ตอนที่ 32 ปิดจบการต่อสู้ครั้งแรก (2)
ประสบการณ์ที่ถ่ายทอดจากปรมาจารย์นักรบพันยุทธ์ท่านหนึ่ง ส่วนโจวเฮ่ออย่างมากก็คงมีอาจารย์เป็นนักรบทะลวงร้อย ไม่แน่อาจจะไม่ถึงขั้นทะลวงร้อยด้วยซ้ำ บางทีอาจารย์เขาอาจเป็นแค่มือสิบสังหารคนหนึ่งเหมือนกัน
วิชายุทธ์เสื่อมโทรมลงแล้ว!
พอหลี่ฮ่าวร้องคำรามก็สบโอกาสพอดี ขัดพลังลมปราณของอีกฝ่ายจนโจวเฮ่อต้องกลั้นไว้ เมื่ออัดอั้นจนทนไม่ไหวจึงบาดเจ็บถึงภายใน กระทั่งมือเท้าก็เริ่มทำงานไม่ประสานกัน
หลี่ฮ่าวถือโอกาสนี้ยื่นแขนออกไป
โอบโจวเฮ่อไว้ในคราเดียว
อุ้มพิฆาต!
แกร๊ก!
เสียงกระดูกถูกบดขยี้แตกร้าวดังขึ้นทันที
หลี่ฮ่าวคอยป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายได้ใช้พลังขาพลันกระทืบเท้าแรงๆ จนรองเท้าหนังของเท้าขวาของโจวเฮ่อฉีกขาด เนื้อปริเลือดพุ่งทะลุเห็นยันกระดูกเท้า โจวเฮ่อเจ็บจนร้องโหยหวนอย่างบ้าคลั่ง!
……
“ฟู่ว!”
เสียงหายใจห้าเสียง
ส่วนลึกของห้องชั้นใต้ดิน ทุกคนต่างกำลังหายใจและสูดปากพร้อมกัน
เฉินเจียนมองหลิวหลงแล้วมองหลิวเยี่ยนอย่างประหม่าน้อยๆ พูดเสียงเบา “เขา…ที่ประลองฝีมือกับเราก่อนหน้า แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจใช่ไหม”
นี่มันลงสนามครั้งแรกหรือ
บ้าที่สุด!
เจ้าหมอนี่ลงมือโหดเหี้ยมขนาดนี้ อีกทั้งยังจัดการผู้หญิงก่อนแล้วค่อยไปจัดการโจวเฮ่อโดยไร้ซึ่งขอบเขตใด โจวเฮ่อกับเขาล้วนอยู่ในขอบเขตสิบสังหารเหมือนกัน ทว่ากลับไม่ได้สะทกสะท้านต่อมือใหม่อย่างหลี่ฮ่าวเลยสักนิด!
อย่างสถานการณ์ตอนนี้…บอกได้เลยว่าแทบจะไม่มีโอกาสพลิกกลับมาอีกแล้ว!
ส่วนหลิวหลงไม่ได้สนใจเรื่องนี้ แต่ดูสีหน้าเคร่งขรึมหน่อยๆ “เคล็ดวิชาห้าปาณภูต…มีกระบวนท่าสังหารเยอะขนาดนี้เลยเหรอ”
ใช่แล้ว
เคล็ดวิชาห้าปาณภูตของหลี่ฮ่าว ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชาลิง หรือเคล็ดวิชาห้าปาณภูตอื่นๆ พอลงมือก็เป็นกระบวนท่าพิฆาตหมด!
ล้วงหัวใจ ตะกุย อุ้มพิฆาต หมัดพยัคฆ์…
อย่างไรเสียเคล็ดวิชาห้าปาณภูตที่ได้เห็นจากหลี่ฮ่าวดูจะต่างจากของคนอื่นไปสักหน่อย เพราะทุกกระบวนท่าเหี้ยมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!
ปกติดูไม่ออกเลยจริงๆ หรือว่าหลี่ฮ่าวในยามปกติยังปล่อยของออกมาไม่หมด
เคล็ดวิชาห้าปาณภูตของหยวนซั่ว ถูกปรับเปลี่ยนใหม่อีกแล้วหรือ
พลังพิฆาตรุนแรงเกินไป!
