ตอนที่ 37 ย้อนฆ่า (1)
หลี่ฮ่าวเต็มใจเป็นโล่เกราะกำบังเพื่อหาจังหวะลอบฆ่าปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยแทน
แต่แล้วหลิวเยี่ยนกลับไม่ค่อยกล้าเดิมพันนัก
ครั้งนี้ต่างไปจากครั้งที่แล้ว
ตอนที่จัดการโจวเฮ่อก่อนหน้านี้ยังมีพวกหลิวหลงคอยคุมอยู่ ลำพังแค่สิบสังหารคนเดียวยังพอกำราบได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดเรื่องเหนือคาดใดขึ้น
แต่วันนี้…จนถึงป่านนี้หลิวหลงยังไม่กลับมาเลย
แม้หลิวเยี่ยนใกล้จะบรรลุขั้นทะลวงร้อยแล้ว แต่ในเมื่อยังมีระยะห่างอยู่ อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ใช่ตัวคนเดียว ไม่อย่างนั้นสามต่อหนึ่งยังพอมีโอกาส แต่หากสู้ติดพันไม่เลิก ด้านหลังยังมีปรมาจารย์นักรบอยู่อีกหลายคนแหนะ
น้ำฝนโปรยปรายกระทบผมยาวของหลิวเยี่ยนจนเปียกชุ่ม
หญิงสาวที่งดงามเย้ายวนในยามปกติ พอตอนนี้เสื้อผ้าแนบเนื้อก็ยิ่งขับส่วนเว้าส่วนโค้งในร่างกายให้ชัดเจนมากขึ้น แต่แววตากลับไม่ได้เปื้อนยิ้มล้อเล่นเฉกเช่นปกติ ทว่ากลับแต่งแต้มด้วยความประหม่ากับความตึงเครียดแทน
หลี่ฮ่าวเองก็ไม่มีเวลาไปเชยชม เขาถูกหลิวเยี่ยนกระชากแขนไป เดิมทีเขาสู้หลิวเยี่ยนเรื่องความเร็วไม่ได้อยู่แล้ว พอตอนนี้ถูกลากไปเช่นนี้ เขาจึงเหนื่อยและอ่อนล้ามากเช่นกัน
ตอบโต้!
หลี่ฮ่าวคิดว่า เวลานี้ต้องตอบโต้คืนให้ได้
ณ ตอนนี้ยังไม่เห็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ
หากไม่เลือกตอบโต้ในเวลานี้จนถูกอีกฝ่ายตามฆ่าต่อไป บางทีอาจารย์อาจจะยอมช่วย…หากอาจารย์ช่วย บางทีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอาจจะหนีไปได้
‘จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้…’
ถึงเขาจะไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรให้ตัวเอง แต่เขาก็ได้ทำการตัดสินใจอย่างลับๆ ในใจแล้ว
หลอกล่อทุกคนที่คิดจะฆ่าตนในครั้งนี้มา!
ตนห้ามตายก่อนที่คนเหล่านี้จะรวมตัวกันเด็ดขาด
ให้อาจารย์ได้มีโอกาสลงมือ แล้วจัดการกวาดล้างให้สิ้นซากในคราวเดียว!
อาจารย์ยิ่งลงมือเร็วเท่าไร ความสำเร็จก็ยิ่งน้อยลงมากขึ้นทุกที
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเล่ห์เหลี่ยมจัด เมื่อไรที่อาจารย์ปรากฏตัวที่นี่แล้วฆ่าปรมาจารย์นักรบเหล่านี้ทิ้ง ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอื่นๆ อาจจะแตกฮือหนีหายไปในพริบตา
ดังนั้นนอกจากจะต้องยื้อทางนี้ไว้ เขายังต้องหาจังหวะตอบโต้เพื่อให้อีกฝ่ายมารวมตัวกันให้มากที่สุด
นี่คือแผนลับของหลี่ฮ่าว!
และนี่เป็นเหตุผลที่เขายอมเสี่ยงอันตรายแต่ไม่ยอมมุดหัวอยู่ในกู่ย่วนนั่นเอง
มิเช่นนั้นอาจารย์ก็เข้าสู่ขอบเขตพันยุทธ์แล้ว เขาคงเลือกหลบอยู่ที่นั่นตั้งแต่แรกดีกว่า เขาจะยอมเสี่ยงขนาดนี้ทำไมกัน
“พี่สาวครับ!”
หลี่ฮ่าวกดเสียงลงและน้ำเสียงฟังดูร้อนใจหน่อยๆ เขาต้องรีบตอบโต้ขณะที่ยังมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่
ไม่อย่างนั้นหากวิ่งไล่กันต่อไป จากระดับความเร็วนี้ ภายใต้สภาพอากาศแบบนี้ อีกประเดี๋ยวพวกเขาก็ไม่เหลือแม้กระทั่งแรงยกแขนแล้ว ปรมาจารย์นักรบก็ดี ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็ช่าง ตอนนี้พวกเขายังไม่นับว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งไร้เทียมทาน พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติกับพลังภายในนั้นมีขีดจำกัด
กิจกรรมโลดโผนแบบนี้สูญเสียพลังกายมากเกินไป
แต่แน่นอนว่าหลี่ฮ่าวยังมีไพ่ใบสุดท้ายอยู่!
