ตอนที่ 36-2 ครั้งแรกกับการล่าปีศาจ (2)

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา

ตอนที่ 36 ครั้งแรกกับการล่าปีศาจ (2)

ตู้มๆ!

ยังไม่ทันสิ้นเสียง เสียงระเบิดก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

ตู้ม!

โบสถ์หลังเก่าแทบจะถูกระเบิดเหลือเพียงกำแพงในพริบตา เสาและหลังคาถล่มพังยับเยิน

หลิวหลงชักขวานอันหนึ่งออกมาจากเสื้อโค้ทที่เปียกชุ่มแล้วถอดเสื้อโค้ทออก จากนั้นก็ตะโกนเสียงดังทีหนึ่งแล้วฟันขวานใส่หน้ากากผีคนหนึ่งที่พุ่งตัวออกมาจากโบสถ์

“ระเบิดต่อ!”

ตู้ม!

เหมือนไม่มีใครสนใจความเป็นความตายของหลิวหลง และไม่กลัวจะพลาดไปโดนหลิวหลงเลยสักนิด ระเบิดจำนวนมหาศาลถล่มทำลายโบสถ์ต่อไป เสียงปืนยิงกราดดังกลบเสียงฝน

……

ภายในโบสถ์ที่พังทลาย

เนื่องจากได้รับข่าวว่าพวกหลี่ฮ่าวออกจากหน่วยตรวจการณ์ พวกหน้ากากผีที่กำลังจะออกมาก็ถูกโจมตีจนตั้งรับไม่ทัน

โชคดีที่ท่ามกลางคนเหล่านี้มีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอยู่ไม่น้อย

มีหน้ากากผีคนหนึ่งตะโกนขึ้นพร้อมปล่อยพลังเหนือธรรมชาติออกมาเป็นเกราะคุ้มกัน แต่พริบตาเดียวเกราะคุ้มกันก็ถูกระเบิดใส่จนทะลุ จากนั้นคนอื่นๆ ก็ถลาตัวถอยไปหลบ หน้ากากผีที่สร้างเกราะคุ้มกันถูกปืนยิงกราดจากข้างนอกจนรังแตก!

มีหน้ากากผีใจร้อนพุ่งตัวออกจากโบสถ์ ทว่าเพิ่งพุ่งตัวออกไป สิ่งที่รออยู่ตรงหน้ากลับเป็นขวานสีเงินอันหนึ่ง

ขวานฟันลงมา!

พลังเจ็ดชั้น!

ตู้ม!

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติในขอบเขตจันทราทมิฬซึ่งอยู่เทียบเท่าทะลวงร้อย แต่แล้ววินาทีนี้เพราะทำตัวไม่ถูกจึงถูกขวานฟันจนร่างแยกออกเป็นสองท่อน เลือดสาดกระจายเต็มถนน

“หลิวหลง!”

เสียงแหลมสูงดังขึ้น!

เมื่อนั้นเองหลิวหลงจึงสัมผัสได้ถึงอันตราย แต่เป็นอันตรายที่ไร้ตัวตน เหมือนมีบางอย่างอยู่ข้างๆ และต่อมาก็กำลังแนบชิดติดตัวเขา

หากหลี่ฮ่าวอยู่ตรงนี้คงเห็นว่าตอนนี้ข้างหลิวหลงมีเงาโลหิตเพิ่มมาสามตัว

ไม่เพียงเท่านี้ยังมีเงาโลหิตลอยตัวไปหาทหารที่อยู่ไกลออกไปเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว

ทว่าคนเหล่านั้นกลับไม่รู้อะไรเลย

อาวุธปืนไฟไม่มีพลังทำลายล้างต่อเงาโลหิตอย่างสิ้นเชิง

“โฮ่งๆ!”

เสียงร้องของเจ้าเสือดำดังขึ้นเสียงดังกลางสายฝน

หลิวหลงรู้ว่าภัยอันตรายจากพวกชั้นจิตวิญญาณในคราวก่อนโผล่มาแล้ว เขาเป็นทะลวงร้อยอย่างน้อยพอจะต้านทานได้บ้าง แต่พวกเพื่อนที่อยู่รอบนอกเหล่านั้นเกรงว่าจะต้านไว้ไม่ได้!

ณ ตอนนี้พวกทหารที่อยู่รอบนอกใช้ระเบิด ปืนไฟ และปืนกลควบคุมผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่อยู่ข้างในไว้

ดังนั้นหลิวหลงถึงมีโอกาสใช้ขวานฟันฆ่าตายไปหนึ่งคน

แต่เมื่อไรที่คนเหล่านี้ตาย อาวุธปืนไฟถูกทำลาย ลำพังแค่หลิวหลงคนเดียวเกรงว่าคงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมันแล้ว ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่มีจำนวนมาก!

