ในที่สุด ต้วนหลิงเทียนก็คว้าตำแหน่งผู้ชนะเลิศในการแข่งขันมังกรซ่อนมาครองได้สำเร็จ
“เสี่ยวเทียน ขอแสดงความยินดีกับเจ้าด้วย”
ตงฟางเหยียนเหนียนก็เร่งส่งเสียงผ่านพลังมากล่าวคำแสดงความยินดีกับต้วนหลิงเทียนทันที ขณะเดียวกันสายตาที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนของมันก็เปลี่ยนไปมาก
ต้องทราบด้วยว่า ก่อนหน้าที่มันเป็นมิตรกับต้วนหลิงเทียนนั้น เป็นเพราะอีกฝ่ายสนิทกับเชวียไห่ชวน ทว่าตอนนี้ศักยภาพของต้วนหลิงเทียนทำให้มันยอมรับนับถือต้วนหลิงเทียนจากใจ
หากมันไม่ล่วงรู้ความเป็นมาของต้วนหลิงเทียน มันก็ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าอีกฝ่ายจะเป็นแค่อัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่ยังมีอายุไม่ถึง 3,000 ปี!
“พี่เหยียนเหนียน ไม่ทราบว่าผู้ชนะเลิศในการแข่งขันมังกรซ่อนครั้งนี้ นอกจากโอสถเทพทะลวงราชันแล้ว จะได้ของรางวัลอะไรอีกบ้าง?”
ต้วนหลิงเทียนก็ส่งเสียงผ่านพลังไปถามตงฟางเหยียนเหนียนด้วยความอยากรู้ทันที
ตงฟางเหยียนเหนียนยกยิ้ม ก่อนจะส่งเสียงผ่านพลังตอบกลับไปว่า “ของรางวัลที่เจ้าจะได้เรียกว่าอื้อซ่าเชียวล่ะ เพราะนอกจากโอสถเทพทะลวงราชันแล้วยังมี…ฯลฯ”
ยิ่งตงฟางเหยียนเหนียนเอ่ยถึงของรางวัลที่จะได้รับมากเท่าไหร่ สองตาต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งลุกวาวจ้ามากขึ้นเท่านั้น เพราะทุกอย่างที่ตงฟางเหยียนเหนียนพูดออกมา นอกจากอุปกรณ์เทพขั้นสูงแล้ว เป็นอะไรที่เขากำลังต้องการอย่างเร่งด่วนจริงๆ
ทั้งหมดล้วนเป็นทรัพยากรบ่มเพาะอันมีค่า!
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไปเข้าใช้ห้องลับแห่งกฏของนิกายมังกรสวรรค์ได้อีก 1 ปีเต็มๆ!
ถึงแม้ว่าเวลาแค่ 1 ปีจะไม่ได้มากมายอะไร เทียบกับเวลาที่เขาแช่อยู่ในห้องลับแห่งกฏของตระกูลหลิงหู 3 ปีเต็มๆไม่ได้เลย…อย่างไรก็ตามห้องลับแห่งกฏของนิกายมังกรสวรรค์ มันสามารถช่วยเขาให้เข้าใจการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏได้ถึง 3 ประการ!
ในตระกูลหลิงหู นอกจากกฏเวลากับกฏมิติ ต้วนหลิงเทียนได้ใช้ห้องลับแห่งกฏจนเข้าใจการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏทุกอย่างที่เขามีจนบรรลุถึงการผสานรวมความลึกซึ้ง 2 ประการ 1 ชุดหมดสิ้นแล้ว…เช่นนั้นการได้รับโอกาสให้เข้าสู่ห้องลับแห่งกฏของนิกายมังกรสวรรค์ครั้งนี้ แม้จะเป็นแค่ 1 ปี แต่เขาเชื่อว่ามันจะช่วยให้เขาเข้าใจการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏ 3 ประการให้เขาได้อีกหลายกฏ!
‘ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่การทำความเข้าใจการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏ 3 ประการ กลายเป็นเรื่องง่ายแบบนี้?’
