงเข้าใจพื้นฐานมรรคากระบี่ 1 ใน 4 วิถีแห่งสวรรค์และโลก วิถีศาสตรา!”
“พลังฝีมือของมัน กล่าวได้ว่าเหนือกว่าราชาเทพขั้นต่ำทั่วๆไปมาก”
พอตู้จ้านเกริ่นมาแบบนี้ ตู้เชียนจวินก็ขมวดคิ้วเป็นปมทันที “ท่านปู่ ท่านหมายความว่าอะไร…ท่านจะบอกว่าศิษย์น้องต้วนที่หวูอี้ซานหามาคนนั้น อาจจะเป็นต้วนหลิงเทียน ศิษย์หลักขอบเขตเทพในรอบหมื่นปีของนิกายหมอกเร้นลับหรือ!?”
“มีความเป็นไปได้สูง เพราะพวกมันล้วนแซ่ต้วนเหมือนกัน”
ตู้จ้านกล่าว
สองตาตู้เชียนจวินกระพริบ “ถึงแม้พลังฝีมือมันจะร้ายกาจอย่างที่ท่านปู่ว่า…แต่เต็มที่ก็คงเสมอกับข้าในตอนนี้กระมัง เช่นนั้นให้มันร่วมมือกับหวูอี้ซานรับมือพวกฉู่หาน ก็ไม่น่าจะมีเปรียบอะไรนี่นา…อย่างดีก็คงทำได้แค่เสมอกัน”
“เจ้ามองข้ามเรื่องสำคัญไป”
ตู้จ้านกล่าวคำเสียงหนักว่า “อย่าได้ลืมไป ว่าแม้แต่เจ้าเองยามพบว่ามันเป็นเทพขั้นสูงยังดูแคลนมันเสียเต็มประดา…เช่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฉู่หานกับเฉินเฮ่อเหลียงจะดูแคลนและไม่เห็นมันอยู่ในสายตา”
“ในเมื่อดูถูกคู่ต่อสู้แต่แรกยามลงมือ เจ้าก็ไม่มีทางลงมือเต็มกำลังแน่นอน…และในเมื่อเจ้าไม่ทันระวัง ไม่แน่อีกฝ่ายอาจฉวยโอกาสระเบิดพลังทั้งหมดฆ่าเจ้า!”
ตู้จ้านที่อยู่มานาน เป็นธรรมดาว่าจะรู้ดี ว่ายามผู้คนต่อสู้หมายเอาชีวิตกัน ผลลัพธ์มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลังทั้งหมด ยังมีปัจจัยที่เอาแน่เอานอนไม่ได้อีก…อย่างเช่น ที่จริงความแข็งแกร่งของศัตรูอาจไม่ได้ด้อยกว่าท่านมาก แต่ท่านดันไม่ทราบ สุดท้ายเพราะความย่ามใจก็เลยโดนอีกฝ่ายฉกฉวยโอกาสจนต้องตาย
ในชีวิตของมันแม้จะไม่เคยพบพานเรื่องเช่นนี้กับตัว แต่ก็ได้ยินมาไม่น้อย ว่าบางครั้งผู้เข้มแข็งกว่าแต่เมื่อประมาทเกินไปสุดท้ายก็โดนอีกฝ่ายระเบิดพลังเหนือคาดคิด ช่วงชิงสภาวะเข่นฆ่ามาจนต้านทานรับมือไม่ทัน แม้จะไม่ตายในทันทีแต่ก็ต้องบาดเจ็บจนนำไปสู่ความตาย…
ดังนั้นมันจึงตระหนักถึงเรื่องนี้ดีว่าในการต่อสู้ที่เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ความประมาทเพียงครั้งเดียวอาจพรากหนึ่งชีวิตของท่านไป!
คำพูดของตู้จ้านก็ทำให้ตู้เชียนจวินเงียบไปทันที
พอมันครุ่นคิดไตร่ตรองดู หากมันพบเจอชายหนุ่มแซ่ต้วนข้างกายหวูอี้ซาน มันย่อมดูหมิ่นอีกฝ่ายและไม่เก็บเอามาใส่ใจ…ถึงตอนนั้นถ้าเกิดอีกฝ่ายฉกฉวยโอกาสดังกล่าว และแสร้งทำเป็นอ่อนแอ ก่อนจะเปิดเผยพลังที่แท้จริงทั้งหมดออกมาในช่วงเวลาสำคัญ มันก็อาจจะโดนดีเข้าได้!
พอคิดถึงจุดนี้ ตู้เชียนจวินก็หวาดกลัวจนเหงื่อกาฬชุ่มโชก อดสบถออกมาไม่ได้ “บัดซบ! ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไฉนหวูอี้ซานถึงได้พาขอบเขตเทพขั้นสูงมา มารดาของมันถึงกับคิดเรื่องนี้เอาไว้แล้ว…สุดท้ายก็แค่แสร้งตบตาให้พวกเราประมาท!”
“มารดามันช่างต่ำช้านัก!!”
ตู้เชียนจวินโพล่งออกมาอย่างไม่พอใจ
“ไม่มีต่ำช้าอันใดทั้งสิ้น!”
