แม้ใจที่ตึงเครียดของต้วนหลิงเทียนจะพอได้ผ่อนคลายลงบ้าง แต่ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนติดตามหลันอวี่ซานกลับไปยังสังเวียนเหยียนหลง เขาก็ยังส่งข้อความไปบอกหลิงหูเหรินเจี๋ยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“เอาชีวิตข้ามาขู่เจ้า ไม่ให้ติด 10 อันดับแรก?”
หลังได้รับข้อความของต้วนหลิงเทียน หลิงหูเหรินเจี๋ยก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ค่อยกล่าวตอบข้อความด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “อย่าไปสนใจมันเลย…คิดจะฆ่าข้ามันไม่ใช่เรื่องง่ายนักหรอก”
“แถมตอนนี้ในเมื่อข้าไม่ใช่ผู้นำตระกูลแล้ว ข้าก็เลยมีเวลาว่างจนเตรียมจำกักตัวฝึกฝนสักพัก”
“อีกทั้งด้วยมีค่ายกลพิทักษ์ของตระกูล ข้าก็เชื่อว่าคงไม่มีใครบุกเข้ามาฆ่าข้าได้ง่ายๆ”
“นอกจากนี้เจ้ามิได้บอกเองหรือ ว่าผู้ที่รับผิดชอบการแข่งขันเป็นถึงอาวุโสมังกรดำ เช่นนั้นคงยากจะมีใครลอบเข้ามาขู่เจ้าโดยที่ไม่รู้ สมควรเป็นจอมราชันเทพจากขุมกำลังเหล่านั้นไม่ผิดแน่ เจ้าอย่าได้เก็บเอาไปใส่ใจเลย”
คำพูดของหลิงหูเหรินเจี๋ยเห็นได้ชัดว่าไม่ใส่ใจคำขู่ดังกล่าวแม้แต่น้อย ยังเห็นเป็นเรื่องขบขันอีกต่างหาก
ได้ยินข้อความของหลิงหูเหรินเจี๋ย ต้วนหลิงเทียนก็วางใจได้
และหลังจากเขากลับมายังสังเวียนเหยียนหลงแล้ว ตงฟางเหยียนเหนียนกับหลันอวี่ซานที่กลับมาถึงเช่นกัน ก็เริ่มดำเนินการแข่งขันมังกรซ่อนสืบต่อ
อย่างไรก็ตาม การกลับมาของพวกเขาก็ทำให้ผู้คนมากมายมองมาด้วยความสงสัย
“เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
ได้ยินคำถามของโหวชิ่งหนิงกับติงเหยียน ต้วนหลิงเทียนก็ยิ้มตอบไปว่า ‘ไม่เป็นไร’
จากนั้นพอได้ยินเสียงผ่านพลังของผู้เฒ่าเหิงฮวน อาวุโสสูงสุดคู่แฝดตระกูลหลิงหู ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวเล่าความจริงออกไป และพอทั้งคู่ได้ยินเรื่องราวจากเขาก็มีโมโหเป็นธรรมดา
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายเพียงบอกให้ต้วนหลิงเทียนไม่ต้องสนใจ ทว่าทั้งคู่กลับหันรีหันขวางกันใหญ่ ราวกับอยากจะหาให้ได้ว่าจอมราชันเทพขั้นต่ำขึ้นไปคนไหนที่หาญกล้าข่มขู่ต้วนหลิงเทียน
เวลาค่อยๆไหลผ่านไป ต้วนหลิงเทียนที่ขึ้นไปประลองอีกครั้งก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ง่ายดายเหมือนเดิม
ด้านตู้ปั้วจวิน หัวเทียนตู้ และคนอื่นๆ ก็แสดงความแข็งแกร่งออกมาจนเอาชนะได้ทั้งหมด
กระทั่งแม่นาง 7 จากหุบเขาหมื่นบุปผาเอง ก็เผยพลังฝีมือที่ร้ายกาจไม่ด้อยกว่าผู้ชายคนไหน ถึงขั้นไร้คู่ต่อสู้คนใดรับมือนางได้เกิน 3 กระบวนท่า
ทำให้คู่ต่อสู้ที่นางพบเจอนั้นคล้ายตัวอ่อนแออย่างไรอย่างนั้น
ทว่า ตัวอ่อนแอ ในที่นี้ หมายถึงสำหรับนางเท่านั้น
“ในการแข่งขันมังกรซ่อนปกติ 30 อันดับแรกจะถูกัตดสินก่อน…และตอนนี้ก็พอมองออกแล้วว่าใครจะติดอยู่ใน 30 อันดับแรกบ้าง”
