ไม่มีโอกาสลงมือ!
หลังได้รับข้อความดังกล่าวจากสหาย หน้าเซวียหมิงจื่อก็จมลงโดยพลัน “เชวียไห่ชวนกับตงฟางเหยียนเหนียนั่นน พวกมันจะประคบประหงมีอะไรต้วนหลิงเทียน นักหนา เกาะติดเป็นเห็บสุนัขไปได้…”
อย่างไรก็ตาม หลังบ่นอยู่พักหนึ่ง สีหน้าของเซวียหมิงจื่อก็ดูดีขึ้น “ข้าไม่เชื่อหรอก ว่าทุกครั้งที่มันเข้าไประนาบศึกจักรพรรดิ เชวียไห่ชวนกับตงฟางเหยียนเหนียนั่นนจะไปด้วยตลอด”
“ย่อมมโอกาสให้ลงมือฆ่ามันแน่!”
พอคิดถึงเรื่องนี้ เซวียหมิงจื่อก็รู้สึกีดขึ้นมาก
…
ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่รู้เลยว่าเซวียหมิงจื่อคิดอะไรเอ่ยู่
ตอนนี้เขากำลังอารมณ์ดีมาก
การเข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพของพวกเขา 3 คนครั้งนี้อาจกล่าวว่าเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ดี เพราะการสังหารอาวุโสปฐพีของนิกายมหาเอกะได้ มันให้ผลตอบแทนมากกว่าจอมราชันเทพขั้นกลางทั่วไปถึง 3 เท่า!
6,000 แต้มรบต่อคน!
2 ก็ทำให้เขาได้รับแต้มรบ 12,000 แต้ม
นอกจากนั้นยังมีอาวุโสฝ่ายในของนิกายมหาเอกะคนหนึ่งซึ่งเป็นจอมราชันเทพขั้นกลาง และจอมราชันเทพขั้นต่ำอีก 4 คน
เบ็ดเสร็จแล้ว เขาได้รับแต้มรบทั้งสิ้น 16,800 แต้ม
“แต้มรบรอบนี้ เจ้าสมควรเอาไปแลกของที่เจ้าบอกว่าอยากได้เป็นการด่วนได้แล้วกระมัง ?”
พอเห็นต้วนหลิงเทียนยิ้มแย้มแจ่มใส่หลังได้รับโอนแต้มรบ เชวียไห่ชวนก็อดหัวเราะไม่ได้
“ใช้”
ต้วนหลิงเทียนหันไปยิ้มตอบเชวียไห่ชวนกับตงฟางเหยียนเหนียน “พี่ไห่ชวน พี่เหยียนเหนียน แต้มรบที่ได้มารอบนี้ข้าอาจใช้ไม่หมด หลังจากแลกของที่ข้าต้องการโดยด่วนแล้ว หากเหลือเท่าไหร่ข้าจะใช้หนี้พวกท่านก่อน”
ถึงแม้จะรู้ว่าทั้งคู่ไม่ได้รีบร้อนใช้แต้มรบอะไร แต่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดเอาเปรียบอีกฝ่าย
ได้ยินสิ่งที่เขาพูด เชวียไห่ชวนก็ส่าย่อหน้าไปมาพลางยิ้มกล่าว “เรื่องแตมีรบข้าไม่รีบ เจ้ารอให้สะสมแต้มรบที่ยืมไปจากข้าครบเมื่อไหร่ ค่อยคืนให้ข้าที่เดียวก็ได้”
“ข้าเองก็ไม่รีบเหมือนกัน”
ตงฟางเหยียนเหนียนก็ส่ายหัวไปมาเช่นกัน และมันต่างจากเชวียไห่ชวันที่ถูกต้วนหลิงเทียนหยิบยืมแต้มรบไปเป็นจำนวนมาก จำนวนแต้มรบที่ต้วนหลิงเทียนยืมมันไปเรียกว่าน้อยนิดนัก