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังตื่นเต้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอ่อนใจเพราะเรื่องดังกล่าวอยู่บ้าง
‘หากข้าสามารถยกระดับความเข้าใจของกฏอีก 7 กฏนอกจากกฏเวลา ให้บรรลุถึงการผสานรวมความลึกซึ้ง 3 ประการชุดหนึ่งทั้งหมด จากนั้นก็ควบสร้างร่างอวตารของกฏทุกกฏออกมา ถึงตอนนั้นข้าจะแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน’
จังหวะนี้ ต้วนหลิงเทียนเริ่มตระหนักได้ว่า ถึงแม้ชนพื้นเมืองของระนาบเทพจะมีพลังสายเลือด แต่คุณค่าของมันก็ไม่อาจเทียบได้กับความสามารถในการควบสร้างร่างอวตารแห่งกฏของเขาเลย
ไม่เพียงแค่จะมีคุณค่าเทียบกันไม่ได้ หากมองกันในแง่คุณประโยชน์แล้วยังพ่ายแพ้ครั้งใหญ่อีกด้วย!
แต่เป็นธรรมดาว่าต้วนหลิงเทียนก็รู้ดีแก่ใจ ว่านี่เป็นเพราะฟ้ามอบความยุติธรรมให้กับทุกคน ถึงแม้คนของระนาบเทพจะเสียเปรียบในจุดนี้ แต่ในเรื่องอื่นๆนั้นความได้เปรียบของพวกมัน ไม่ใช่อะไรที่คนจากระนาบเทวโลกจะสู้ได้เลย
ไม่ต้องกล่าวใดให้มาก เอาแค่ในนิกายมังกรสวรรค์มีสักกี่คนที่ขึ้นมาจากระนาบเทวโลก?
หรือให้ถามอีกอย่าง ในระนาบเทพมีชนพื้นเมืองของระนาบเทพกี่คนที่ไม่มีพลังสายเลือด?
‘จะว่าไป การกลับชาติมาเกิดใหม่ของเค่อเอ๋อ ก็ถือได้ว่าเป็นวาสนาในคราวเคราะห์…เพราะร่างที่เกิดใหม่ของนาง ไร้สายเลือดของผู้แข็งแกร่งที่สุดไหลเวียนอยู่อีกต่อไป นางก็สามารถควบสร้างร่างอวตารแห่งกฏได้เช่นกัน’
พอนึกถึงเค่อเอ๋อขึ้นมา สองตาต้วนหลิงเทียนก็กลายเป็นเลื่อนลอยไปพักหนึ่ง
หลิงหูชูยิน จะใช่เค่อเอ๋อรึเปล่านะ?
พวกนางช่างคล้ายกันเหลือเกิน
อย่างไรก็ตามเว้นเสียแต่เขาจะได้ไปยืนอยู่ตรงหน้าหลิงหูชูยินเพื่อยืนยัน เขาก็ไม่กล้ายืนยันได้เต็ม 10 ส่วน ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่านางคล้ายเค่อเอ๋อมากแค่ไหนก็ตามที
‘ไม่ทราบป่านนี้เค่อเอ๋อเป็นอย่างไรบ้างแล้ว…’
ต้วนหลิงเทียนได้แต่ทอดถอนอยู่ในใจ
…
“ยินดีด้วยต้วนหลิงเทียน”
เมื่อการประลองระหว่างหัวเทียนตู้กับต้วนหลิงเทียนจบลง กล่าวได้ว่าการแข่งขันมังกรซ่อนครั้งนี้ก็ได้จบลงอย่างเป็นทางการ
ด้านหัวเทียนตู้เองแม้จะแพ้พ่าย แต่มันก็ยังแยกแยะได้ เช่นนั้นนอกจากจะยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว ยังกล่าวแสดงความยินดีกับต้วนหลิงเทียนออกมา “ข้าหวังว่าต่อไปในนิกายมังกรสวรรค์ ท่านจะดูแลข้าด้วย”