อย่างน้อยมีถึงเจ็ดแปดคน ซึ่งรวมถึงคนที่ถูกเขาฟันฆ่าไปหนึ่งคน และถูกปืนยิงกราดตายไปอีกหนึ่งคน

“ทีมหนึ่งมีสิบคนเหรอ”

หลิวหลงในตอนนี้ตกใจพอสมควร ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติสิบคนหรือ

ระดับนี้ออกจะเกินคาดไปสักหน่อยจริงๆ

ต่อให้เป็นผู้พิทักษ์รัตติกาลก็ยากที่จะออกปฏิบัติการในเมืองหยินครั้งเดียวถึงสิบคน เพราะผู้พิทักษ์รัตติกาลเหล่านี้มีเมืองที่ต้องคุ้มครองมากเกินไป

ในโบสถ์มีคนตวาดเสียงดุดันขึ้นว่า “หลิวหลง แกมันรนหาที่ตาย วันนี้ฉันพุ่งเป้าไปที่หลี่ฮ่าวคนเดียว แกสอดมือเข้ามายุ่งแล้วฆ่าคนของฉันอีก ลำพังเมืองเล็กๆ อย่างเมืองหยินคิดว่าฉันไม่กล้ากวาดล้างเมืองจริงเหรอ”

บ้าเกินไปแล้ว!

พวกเขามีเป้าหมายชัดเจนแต่แรกแล้ว อีกทั้งรู้จักหลิวหลงเป็นอย่างดี ตอนนี้หลิวหลงควรไปจัดการคดีไฟไหม้อีกจุดหนึ่งกับคนอื่นๆ สิ แต่ทำไมอยู่ดีๆ ถึงมาโผล่ที่นี่ได้ล่ะ

อีกอย่างทางหน่วยปฏิบัติการก็มีหนอนบ่อนไส้ของพวกเขาอยู่ด้วย

วันนี้หน่วยปฏิบัติการไม่ได้พกอาวุธขนาดใหญ่มา ไม่มีการเปิดใช้คลังอาวุธ…แน่นอนว่าในฐานะที่หลิวหลงเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการ ถ้าเขาคิดจะแอบซุกซ่อนสักชุดหนึ่ง ผู้อำนวยการย่อมทำเป็นหลับตาข้างหนึ่งอยู่แล้ว คนทั่วไปเองก็ยากจะจับได้

แต่พวกเขาไม่คิดจริงๆ ว่าหลิวหลงจะกล้าใช้อาวุธปืนไฟภายในเขตเมืองโต้งๆ เช่นนี้!

แถมพลานุภาพยังรุนแรงมากด้วย!

แม้แต่ปืนครกยังแบกมาด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะปัญหาเรื่องเวลา บางทีเครื่องยิงระเบิดใหญ่ที่ไว้ใช้โจมตีเมือง หลิวหลงคงหาทางเอามาด้วยแน่นอน

“ฉันจะไม่ยอมแพ้ต่อฝ่ายอธรรมหรอกนะ!”

หลิวหลงพูดแค่ประโยคเดียว

กวาดล้างเมืองหรือ

ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามยอมแพ้ต่อฝ่ายอธรรมเด็ดขาด ผู้พิทักษ์รัตติกาลยอมจำนนครั้งแล้วครั้งเล่า สิ่งที่แลกมาได้ไม่ใช่ความสงบ แต่เป็นความวุ่นวายที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

คนพวกนี้ต้องถูกฆ่าถึงจะหวาดกลัวขึ้นมาบ้าง

“รอบสุดท้าย!”

หลิวหลงรีบถอยออกจากเขตโบสถ์แล้วตะโกนเสียงดัง

จากนั้นภายในโบสถ์ก็มีเงาหน้ากากผีปรากฏตัวขึ้น บางส่วนเลือกจะกระโดดหนี บางส่วนใช้วิชามุดลงดินอย่างรวดเร็ว บางส่วนเหมือนจะหายตัวไป

เวลานี้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติบางส่วนก็มีการเตรียมพร้อม พลังเหนือธรรมชาติก็เหมือนจะอยู่เหนือความคาดหมายอยู่บ้าง

กระทั่งหลิวหลงตะโกนบอกให้โจมตีเป็นรอบสุดท้าย คนพวกนี้ก็ต่างพากันหนีไปจากที่นี่ เว้นเสียแต่คนที่หนีไม่ทันจริงๆ

มีคนหนึ่งถือปืน แต่ก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของพวกเขามากนัก

แต่พอมีกลุ่มคนฝีมือฉกาจนับสิบซึ่งเตรียมพร้อมมาอย่างดีใช้ปืนและระเบิดทรงพลานุภาพไล่ล่า ต่อให้เป็นพวกเขาก็ต้องคอยหลบเช่นกัน

แน่นอนว่าหากให้เวลาพวกเขาสักนิด พวกเขาคงเข่นฆ่าคนพวกนี้ให้สิ้นได้ในไม่ช้า!