มันไม่คิดจะเอาคืนด้วยซ้ำ
วันหน้ายังคิดว่าจะไม่พูดถึงอีก
แต่เมื่อต้วนหลิงเทียนบอกว่าจะคืนให้เป็นธรรมดาว่ามันต้องเออออไปด้วย เพราะมันก็รู้นิสัยต้วนหลิงเทียนดี ว่าหากไม่ยอมรับ ไม่พ้นต้องทำให้ต้วนหลิงเทียนอึดอัดใจ
“เอาล่ะ ไว้ข้าจะคืนให้พวกท่านที่เดียว”
ต้วนหลิงเทียนยิ้มกล่าว “อย่างไรก็ตาม แต้มรบที่ได้มาครั้งนี้ หลังจากข้าใช้แล้ว มันน่าจะเหลือพอคืนหนี้พี่เหยียนเหนียนทั้งหมด”
กล่าวถึงตรงนี้ ต้วนหลิงเทียนก็หันไปส่งยิ้มให้ตงฟางเหยียนเหนียน
“เรื่องหนี้ เอาไว้ค่อยว่ากันทีหลังก็ได้”
ตงฟางเหยียนเหนียนก็ยิ้มตอบ “ตอนนี้พวกเราไปแลกเปลื่ยนของที่เจ้าต้องการกันเลยเถอะ”
ต่อมาเชวียไห่ชวนกับตงฟางเหยียนเหนียนก็ตามต้วนหลิงเทียนไปแลกเปลื่ยนสิ่งของต่าง ๆเพราะพวกมันเองก็สงสัยไม่น้อยว่าต้วนหลิงเทียนต้องการแลกอะไรกันแน่ ถึงได้ต้องการแต้มรบมากมายขนาดนั้น
สุดท้ายพวกมันก็พบว่า แต้มรบกว่า 8 ส่วน ต้วนหลิงเทียนเอาไปใช้แลกเปลื่ยนสมุนไพรหายากต่าง ๆ
ส่วนแต้มรบที่เหลือต้วนหลิงเทียนได้เอาไปแลกเปลื่ยนกับสิ่งของจิปาถะต่าง ๆ อาธิเช่นลูกแก้วเงาลอยที่บันทึกกฏมิติ
สมุนไพรนั้นเห็นชัดว่าต้วนหลิงเทียนจะเอาไปหลอมยา
ส่วนสิ่งของอื่น ๆ ไม่ว่าจะลูกแก้วเงาลอยก็ดอย่างอื่นก็ดี เห็นชัดว่าเอาไปเพื่อทำความเข้าใจกฏ
จังหวะนี้ทั้งคู่อดหันมามองหน้าสบตากันไม่ได้ จากนั้นก็แลเห็นความนัยสายตาของกันและกัน…เห็นชัดว่าอัจฉริยะไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาโดยบังเอิญจริง ๆ…
กว่าต้วนหลิงเทียนจะประสบความสำเร็จอย่างวันนี้ได้ เห็นได้ชัดว่าต้องจับจ่ายไปไม่น้อย
“เสี่ยวเทียน แต้มรบของข้าเจ้าไม่ต้องรีบคืนหรอก”
พอเห็นว่าต้วนหลิงเทียนคิดจะคืนแต้มรบที่เหลืออยู่ให้มันจริง ๆ ตงฟางเหยียนเหนียนก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เมื่อครูตอนพวกเราเดินผ่านตาหนักแลกเปลื่ยนวัตถุดิบ และอุปกรณ์เทพจิปาถะ ข้าบังเอิญเห็นของหายากชิ้นหนึ่ง ซึ่งเจ้าอาจต้องใช้มัน”
“มันคืออะไรหรือพี่เหยียนเหนียน”
ต้วนหลิงเทียนยักคิ้วขึ้นข้างหนึ่งด้วยความสนใจ
ของที่เขาอาจใช้ ?