“นายน้อยก็ถ่อมตัวเกินไป”
ต้วนหลิงเทียนที่กลับมารู้สึกตัว ก็หันไปพยักหน้าให้หัวเทียนตู้พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ถึงแม้เขาจะไม่ได้สนิทสนมอะไรกับหัวเทียนตู้ แต่อีกฝ่ายก็สุภาพมาก เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่เพิกเฉยอีกฝ่าย นอกจากนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีเรื่องราวบาดหมางใดๆกับเขา
หากเปลี่ยนเป็นคู่พี่นองแซ่ตู้ อย่างตู้ปั้วจวินกับตู้เชียนจวิน เขาคงเลือกจะเมิน
หลังจากเอาชนะหัวเทียนตู้ได้ เสียงกล่าวคำแสดงความยินดีก็ถูกส่งมาหาต้วนหลิงเทียนติดๆกัน
ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่อาจตอบทุกคนได้ไหว เช่นนั้นเพียงหันไปมองคนรู้จักรอบๆและพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม และในขณะนั้นเองเขาก็ฉุกคิดถึงเรื่องที่มีคนกล่าวขู่เขาขึ้นมาอยู่บ้าง
“ผู้นำ ข้าคว้าอันดับ 1 ในการแข่งขันมังกรซ่อนมาได้แล้ว”
ต้วนหลิงเทียนส่งข้อความไปแจ้งเรื่องราวให้หลิงหูเหรินเจี๋ยทราบทันที ด้านหลิงหูเหรินเจี๋ยก็รีบตอบกลับมาเร็วไว “ข้ารู้แต่แรกแล้วว่าเจ้าต้องได้ที่ 1 แน่…ขอแสดงความยินดีกับเจ้าด้วย”
“ผู้นำ…ช่วงนี้ท่านต้องระวังตัวให้มาก”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวเสียงขรึม
“ฮ่าๆๆๆ…เจ้ายังกังวลเรื่องนี้อยู่อีกหรือ อย่าได้คิดมากเลย ต่อให้นั้นจะไม่ใช่คำขู่เลื่อนลอยแต่เป็นเรื่องจริง แต่คิดจะฆ่าข้า หลิงหูเหรินเจี๋ย ผู้นี้คาบ้าน มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะ!”
หลิงหูเหรินเจี๋ยหัวเราะร่า
ได้ยินเสียงหัวเราะร่าอย่างไร้ความกังวลของหลิงหูเหรินเจี๋ย ความกังวลในใจต้วนหลิงเทียนก็ลดน้อยลงไปมาก
“เจ้าหนู เจ้ารีบคืนกระบี่เทพขั้นสูงมาให้ข้าให้ไวเลย!”
ทันใดนั้นเอง หลิงหูเหิง ก็เหินร่างไปหาต้วนหลิงเทียนก่อนจะกล่าวทวงกระบี่เทพขั้นสูงออกมาเสียงดุ
ด้านต้วนหลิงเทียนก็หัวเราะขบขัน ค่อยยิ้มกล่าวว่า “อะไรกันผู้เฒ่าเหิง ไม่ใช่ท่านบอกข้าเองหรือว่าหากข้าชนะเลิศการแข่งขันมังกรซ่อนครั้งนี้ ท่านจะให้กระบี่เทพขั้นสูงข้าไปเลย?”
“เป็นข้าที่จำผิด หรือยังไงนะ?”
ต้วนหลิงเทียนยักคิ้ว พลางถามด้วยรอยยิ้มหยอกล้อ
“บ้าจริง ทั้งหมดเพราะข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้ามีกระบี่เทพขั้นสูงอยู่แล้ว!”