โหวชิ่งเหยียนหันมามองต้วนหลิงเทียน “ต้วนหลิงเทียน เจ้าติด 30 อันดับแรกแน่นอนแล้วเรื่องนี้ไม่มีใครกังขา…แต่กับเจ้าติงเหยียน ข้าว่าเจ้าต้องดิ้นรนผ่านคำท้าสักพัก”
ในการแข่งขันมังกรซ่อน ปกติแล้ว 30 คนที่แข็งแกร่งที่สุดจะถูกจัดอันดับไว้ก่อนตามดุลยพินิจของผู้อาวุโสฝ่ายในทั้ง 10 ที่รับหน้าที่ดูแลการประลอง
เป็นธรรมดาว่า 30 คนดังกล่าวยังไม่ได้ถูกจัดอันดับพลังฝีมือโดยละเอียด
แม้จะยังไม่ได้สู้กันเอง แต่อาวุโสฝ่ายในทั้ง 10 ของนิกายมังกรสวรรค์ที่เฝ้าจับตาดูการประลอง ก็จะใช้ดุลยพินิจว่าใครเป็นผู้แข็งแกร่งทั้ง 30 คน และเลือกที่จะจัดให้ 30 คนเหล่านั้นไม่ต้องพบกันเองเร็วนัก
และไม่นาน 30 อันดับแรก ก็ถูกคัดเลือกแล้วเสร็จ
ขณะเดียวกันฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
“ต่อไปข้าจะอ่านรายชื่อของ 30 อันดับแรกชั่วคราวในการแข่งขันมังกรซ่อนครั้งนี้…และ 30 คนที่ข้าจะประกาศชื่อออกมา จะเริ่มประลองกันในวันพรุ่งนี้ตามลำดับ”
“เผิงตง ฉินหยวนเจิ้ง จี้อู่ซาน ซื่อตู้เฉิง ต้วนหลิงเทียน…ฯลฯ”
1 ใน 10 อาวุโสฝ่ายในของนิกายมังกรสวรรค์เริ่มอ่านรายชื่อในมือออกมา ในนั้นก็มีชื่อของต้วนหลิงเทียนและติงเหยียนรวมอยู่ด้วย
นอกจากทั้งคู่แล้ว จะหัวเทียนตู้นายน้อยนิกายบูรพารุ่งโรจน์ แม่นาง 7 ของหุบเขาหมื่นบุปผา รวมถึงโอวหยางเจี้ยนเฉิน นายน้อย 3 จากตระกูลโอวหยางก็รวมอยู่ด้วย
นอกจากต้วนหลิงเทียนแล้ว ไม่มีใครในตระกูลหลิงหูที่ติดอยู่ใน 30 อันดับแรกเลย
ส่วนทางด้านตระกูลมู่หรงนั้น มีคนหนึ่งชื่อ มู่หรงลั่วเฟิง ซึ่งเป็นทายาทสายตรงของตระกูลมู่หรงติดอันดับ
“พรุ่งนี้ 30 คนที่ข้าขานชื่อออกมา จะถูกผู้ที่ถูกคัดออกไปก่อนหน้านี้ท้าประลองตามลำดับ…หากท้าทายเอาชนะได้สำเร็จ ก็จะสามารถแทนที่ได้ทันที”
“ส่วนผู้ที่ท้าทายล้มเหลว และพ่ายแพ้ภายใน 100 กระบวนท่า ก็จะถือว่าเป็นผู้ที่ทำให้เสียเวลาในการแข่งขันมังกรซ่อน และจะมีบทลงโทษที่สอดคล้องกัน”
“ผู้ที่พ่ายแพ้ทั้งที่ยังสู้ไปไม่ถึง 100 กระบวนท่า จะถูกปรับเป็นหินเทพที่จะได้รับทุกเดือนเป็นเวลา 1 ปี นอกจากนั้นจะถูกส่งไปทำหน้าที่ลาดตระเวนด้านนอกนิกายเป็นเวลา 1 ปีโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน”
“ส่วนผู้ที่พ่ายแพ้ใน 50 กระบวนท่า จะถูกปรับหินเทพประจำเดือน 3 ปี ขณะเดียวกันต้องไปทำหน้าที่หน่วยลาดตระเวนนอกนิกายเป็นเวลา 3 ปีโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน”
“ผู้ที่พ่ายแพ้ใน 30 กระบวนท่า…ฯลฯ”
…
เดิมทียังมีหลายคนที่ไม่เข้าใจรายละเอียดในการแข่งขันมังกรซ่อน และหวังจะเสี่ยงท้าผู้ที่ติด 30 อันดับแรกสัก 2-3 ในวันพรุ่งนี้ดู เผื่อว่าจะสามารถเอาชนะและแทนที่ได้
แต่ตอนนี้ พออาวุโสฝ่ายในของนิกายมังกรสวรรค์เอ่ยบทลงโทษออกมา ทำให้คนที่ไม่มั่นใจในพลังฝีมือของตัวเองพากันถอดใจเป็นแถว
ล้อกันเล่นหรือไร?
หากไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองมากพอ เกิดท้าแล้วแพ้พ่ายภายใน 100 กระบวนท่าขึ้นมา ไม่เพียงแต่จะทำให้สูญเสียหินเทพที่สมควรจะได้รับไป 1 ปีเต็มๆ แถมยังโดนส่งไปทำหน้าที่ลาดตระเวนอันแสนน่าเบื่อโดยไม่ได้อะไรทั้งปีอีก…
แถมหากคนที่ท้าสามารถเอาชนะตัวเองได้ง่ายดายเท่าไหร่ ก็จะยิงโดนบทลงโทษหนักขึ้นเท่านั้น
สุดท้ายการแข่งขันมังกรซ่อนสำหรับวันนี้ ก็จบลงด้วยเสียงถอนหายใจของหลายๆคน
บ้างก็ถอนหายใจเพราะไม่ติด 30 อันดับแรก
บ้างก็ถอนหายใจเพราะไม่กล้าท้า 30 อันดับแรกในวันพรุ่งนี้
คนอื่นๆ ก็ถอนหายใจเพราะลูกหลานหรือเหล่าศิษย์ทำผลงานในการประลองได้ไม่ตามใจหวัง
‘ไม่มีใครส่งเสียงผ่านพลังมาขู่อีกเลย…’
และตั้งแต่กลับมาถึงสังเวียนเหยียนหลงพร้อมๆกับหลันอวี่ซารและตงฟางเหยียนเหนียน จนถึงตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้ยินเสียงผ่านพลังจากคนที่เคยขู่เขาอีกเลย
และพอนึกถึงการคาดเดาของหลันอวี่ซาน กับความไม่ยี่หระของหลิงหูเหรินเจี๋ยขึ้นมา ต้วนหลิงเทียนก็ค่อยๆเลิกสนใจเรื่องคำขู่ไปหมดสิ้น
จากนั้นเขาก็กลับไปยังสถานที่พักชั่วคราวพร้อมโหวชิ่งหนิงกับติงเหยียนและมู่หรงอวิ๋นเยว่
เหล่าศิษย์ใหม่ ก็ถูกจัดให้พักในพื้นที่เดียวกัน
ระหว่างเดินทางกลับโหวชิ่งหนิงยังมองติงเหยียนหยอกล้อ “ติงเหยียน กับต้วนหลิงเทียนข้าว่าพรุ่งนี้คงไม่มีใครกล้าท้าแน่ แต่กับเจ้า…ข้าเกรงว่าคงไม่อาจหลีกเลี่ยงการโดนท้าได้แล้วล่ะ”
“วันนี้เจ้าอุตส่าห์ติด 30 อันดับแรกแล้วทั้งที…พรุ่งนี้อย่าได้ทำเรือคว่ำในคูระบายน้ำเล่า!”
ได้ยินคำพูดหยอกล้อของโหวชิ่งหนิง ติงเหยียนก็ส่ายหน้าไปมาเบาๆ “เรื่องนี้หากไม่มีอะไรผิดพลาด ก็ไม่น่ามีปัญหาหรอก…”
“อย่างไรก็ตาม แม้ 30 อันดับแรกข้าจะมั่นใจ…แต่เรื่องติด 20 อันดับแรกให้ได้ช่างยากยิ่ง สุดท้ายด่านพลังฝึกปรือของข้าก็ต่ำเกินไป…”
ติงเหยียนได้แต่ถอนหาใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“วันนี้เท่าที่ข้าดูในบรรดาราชาเทพขั้นต่ำ เจ้ายังถือว่าเป็นอันดับต้นๆ”
ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้ม “ผลงานเจ้าครั้งนี้ ข้าว่ากระทั่งลุงของเจ้าเอง็น่าจะพอใจมากแล้ว”
“ท่านลุงสือคงเพียงบอกให้ข้าทำให้ดีที่สุด เรื่องอันดับไม่สำคัญ”
ติงเหยียนกล่าว
“เอ้า ลุงเจ้าไม่ได้ตั้งเป้าให้เจ้าติด 10 อันดับแรกบ้างหรือ?”