“ต้วนหลิงเทียน เจ้ารู้จักกระสวยทลายนภาหรือไม่ ?”
ตงฟางเหยียนเหนียนกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
“กระสวยทลายนภา ?”
ต้วนหลิงเทียนอึ้งไปครูหนึ่ง จากนั้นก็มองจ้องตงฟางเหยียนเหนียนเข็มง “พี่เหยียนเหนียนิทานจะบอกว่า…ตาหนักวัตถุดิบกับอุปกรณ์เทพจิปาถะนั่น มีกระสวยทลายนภาให้แลก หรือ ?”
“ใช้”
ตงฟางเหยียนเหนียนพยักหน้า จากนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมือเจ้ารู้จักกระสวยทลายนภาแล้ว เรื่องที่มันทำอะไรได้ คงไม่ต้องให้ข้าบอกกระมัง ?”
ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ใบหน้าแววตาเริ่มฉายชัดถึงความตื่นเต้นออกมาโดยไม่รู้ตัว
กระสวยทลายนภา หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่ากระสวยมิติ เป็นอุปกรณ์เทพชนิดหนึ่ง ที่สามารถใช้ฉีกเปิดมิติในระนาบเทพ เพื่อ
เดินทางไปยังระนาบเบื้องล่างได้ มันเป็นอุปกรณ์เทพสิ้นเปลืองใช้ได้ครั้งเดียว…และถูกสร้างขึ้นโดยปรมาจารย์หลอมอุปกรณ์เทพ
อย่างไรก็ตาม หากคิดจะสร้างกระสวยทลายนภา อย่างน้อย ๆ ต้องมีหยดพลังของผู้แข็งแกร่งที่สุด ซึ่งเกิดจากการควบแน่นพลังของผู้แข็งแกร่งที่สุด!
แน่นอนว่าหยดพลังของผู้แข็งแกร่งที่สุดนั้น แค่หยดเดียวก็สามารถเอาไปหลอมสร้างกระสวยทลายนภาได้ไม่ต่ำกว่าสิบชิ้น
ส่วนจำนวนชิ้นที่จาเพาะเจาะจงนั้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับระดับฝีมือของปรมาจารย์หลอมอุปกรณ์เทพ
ในระนาบเทพนั้น หากคิดจะเดินทางไปยังระนาบเทวโลก หรือระนาบโลกียะ ไม่เว้นระนาบอื่น ๆ ก็ต้องใช้ช่องทางมิติเป็นธรรมดา…
ในชวงเวลาที่ระนาบสมรภูมิปิดอยู่ ช่องทางมิติที่ว่าก็จะมีเสถียรภาพ ผู้คนสามารถใช้สัญจรได้อย่างสะดวก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ระนาบสมรภูมิเปิดออกหลังระนาบเทพคู่ขนานต่าง ๆโคจรมาบรรจบกัน ช่องทางมิติดังกล่าวจะปิดตัวลงเพราะความผันผวนของห้วงมิติ เช่นั้นนการจะเดินทางออกจากระนาบเทพ ไม่ใช้อะไรที่คนธรรมดาจะสามารถกระทำได้เลย ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยได้
กระสวยทลายนภา!
สำหรับช่องทางที่ต้วนหลิงเทียนใช้เดินทางมายังระนาบเทพ อย่างฉีกเปิดมิติในสมรภูมิอเวจีเพื่อมายังระนาบสมรภูมิก่อน จากนั้นค่อยออกจากระนาบสมรภูมิเพื่อเข้าสู่ระนาบเทพ…มันไม่ใช้อะไรที่คนทั่วไปจะกระทำได้!