หลิงหูเหิงก็ได้แต่บ่นออกมาด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา จากนั้นก็โบกมือเบาๆ ปรากฏกระบี่ผุดขึ้นจากความว่างเล่มหนึ่ง เป็นกระบี่เทพขั้นสูงที่หลิงหูเหิงให้เขายืมใช้
กระบี่เทพขั้นสูงนั้น ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องที่เขามีอยู่ในแหวนหลายเล่มด้วยซ้ำ เอาแค่ตำแหน่งผู้ชนะเลิศของการแข่งขันมังกรซ่อนที่เขาพึ่งได้มา ในบรรดาของรางวัลก็มีอุปกรณ์เทพขั้นสูงให้เขาเลือกรวมอยู่ด้วย
ถึงตอนนั้นจะมีดจะดาบหรือกระบี่ ไม่เว้นอาวุธชนิดไหน เขาก็เลือกได้ตามใช้ชอบ
ทว่าพอเห็นต้วนหลิงเทียนควักกระบี่เทพขั้นสูงและส่งคืนมาจริงๆ หลิงหูเหิงก็ได้แต่ยืนอึ้งกระพริบตาปริบๆ “เจ้าหนู…ขาล้อเจ้าเล่นหรอกหน่า…”
“แพ้ก็คือแพ้”
“ข้าหลิงหูเหิงเมื่อเลือกจะเดิมพันแล้ว ไม่มีคำว่าเสียไม่จ่ายได้จะเอาแน่นอน!”
หลิงหูเหิงโบกมือไปมา และไม่ยอมรับกระบี่เทพขั้นสูงที่ต้วนหลิงเทียนส่งให้ อย่างไรก็ตามด้านต้วนหลิงเทียนเมื่อนำออกมาแล้ว เขาก็ไม่คิดจะรับกลับมาเช่นกัน
ทำให้จังหวะนี้หลิงหูเหิงคิดร่ำไห้ก็ไร้น้ำตา
มันอยากได้กระบี่เทพขั้นสูงคืนจริงๆที่ไหนกัน?
มันไม่ได้สนใจเลย!
ยิ่งไปกว่านั้น การที่มันมอบกระบี่เทพขั้นสูงให้ต้วนหลิงเทียน ก็เสมือนต้วนหลิงเทียนติดหนี้น้ำใจมัน แต่ไม่คิดเลยว่าเรื่องที่มันพูดออกมาเล่นๆ จะทำให้โอกาสทำให้ต้วนหลิงเทียนติดค้างหายไป
และพอมันมองต้วนหลิงเทียนให้ดี มันก็รู้ว่าอีกฝ่ายก็ตระหนักถึงจุดนี้เช่นกัน
จังหวะนี้หลิงหูเหิงอดรู้สึกเสมือนทุ่มหินทับเท้าตัวเองไม่ได้
“เจ้าหนู…มีอะไรไว้ค่อยคุยกัน ตอนนี้เจ้าเก็บกระบี่เทพขั้นสูงนี่ก่อนเถอะ”
หลิงหูเหิงยิ้มกล่าว เพราะจากศักยภาพที่ต้วนหลิงเทียนเผยออกมา วันหน้าอีกฝ่ายต้องประสบความสำเร็จเหนือกว่ามันแน่นอน กระบี่เทพขั้นสูงเล่มหนึ่ง ไหนเลยจะเทียบกับน้ำใจที่ต้วนหลิงเทียนติดค้างได้
อนิจจา ต้วนหลิงเทียนเลือกที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
ผู้เฒ่าคนนี้ ไฉนชั่วร้ายนักล่ะ!
เขาคืนของเพื่อให้ไม่มีอะไรติดค้างแล้ว แต่ยังคิดยัดเยียดของมาให้เขาติดหนี้น้ำใจอีกรึ?
ล้อกันเล่นรึไง!
ข้าไม่โง่หรอกนะ!
