ตอนที่ 39 สังหารเงาโลหิต (3)
ในเวลานี้เงาโลหิตกำลังตรงดิ่งไปที่โกดัง
ระเบิดเหรอ?
น่าขัน!
คิดว่าจะระเบิดเงาโลหิตตายได้เหรอ?
“โฮ่งๆ!”
เจ้าเสือดำเริ่มเห่าด้วยท่าทีตึงเครียด เงาโลหิตมาแล้ว!
อู๋เชาและอวิ๋นเหยายังไม่มีวิธีรับมือกับเงาโลหิต และในวินาทีนี้เองต่อให้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติไม่บุกเข้ามา แต่ทันทีที่เงาโลหิตบุกทะลวงเข้ามาระเบิดอะไรก็คงจะไม่มีประโยชน์ แต่คงจะกลายเป็นพวกเขาเองที่ถูกระเบิดจนกลายเป็นผุยผง!
“เดิมทีพวกนายไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย แต่ดันจะสาระแนเข้ามายุ่งอยู่ได้!”
ด้านนอกโกดัง หน้ากากผีน้ำเงินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
แล้วหันไปมองอวิ๋นเหยาอีกครั้ง “ลูกแก้วผลึกใสของเธอยังมีอีกเท่าไร เอาออกมาใช้ให้หมดเลยสิ!”
ระเบิดเงาโลหิตตายไปเมื่อคราวก่อนก็เป็นฝีมือของอวิ๋นเหยา
ซึ่งถือว่ายากนักที่จะเจอสิ่งของสักชิ้นที่สามารถทำร้ายเงาโลหิตได้ แต่เขามั่นใจว่าอวิ๋นเหยาคงมีไม่มากเท่าไหร่ ตอนใช้ครั้งก่อนอาจจะเป็นทั้งหมดที่มีแล้วก็ได้
ของชิ้นนั้นเกี่ยวข้องกับพลังเหนือธรรมชาติ ทีมล่าปีศาจไม่มีทางมีเยอะขนาดนั้นหรอก
สีหน้าของอวิ๋นเหยาที่อยู่ในโกดังนั้นยังเป็นปกติก่อนจะหยิบลูกแก้วผลึกใสออกมาลูกหนึ่ง วินาทีต่อมาก็โยนไปยังทิศที่เจ้าเสือดำเห่าโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ
ตูม!
เกิดเสียงดังกึกก้องแล้วลูกแก้วผลึกใสก็ระเบิดออก
อวิ๋นเหยามองไม่เห็นผลงานของตนเอง ไม่รู้ว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง แต่เสียงเก่าของเจ้าเสือดำก็เบาลงไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเงาโลหิตถูกบีบให้ถอยออกไปแล้ว
ทว่าอวิ๋นเหยาเองก็รู้ว่า…นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
หล่อนไม่ได้มีลูกแก้วผลึกใสมากมายจริงๆ ที่อยู่กับตัวตอนนี้มีแค่สามลูกเท่านั้น ทว่าเจ้าสิ่งที่ไร้รูปร่างนี้ไม่อาจระเบิดให้ตายได้ น่าจะจัดการยากกว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมากโข
“หลี่ฮ่าวล่ะ?”
พวกผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่อยู่ด้านนอกก็ไม่ได้ร้อนรนอะไร คนพวกนี้โดนล้อมเอาไว้ที่นี่และหนีไปไหนไม่ได้แล้ว!
แต่ที่เขายิ่งสงสัยกว่าก็คือพวกหลี่ฮ่าวล่ะ?
พวกปรมาจารย์นักรบจากองค์กรหน้ากากผีก็ไร้ร่องรอยหายไปกันหมด หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่านะ?
ปรมาจารย์นักรบ…มันก็แค่ขยะจริงๆ
ปรมาจารย์นักรบ 10 คน มีคนหนึ่งที่อยู่ในขั้นทะลวงร้อย แค่ให้ไปตามจับคนธรรมดาคนหนึ่งและสิบสังหารสองคน ยังจะล้มเหลวอีกเหรอ?
และในตอนนี้เองแววตาเขาก็วูบไหวน้อยๆ
แล้วหันไปมองด้านหลัง
คราวนี้พวกหลี่ฮ่าวปรากฏตัวขึ้นแล้ว เหมือนว่ายังไม่ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของเงาโลหิตก็บุกเข้ามาแล้ว เมื่อเห็นผู้มีพลังธรรมชาติที่สวมหน้ากากผี สีหน้าหลี่ฮ่าวก็เปลี่ยนไปทันที ส่วนหลิวเยี่ยนเองก็ถือมีดด้วยมือสองข้างพร้อมสีหน้าหนักใจ
“มากันแล้ว!”