กระทั่งต่อให้เป็นต้วนหลิงเทียนในปัจจุบัน คิดจะใช้ช่องทางดังกล่าวเพื่อย้อนกลับไปยังระนาบเทวโลก ก็ไม่อาจทำได้อีกแล้ว
เพราะในปัจจุบันเขาเป็นจอมราชันเทพคนหนึ่ง และไม่อาจเข้าสู่สมรภูมิอเวจีได้อีกต่อไป เพราะมันจำกัดไว้ให้มีแต่ตัวตนระดับจักรพรรดิอมตะเท่านั้นที่เข้าไปได้
“ที่นี่มีกระสวยทลายนภาให้แลกจริง ๆ!?”
“พี่เหยียนเหนียน แล้วกระสวยทลายนภาที่ท่านว่า ตัวหนึ่งมันต้องใช้แต้มรบกี่แต้ม ?”
พอเห็นต้วนหลิงเทียนแลดูร้อนรนกระวนกระวาย ตงฟางเหยียนเหนียนก็อึ้งไปอยู่บ้าง มันแค่เอ่ยถึงเรื่องนี้อย่างไม่ได้อะไรมากมาย เพราะคิดว่าอาจมีประโยชน์กับต้วนหลิงเทียนอยู่บ้างเท่านั้น
เพราะสุดท้ายไม่ใช้ว่าอีกแค่ 300 ปี ก็สามารถกลับไปยังระนาบเทวโลกพื่อพบเจอครอบครัวทั้งญาติสนิทมิตรสหายแล้วไม่ใช้หรือ ?
แต่มันคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าต้วนหลิงเทียนจะตื่นเต้นมาก
“อันนี้ข้าเองก็ไม่ทันได้ดูราคา…แต่ปกติแล้วมันก็ไม่น่าจะแพงอะไรมากมาย แต้มรบที่เหลืออยู่ของเจ้าน่าจะพอให้แลกแล้วล่ะ”
ตงฟางหยานเหนียนกล่าว
จากนั้นไม่นาน ภายใต้การนำทางของตงฟางเหยียนเหนียน ต้วนหลิงเทียนก็ได้พบเจอกระสวยทลายนภาในตาหนักวัตถุดิบและอุปกรณ์เทพจิปาถะภายในเมืองสันติ ซึ่งลักษณะของมันก็เรียบง่ายคล้ายยานทรงกรวยลาเล็ก ๆ พอให้นั่งได้คนเดียว
ตัวกระสวยทลายนภาที่ว่า เต็มไปด้วยลวดลายอาคมและอักขระต่าง ๆ หากมองนาน ๆ ก็ให้ความรู้สึกว่ามันแลดูน่าหลงใหลอยู่บ้าง
“ขาดแต้มรบแค่นิดเดียว…”
พอเห็นราคากระสวยทลายนภาต้วนหลิงเทียนก็ย่นคิ้วทาหน้าเคร่งทันที่เพราะเขาพบว่าแต้มรบที่เขาเหลืออยู่นั้น มันไม่พอแลกกับกระสวยทลายนภา
และขาดแต้มรบแค่ 100 กว่าแต้มเท่านั้น!
