‘มีผลชิงกั่วรึ!?’
‘หญ้าคล้อยฝันก็มี’
‘ให้ตายเถอะ กระทั่งดอกกล้วยไม้หยกก็มีให้แลก!’
…
หลังมีคะแนนอุทิศในป้ายถึง 40,000 แต้ม ต้วนหลิงเทียนก็เดินมายังส่วนแลกเปลี่ยนคะแนนอุทิศของตำหนักกิจการฝ่ายในด้วยความมั่นใจ และพอเห็นรายการสิ่งของที่เขาสามารถแลกเปลี่ยนได้ สองตาเขาก็ลุกวาวขึ้นมาเจิดจ้านัก
สมุนไพรเหล่านั้น แม้ในอดีตทางตระกูลหลิงหูจะช่วยหาซื้อให้เขาแล้ว แต่ก็หามาไม่ได้ เพราะพวกมันหายากเกินไป แต่ละครั้งที่ปรากฏขึ้น ไม่ทันไรก็มีคนเหมาไปหมดสิ้น
เนื้องเพราะสมุนไพรเหล่านี้เป็นสมุนไพรหลักที่ใช้ในการหลอมโอสถเทพที่ช่วยส่งเสริมการบ่มเพาะให้ตัวตนขอบเขตราชาเทพ กล่าวได้ว่ามูลค่าของมันสูงนักถือได้ว่าเป็นสกุลเงินที่มีค่าแข็งก็ว่าได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีคนต้องการ
นอกจากนั้นต้วนหลิงเทียนยังเห็นโอสถเทพสำเร็จรูปที่ใช้สมุนไพรหายากเหล่านั้นหลอมขึ้นมาอีกด้วย เพียงแต่ราคาโอสถเทพสำเร็จรูปที่หลอมออกมาแล้ว มันมีราคาสูงกว่าวัตถุดิบสมุนไพรจมหู
เรียกว่าแพงกว่าราคาสมุนไพรหลายเท่า!
จุดนี้ต้วนหลิงเทียนก็เข้าใจได้ เพราะโอสถเทพเหล่านี้เป็นโอสถเทพระดับราชาและจอมราชันที่หลอมได้ยากยิ่ง แม้จะมีสมุนไพร แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะหลอมมันออกมาเป็นเม็ดยาได้
นอกจากนั้น จำนวนชุดสมุนไพรกับเม็ดยาที่จะหลอมได้ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการหลอมโอสถเทพล้วนๆ
แน่นอนว่าสำหรับต้วนหลิงเทียนแล้ว การซื้อหาสมุนไพรมาหลอมเป็นเม็ดยาเองจะคุ้มค่ากว่ากันมาก เอาคะแนนอุทิศไปแลกเม็ดยาโดยตรง สำหรับเขาแล้วนั่นคือการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
สำหรับโอสถเทพระดับราชานั้น เขามั่นใจมากว่าสามารถหลอมมันออกมาให้เป็นขั้นสุดยอดได้แน่นอน และความคุ้มค่าในการแลกเปลี่ยนสมุนไพรมาหลอมเองกับซื้อโอสถเทพสำเร็จรูป มันเหนือกว่าคนอื่นๆหลายเท่าตัว
‘ดูเหมือนด้วยสมุนไพรที่ข้าหาซื้อได้ในนิกายมังกรสวรรค์เหล่านี้ อีกไม่นานข้าต้องทะลวงถึงราชาเทพขั้นสูงได้แน่นอน…กระทั่งขอบเขตจอมราชันเทพก็อยู่ไม่ไกลแล้ว!’
ยิ่งมาสองตาต้วนหลิงเทียนยิ่งเปล่งแสงจ้า
จากนั้น ต้วนหลิงเทียนก็ไม่รอช้า เร่งแลกเปลี่ยนสมุนไพรที่จำเป็นต้องใช้ในการหลอมยาทันที คะแนนอุทิศ 40,000 แต้มนั้นไม่ได้มากแต่มันก็ไม่ได้น้อย หลังผ่านการแลกสมุนไพรอย่างบ้าคลั่ง ไม่นานนักก็หมดลง
“ผู้อาวุโสท่านนี้ ลูกค้ารายใหญ่อย่างข้าปกติแล้วต้องมีส่วนลดบ้างอะไรบ้างไม่ใช่หรือ? หรือไม่ท่านก็ขายสมุนไพรบางอย่างให้ข้าในราคาส่งของนิกายดีไหม?”