โหวชิ่งหนิงหยีตา “10 อันดับแรกจะได้โอสถเทพทะลวงราชันเชียวนา…หากราชาเทพขั้นสูงที่ติดจุดรอคอยใช้ ก็สามารถทะลวงถึงจอมราชันเทพขั้นต่ำได้ทันที”
“พูดได้ว่าวันหน้าขอเพียงเจ้าสั่งสมพลังได้มากพอ หากมีโอสถเทพทะลวงราชันเจ้าก็สามารถทะลวงผ่านไปยังจอมราชันเทพขั้นต่ำได้ง่ายๆ!”
ขณะพูดถึงโอสถเทพทะลวงราชัน สองตาโหวชิ่งหนิงก็เป็นประกายจ้า แม้ด่านพลังของมันจะยังห่างไกลจากราชาเทพขั้นสูง แต่มันก็อยากได้โอสถเทพทะลวงราชันมาก
เพราะถ้าได้มา ก็เสมือนกับว่าตัดปัญหาเรื่องจุดรอคอยด่านพลังราชาเทพขั้นสูงไปได้เลย และเสมือนมีตั๋วผ่านไปสู่ขอบเขตจอมราชันเทพขั้นต่ำถือไว้ในมือ
“ข้าไม่รีบ”
ติงเหยียนส่ายหน้าไปมา “อันที่จริงท่านลุงสือคงก็บอกข้าไว้แต่แรก…ว่าการแข่งขันมังกรซ่อนครั้งนี้ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ข้าจะติดอยู่ใน 10 อันดับแรก…ที่สำคัญต่อให้ข้าพลาดโอสถเทพทะลวงราชันไปข้าก็ไม่ต้องคิดมาก เพราะวันหน้าถึงเวลาที่ข้าต้องใช้ท่านลุงจะหามาให้เอง”
ใบหน้าโหวชิ่งหนิงแข็งค้างไปทันที
แม้แต่มู่หรงอวิ๋นเยว่ที่อยู่ข้างๆโหวชิ่งหนิงยังมองติงเหยียนด้วยสายตาอิจฉา
“ติงเหยียนเพื่อนรัก…”
พอโหวชิ่งหนิงกลับมารู้สึกตัว มันก็มองติงเหยียนด้วยรอยยิ้มสดใส “ไหนๆท่านลุงสือคงก็คิดจัดยาให้เจ้าแล้ว…ไยเจ้าไม่ตะล่อมขอโอสถเทพทะลวงราชันที่ว่าเพิ่มอีกสัก 2 เม็ดเผื่อไว้ให้ข้ากับคุณหนู 3 ด้วยเลยเล่า…”
“เอ่อ…เดี๋ยวข้าจะลองถามท่านลุงดูหลังจบการแข่งขันมังกรซ่อน”
ติงเหยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งค่อยกล่าว “เรื่องนี้…ไม่น่าจะมีปัญหานะ”
“ฮ่าๆๆๆ…”
ไม่ทันที่มู่หรงอวิ๋นเยว่จะได้ปฏิเสธ โหวชิ่งหนิงก็หัวเราะร่า “ดูเจ้าทำหน้าเข้า ข้าแค่ล้อเล่นหรอกน่า”
“ไม่มีความชอบไม่รับบำเน็จ”
“แค่เจ้ามีน้ำใจแบบนี้ข้าก็ปลื้มแล้ว”
ตอนแรกแม้แต่ต้วนหลิงเทียนเองก็รู้สึกว่าโหวชิ่งหนิงขอมากเกินไป ไร้มาดยอดฝีมือแม้แต่นิดเดียว อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็ไม่ใช่บิดาแท้ๆของติงเหยียน เป็นแค่สหายของบิดาเท่านั้น
แต่พอได้ยินคำพูดเคล้าเสียงหัวเราะประโยคหลังของโหวชิ่งหนิง เขาก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา
เขายังว่าอยู่ ว่าไฉนโหวชิ่งเหนียนถึงกลายเป็นคนหน้าหนาขึ้นมาได้ ทั้งที่ก่อนหน้ายังเกรงใจกับเขามาก…ที่แท้ก็แค่ล้อติงเหยียนเล่น
“เจ้านี่มัน…”
ติงเหยียนได้แต่คลี่แห้งๆออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่ในใจก็ลอบตัดสินไปแล้วว่าหลังจากจบการแข่งขัน จะลองตะล่อมถามท่านลุงสือคงของมันดู สุดท้ายติงเหยียนก็เป็น 1 ในสหายที่หาได้ยากของมัน
สำหรับมู่หรงอวิ๋นเยว่นั้น หากไม่มีเหตุผิดพลาดอีกฝ่ายไม่ต้องต้องแต่งกับโหวชิ่งหนิง เช่นนั้นการช่วยนางก็เหมือนช่วยโหวชิ่งหนิง