“ฮ่า ๆ ๆ เสี่ยวเทียนเจ้าไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นหรอก กับอีแค่แต้มรบร้อยกว่าแต้ม ข้าให้เจ้ายืมก่อนก็ได้”
ตงฟางเหยียนเหนียนที่เห็นอาการของต้วนหลิงเทียนก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนก็เลยเป็นหนี้ตงฟางเหยียนเหนียนเพิ่มอีก 100 กว่าแต้มรบ
และคราวนี้ต้วนหลิงเทียนไม่คิดเกรงใจ
เพราะเขาต้องการมันจริง ๆ
‘ด้วยกระสวยทลายนภาลานี้ ข้าสามารถกลับไประนาบเทวโลกได้แล้ว…อย่างไรก็ตามเพราะกระสวยทลายนภามันใช้ได้ครั้งเดียว กล่าวได้ว่าไปได้แต่กลับไม่ได้ เช่นั้นนข้าไม่อาจกลับไปด้วยร่างจริงได้’
‘แต่แค่ร่างอวตารกฏกลับไปได้ก็ดีถมเถแล้ว’
คิดถึงจุดนี้ต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งตื่นเต้นนัก
ไม่ทันรู้ตัว เขาก็ได้ขึ้นมาอยู่ในระนาบเทพดินแดนดาราพิศวงหลายสิบปีแล้ว แน่นอนว่าเวลาเพียงเท่านี้ทำให้เขายังไม่อาจรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของระนาบเทพได้โดยสมบูรณ์
ในระนาบเทพแห่งนี้ เขารู้สึกเป็นคนนอกเสมอ ไม่เหมือนกับเหล่าชนพื้นเมืองของระนาบเทพที่เกิดที่นี่
“เสี่ยวเทียน เจ้าคิดถึงบ้านล่ะสิ”
เชวียไห่ชวันที่แลเห็นอาการตื่นเต้นของต้วนหลิงเทียน ก็อดยิ้มถามออกมาไม่ได้
“ใช้พี่ไห่ชวน”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า ถึงแม้คราวนี้เขาจะจากบ้านมาไม่นานนัก แต่สำหรับเขาที่ตัวคนเดียวในระนาบเทพ เขารู้สึกถึงความโดดเดียวยิ่งกว่าการกักตัวฝึกตนนับพันปีเสียอีก…
เขาไหนเลยจะไม่อยากกลับไปหาภรรยาและลูก ไหนเลยจะไม่อยากกลับไปหาบิดามารดา
ขณะเดียวกัน เขาเองก็อยากรู้ว่าอาจารย์เขาได้กลับออกมาจากนรกอสุราแล้วหรือยัง
“เจ้าคิดจะใช้ร่างจริงกลับไป หรือร่างอวตารกฏกลับไปเล่า ?”
เชวียไห่ชวนกล่าวถามออกมาอีกรอบ
พอถามจบคา มันก็ไม่รอให้ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบ แต่เลือกจะกล่าวแนะนำออกมาว่า “ข้าไม่แนะนำให้เจ้าใช้ร่างจริงกลับไป เพราะถ้าเจ้าใช้ร่างจริงกลับไป หากเจ้าอยากกลับขึ้นมาก็ต้องรอเกือบ 300 ปี…”
“ตอนั้นน ระนาบสมรภูมิคงปิดตัว พอช่องทางมิติเชื่อมต่อระหว่างระนาบเทพกับระนาบเทวโลกเปิดออก เจ้าถึงจะกลับมาได้”
“หากเจ้าใช้ร่างจริงกลับไป คงต้องรอเกือบ 300 ปี กว่าเจ้าจะได้กลับมาอีกครั้ง”
“และเวลาเกือบ 300 ปี สำหรับเจ้าแล้วมันไม่น้อยเลย…ต้องทราบด้วยว่าตอนนี้เจ้ายังอายุไม่ถึง 3,000 ปีด้วยซ้ำ”
“หากเจ้าใช้ร่างจริงกลับไป อาศัยสภาพแวดล้อมในระนาบเทวโลก ต่อให้เจ้าจะเตรียมโอสถเทพไปมากพอแต่ก็คงเสียเวลาบ่มเพาะฝึกปรือไปเปล่า ๆ”
เชวียไห่ชวนกล่าว “เช่นั้นนข้าแนะนำให้เจ้าใช้ร่างอวตารกฏกลับไปเถอะ ด้วยความแข็งแกร่งของร่างอวตารกฏเจ้าตอนนี้ ข้าเชื่อว่ามันมากพอจะท่องไปทั่วระนาบเทวโลกทั้งมวลได้อย่างสบายใจแล้วกระมัง”
“ข้าก็คิดไว้แบบนั้นพอดีพี่ไห่ชวน”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคาด้วยรอยยิ้ม ด้วยพลังของเขาในตอนนี้อาศัยร่างอวตารกฏที่เขาควบสร้าง ต่อให้เป็นจอมราชันเทพขั้นต่ำทั่ว ๆ ไป เขาก็ฆ่าได้ง่าย ๆ
และความแข็งแกร่งระดับนี้ หากนำไปวางบนระนาบเทวโลกทั้งมวล ก็ไม่ต่างอะไรจากตัวตนอันคงกระพัน!