ขณะที่หลิวหลงตะโกนพูดประโยคนี้ ท้องฟ้าก็ถูกย้อมเป็นสีแดง

ระเบิดทุกลูกรวมถึงปืนไฟกับระเบิดมือทั้งหมดถูกเขวี้ยงไปทางนั้นพร้อมกัน

มีหน้ากากผีร้องคำรามทีหนึ่งก่อนที่พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติหนึ่งจะถาโถมเข้ามา กระทั่งก่อให้เกิดลมพายุรุนแรงกวาดเอาทุกสิ่ง รวมถึงระเบิดและปืนไฟเหล่านั้นขึ้นบนท้องฟ้าไป

ตู้ม!

เสียงดังสนั่นหวั่นไหว

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่สร้างพายุผู้นั้นตัวเซ เห็นได้ชัดว่าการใช้พลังเหนือธรรมชาติที่เกินขีดจำกัดภายในเวลากระชั้นชิดนี้ สำหรับเขาแล้วถือว่าเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหวเช่นกัน

ทันใดนั้นเองหลิวหลงพลันก็เลี้ยวกลับมา มือกำขวานจนเส้นเลือดตรงหลังมือปูดโปน ขวานสั้นปล่อยพลังติดต่อกันเจ็ดครั้ง

เจ็ดพลังซ้อน!

“ฆ่ามัน!”

เลือดในกายเดือดพล่าน หลิวหลงใช้ปลายเท้าเตะพื้นเด้งตัวพุ่งไปหาหน้ากากผีที่เพิ่งใช้พลังเหนือธรรมชาติเมื่อครู่โดยตรง

พลังพิฆาตแผ่ออกจากตัว เย็นยะเยือกดุจน้ำแข็ง!

น้ำฝนกระจายตัว จากนั้นหัวขวานก็ฟันลงไป ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติแห่งวายุเงยหน้าขึ้น ดวงตาฉายแววหวาดกลัวขึ้นมาชั่วขณะ เขาเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับจันทราทมิฬ แต่เมื่อครู่เขาใช้พลังเหนือธรรมชาติที่เกินขอบเขตไปหนึ่งครั้ง ตอนนี้จึงอยู่ในระหว่างสานต่อพลังเก่าและใหม่อยู่

ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยที่ผ่านสนามรบมานานอย่างหลิวหลงถนัดเรื่องหาจังหวะการโจมตีที่สุด

ขณะที่เขากำลังตกใจ จู่ๆๆ ร่างกายหลิวหลงก็ชะงัก เมื่อครู่เขาคอยขัดขืนหลบเงาโลหิตที่แนบติดร่างกายเขาอยู่ตลอด แต่ตอนนี้พอเขาได้ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดเลยไม่ทันได้ปกป้องตัวเอง ทำให้อวัยวะภายในโดนแผดเผาไปชั่วขณะ!

ทรมานอย่างถึงที่สุด!

ตัวหลิวหลงมองไม่เห็น แต่เจ้าเสือดำที่อยู่ไกลออกไปกลับมองด้วยแววตเป็นากังวล มันเห็นแล้ว เงาโลหิตสามตัวกำลังแนบชิดติดอยู่กับร่างกายของหลิวหลง อีกทั้งบนตัวยังประกายเพลิงไฟอ่อนๆ ด้วย

มันกำลังแผดเผาร่างกายของหลิวหลงอยู่!

ไม่เพียงเท่านี้ยังมีเงาโลหิตอีกหลายตัว ตอนนี้ใกล้จะลอยมาถึงตัวทหารคนอื่นๆ เหล่านั้นแล้ว

“โฮ่งๆ!”

เจ้าเสือดำเห่าเตือนทุกคนอย่างร้อนรนใจ

“ได้แค่นี้เหรอ”

จังหวะนั้นเองหลิวหลงก็ตะโกนขึ้นดังลั่นพร้อมระเบิดเสียงคำรามออกมา เขาทนฝืนต่อความเจ็บปวดแล้วใช้ขวานฟันลงกลางศีรษะของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติแห่งวายุผู้นั้น จากนั้นเลือดในตัวก็ร้อนรุ่มดั่งน้ำเดือด!

…………………………………………………………