หลังจากจับจ่ายคะแนนอุทิศมือเติบ และเก็บสมุนไพรทั้งหลายลงแหวนพื้นที่แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็มองอาวุโสของตำหนักกิจการฝ่ายในที่ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนสิ่งของกับคะแนนอุทิศด้วยด้วยสายตาใสซื่อ เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มสดใส
ด้านอาวุโสฝ่ายในที่ทำหน้าที่ พอได้ยินคำพูดทั้งเห็นแววตาของต้วนหลิงเทียน ก็ได้แต่คลี่ยิ้มแหยๆออกมา “ต้วนหลิงเทียนเจ้ามาส่งสายตาทั้งกล่าวอ้อนข้าแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก…เรื่องนี้ไม่ใช่อะไรที่ข้าจักสามารถตัดสินใจได้”
“หากข้าทำธุรกิจด้านนอก เจอลูกค้ารายใหญ่เช่นเจ้า ข้าต้องมีส่วนลดดีๆทั้งขายให้เจ้าในราคาพิเศษแน่นอน…แต่นี่เป็นของนิกาย มันไม่ใช่ของๆข้า ข้าไม่มีอำนาจกำหนดราคาหรอก”
ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้แปลกใจกับคำตอบของอีกฝ่ายมากนัก เพราะเขาคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้แน่นอน แค่ถามไปเพื่อฟลุคเท่านั้น
เพราะถ้าเกิดมันมีส่วนลดอะไรขึ้นมาจริงๆ วันหน้าเขาจะได้เก็บคะแนนอุทิศให้มากๆแล้วมาแลกเปลี่ยนทีเดียว
“เสี่ยวเทียน”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังจะออกจากตำหนักกิจการฝ่ายในและกลับไปยังบ้านพัก เขาก็ได้รับข้อความจากตงฟางเหยียนเหนียน “ตอนนี้เจ้ายังอยู่ที่ตำหนักกิจการฝ่ายในหรือไม่?”
“พี่เหยียนเหนียน?”
ต้วนหลิงเทียนชะงักไปครู่หนึ่งค่อยส่งข้อความไปถามว่า “ใช่ ข้ากำลังจะกลับพอดี พี่เหยียนเหนียนท่านมีอะไรหรือ”
“ไม่อะไรหรอก ก็เรื่องเม็ดยาของเจ้านั่นล่ะ”
ตงฟางเหยียนเหนียนไม่รอช้า กล่าวเข้าเรื่องทันที “โอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดที่เหลืออยู่ 6 เม็ดของเจ้า ช่วยเก็บไว้ให้ข้า 3 เม็ดเถอะ ข้าจะซื้อมันในราคาที่เจ้าขายก่อนหน้า เม็ดละ 10,000 คะแนนอุทิศ”
ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มแห้งๆ “พี่เหยียนเหนียนท่านเกรงใจไปแล้ว หากท่านต้องการข้าเอาให้ท่านเปล่าๆเลยก็ได้”
“ไม่ๆ! ถึงพวกเราจะเป็นเพื่อนกัน แต่สุดท้ายพี่น้องยังต้องลงบัญชีให้ชัดเจน เจ้าเพียงเก็บไว้ขายให้ข้า 3 เม็ดก็พอ…เพราถ้าข้าเดาไม่ผิด อีกสักพักเจ้าคงโดนคนไปกลุ้มรุมขอซื้อโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดแน่”
แทบจะพร้อมๆกันกับที่เสียงข้อความของตงฟางเหยียนเหนียนดังจบคำ ก็มีเสียงดังขึ้นเข้าหูต้วนหลิงเทียน “นั่นไง! ต้วนหลิงเทียนยืนอยู่ตรงนู้น!”
“ต้วนหลิงเทียน ช่วยขายโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดให้ข้าหน่อยเถอะ!”