ทันใดนั้นเองผู้มีพลังธรรมชาติก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “หลิวหลงนับว่าเก่งจริงๆ จนตอนนี้เหมือนว่าจะยังมีชีวิตอยู่! พวกนายก็เก่งดีนี่…แล้วพวกผีเมฆล่ะ?”
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถามถึงพวกปรมาจารย์นักรบพวกนั้น
หลิวเยี่ยนและเฉินเจียนก็ไม่เหมือนคนที่เคยเจอศึกใหญ่มาก่อน
เขามองแค่ปราดเดียวก็รู้เลยว่าคนพวกนี้ไม่ค่อยได้รับบาดเจ็บอะไร พลังภายในของหลิวเยี่ยนกำลังพลุ่งพล่าน ในสถานการณ์แบบนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่น่าจะผ่านการสู้รบใดๆ มาก่อน แล้วปรมาจารย์นักรบขององค์กรหน้ากากผีไปไหนกันแล้ว?
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็มีปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยหนึ่งคนและสิบสังหารอีกเก้าคน คงไม่ถึงกับหลงทางหรอกมั้ง?
แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่พูดยากเหมือนกัน
ฝนตกหนักขนาดนี้แถมยังเป็นช่วงกลางคืนอีก หากว่าหลงทางจริงๆ…คงตลกน่าดู!
ในตอนนี้หลี่ฮ่าวเองก็เผยสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อย เพราะตอนที่พวกเขามาถึงก็เห็นว่าเงาโลหิตกำลังบินมาทางตน อวิ๋นเหยาที่อยู่ในโกดังเริ่มร้อนรนเมื่อได้ยินเสียงเสือดำส่งเสียงร้อง “ระวังไอ้บ้านั่นเข้าใกล้พวกนายนะ!”
ทั้งหน้าของอู๋เชาแดงก่ำเป็นเลือดเอ่ยตะคอกว่า “เจ้านี้ไร้รูปร่าง สัมผัสไม่ได้ มองก็ไม่เห็น ทันทีที่เข้าไปในร่างกาย อวัยวะภายในร่างกายก็จะถูกแผดเผา!”
ยุ่งยากแล้วสิ!
หลิวเยี่ยนกำดาบในมือสองข้าง ยืนขวางหน้าหลี่ฮ่าวแล้วมองไปที่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาด้วยท่าทีระแวดระวัง “ต่อให้เจ้านั่นจะลึกลับขนาดไหนก็ต้องมีคนคอยบงการอยู่! ฆ่านายไปฉันว่าเจ้านั่นก็คงหายไปด้วย!”
พูดจบ หลิวเยี่ยนแค่นเสียงต่ำใส่ทีก่อนถีบตัวพุ่งไปหาด้วยความเร็วอย่างมาก ในมือกำดาบสองเล่มตรงไปสังหารฝ่ายตรงข้าม!
เฉินเจียนกำโล่ในมือเอาไว้แน่นแล้วพุ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว!
ช่วยไม่ได้!
ตามที่หลี่ฮ่าวพูด ตอนนี้จะลอบสังหารอีกฝ่ายก็ไร้ประโยชน์ ทางที่ดีที่สุดมีเพียงวิธีเดียวก็คือพวกเขาต้องรั้งผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนนี้เอาไว้ให้ได้เพื่อให้หลี่ฮ่าวหาวิธีจัดการกับเงาโลหิต…
เมื่อฆ่าเงาโลหิตตายแล้ว ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนนี้ก็จะสูญเสียเกราะกำบังที่ทรงพลังที่สุดไป
และในเวลานั้นเองถึงได้มีหวังจะสังหารผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนนี้ได้
แต่ในวินาทีที่หลิวเยี่ยนพุ่งตัวจะไปสังหารอีกฝ่าย เงาโลหิตก็พุ่งมาหาหล่อน
ในตอนนี้เองจู่ๆ หลี่ฮ่าวที่อยู่ด้านหลังก็หมุนตัวแล้ววิ่งไป “ทุกคนต้านเอาไว้ก่อนนะ เดี๋ยวผมจะไปหากำลังเสริม!”
เขาหนีไปแล้ว!
เดิมทีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอยากจะจัดการคนในทีมปีศาจที่อยู่ในขั้นสิบสังหารคนนั้นก่อน สุดท้ายพอเห็นว่าเห็นหลี่ฮ่าวชิงหนีไปก็นึกหัวเสียขึ้นมา
เป้าหมายของภารกิจในครั้งนี้ของพวกเขานั้นก็คือหลี่ฮ่าว!