หลายปีมานี้หยวนซั่วแก้ไขตำราใหม่ห้าปาณภูต ทุกคนคิดว่าเขาจะเน้นการดูแลฟื้นฟูร่างกายเป็นหลัก ปกติกระบวนท่าก็ดูเชื่องช้าเป็นพิเศษ ปรากฏว่าดันต่างจากที่คาด แค่ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยอย่างหลิวหลงเห็น…ก็รู้ว่าเป็นท่าพิฆาตทุกกระบวนท่าเลย!
จ้องจะโจมตีจุดสำคัญของศัตรู!
หัวใจ ลำคอ ดวงตา อวัยวะเพศ ม้าม ไต ล้วนเป็นจุดที่หลี่ฮ่าวจะโจมตีเป็นหลัก
แทงตา ตะกุยคอ จิกอวัยวะเพศ หลี่ฮ่าวไม่เกี่ยงอะไรทั้งนั้น!
หลิวหลงยิ่งดูก็ยิ่งตกใจ
ความจริงปรมาจารย์นักรบเน้นการโจมตีทางกายเป็นหลัก สุขภาพร่างกายแข็งแรงก็เป็นส่วนหนึ่งที่ปรมาจารย์ใฝ่ฝัน บวกกับการผงาดขึ้นของอาวุธปืนไฟ ท่าพิฆาตของปรมาจารย์นักรบล้วนเปลี่ยนไปแล้ว
ส่วนเคล็ดวิชาห้าปาณภูตของหลี่ฮ่าว รู้สึกเหมือน…กลับสู่ความเป็นดั้งเดิม!
หลิวเยี่ยนเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่กำลังจะเข้าสู่ขอบเขตทะลวงร้อยเช่นกัน ณ ตอนนี้เขาขมวดคิ้วน้อยๆ “เคล็ดวิชาห้าปาณภูต…วิธีการล่าเหยื่อโดยสัญชาตญาณของสัตว์ป่าทั้งห้าชนิด ระหว่างสัตว์ป่ามักเป็นการต่อสู้ทีต้องตายกันไปข้าง! ตอนล่าสัตว์ หากฆ่าเหยื่อไม่ได้ก็ต้องหิวตายเอง! เป็นเรื่องที่โหดเหี้ยมใช้ได้! ฟังแล้วเหมือนเป็นเรื่องล้อเล่น แต่ความจริงกลับเป็นวิทยายุทธที่เหี้ยมโหดอย่างถึงที่สุด เพียงแต่ปกติสิ่งที่เราเห็น…เหมือนเป็นฉบับย่อเท่านั้น!”
เวลานี้หลี่ฮ่าวให้ความรู้สึกเหมือนกลับไปมีกลิ่นอายดั้งเดิม
แน่นอนว่าเพราะเขาเป็นมือใหม่จึงพลาดโอกาสไปหลายครั้ง หากเป็นหลิวหลงคงเลือกหักคอโจวเฮ่อตายไปตั้งแต่ก่อนหน้าแล้ว
แต่แล้วสิ่งที่หลี่ฮ่าวได้รับสืบทอดจากปรมาจารย์นักรบยอดฝีมือกลับเป็นสิ่งที่โจวเฮ่อเทียบไม่ได้เลยจริงๆ!
ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่ หลี่ฮ่าวก็เหวี่ยงไหล่!
สองมือของเขาจับตัวโจวเฮ่อเหวี่ยงออกไปเล็กน้อยก่อนจะกระชากกลับมา จากนั้นก็ปล่อยมือแล้วใช้ไหล่กระแทกหน้าอกของโจวเฮ่อจนดังแกร๊ก!
ไม่รู้ว่าตอนนี้กระดูกซี่โครงใต้อกหักไปแล้วกี่ซี่แล้ว
ตุบ!
โจวเฮ่อล้มลงกับพื้นอย่างแรง กระอักเลือดออกมาไม่หยุด ชั่ววินาทีนั้นลมเข้าปอดเยอะออกน้อย อาจเพราะอวัยวะภายในบาดเจ็บสาหัส ดวงตาถึงดูล่องลอยแปลกๆ!
ขณะนี้หลี่ฮ่าวไม่ได้ผ่อนคลายแต่อย่างใด
เขากวาดตามองแวบหนึ่งแล้วถอยหลังกรูด
จากนั้นก็หันหลังวิ่ง
ระหว่างทางเขากระโดดขึ้นกลางอากาศ หมุนตัวกลางอากาสอย่างสวยงามแล้วเตะเท้าขวาออกมา!