ตู้จ้านส่ายหัว “ผู้คนเข่นฆ่าเอาชีวิต ไหนเมีเรื่องต่ำช้าสูงส่ง ทั้งหมดล้วนเป็นกลยุทธ์…หากข้าเป็นหวูอี้ซานและมีคนเช่นนั้น ข้าก็จะทำแบบเดียวกัน”
“ราชาเทพขั้นต่ำคนหนึ่ง กับเทพขั้นสูงที่มีพลังทัดเทียมราชาเทพขั้นต่ำ…คนหลังนั้น สร้างผลกระทบได้ใหญ่หลวงยิ่งกว่าคนแรกมากนัก”
สองตาตู้จ้านเป็นประกายจ้า เอ่ยคำออกมาเสียงเข้ม
“ท่านปู่…ท่านหมายความว่าอย่างไร…หวูอี้ซานกับสหายมัน ฆ่าพวกฉู่หานหรือ?”
ตู้เชียนจวินถาม
“เป็นไปได้สูง”
ตู้จ้านพยักหน้า “แต่ก็ไม่ใช่ว่าต้องเป็นเช่นนั้นจริงๆ สุดท้ายเมื่อไม่ได้เห็นกับตา ย่อมไม่มีใครกล้าพูดว่าหวูอี้ซานกับเทพขั้นสูงจะฆ่าพวกฉู่หานได้จริง…ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่กำลังรบโดยรวมของทั้งคู่ที่แท้พอๆกับพวกฉู่หาน แม้จะเหนือกว่าถึงขั้นบดขยี้ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างที่คิดเสมอไป”
“สุดท้ายแล้ว เจ้าก็บอกเองว่ามันคือเทพซ่อน…และในเทพซ่อนจำพวกมรดกสถานก็มักจะมีค่ายกลสังหารจัดตั้งไว้ ไม่แน่ทั้งคู่อาจจะกระตุ้นค่ายกลสังหารที่ว่าก็เป็นได้”
ตู้จ้านกล่าว
“ท่านปู่ เรื่องนี้ท่านไม่ลองกล่าวบอกท่านอาจารย์ปู่ดูก่อนหรือ ฉู่หานเป็นศิษย์คนเล็กของอาจารย์ปู่ แถมท่านยังบอกว่าอาจารย์ปู่รักและเอ็นดูเป็นที่สุด ข้าเกรงว่าอาจารย์ปู่ไม่คิดรามือเรื่องการตายของฉู่หานง่ายๆแน่”
ตู้เชียนจวินหันไปมองกล่าวกับตู้จ้าน
“ข้าแจ้งให้ศิษย์พี่ทราบแล้ว”
ตู้จ้านพยักหน้า “อาจารย์ปู่ของเจ้าบอกว่าจะกลับมานิกายหมื่นปีศาจ หลังจากสะสางธุระที่นิกายเสร็จ…ถึงตอนนั้นจะไปเยือนนิกายหมอกเร้นลับด้วยตัวเอง เพื่อยืนยันว่าศิษย์นิกายหมอกเร้นลับทั้ง 2 ได้ตกตายที่นั่นด้วยหรือไม่”
“หากพวกมันตายไปแล้วก็ไม่เป็นไร ถือว่าร่วมกลบฝังไปพร้อมฉู่หาน”
“แต่ถ้าพวกมันยังไม่ตาย อาจารย์ปู่เจ้าจะหาทางยยืนยันให้ได้ว่าพวกมันทั้งคู่ใช่ฆาตกรหรือไม่”
“หากเป็นเช่นนั้นจริง พวกมันสองคนก็ไม่มีทางรอดไปได้!”
ตู้จ้านกล่าว
“อาจารย์ปู่จะกลับมาหรือ!?”
ลูกตาตู้เชียนจวินหรี่ลงเร็วไว มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าอาจารย์ปู้ผู้นี้จะเห็นแก่ศิษย์อย่าฉู่หาน จนกลับมายังนิกายหมื่นปีศาจ…เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาอีกฝ่ายไม่เคยกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย
อย่างน้อยๆตั้งแต่มันจำความได้อีกฝ่ายก็ไม่เคยกลับมา
แต่หลังจากมันจำความได้ ปู่ของมันก็ไปหาอีกฝ่ายที่นิกายมังกรสวรรค์บ่อยครั้ง
“อืม”
ตู้จ้านพยักหน้า “อาจารย์ปู่ของเจ้ายังให้ข้าช่วยตรวจสอบศิษย์นิกายหมอกเร้นลับทั้ง 2 นั่นล่วงหน้า…สุดท้ายแล้วศิษย์นิกายหมอกเร้นลับขอบเขตเทพที่เจ้าเจอ ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นต้วนหลิงเทียนคนนั้น”
“ส่วนหวูอี้ซานที่ว่า…ก็สมควรเป็นนามแฝง”
“เจ้าตามข้าไปพบประมุขเถอะ…ให้ท่านประมุขช่วยตรวจสอบเรื่องนี้อีกแรง”
พอตู้จ้านกล่าวจบคำ มันก็พาตู้เชียนจวินไปยังสถานที่พักบ่มเพาะของประมุขนิกายหมื่นปีศาจทันที
ใช้เวลาหารือกันไม่นาน ประมุขนิกายหมื่นปีศาจก็ได้เรียกระดมคนและออกคำสั่งเป็นชุด
นิกายหมื่นปีศาจกับนิกายหมอกเร้นลับเป็นศัตรูตัวฉกาจของกันและกันมานานปี นิกายหมื่นปีศาจเองก็ได้ส่งสายเข้าไปแฝงตัวอยู่ในนิกายหมอกเร้นลับหลายคน คิดจะยืนยันตัวตนศิษย์นิกายหมอกเร้นลับ 2 คนที่ตู้เชียนจวินพบก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรมากมาย