ต้วนหลิงเทียนไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้อาจารย์เขาได้ออกจากนรกอสุรา 1 ใน 7 สถานที่ต้องห้ามของระนาบเทวโลก และย้ย้อนกลับมาจี้เมี่ยเทียน รวมถึงหวนกลับมาปกครองจี้เมี่ยเทียนอีกครั้ง
และเขายิ่งไม่รู้ว่าอาจารย์นั้นทาเพื่อเขาไม่น้อย ความสูญเสียที่เขาพบเจอในอดีต วิหารเฟิงฮ่าวได้ชดใช้ไปแล้วอย่างสาหัส สาขาหลักถูกถล่มจนไม่เหลือชิ้นดี ผู้คนยังตกตายแทบหมดสิ้น
แม้แต่หวู่หงชิง จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลัก็กทำได้แค่หนีเอาตัวรอด ทิ้งไว้แค่ร่างอวตารกฏ 2 ร่างเพื่อรอรับหน้าฟงชิงหยางเท่านั้น
ในปัจจุบันต้วนหลิงเทียนก็ได้อุทิศตนไปกับการทำความเข้าใจกฏมิติ และกฏมิติเองก็มีความก้าวหน้าที่กขณะ
‘ความก้าวหน้าในกฏมิติ มันจะยกระดับวิถีควบคุมด้วย…ยิ่งข้าเข้าใจกฏมิติลึกซึ้งมากเท่าไหร่ ตอนใช้วิถีควบคุมออกมามันก็จะทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น’
‘แต่ความก้าวหน้าของวิถีควบคุมที่ว่า…หากดูจากระดับพลังตอนนี้ เกรงว่ายังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะก้าวหน้าไปอีกระดับ’
ครั้งยังอยู่ในระนาบเทวโลก ก่อนเดินทางมาระนาบเทพ ต้วนหลิงเทียนก็ได้รู้แล้วว่าจตุรวิถีแห่งสวรรค์และโลกนั้น ได้แบ่งระดับความสำเร็จออกเป็นหลายระดับ
อย่างขั้นเบื้องต้นั้นนถือเป็นความสำเร็จระดับแรก และก่อนจะบรรลุถึงขั้นเบื้องต้นั้นนก็คือขั้นพื้นฐาน หร่อแร่กเห็นธรณีประตู
มรรคากระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนใช้ให้ผู้คนในระนาบเทพเห็น ก็มีแค่ขั้นพื้นฐาน หร่อแร่กเห็นธรณีประตูเท่านั้น จนถึงตอนนี้คนที่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนได้เชี่ยวชาญวิถีสวรรค์และโลกแล้วจริง ๆ ก็มีแค่น้อยคนั้นน และต้วนหลิงเทียนก็เปิดเผยให้เห็นแค่ขั้นเบื้องต้นอีกด้วย
หลังจากเบื้องต้น ก็จะเป็นความสำเร็จระดับ 2
ในระดับนี้ 4 จตุรวิถีแห่งสวรรค์และโลกจะถูกขับเคลื่อนใช้งานไม่ต่างอาวุธ
ต่อมาเป็นความสำเร็จระดับ 3 เมื่อบรรลุถึงขอบเขตนี้ ท่วงท่าสภาวะ ขยับมือก้าวเท่า ล้วนสะท้อนให้เห็นวิถีสวรรค์และโลกดั่งเงา ใช้ออกได้ตามอำเภอใจ
และฟงชิงหยางก็อยู่ในขั้นที่ 3
สำหรับต้วนหลิงเทียนั้นน ไม่ว่าจะมรรคากระบี่มิติหรือวิถีควบคุม ก็มีความสำเร็จอยู่ในขอบเขตที่ 2 ซึ่งได้หยุดค้างในขอบเขตนี้มานานแล้ว ตั้งแต่มาถึงระนาบเทพก็ยังไม่ก้าวหน้าเลย
หนึ่งเพราะไร้เงื่อนงา ส่วนอีกอย่างก็เพราะการยกระดับความสำเร็จของจตุรวิถีสวรรค์และโลกมันไม่ง่ายเลย
สำหรับความสำเร็จขอบเขตที่ 3 ฟังจากที่อาจารย์เขาฟงชิงหยางกล่าวไว้ จะต้องมีความสำเร็จอีกขอบเขตอยู่อีกแน่นอน และอาจารย์เขาฟงชิงหยางก็ได้แตะธรณีประตูของขอบเขตถัดไปแล้ว
เพราะตอนแรกขอบเขตความเข้าใจของต้วนหลิงเทียนยังต่ำเกินไป ฟงชิงหยางก็เลยไม่ได้อธิบายมากไปกว่านี้