เขาเริ่มใช้วิชาคายรับห้าปาณภูตปล่อยกระแสไออุ่นออกจากจี้หยกกระบี่ ตอนนี้หลี่ฮ่าวดูดซับไปส่วนหนึ่ง ส่วนที่ไหลเกินออกมาก็ถูกหลิวเยี่ยนที่กำลังจับแขนเขาแน่นดูดซึมไป
หลิวเยี่ยนที่กำลังเอาแต่หนีโดยไม่ยอมสนใจหลี่ฮ่าวพลันก็ร่างแข็งทื่อไปเล็กน้อย
ชั่ววินาทีที่กลับมาได้สติก็รีบหนีต่อไป
ทว่าหล่อนกลับรู้สึกตะลึงในใจ!
พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติหรือ
ไม่ใช่!
เมื่อครู่เธอหลงคิดว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติบุกมาแล้ว กระทั่งถูกอีกฝ่ายล็อกตำแหน่งและถูกบางอย่างแทรกซึมเข้ามาในร่างกาย แต่ปรากฏว่ากลับไม่ใช่อย่างที่คิด พลังนั่นแผ่มาจากตัวของหลี่ฮ่าว ไม่ถือว่ามาก ตรงกันข้ามกลับเบาบางเหลือเกิน
แต่ในสถานการณ์นี้พลังนี้กลับไม่สร้างแรงกระแทกให้เธอเลย แต่กลับเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย ช่วยฟื้นฟูพลังแก่เธอราวกับน้ำอุ่นแช่ตัว
นี่มันอะไรกัน
หลิวเยี่ยนในขณะนี้ความคิดสับสน ไม่มีกระทั่งเวลามาคิดไตร่ตรองว่านี่เป็นพลังอะไรกันแน่
แต่กล้ามเนื้อที่เกร็งแน่นก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับผ่อนคลายลงไปบ้าง
วิ่งเกินสามนาที
ในสถานการณ์ที่กำลังถูกไล่ฆ่า หากวิ่งอย่างเต็มกำลังแล้วต้องพาอีกคนหนีไปด้วยนั้นมักผลาญพลังงานอย่างมาก แต่ตอนนี้…เริ่มฟื้นฟูคืนมาสักนิดแล้ว!
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดฝนของหลิวเยี่ยน ฉายแววแปลกใจวูบหนึ่ง
ขณะที่วิ่งก็ใช้หางตากวาดมองหลี่ฮ่าวแวบหนึ่งไปพลาง
พลังนั่นยังคงถูกถ่ายโอนมาเรื่อยๆ เพื่อมอบความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมานานมากแล้ว แม้แต่แผลเก่าจากการกระแทกหลังจากดูดซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติในร่างกายยังเหมือนฟื้นฟูพร้อมกันไปด้วยเลย
เจ้าหมอนี่ไม่ธรรมดา!
มิน่าถึงถูกคนไล่ฆ่า!
หลิวเยี่ยนไม่พูดอะไรแต่สรุปสั้นๆ ในใจ ตอนนี้พลังงานและพลังภายในของเธอกำลังลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว ปรมารจารย์นักรบทะลวงร้อยที่ไล่ตามหลังมาแข็งแกร่งกว่าเธอก็จริง แต่เธอเองก็อยู่ในสถานะที่ใกล้จะทะลวงร้อยเหมือนกัน
พลังงานและพลังภายในของฝ่ายตรงข้ามกำลังถูกผลาญอยู่เช่นกัน!
พลังเราเพิ่มขึ้นขณะที่อีกฝ่ายกำลังลดลง หากตนฟื้นฟูเต็มที่พลังถึงจุดสูงสุดเมื่อไร ในเมื่ออีกฝ่ายบาดเจ็บเพราะตนเมื่อครู่บวกกับการไล่ล่ามาตลอดทาง บางที…
อาจมีโอกาสจริงๆ!
“ยิงปืน!”
หลิวเยี่ยนตะโกนเสียงต่ำทีหนึ่ง ทันใดนั้นก็ยกหลี่ฮ่าวขึ้นเหมือนแบกเด็กคนหนึ่งอยู่ก็มิปาน หล่อนกอดหลี่ฮ่าวเอาไว้แล้วเริ่มวิ่งหนี
หลี่ฮ่าวชะงักไปทีหนึ่ง
เมื่อกี้เขาแค่ถูกลากไปด้วย ครั้งนี้หลิวเยี่ยนกลับเลือกที่จะอุ้มตนเลย ตนเป็นผู้ชายนะ…น่าอายจริงๆ!