คนของทีมล่าปีศาจพวกนี้ปล่อยไปก็ได้ แต่จะปล่อยให้หลี่ฮ่าวหนีไปไม่ได้!
เงาโลหิตไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว!
คนธรรมดาคนหนึ่งไม่มีทางหนีพ้นเงื้อมมือของเงาโลหิตไปได้ เพียงแต่ตอนนี้ยังฆ่าหลี่ฮ่าวไม่ได้ เขาจึงสั่งเงาโลหิตให้รั้งหลี่ฮ่าวเอาไว้ก่อน พอจับอีกฝ่ายได้แล้วค่อยว่ากัน
เรื่องที่เขาเป็นกังวลมากที่สุดก็คือหลี่ฮ่าวอย่าเผลอพาตัวเองหลงทาง หรือไม่ก็ทำตัวเองตายไปเสียก่อน แบบนั้นคงยุ่งยากน่าดู
“โฮ่งๆ!”
ในวินาทีนี้จู่ๆ เจ้าเสือดำก็พุ่งพรวดออกมาไล่ตามเงาโลหิตไป
อู๋เชาและอวิ๋นเหยาก็อยากจะตามไปเช่นกันแต่ไม่มีโอกาส เพราะผู้มีพลังเหนือธรรมชาติในขั้นจันทราทมิฬคนนี้ตะโกนกร้าว จากนั้นสายฝนจำนวนนับไม่ถ้วนที่โปรยปรายกลางอากาศก็กลายเป็นกระบี่ที่คมกริบหันพุ่งมาหาพวกเขาในทันที!
ควบคุมน้ำ!
โครมๆ!
บนโล่ของเฉินเจียนนั้นเองก็มีสายฝนจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงใส่ห่าใหญ่ในทันที พลังทำลายล้างนั้นทรงพลังอย่างยิ่ง หากเป็นร่างกายล่ะก็เกรงว่าคงบาดเจ็บนับไม่ถ้วน
“พวกเราบุกพร้อมกัน!”
หลิวเยี่ยนตะโกนขึ้นพร้อมแกว่งดาบแล้วกล่าว “อย่าเพิ่งสนใจหลี่ฮ่าว เจ้าพวกนี้ยังไม่กล้าฆ่าเขา พวกเขายังรอโอกาสเหมาะๆ ที่จะฆ่าเขา!”
“ฉลาดนี่!”
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่โดนพวกเขาล้อมอยู่ก็หลุดหัวเราะออกมา แต่กลับไม่ได้สนใจ
เดาได้แล้ว แต่แล้วจะอย่างไรเล่า?
ทันทีที่โบกมือ ตรงหน้าเขาก็มีปราการโล่น้ำปรากฏขึ้น หลิวเยี่ยนใช้มีดแทงใส่อีกฝ่ายแต่ก็โดนแค่ปราการโล่ที่อีกฝ่ายสร้างขึ้นเท่านั้น พลังถูกใช้ไปจนหมดแต่กลับไม่สามารถเข้าใกล้อีกฝ่ายได้เลย
“ยุคของปรมาจารย์นักรบมันผ่านไปแล้ว!”
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วโบกมืออีกครั้ง จากนั้นพลังลี้ลับก็ระเบิดออก ค่ำคืนที่สายฝนโปรยปรายนี้ก็ถือเป็นสนามรบของเขาเช่นกัน!
ที่นี่เขาสามารถปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกมา
ธนูวารีพุ่งมาจากรอบทิศทาง!
เฉินเจียนคำรามแล้วกำโล่เอาไว้ในมือ ทีมล่าปีศาจเองก็ร่วมมือกันเป็นอย่างดี อู๋เชาสะกดความเจ็บปวดของอวัยวะภายในเอาไว้แล้วกำดาบสีดำสนิทเล่มหนึ่งเอาไว้ราวภูตร้าย จากนั้นก็หมุนรอบฝ่ายตรงข้ามเพื่อหาโอกาสลงมือสังหารศัตรู!