“ต้วนหลิงเทียน…”
…
ไม่ทันที่ต้วนหลิงเทียนจะได้ตอบข้อความตงฟางเหยียนเหนียน พริบตาเดียวก็มีคนพุ่งมาห้อมล้อมเขาเอาไว้
คนเหล่านี้โดยปกติแล้วล้วนเป็นชนชั้นผู้อาวุโสฝ่ายในของนิกายมังกรสวรรค์ กระทั่งในบรรดากลุ่มคนยังมีอาวุโสมังกรขาวอีก 2 คน และไม่ว่าใครก็มาเพื่อโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดทั้งนั้น
ด้วยมีคนต้องการโอสถเทพคลี่คลายชีพจรเป็นจำนวนมากแบบนี้ ต้วนหลิงเทียนก็ถึงกับปวดหัวอยู่บ้าง
ถึงแม้เขาจะคาดเดาไว้แล้ว ว่าไม่พ้นต้องมีคนมาขอซื้อโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดที่เหลืออยู่ของเขาถึงที่แน่ๆ แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาหาเขามากมายขนาดนี้ และไม่ว่าใครก็มองจ้องเขาด้วยสายตาร้อนแรง ราวกับหมาป่าหิวโหยพบเจอเหยื่ออันโอชะ
“ขอให้ผู้อาวุโสทุกท่านโปรดใจเย็นก่อน”
เผชิญกับการเร้าหรือของอาวุโสทั้งหลาย ต้วนหลิงเทียนยกมือขึ้นพลางกล่าวออกมาเสียงดังฟังชัด “ตอนนี้โอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดในมือข้าทั้ง 6 เม็ด มีคนติดต่อมาขอซื้อไปแล้ว 3 เม็ด…เช่นนั้นตอนนี้ข้าจึงเหลือโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดไว้ขายอีกแค่ 3 เม็ดเท่านั้น”
“พวกท่านตกลงกันก่อนเถอะ ว่าผู้ใดจะรับโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดทั้ง 3 เม็ดนี้ไปก่อน”
ต้วนหลิงเทียนกล่าว “สำหรับราคา ก็ยังเป็นคะแนนอุทิศ 10,000 แต้มต่อเม็ดเหมือนเดิม”
หากคนเหล่านี้สามารถตกลงกันได้ ย่อมเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับต้วนหลิงเทียน
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวมักเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเกินควบคุมเสมอ
เพราะแทบจะทันทีที่เขากล่าวจบคำ ก็มีคนโพล่งออกมาว่า “ต้วนหลิงเทียน ข้าเสนอคะแนนอุทิศ 12,000 แต้มต่อโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอด 1 เม็ด เจ้าขายให้ข้าเถอะ!”
แต่วินาทีต่อมา ก็มีคนโพล่งเสียงดังว่า “โอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดทั้ง 3 เม็ดนั่น ขายให้ข้าหมดเลยเถอะ ข้าให้เม็ดละ 15,000 คะแนนอุทิศเลย!!”
“ข้าให้ 50,000 คะแนนอุทิศสำหรับโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดทั้ง 3!”
…
กลุ่มคนทั้งหลายคล้ายคุ้มคลั่งไปแล้วก็ไม่ปาน พริบตาเดียวราคาของโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอด 3 เม็ดก็พุ่งไปแตะ 100,000 คะแนนอุทิศเข้าไปแล้ว!
“บ้าไปแล้ว! โอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดแต่ 3 เม็ด แต่พวกขอซื้อกัน 100,000 แต้มคะแนนอุทิศเชียวรึ!?”
ตงฟางเหยียนเหนียนที่พึ่งมาถึง พอได้ยินราราเสนอซื้อที่อาวุโสมังกรขาวกล่าวบอกต้วนหลิงเทียน มันก็ถึงกับตกใจ เพราะตอนนี้ราคาเม็ดยาทั้ง 3 มันพุ่งไปถึง 100,000 คะแนนอุทิศแล้ว “เสี่ยวแทน ทั้งเนื้อทั้งตัวข้ามีคะแนนอุทิศแค่ 70,000 แต้มเท่านั้น…ข้าติดเจ้าไว้ก่อน หรือจะให้ข้าจ่ายเจ้าด้วยอย่างอื่นดีหรือไม่?”