ต้วนหลิงเทียนเชื่อว่าในระนาบเทวโลกนั้นมีตัวตนระดับเทพ กระทั่งราชาเทพดำรงอยู่
แต่โดยพื้นฐานแล้ว ตัวตนระดับจอมราชันเทพไม่น่าจะมีแน่นอน
‘จะอย่างไรก็ตาม…ในระนาบเทวโลกอาจไม่มีตัวตนระดับจอมราชันเทพอยู่ก็จริง แต่ใน 7 สถานที่ต้องห้ามอันตรายของระนาบเทวโลกที่เป็นระนาบอิสระและแยกตัวออกมาจากระนาบเทวโลก สมควรมีตัวตนระดับจอมราชันเทพดำรงอยู่เป็นแน่’
ก่อนจะขึ้นมายังระนาบเทพ ต้วนหลิงเทียนก็รู้ว่าระนาบอิสระอันเป็นสถานที่ต้องห้ามอันตรายทั้ง 7 ของระนาบเทวโลกนั้น มันมีตัวตนระดับเทพอยู่มากมาย
ตัวตนระดับเทพเหล่านั้น ก็มีตัวตนที่ทรงพลังไม่น้อย
อย่าว่าแต่เทพทั่วไป กระทั่งระดับราชาเทพก็ยังมี
ส่วนตัวตนระดับจอมราชันเทพนั้น ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะไม่เคยพบเจอแต่เท่า ๆ ที่ฟังจากการประเมินของอาจารย์เขา สมควรมีอยู่
“พี่ไห่ชวน พี่เหยียนเหนียน รีบกลับกันเถอะ!”
หลังได้กระสวยทลายนภามาแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไม่อาจระงับความตื่นเต้นในใจได้ไหว ตอนนี้เขาสามารถกลับไปยังระนาบเทวโลกได้ทันทีด้วยซ้ำ และการกลับไปของเขาไม่เพียงแต่เพื่อพบหน้าครอบครัวเท่านั้น แต่ยังสามารถขจัดเภทภัยทั้งหลายให้ครอบครัวเขาได้อีกด้วย!
อย่างเช่น เภทภัยที่ทำให้ครอบครัวเขาต้องไปอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อื่น ๆ ในระนาบโลกียะ!
เพราะหากเขาไม่พาทุกคนไปซ่อนตัว เกิดครอบครัวเขาคนใดคนหนึ่งถูกเผ่าภูต หรือค้นของวิหารเฟิงฮ่าวพบเข้า ไม่พ้นต้องเผชิญหน้ากับหายนะเป็นแน่
เชวียไห่ชวนกับตงฟางเหยียนเหนียน ย่อมไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้เป็นธรรมดา
หากพวกมันรู้ว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนยังพึ่งอายุได้ 700 กว่าปี และพบเจออะไรมาบ้าง พวกมั่นคงเข้าใจได้ทันที่
ฟุ่บ!
หลังออกจากระนาบศึกจักรพรรดิแล้ว ตงฟางเหยียนเหนียนก็กล่าวคาลาจากนั้นก็วูบร่างกลับบ้านไปฉับไวเพื่อรายงานตัวต่อภรรยา ด้านต้วนหลิงเทียนก็ตามเชวียไห่ชวนกลับบ้านทันที่
หลังกลับมาถึงบ้านลานเล็ก ๆ ในเขตจวนของเชวียไห่ชวนแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็แทบรอเรียกร่างอวตารกฏออกมาแล้วใช้กระสวยทลายนภาฉีกเปิดห้วงมิติไม่ไหว เพื่อจะได้ส่งร่างอวตารกฏกลับไปยังระนาบเทวโลก