ปรมารจารย์นักรบสิบสังหารทั้งสี่ต่างร่วมมือกันรับมือกับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติในขั้นจันทราทมิฬ แต่กลับตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างรวดเร็ว
ทว่าทั้งสี่คนนั้นเข้าขากันเป็นอย่างดี โดยให้เฉินเจียเป็นแนวหน้า ธนูวารีของฝ่ายตรงข้ามมีพลังทำลายล้างที่รุนแรง แต่กลับไม่สามารถสำแดงพลังได้ยอดเยี่ยมเหมือนเพลิงไฟ เฉินเจียงพยายามฝืนต้านทานเอาไว้
ในวินาทีนี้เองหลิวเยี่ยนก็ปลดปล่อยพลังรบทั้งหมดของตนเองออกมา ขาทั้งสองข้างตวัดออกมาเตะโล่วารีจนแตกละเอียด จากนั้นดาบคู่สองเล่มก็แทงฉับเข้าไปอย่างรวดเร็ว!
ทั้งห้าคนตะลุมบอนกันอยู่เช่นนั้น!
……
ณ สถานที่ห่างไกลออกไป
หลี่ฮ่าววิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง แต่เงาโลหิตเองก็เร็วพอกัน แค่เพียงพริบตาเดียวก็ตามเขาทันแล้ว
เจ้าเสือดำเองก็วิ่งตามมาด้านหลังอย่างรวดเร็ว พลางส่งเสียงเห่าออกมาอย่างบ้าคลั่ง
มันเห่าใส่เงาโลหิต!
ตอนนี้เองหลี่ฮ่าวก็ชะงักฝีเท้าตนเองก่อนจะมองไปรอบๆ จากนั้นก็มองเจ้าเสือดำที่วิ่งตามมาอย่างระอาใจ แกจะเห่าทำไมฉันมองเห็นหรอกน่า!
ที่สำคัญคือเห่าไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะแกทำอะไรเงาโลหิตไม่ได้ด้วยซ้ำ
เขากำจี้หยกกระบี่ในมือที่ห้อยไว้บริเวณทรงอกแน่นอย่างเป็นกังวล
หลี่ฮ่าวไม่รู้เลยว่ามันจะมีประโยชน์หรือไม่ หากจี้หยกไม่สามารถสังหารเงาโลหิตได้…เช่นนั้นก็ทำได้แค่รออาจารย์มาช่วยแล้วล่ะ
เหมือนว่าเงาโลหิตจะไม่มีสติปัญญาใดๆ มันทำได้แค่ฟังคำสั่งเท่านั้น
ครั้นเห็นหลี่ฮ่าวชะงักไป เงาโลหิตก็เข้ามาประชิดตัวเขาอย่างรวดเร็ว
หลี่ฮ่าวขนลุกทั่วทั้งร่าง!
แต่เขาก็ไม่ได้หลบ เงาโลหิตอาจเป็นสิ่งที่รับมือได้ยากที่สุด อาจจะฆ่ายากกว่าผู้มีพลังเหลือธรรมชาติด้วยซ้ำไป
หากไม่ฆ่าเงาโลหิตให้ตาย ครั้งนี้เกรงว่าคงเจอเรื่องยุ่งยากเข้าแล้วจริงๆ
“โฮ่งๆ!”
เจ้าเสือดำเห่าอีกครั้ง
หลี่ฮ่าวไม่สนใจเจ้าเสือดำอีก เขากระชากจี้หยกกระบี่ออกจากคอแล้วใช้นิ้วมือสองข้างหนีบเอาไว้แน่นแล้วทิ่มด้านคมกระบี่ใส่เงาโลหิต
ส่วนจะสังหารเงาโลหิตได้หรือไม่…คงต้องดูครั้งนี้แล้ว!
ตอนนั้นเจ้านี่ฆ่าเพื่อนสนิทของเขา ถึงแม้จะไม่รู้ว่าจะเป็นตัวเดียวกันไหม แต่เงาโลหิตก็สมควรตายทั้งสิ้น!
และในวินาทีที่เงาโลหิตเข้าใกล้ตน หลี่ฮ่าวก็กัดฟันแทงจี้หยกกระบี่ใส่อีกฝ่ายไป!
“……”
ทว่าไร้สรรพเสียงใดๆ เหมือนว่าเงาโลหิตเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้นและไม่ได้ส่งผลอะไรต่ออีกฝ่ายแม้แต่น้อย
หลี่ฮ่าวตกตะลึง!
ไม่ได้ผลอย่างนั้นเหรอ?
เป็นไปไม่ได้!
หลายครั้งก่อนนี้เหมือนจี้หยกอยากลงมือจะแย่แล้ว แต่ทำไมถึงไม่ได้ผลอะไรเลยล่ะ?
แต่ความจริงเป็นแบบนี้ เพราะเขาแทงจี้หยกกระบี่ทะลุผ่านร่างเงาโลหิตแต่กลับไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น
…………………………………………………..