‘หากการผสานรวมความลึกซึ้งนี่ได้สำเร็จ ความเข้าใจในกฏของข้าก็จะไม่อ่อนแอไปกว่าอาวุโสมังกรขาวของนิกายมังกรสวรรค์อีกต่อไป…และยังถือว่าสูงกว่าอาวุโสมังกรขาวที่มีความเข้าใจในกฏอ่อนแออีกด้วย’
ตระหนักได้ถึงจุดนี้ ต้วนหลิงเทียนก็ยังคงอุทิศตัวเพื่อทำความเข้าใจกฏมิติต่อ
…
ฤดูใบไม้ผลิผ่านไป ฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน
จากนั้นฤดูใบไม้ผลิก็หวนกลับมาอีกครั้ง แล้วก็ล่วงเลยเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงอีกรอบ
พริบตาเดียว วันเวลาก็ได้ล่วงเลยไปอีก 2 ปี
ศึกจักรพรรดิระหว่างนิกายมังกรสวรรค์กับนิกายมหาเอกะยังคงดำเนินต่อไป
และเหมือนเดิม สนามรบราชาเทพเป็นสนามรบที่เดือดระอุที่สุด ราชาเทพตกตายกันไม่หยุด ไม่ว่าจะขั้นต่ำหรือขั้นสูง
ส่วนสนามรบจอมราชาเทพนั้น หลังจากต้วนหลิงเทียนกลับออกมาก็มีจอมราชันเทพขั้นต่ำตกตายเพิ่มไม่กี่คน และผู้ที่ตายก็มีทั้งนิกายมังกรสวรรค์และนิกายมหาเอกะ
“ซีเหม็นหลงเซี่ยง!”
ภายในเมืองมหาเอกะ บริเวณทางเข้าสนามรบจอมราชันเทพ ผู้คนมากมายกำลังกล่าวคาทักทายชายหนุ่มชุดขาวที่กำลังเดินไปยังทางเข้าสนามรบจอมราชันเทพอย่างไม่รีบไม่ร้อน
“ใช้ ข้าเห็นศิษย์พี่เดินไปทางนั้นจริง ๆ ไม่ทราบทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพแล้วหรืออย่างไร…หืม ? ยืนยันว่าทะลวงผ่านแล้วจริง ๆ รึ?”
“พึ่งจะทะลวงผ่าน ก็จะเข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพเลย นี่ใช้เอาอย่างต้วนหลิงเทียนของนิกายมังกรสวรรค์หรือไม่ ?”
“เหอะ! ศิษย์พี่ซีเหม็นหลงเซี่ยงเป็นอัจฉริยะไร้ค่เปรียบของนิกายมหาเอกะเรา ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นมีันจะมาเทียบกับศิษย์พี่ได้อย่างไรกัน ?”
“เจ้าว่า…การเข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพครั้งแรกของศิษย์พี่ซีเหม็นหลงเซี่ยง จะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาหรือไม่ ?”
…
ท่ามกลางสายตาที่มองจ้องด้วยความสนใจของผู้คน ซีเหม็นหลงเซี่ยง ศิษย์ของนิกายมหาเอกะ ผู้ซึ่งเคยเข่นฆ่าศิษย์ขอบเขตราชาเทพของนิกายมังกรสวรรค์ไปมากมายตอนเข้าสู่สนามรบราชาเทพ วันนี้ได้เข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพเรียบร้อยแล้ว
และไม่นานนัก ข่าวเรื่องราวกแพร่กระจายมาถึงนิกายมังกรสวรรค์
“ซีเหม็นหลงเซี่ยงทะลวงผ่านแล้ว ?”
“ทันทีที่มันทะลวงผ่าน มันก็เข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพเลย ? นี่ใช้คิดจะ ‘งัด’ กับต้วนหลิงเทียนของพวกเรารึเปล่า ?”
“มันน่ะรึจะมางัด กับศิษย์ต้วน ? เจ้าประเมินมันสูงไปแล้ว อาศัยมันยังมีคุณสมบัติอันใดจะมางัดกับศิษย์พี่ต้วนของพวกเราได้ ? ศิษย์
พี่ต้วนเราเข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพครั้งแรก ก็ฆ่าอาวุโสฝ่ายในขอบเขตจอมราชันเทพขั้นกลางเลยเชียวนะ!!”
“ใช้! ถึงแม้เรื่องนี้อาจมีโชคเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่พวกเราที่ฝึกปรือกันมาถึงจุดนี้แล้วยังมีผู้ใดไม่รู้ว่าโชคก็คือส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่ง ในการต่อสู้เอาชีวิตรอด ต่อให้ความแข็งแกร่งไม่ดีเท่าอีกฝ่าย แต่ถ้าอีกฝ่ายพลั้งเผลอก็ไม่แน่ว่าอาจฉกฉวยโอกาสเข่นฆ่าได้! โลกนี้น่ะมันดูแค่ผลลัพธ์เท่านั้น! มีใครหน้าไหนกล้าพูดีหรือไม่ว่าผู้ที่รอดชีวิตมาได้อ่อนแอกว่าผู้ที่ตายตก ?”
“มีผิด การแสดงผลงานอันเหนือความคาดหมายของศิษย์พี่ต้วนในสนามรบราชาเทพ ถึงกับบีบให้นิกายมหาเอกะมาทาข้อตกลงเรื่องไม่ให้ศิษย์พี่ต้วนกับซีเหม็นหลงเซี่ยงเข้าสู่สนามรบราชาเทพด้วยซ้ำ…ถึงแม้เรื่องนี้ท่านประมุขจะเห็นด้วยแต่เท่าที่ข้าดูผลงานของซีเหม็นหลงเซี่ยงยังถือวาด้อยกว่าศิษย์พี่ต้วนสามส่วน!”
“ฮึ! ข้าจักรอดูชม ว่าซีเหม็นหลงเซี่ยังมีนจักทาอันใดได้บ้าง”
…
มีคนของนิกายมังกรสวรรค์ไม่น้อย ที่เฝ้ารอดูชมผลงานการเข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพครั้งแรกของซีเหม็นหลงเซี่ยง
และไม่ว่าจะต้วนหลิงเทียนก็ดี ซีเหม็นหลงเซี่ยงก็ดี ทั้งคู่ล้วนแล้วแต่ยังเป็นเพียงศิษย์ฝ่ายในกันทั้งนั้น ไม่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อาวุโส
แต่เรื่องนี้ หนึ่งเลยเพราะทั้งคู่ไม่สนใจ อีกส่วนี้เป็นเพราะเรื่องศึกจักรพรรดิมันสำคัญและเร่งด่วนกว่า น้อยคนนักที่จะมัวมาสนยศตำแหน่ง
ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ล้วนให้ความสนใจกับสนามรบทั้ง 3 ของระนาบศึกจักรพรรดินัก
ในสนามรบราชาเทพ ปกติแล้วก็เกิดการปะทะกันทุกวัน ความตายและความสูญเสียกลายเป็นเรื่องธรรมดาซึ่งทุกคนชินชากันแล้ว
ในสนามรบจอมราชันเทพนั้น แม้จะมีผู้เสียชีวิต้นอยกว่ามาก แต่ก็ยังมีผู้คนอยู่ยไม่น้อย
เหลือก็แต่สนามรบกึ่งจักรพรรดิเท่านั้น ที่จนถึงบัดนี้ยังมีแค่ไม่กี่คนที่เข้าไป และไม่ทราบว่าคนของนิกายมังกรสวรรค์กับนิกายมหาเอกะที่เข้าไป ได้พบเจอต่อสู้กันบ้างแล้วหรือไม่ ?
อาจกล่าวได้ว่าหากไม่มีคนตายตก และคนที่กลับออกมาไม่เล่า ก็ไม่มีใครล่วงรู้เรื่องราวภายในนนได้เลย
ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา ต้วนหลิงเทียนไม่รู้เลย
เพราะในปัจจุบัน ต้วนหลิงเทียนได้อุทิศตัวให้กับการทำความเข้าใจกฏมิติจนลืมเลื่อนเวลา
…
การเข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพของซีเหมือนหลงเซี่ยง นับเป็นหนึ่งในไม่กี่ปรากฏการณ์ ที่ทำให้ทุกคนสนใจตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
หนึ่งเดือนต่อมา อาวุโสฝ่ายนอกขอบเขตจอมราชันเทพขั้นต่ำของนิกายมังกรสวรรค์ได้ตกตายลง และไม่มีใครคิดว่าจะเป็นน้ามือของซีเหม็นหลงเซี่ยง
หลังจากผ่านไปอีก 2 เดือน ผู้ดูแลฝ่ายในขอบเขตจอมราชันเทพขั้นต่ำก็ได้ถูกฆ่าตาย และภายในวันเดียวกันั้นน ผู้ดูแลฝ่ายในอีกคนของนิกายมังกรสวรรค์ที่มีขอบเขตพลังจอมราชันเทพขั้นต่ำเช่นกันก็ได้ตกตายลง
ผู้ดูแลฝ่ายในที่พึ่งตกตายไปทั้ง 2 คนั่นน ยังเป็นสหายกันและเข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพด้วยกัน! เรื่องนี้ไม่ใช้ความลับภายในนิกายมังกรสวรรค์ !!