ขณะเดียวกัน หลิงหูเจิ้งซิงก็เข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับต้วนหลิงเทียนเช่นกัน แม้แต่หลิงหูฮวนที่ยังคงสงวนวาจาไว้เช่นเคยก็พยักหน้าให้เขา และบนใบหน้าที่ซูบตอบยังคลี่ยิ้มที่แลดูน่าเกลียดปานร้องไห้ออกมา
“ไปร่ำลาทั้งบอกผู้อาวุโสของพวกเจ้าให้เรียบร้อย และหลังจากวันนี้ไปผู้อาวุโสของพวกเจ้ามิอาจอยู่ในนิกายมังกรสวรรค์ได้อีก”
ทันใดนั้นเอง เสียงของหลันอวี่ซานอาวุโสมังกรดำแห่งนิกายมังกรสวรรค์ก็ดังขึ้นให้ทุกคนได้ยินกันชัดเจน “พรุ่งนี้เช้าจักมีคนไปรับพวกเจ้าถึงที่พักชั่วคราวของพวกเจ้า จากนั้นก็จะนำพาพวกเจ้าไปยังสถานที่พักที่พวกเจ้าจะใช้พักและบ่มเพาะในนิกายมังกรสวรรค์”
“สำหรับผู้ที่ได้ 100 อันดับแรกในการแข่งขันมังกรซ่อนครั้งนี้ รางวัลของเจ้าก็จะถูกผู้อาวุโสนำไปส่งมอบให้หลังจากนี้ไม่กี่วัน”
“เช่นนั้นไม่กี่วันหลังจากนี้ เป็นการดีที่สุดที่พวกเจ้าจะไม่ปิดด่านฝึกฝน หาไม่แล้วพวกเจ้าจักพลาดรับของรางวัล ถึงตอนนั้นนิกายก็ไม่เสียเวลาเอาไปส่งมอบให้พวกเจ้าอีกครั้ง”
พอหลันอวี่ซานกล่าวจบคำ มันก็เหินร่างนำตงฟางเหยียนเหนียน และผู้อาวุโสมังกรขาวอีกคนจากไปทันที และก่อนที่มันจะจากไปมันก็หันมามองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาลึกซึ้งครู่หนึ่ง
ด้านอาวุโสฝ่ายในของนิกายมังกรสวรรค์ที่ช่วยควบคุมกำกับการประลอง ก็เหินร่างจากไปเช่นกัน
ด้านอาวุโสและเหล่าศิษย์ฝ่ายในของนิกายมังกรสวรรค์ที่เข้ามาร่วมชมการแข่งขัน ก็เริ่มแยกย้ายกันกลับเช่นกัน เหลือไว้ก็แต่เหล่าศิษย์ฝ่ายในและฝ่ายนอกคนใหม่ของนิกายมังกรสวรรค์กับเหล่าผู้อาวุโสที่มาดูชม
ในเวลาเดียวกัน ก็มีผู้อาวุโสหลายคนที่พารุ่นเยาว์ของพวกมันเหินร่างเข้ามาหาต้วนหลิงเทียน “อาคันตุกะต้วน ต่อไปลูกชายข้าก็จะเป็นศิษย์น้องของท่านแล้ว หวังว่าท่านจักคอยดูแลมันสักนิด”
“คุณชายต้วน ข้ามีลูกสาวที่งดงามราวบุปผาคนหนึ่ง ท่านลองรับไว้พิจารณาดีหรือไม่?”
“อาคันตุกะต้วน…”
…
ขณะนี้ต้วนหลิงเทียนก็ถูกกลุ่มคนรายล้อม มองไปให้บรรยากาศเสมือนดาวล้อมเดือนอย่างไรไม่ทราบ เป็นที่สะดุดตาอย่างยิ่ง
และในมุมที่เขามองไม่เห็น ถังอู๋เยียน ศิษย์ฝ่ายนอกคนใหม่ของนิกายมังกรสวรรค์ก็ได้เหินร่างไปหาเฉียนหยิ่น ประมุขนิกายหมอกเร้นลับ พลางกล่าวกับเฉียนหยิ่นว่า “ท่านประมุขข้าขออภัยด้วย…แต่ข้าอยากกลับไปนิกายหมอกเร้นลับกับท่าน”
“ต้วนหลิงเทียน”
แม่นาง 7 ของหุบเขาหมื่นบุปผาที่ไม่ทราบมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็เอ่ยกับต้วนหลิงเทียนออกมาว่า “ตอนนี้ในเมื่อจบเรื่องแล้ว เจ้าช่วยพาข้าไปพบเชวียไห่ชวนได้หรือไม่?”