ราคาที่ผู้คนเสนอกันในปัจจุบัน ทำให้ตงฟางเหยียนเหนียนรู้สึกหน้าม้านขึ้นมาด้วยความละอาย
ด้านหนึ่งมันก็ไม่อยากเอาเปรียบต้วนหลิงเทียน แต่อีกด้านมันก็ไม่ได้มีคะแนนอุทิศมากมายอะไร
“พี่เหยียนเหนียนท่านพูดเรื่องอะไรของท่านกัน คนพวกนี้แค่เลอะเลือนกันไปเอง ข้ายังไม่ได้ตอบตกลงอะไรสักคำเลย”
ต้วนหลิงเทียนตอบมาก็เหมือนไม่ได้ตอบ
ทันใดนั้นเอง หลังจากอาวุโสมังกรขาว 1 ใน 2 คนเสนอราคา 110,000 คะแนนอุทิศออกมา เสียงกลุ่มคนก็เงียบไป และเมื่อ ‘การประมูล’ ที่เกิดขึ้นอย่างงงๆสิ้นสุดลง ต้วนหลิงเทียนที่ในที่สุดก็มีโอกาสพูดแล้ว ก็เร่งกล่าวออกมาเสียงดังฟังชัดว่า “อาวุโสทุกท่าน โอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดที่ข้ามี ข้ารู้ว่าพวกท่านจำเป็นต้องใช่เพราะศึกจักรพรรดิ…อย่างไรก็ตามข้าไม่มีโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดมากพอ จะขายให้ทุกท่านในตอนนี้”
“อย่างไรก็ตาม ข้าไม่ได้ตั้งใจให้พวกท่านมาแย่งกันประมูลมัน”
“โอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอด ที่อาวุโสมังกรขาวท่านนี้กล่าวเสนอราคาออกมาสูงสุด ข้ายังคงจะขายมันในราคาเม็ดละ 10,000 คะแนนอุทิศตามเดิม…สำหรับผู้อาวุโสท่านอื่นๆ ข้าสามารถหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดให้พวกท่านได้ เพียงแค่ข้าจะเก็บ ‘ค่าธรรมเนียม’ ในการหลอม”
“ค่าธรรมเนียมที่ว่า พวกท่านสามารถเลือกจ่ายเป็นคะแนนอุทิศ 10,000 แต้มเหมือนเดิมได้เลย หรือนำสมุนไพรที่ข้าจะบอกในภายหลัง…และก่อนที่ข้าจะออกจากตำหนักกิจการฝ่ายในวันนี้ ข้าจะจดรายชื่อสมุนไพรที่ข้าต้องการไว้ให้พวกท่าน”
“แน่นอนว่าหากพวกท่านใช้สมุนไพรเป็นค่าธรรมเนียม พวกท่านจะประหยัดคะแนนอุทิศได้มากกว่า”
…
หลังจากนั้น ต้วนหลิงเทียนก็แบ่งโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดทั้ง 6 เม็ดให้ตงฟางเหยียนเหนียน กับอาวุโสมังกรขาวที่กล่าวเสนอราคาสูงสุดก่อนหน้าคนละ 3 เม็ด พอได้รับคะแนนอุทิศ 60,000 แต้มมาแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็นำกระดาษกับพู่กันออกมาเขียนชื่อสมุนไพรลงไปหลายชนิด
รายชื่อสมุนไพรที่ต้วนหลิงเทียนเขียนไว้ บางอย่างก็ไม่มีในตำหนักกิจการฝ่ายใน
บางอย่างตำหนักกิจการฝ่ายในมี แต่พึ่งถูกแลกออกไปหมด
สมุนไพรบางชนิด น้อยนักที่จะปรากฏในตำหนักกิจการฝ่ายใน
“ต้วนหลิงเทียน”
หลังจากดูรายชื่อสมุนไพรที่ต้วนหลิงเทียนจดมา อาวุโสฝ่ายในคนหนึ่งก็ยกนิ้วให้ต้วนหลิงเทียน “นี่นับเป็นครั้งแรกเลยที่ข้ารู้สึกนับถือศิษย์ฝ่ายในคนหนึ่ง…เห็นได้ชัดว่าเจ้ามีโอกาสได้รับคะแนนอุทิศมากมาย แต่เจ้ากลับเลือกจะสละคะแนนอุทิศจำนวนมากที่พวกเรามอบให้ ในอนาคตยามเจ้าเติบโตไป ถึงวันที่เจ้าสามารถแข่งขันชิงตำแหน่งประมุขได้ ข้าคนนึงล่ะที่จะเป็นคนสนับสนุนเจ้า!”