แน่นอนว่านาทีเขาก็ไม่ว่างจะมาสนใจเรื่องนี้แล้ว
หลิวเยี่ยนอุ้มเขา แต่หลี่ฮ่าวผละตัวออก
เขาล้วงปืน vortex รุ่นที่สามออกมา หลี่ฮ่าวเล็งไปยังปรมาจารย์นักรบหน้ากากผีที่อยู่ห่างไม่ถึงห้าสิบเมตรด้านหลัง และเป็นทะลวงร้อยเพียงหนึ่งเดียวที่มีอยู่
ปัง!
เสียงปืนลั่น!
ปรมาจารย์นักรบคนนั้นก็ฉกาจไม่ต่างจากที่คิด ต่อให้อยู่ภายใต้การวิ่งไล่ล่าด้วยความเร็วสูงแบบนี้แต่ยังคงหลบหนีลูกกระสุนได้อย่างแม่นยำ แต่อย่างไรเสียก็ถูกรบกวนจังหวะการวิ่ง เสียงก็ฟังดูเย็นชาขึ้นด้วย “หลี่ฮ่าว เธอหนีไม่รอดหรอก! เธอต้องเข้าใจว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป คนที่ตายไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว แต่มีคนต้องตายอีกมาก!”
หลี่ฮ่าวเผยสีหน้าเรียบนิ่ง ครั้งนี้เขาไม่รีบร้อนที่จะเล็งปืนแต่เว้นระยะห่างจากอีกฝ่ายก่อนใช้วิชาคายรับห้าปาณภูตต่อ พลันก็ปริปากตอกกลับไป “ผมหนีไม่รอด คุณก็อย่าหวังว่าจะรอด! อาจารย์ของผมต้องแก้แค้นให้ผม ถึงจะฆ่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติไม่ได้ แต่ปรมาจารย์นักรบทะลวงอย่างคุณ อาจารย์ผมฆ่าได้อยู่แล้ว!”
“น่าขัน!”
หยวนซั่ว!
ชื่อนี้ดังสะท้อนในใจของปรมาจารย์นักรบหน้ากากผีด้านหลัง
หยวนซั่ว!
หากเป็นเมื่อยี่สิบปีก่อน ไม่สิ สามปีก่อน เขาคงไม่กล้าหาเรื่องหยวนซั่ว ตอนนี้…ยุคสมัยของหยวนซั่วได้ผ่านพ้นไปแล้ว
เพราะการผงาดขึ้นของพลังเหนือธรรมชาติ ดังนั้นปรมาจารย์นักรบ…หึหึ!
ตัวเขาเองก็คือปรมาจารย์นักรบ แถมยังเป็นปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อย เขารู้ดีกว่าใครๆ ว่าปรมารจารย์นักรบมาถึงทางตันแล้วจริงๆ
หลายปีก่อนปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยยังทรงอิทธิพลอยู่บ้าง
แต่หลายปีมานี้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับจันทราทมิฬปรากฏตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มากเสียจนคนในระดับขั้นสุริยะพรายก็เพิ่มขึ้นไปด้วย ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับขั้นสุริยะพรายทั้งมณฑลหยินเยวี่ยมีตั้งมากมาย
นี่เทียบเท่าพันยุทธ์เชียวนะ!
ส่วนปรมาจารย์นักรบ…ทั้งมณฑลหยินเยวี่ยไม่มีพันยุทธ์แม้แต่คนเดียว
เส้นทางนักรบมาถึงทางตันแล้วจริงๆ
โบราณวัตถุอย่างหยวนซั่วก็ควรฝังลงดินได้แล้ว
หลี่ฮ่าวคาดหวังคิดจะให้หยวนซั่วมาแก้แค้นแทนเขา…หยวนซั่วดูแลตัวเองให้ดีก่อนเถอะ ผู้พิทักษ์รัตติกาลคุ้มครองเขาตลอดชีวิตไม่ได้ ศัตรูของเขามีเยอะจนนับไม่ถ้วน ได้ข่าวตั้งแต่คนๆ นั้นก้าวสู่ระดับขั้นสุริยะพรายจากทะลวงร้อย หลายปีมานี้เขาก็เหมือนจะพัฒนาขึ้น แถมยังล้ำหน้าสุริยะพรายไปอีก!
เมื่อก่อนผู้พิทักษ์รัตติกาลคงไม่สนใจสุริยะพรายคนหนึ่งจึงสามารถคุ้มครองหยวนซั่วได้ แต่หากตอนนี้คนที่อยู่เหนือชั้นกว่าสุริยะพรายคิดจะมาเอาคืน ผู้พิทักษ์รัตติกาลยังจะคุ้มครองไหวหรือ
ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัวของปรมาจารย์นักรบหน้ากากผีซ้ำๆ
ปัง!
ขณะนั้นเองลูกกระสุนหนึ่งเลยผ่านข้างหูไปอย่างเฉียดฉิวจนเกือบจะยิงโดนตัวเขาแล้ว
จากนั้นปรมาจารย์นักรบหน้ากากผีได้สติในทันที!
………………………………………………………………