“ได้สิ”
ต้วนหลิงเทียนที่กำลังลำบากใจที่ถูกผู้คนรายล้อม และกำลังคิดจะหาข้ออ้างเพื่อชิ่งหนีพอเห็นแม่นาง 7 มาทัก เขาก็เสมือนพบทางรอดสายหนึ่ง จึงรีบหนีไปทันที “มากับข้า”
กล่าวจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็เหินร่างนำลิ่วออกไปพร้อมแม่นาง 7 ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมกล่าวลาหลิงหูเจิ้งซิง และคู่แฝดเหิงฮวน
“ติงเหยียน…เจ้าว่า แม่นาง 7 นั่นคงไม่ใช่แอบปลื้มเจ้าต้วนมันอยู่หรอกนะ?”
โหวชิ่งหนิงกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
ด้านติงเหยียนเองก็หันไปมองถามด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย “ทำไมเล่า เจ้าอิจฉารึ?”
ด้านมู่หรงอวิ๋นเยว่เองก็มองจ้องมายังโหวชิ่งหนิงเพื่อรอฟังคำตอบด้วยสายตาดุร้าย ทำให้โหวชิ่งหนิงได้แต่รีบถอนสายตาออกมาจากแผ่นหลังแม่นาง 7 ด้วยท่าทีร้อนตัว “อิจฉากับผีสิ ข้าแค่ถามไปอย่างงั้นเอง!”
ในเวลาเดียวกัน
ข่าวเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนเป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขันมังกรซ่อนครั้งนี้ก็กวาดผ่านทั่วนิกายมังกรสวรรค์ราวพายุ
อาจมีคนไม่มากนักที่มาร่วมชมการแข่งขันมังกรซ่อน
อย่างไรก็ตาม มีไม่น้อยเลยที่ติดตามรับฟังผลการแข่งขันมังกรซ่อน และหลาๆคนก็กำลังรอฟังบทสรุป
พอผลการแข่งขันมังกรซ่อนออกมา ก็ทำให้หลายๆคนอดตกตะลึงไปไม่ได้
“ต้วนหลิงเทียน ผู้ชนะเลิศครั้งนี้ยังมีอายุไม่ถึง 3,000 ปีรึ!?”
“ต้วนหลิงเทียน อายุไม่ถึง 3,000 ปี ด่านพลังราชาเทพขั้นกลาง ควบสร้างร่างอวตารกฏมิติ ใช้การผสานรวมความลึกซึ้งของกฏมิติ 3 ประการ 2 ชุดได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังเข้าใจมรรคากระบี่ถึงพื้นฐาน?”
“หัวเทียนตู้ ที่มีอายุเกือบ 8,000 ปี แม้จะเป็นราชาเทพขั้นสูงและอาศัยพลังสายเลือด ทำได้แค่ยันเสมอกับต้วนหลิงเทียนจนพลังสายเลือดหมดลง จากนั้นก็แพ้ต้วนหลิงเทียนไปใน 2 กระบี่? ความแข็งแกร่งที่หัวเทียนตู้เผยออกยังไม่ด้อยไปกว่าหยางเชียนเย่ อัจฉริยะอันดับ 1 ของนิกายหมื่นปีศาจคนนั้น?”
“ให้ตายเถอะ เด็กน้อย 2 คนนี้…ข้าเกรงว่าอีกไม่นานคงมีขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพชั้นแนวหน้ามาหาแน่!”
…
ไม่ว่าจะเป็นต้วนหลิงเทียนหรือหัวเทียนตู้ ก็ได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนในนิกายมังกรสวรรค์ทันที
ขณะเดียวกัน ด้านตระกูลหลิงหูก็มีหายนะหนึ่งกกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้
กล่าวให้ชัดคือ เป็นหายนะที่กำลังคืบคล้านเข้าใกล้หลิงหูเหรินเจี๋ย อดีตผู้นำตระกูลหลิงหู!