“ผู้อาวุโสท่านนี้ ท่านกล่าวชมข้าเกินไปแล้ว ข้าแค่รู้สึกว่าในเมื่อศึกจักรพรรดิมันใกล้จะมาถึงแล้วแบบนี้ ข้าในฐานะศิษย์ของนิกายคนหนึ่ง ไหนเลยจะปล้นชิงบ้านผู้อื่นยามไฟไหม้ได้…”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส “ข้าเพียงหวังว่าอาวุโสทุกท่านจะเข้าร่วมรบในศึกจักรพรรดิด้วยสภาพสมบูรณ์พร้อมที่สุด และกลับออกมาจากสนามรบศึกจักรพรรดิได้อย่างปลอดภัย”
จังหวะนี้สายตาที่เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสของนิกายมังกรสวรรค์ใช้มองต้วนหลิงเทียนพลันเปลี่ยนไป ประกายเลื่อมไสวาบขึ้นระยับ
เรียกว่าพฤติกรรมเปิดเผยจริงใจของต้วนหลิงเทียน ได้แตะหัวใจของทุกคนโดยสมบูรณ์
“ในอดีตข้าเคยได้ยินมาว่าต้วนหลิงเทียนคนนี้มีพรสวรรค์และความเข้าใจท้าทายสวรรค์ ข้านึกว่าเป็นแค่รุ่นเยาว์ที่โชคดีคนหนึ่ง…วันนี้พอได้พบเห็นคนตัวเป็นๆ ข้ากลับรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนเป็นอัจฉริยะเช่นนี้มันสมควรแล้ว”
“บางทีอาจเป็นเพราะจิตใจเสียสละไร้ความเห็นแก่ตัวของต้วนหลิงเทียน จึงส่งผลให้เส้นทางในการฝึกฝนบ่มเพาะราบรื่น สามารถทะลวงถึงราชาเทพขั้นกลางได้ตั้งแต่ยังเยาว์”
“ต้วนหลิงเทียน ด้วยวาจาของเจ้า ต่อไปวันหน้าหากเจ้ามีปัญหาอะไรในนิกายมังกรสวรรค์ ขอเพียงเป็นเรื่องที่ข้าช่วยได้ ข้ายินดีช่วยเจ้าเต็มกำลัง!”
…
ฟังจากคำพูดของผู้คนที่อยู่รอบๆแล้ว เห็นชัดว่ายกย่องต้วนหลิงเทียนไม่ขาดปาก ทำให้ต้วนหลิงเทียนที่ผ่านอะไรในชีวิตมามาก ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง แก้มยังร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อย
เสียสละ ไม่เห็นแก่ตัว?
เขาลองถามตัวเองดูก็ตอบได้ทันที ว่าคำเหล่านั้นเขาไม่อาจรับได้
หากไม่ใช่เพราะศึกจักรพรรดิกำลังใกล้เข้ามา และโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดส่งผลต่อความเป็นความตายของเหล่าศิษย์และอาวุโสนิกายมังกรสวรรค์ เขาเองก็คิดจะหากำไรให้ได้มากที่สุด เพื่อรับผลประโยชน์ให้มากเท่าที่ทำได้
กระทั่งต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าคำพูดไม่กี่คำที่เขากล่าวในตำหนักกิจการฝ่ายในวันนี้ จะทำให้ระดับสูงต่ำทั้งหลายในนิกายมังกรสวรรค์ถึงกับยกย่อง และมองเขาเป็นวาที่ประมุขในอนาคต ซึ่งคำพูดดังกล่าวค่อนข้างละเอียดอ่อนและอาจสร้างปัญหาให้เขาได้
ต้วนหลิงเทียนยังกังวลอยู่เลย ว่ารองประมุขแซ่เซวียของนิกายมังกรสวรรค์ อาจมาสร้างปัญหาให้เขาด้วยข้ออ้างดังกล่าว
โชคดีที่ไม่มา
แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนก็รู้ดีแก่ใจ ว่าการกระทำของเขา คงทำให้เหล่ารองประมุขนิกายทั้งหลายยกย่องกันแทบไม่ทัน รองประมุขแซ่เซวียคิดจะสร้างปัญหาให้เขาเวลานี้ ก็ไม่ต่างอะไรจากตัวโง่งม
สุดท้ายแล้วสิ่งที่เขาทำ มันก็เป็นประโยชน์กับนิกายมังกรสวรรค์
สำหรับนิกายมังกรสวรรค์แล้ว การทำ ‘ความดี’ ของเขาในวันนี้ อาจเปลี่ยนโชคชะตาของใครหลายๆคนที่อาจต้องตายในศึกจักรพรรดิได้
‘ข้าบอกหัวเทียนตู้ไปส่งๆ ว่าไม่แน่หลังจากนี้ 5 ปีข้าอาจทะลวงถึงจอมราชันเทพได้…เดิมทีก็แค่พูดไปเฉยๆหรอก แต่ตอนนี้ดูแล้วอาจเป็นไปได้จริงๆ’
เนื่องจากผู้อาวุโสมังกรสวรรค์หลายคนได้เลือกจ่ายค่าธรรมเนียมการหลอมให้เขาเป็นสมุนไพรที่เขาต้องการ และมันไม่มีขายในตำหนักกิจการฝ่ายใน ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกว่าเรื่องจะทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพในเวลา 5 ปีไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
เพราะสมุนไพรเหล่านั้นก็คือสมุนไพรสำหรับหลอมโอสถเทพระดับราชา ที่สามารถส่งเสริมการบ่มเพาะให้ตัวตนขอบเขตราชาเทพ