“สองคนั่นนถูกผู้ใดเข่นฆ่ากันแน่ พวกมันเจอกลุ่มของนิกายมหาเอกะล้อมฆ่า หรือที่แท้ตกตายด้วยน้ามือคน ๆ เดียวกัน ?”
“ในสนามรบจอมราชันเทพ ยากจะพบคนรวมตัวกันกลุ่มใหญ่…อย่างไรก็ตามกลุ่มย่อย 2-3 คนกลับมีไม่น้อย”
…
อย่างไรก็ตาม หลังผ่านไปอีกครึ่งเดือน เรื่องราวการตายของทั้งคู่ก็ได้ถูกลืมเลื่อนไป…
หากทว่า กลับมีอีกข่าวหนึ่งแพร่กระจายออกมาตามติด
ผู้อาวุโสฝ่ายนอกขอบเขตจอมราชันเทพขั้นต่ำของนิกายมังกรสวรรค์ ได้ถูกฆ่าตายไปอีกคน!
หลังจากนั้น เมื่อผ่านไปอีกครึ่งเดือน ซีเหม็นหลงเซี่ยงก็ได้กลับออกมาจากสนามรบจอมราชันเทพ และเมื่อมันเข้าไปยังตาหนักแต้มรบ มันก็ได้นาป้ายประจำตัวจอมราชันเทพขั้นต่ำของนิกายมังกรสวรรค์ 4 ป้ายออกมาแลกเปลื่ยนแต้มรบ!
และเป็นป้ายของจอมราชันเทพขั้นต่ำของนิกายมังกรสวรรค์ทั้ง 4 ที่ตกตายภายในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา
พวกมันทั้งหมดล้วนตกตายด้วยน้ามือของซีเหม็นหลงเซี่ยง
วินาทีนั้น นิกายมหาเอกะแทบจะเดือดพล่าน!
ด้านนัิกายมังกรสวรรค์ พอได้รับทราบข่าว ก็เงียบเป็นเป้าสาก
ศิษย์นิกายมหาเอกะ ผู้ที่พึ่งทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพขั้นต่ำ หลังจากเข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพได้เพียง 4 เดือน กลับสามารถเข่นฆ่าจอมราชันเทพขั้นต่ำของนิกายมังกรสวรรค์ไปได้ถึง 4 คน ?
2 อาวุโสชั้นนอก 2 ผู้ดูแลฝ่ายใน!
และในบรรดาผู้ตาย ก็มี 2 คนที่ไปด้วยกันและถูกฆ่าตายภายในวันเดียวกัน!!
กล่าวได้อีกอย่างว่า พวกัมนอาจถูกซีเหม็นหลงเซี่ยงฆ่าตายในสถานการณ์ 2 ต่อ 1?
“ซีเหม็นหลงเซี่ยงของนิกายมหาเอกะ มันร้ายกาจถึงขนาดนี้เชียว!?”
“ถล่มมารดามัน! มิใช่มันพึ่งจะทะลวงถึงจอมราชันเทพขั้นต่ำรึไร แต่กลับฆ่าจอมราชันเทพขั้นต่ำของพวกเราที่อยู่ในสนามรบจอมราชันเทพได้ง่ายดายเหมือนตัดหญ้าฆ่าไก่ ? พลังฝีมือของมันจะร้ายกาจถึงขนาดนี้ได้อย่างไร ?”
“ข้าได้ยินมาว่า ครั้งมันอยู่ในสนามรบราชาเทพ ไม่มีศิษย์นิกายเราที่เคยพบเจอมันรอดกลับมาเลาเรื่องราวได้เลย ทั้งหมดถูกมันฆ่าตายหมดสิ้น ทำให้พวกเราไม่ทราบถึงพลังฝีมือของมัน…แต่ตอนนี้จากผลงานของมัน ดูเหมือนว่าจะมิได้ง่ายดายอย่างที่พวกเราเข้าใจกระมัง ?”
“ยังไม่ชัดเจนอีก หรือไร!”
“เจ้าว่า…มันจะเทียบกับต้วนหลิงเทียนได้หรือไม่ ?”