หญิงสาวที่เพิ่งดึงมือออกจากพันธนาการจากกำแพงเมื่อครู่ถูกหลี่ฮ่าวฟาดเท้าใส่คอจนเสียงเกิดเสียงดังแกร๊กโดยที่หล่อนยังไม่ทันตั้งตัว!
เสียงกระดูกแตกหัก!
วินาทีถัดมาถึงเป็นเสียงผู้หญิงโดนฟาดใส่จนตัวร่วงใส่พื้น เลือดสีสดเปรอะเปื้อนไปทั้งพื้น
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังต่อสู้กันไม่ถึงสามนาที การต่อสู้ก็สิ้นสุดลงแล้ว
ทั้งคู่ล้มลงนอนจมกองเลือด
ส่วนหลี่ฮ่าวหายใจหอบหนัก ล้มตัวลงคุกเข่าบนพื้นพร้อมปรับลมหายใจไปด้วย จากนั้นก็มองทั้งสองที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นไปอย่างระแวง
ครั้นเห็นพวกเขาทั้งสองไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก หลี่ฮ่าวเหมือนเพิ่งได้สติจึงมองเลือดสีสดที่ท่วมพื้น…แล้วมองกลุ่มคนที่เดินออกจากมุมห้องมาพร้อมใบหน้าที่ซีดเซียว
ตอนนี้เหมือนเพิ่งรู้สึกกลัวทีหลัง เขาทำหน้าหวาดกลัวปนระแวง “ตกใจแทบแย่ สองคนนี้เก่งมาก โหดกันจริงๆ ผู้หญิงคนนี้เกือบจะเอามีดแทงเข้าข้างขมับผมอยู่แล้ว!”
“…”
หลิวหลงมองเขาโดยไม่พูดอะไร
หลิวเยี่ยนทำหน้าแปลกๆ ฝืนยิ้มเอ่ยถามไปว่า “เสี่ยวฮ่าว นายจริงจังใช่ไหม”
นายกำลังแกล้งทำเป็นใสซื่ออยู่หรือไง
หลี่ฮ่าวมองเธอด้วยท่าทีมึนงง เขาต้องจริงจังอยู่แล้วสิ!
น่ากลัวมาก!
สนามจริงอันตรายเกินไปแล้ว คู่แข่งเอามีดแทงกันโต้งๆ หากประมาทหรือไม่ทันระวังสักหน่อยคงโดนแทงตายไปแล้ว
ครั้นเห็นท่าทางเช่นนั้นของเขา…
ทุกคนก็งงกันไปหมด
หลี่ฮ่าว เหมือนจะจริงจัง
แต่ว่านายดูสถานการณ์จริงหรือยัง
สองคนนั่นโดนนายโจมตีจนเลือดท่วมพื้น โจวเฮ่อกระดูกส่วนอกหักไปไม่รู้กี่ซี่ กระดูกส่วนเท้าแหลกละเอียด เอวหักกระดูกแตก สองแขนถูกหลี่ฮ่าวตะกุยจนเห็นยันกระดูกขาว!
ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็สภาพอนาถไม่ต่างกัน คออาจจะถูกเตะจนหัก มือเดี้ยงใช้งานไม่ได้อีก กระดูกตามร่างกายก็แตกอีกเป็นกอง…
สุดท้ายนายบอกว่านายกลัวมากอย่างนั้นเหรอ!
นายยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า
หลิวหลงไม่ได้ว่าอะไรและไม่ได้สงสัยว่าหลี่ฮ่าวเสแสร้งหรือเปล่า แต่ถามเสียงนิ่งว่า “คุณเพิ่งเคยลงสนามจริงครั้งแรกเหรอ”
“ใช่ครับ!”
เสี่ยวฮ่าวพยักหน้ารับรัวๆ เหมือนไก่จิกข้าวกิน พลันพูดเสียงหอบว่า “สนามจริงน่ากลัวมาก ผมชอบวิชานักรบมาตั้งนานแล้ว ถึงจะเรียนเคล็ดวิชาห้าปาณภูต แต่ผมทำเพื่อฝึกร่างกาย แต่ไม่คิดว่าพอได้ลงสนามจริงจะอันตรายขนาดนี้!”
ชอบวิชานักรบ…ลงสนามจริงครั้งแรกอย่างนั้นเหรอ!
…………………………………………………………