กว่าที่ต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆจะกลับถึงบ้าน ก็เป็นเวลามืดค่ำแล้ว
คำคืนก็ผ่านพ้นไปอย่างเงียบงัน
…
เช้าวันต่อมา ต้วนหลิงเทียนกับติงเหยียนที่ถูกจัดให้อยู่ใน 30 อันดับแรกเป็นการชั่วคราว ก็รอรับการท้าทายจากผู้อื่น
แน่นอนว่าทุกคนมีโอกาสท้าทายได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น
ที่สำคัญหากท้าผู้อื่นเขาแล้วดันแพ้ภายใน 100 กระบวนท่า ก็จะโดนบทลงโทษอีกด้วย
ในกรณีนี้แม้จะมีคนที่ท้าทายบ้างแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร แค่สิบกว่าคนเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนก็มั่นใจในตัวเองมาก และในกระบวนการดังกล่าว ติงเหยียนก็ถูกท้าทายหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่โดนท้า ติงเหยียนก็สามารถเอาชนะมาได้สำเร็จ
ยังมี 2 คนที่พ่ายแพ้หลังจากผ่านไปร้อยกระบวนท่า
แต่คนอื่นๆที่เหลือ ล้วนพ่ายแพ้ติงเหยียนภายใน 100 กระบวนท่าทั้งนั้น ซึ่งพวกมันก็ไม่พ้นต้องถูกลงโทษกันไปตามระเบียบ
หลังจบช่วงเช้า ในบรรดา 30 คนที่ถูกจัดอันดับชั่วคราวก็มีคนหนึ่งที่พ่ายแพ้และถูกแทนที่ ส่วนหลังจากนั้นก็ไม่มีใครถูกแทนที่อีกเลย พอเข้าช่วงเที่ยงก็ไม่มีใครขึ้นมาท้าอีก…
เช่นนั้นพอเข้าช่วงบ่ายก็มี 70 คนที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 31 ถึง 100 เป็นการชั่วคราว จากนั้นก็เริ่มรับคำท้าทายจากผู้ที่ไม่ได้ติดอันดับ
กฎระเบียบและข้อบังคับก็เหมือนกัน
หลังผ่านช่วงบ่ายไปจนมืดค่ำ ก็ได้ผลลัพธ์การแข่งขันออกมา
มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ถูกแทนที่ ส่วนที่เหลือยังรักษาอันดับไว้ได้อย่างมั่นคงปานขุนเขา
“ผู้อาวุโสฝ่ายในทั้ง 10 ของนิกายมังกรสวรรค์จะมีสายตาเป็นพิษมากเกินไปแล้ว ในบรรดา 100 คนที่ถูกจัดอันดับคร่าวๆ กลับมีแค่ 2 คนเท่านั้นที่พ่ายแพ้จนถูกแทนที่”
ฉากเรื่องราวเบื้องหน้า ทำให้หลายๆคนได้แต่ถอนหายใจออกมา
ด้านต้วนหลิงเทียนไม่ได้แปลกใจอะไรกับเรื่องนี้
อาวุโสฝ่ายในทั้ง 10 ของนิกายมังกรสวรรค์ จะอย่างไรก็เป็นจอมราชันเทพขั้นกลาง ไม่ว่าจะอ่อนด้อยแค่ไหนกับอีแค่มองประเมินพลังฝีมือของตัวตนในขอบเขตราชาเทพ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย
สรุปได้ว่า การแข่งขันมังกรซ่อนคราวนี้ได้ผู้ที่ติดอยู่ใน 100 อันดับแรกเรียบร้อย…ยังแบ่งออกเป็นผู้ที่ติดอยู่ใน 30 อันดับแรก กับ 70 อันดับที่เหลือ ต่อไปก็คือการแข่งขันเพื่อจัดอันดับเฉพาะ
‘ในอีกไม่กี่วัน การแข่งขันมังกรซ่อนก็จะจบลง’
ใจต้วนหลิงเทียนสั่นไปเล็กน้อย เพราะเขาอดคิดถึงคำขู่ผ่านพลังก่อนหน้าขึ้นมาไม่ได้
‘หวังว่ามันจะเป็นแค่คำขู่ลอยๆ หมายให้ข้ากลัวไปเองเท่านั้น…’