“ข้าว่ามันอาจจะเหนือกว่า…เพราะต้วนหลิงเทียนของพวกเราแม้จะฆ่าอาวุโสฝ่ายในของนิกายมหาเอกะได้ 2 คน แต่ก็เป็นฆ่าในขณะที่อีกฝ่ายเป็นดั่งตะเกียงหมดน้ำมีน ทว่าซีเหม็นหลงเซี่ยงนั่น เห็นได้ชัดว่าเข่นฆ่าจอมราชันเทพขั้นต่ำทั้ง 4 ของนิกายเราด้วยพลังฝีมือล้วน ๆ”
“นั่นก็ไม่แน่นักหรอก…ทั้งหมดเพราะต้วนหลิงเทียนไม่เคยพบเจอจอมราชันเทพขั้นต่ำของนิกายมหาเอกะต่างหาก…หาไม่แล้วต้วนหลิงเทียนอาจเข่นฆ่าจอมราชันเทพขั้นต่ำของนิกายมหาเอกะได้ง่าย ๆ เช่นกัน!”
“จริงของเจ้า”
…
หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนกับซีเหม็นหลงเซี่ยงทยอยกันกลับออกมาจากสนามรบราชาเทพ ทุกคนในนิกายมังกรสวรรค์ล้วนเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนเก่งกาจกว่าซีเหม็นหลงเซี่ยง เพราะจำนวนราชาเทพที่ต้วนหลิงเทียนฆ่า มันมากกว่าซีเหม็นหลงเซี่ยง…
แต่ตอนนี้ ด้วยผลงานอันน่าทึ่งของซีเหม็นหลงเซี่ยง ทำให้บางคนเรมิคลางแคลงสงสัยแล้ว ว่าต้วนหลิงเทียนจะเหนือกว่าซีเหม็นหลงเซี่ยงจริง ๆ หรือไม่ ?
ย้อนกลับไปในอดีต ครั้งซีเหม็นหลงเซี่ยงเข้าสู่สนามรบราชาเทพ ถึงแม้จำนวนคนที่ฆ่าจะน้อยกว่าต้วนหลิงเทียน แต่เพราะต้วนหลิงเทียนอยู่นานกว่า ทุกคนก็เลยได้แต่เทียบจำนวนคนที่ฆ่าได้กับเวลา…
กระนั้น แม้อัตราส่วนของซีเหม็นหลงเซี่ยงจะด้อยกว่าต้วนหลิงเทียนอยู่ส่วนสองส่วน แต่มันก็ไม่ได้บอกว่าจะด้อยกว่าต้วนหลิงเทียนเสมอไป…
ยิ่งไปกว่านั้น สนามรบราชาเทพ จะฆ่าได้มาก หรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่ได้พบเจอเปืนหลัก สิ่งนี้ล้วนต้องอาศัยโชค…บางทีโชคของต้วนหลิงเทียนอาจจะเหนือกว่าซีเหม็นหลงเซี่ยงมาก ?
ดุจเดียวกับครั้งนี้ ดูเหมือนโชคของซีเหม็นหลงเซี่ยงในสนามรบจอมราชันเทพจะไม่เลวเลย ในเวลาเพียงแค่ 4 เดือนกลับได้พบเจอจอมราชันเทพขั้นต่ำของนิกายมังกรสวรรค์ถึง 4 คน
มีหลายคนนัก ที่หลังเข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพไปแล้ว 2 เดือนยังไม่พบเจอฝ่ายตรงข้าม
กว่าที่ต้วนหลิงเทียนจะได้รู้เรื่องราวเหล่านี้ ก็ผ่านไปอีกครึ่งปี
‘ในที่สุดก็สำเร็จ!’
‘ตอนนี้ความสำเร็จในกฏมิติของข้า นับว่าเหนือกว่าอาวุโสมังกรขาวของนิกายมังกรสวรรค์รวมถึงอาวุโสปฐพีของนิกายมหาเอกะ
ส่วนใหญ่แล้ว…เกรงว่าคงมีอาวุโสมังกรขาวไม่กี่คน รวมถึงพี่ไห่ชวนเท่านั้นที่พอจะเทียบความสำเร็จในกฏกับข้าได้’
หลังต้วนหลิงเทียนออกจากกักตัวฝึกฝน เขาก็ได้พบเจอเชวียไห่ชวันที่นั่งสนทนาอยู่ในลานหน้าบ้านกับตงฟางเหยียนเหนียน และทั้งคู่ก็กำลังคุยกันเรื่องผลงานของซีเหม็นหลงเซี่ยงในสนามรบจอมราชันเทพอยู่พอดี จึงได้รับทราบว่าการเข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพขั้นแรกเมื่อปีก่อนของอีกฝ่าย ได้คร่าชีวิตจอมราชันเทพขั้นต่ำของนิกายมังกรสวรรค์ไป 4 คน!