ตอนที่ 47-2 ข่าวดีของทีม (2)

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา

ตอนที่ 47 ข่าวดีของทีม (2)

อวิ๋นเหยาพูดแทงใจดำประโยคเดียวและไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเธออีก ทำแผลให้เฉินเจียนเสร็จก็มองหลี่ฮ่าวแวบหนึ่ง เผยยิ้มจางๆ “ไม่มีแผลบนตัวใช่ไหม ถ้ามีมาหาฉันได้นะ”

“เชอะ!”

หลิวเยี่ยนแค่นเสียงเบาๆ อย่างไม่สบอารมณ์ทีหนึ่ง แต่ไม่ได้ปริเสียงดังมากเพราะยังกลัวอวิ๋นเหยาอยู่บ้าง

หลี่ฮ่าวฉีกยิ้มส่ายหน้า “ไม่เป็นไรครับ แค่แผลถลอกนิดหน่อย”

แผลก็พอมีอยู่บ้าง แต่แผลของเขาก็สมานเร็วจนตอนนี้แทบจะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว

ส่วนหลิวเยี่ยนถูกอวิ๋นเหยากระตุ้นอารมณ์ทีก็เกือบลืมเรื่องสำคัญไป

ฉับพลันก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “เสี่ยวฮ่าวฮ่าว นายรู้ไหม เมื่อคืนพี่เลื่อนขั้นแล้วนะ!”

ว่าแล้วเธอก็ทำท่าตื่นเต้นสุดขีด พลังภายในพลั่งพรูออกมา วินาทีถัดไปก็มีแสงสีขาวอ่อนๆ ประกายวาบตรงปลายนิ้วมือ หลิวเยี่ยนพูดด้วยเสียงตื่นเต้นว่า “เมื่อคืนดูดซับพลังลี้ลับไปนิดหน่อย ฉันก็ก้าวสู่ขอบเขตทะลวงร้อยแล้ว!”

พอสิ้นประโยคทุกคนก็เงียบไปก่อนอึดใจหนึ่ง จากนั้นก็ทำหน้าดีใจกันใหญ่

เลื่อนขั้นแล้ว!

หลิวเยี่ยนค้างอยู่ระดับสิบสังหารมาหลายปีและดูดซับพลังลี้ลับไปไม่น้อย แต่กลับไม่เคยได้เลื่อนขั้นสักทีจนไม่สามารถก้าวข้ามเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้ ทว่าบัดนี้เธอกลับเลื่อนขั้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเสียได้

ทุกคนทำท่าดีใจก่อน จากนั้นอู๋เชาก็ดูสีหน้าหม่นลงเล็กน้อย พูดเสียงเบาว่า “เลื่อนขั้นเป็นทะลวงร้อยแล้วงั้นเหรอ”

“อื้ม!”

“นี่…”

อู๋เชายังเผยสีหน้าเศร้าสร้อยอยู่ เฉินเจียนที่กำลังนั่งให้อวิ๋นเหยาช่วยทำแผลให้ก็ปิดปากเงียบ ถอดหายใจกล่าวไปพลาง “ทะลวงร้อยแล้ว…เป็นเรื่องดีนี่!”

หลี่ฮ่าวสังเกตทีหนึ่ง ทุกคนแสดงท่าทีดีใจก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความเศร้า

เขาพอจะเข้าใจความรู้สึกทุกคนดี

ทะลวงร้อยความสามารถเพิ่มขึ้น เป็นเรื่องดีก็จริง

แต่ปรมาจารย์นักรบยิ่งแข็งแกร่งเท่าไรก็ยิ่งกลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้ยาก จุดนี้ทุกคนรู้ดีอยู่แก่ใจ

พอความสามารถแข็งแกร่งขึ้น โอกาสที่จะผันตัวเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็ยากมากขึ้น

อย่างเช่นหลิวหลง ความสามารถบนสายทางปรมาจารย์นักรบเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่…หากเขาไม่สามารถก้าวข้ามเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติไปเรื่อยๆ ความสามารถที่พัฒนาขึ้นก็จะมีอยู่อย่างจำกัด

การพัฒนาของสายพลังเหนือธรรมชาติง่ายกว่ามาก

ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยก็เทียบเท่าแค่ลำดับจันทราทมิฬของขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติ แต่ดูพวกหวังหมิง หลี่เมิ่งกับหูฮ่าว ทั้งๆ ที่อายุยังน้อยก็ก้าวขึ้นเป็นจันทราทมิฬได้อย่างง่ายดายแล้ว แม้จะยังห่างชั้นจากสุริยะพรายมากแต่ก็ยังมีโอกาสสูง

ทว่ามีสักกี่คนในบรรดาปรมาจารย์นักรบที่จะก้าวข้ามไปอยู่ในขอบเขตพันยุทธ์ได้

ขีดจำกัดในการพัฒนาของทั้งสองฝ่ายต่างกันมากเกินไป!

หลิวเยี่ยนเข้าสู่ทะลวงร้อย หากเป็นเมื่อยี่สิบปีก่อนคงปิดบ้านจัดงานเลี้ยงแล้ว!

แต่ตอนนี้…เธอไม่สามารถก้าวสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติได้แต่ดันบรรลุขั้นปรมาจารย์นักรบไปอีกระดับ ต่อจากนี้โอกาสที่เธอจะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็ลดฮวบลงแล้ว!

บรรยากาศที่ยังดีในทีแรกก็ตึงเครียดขึ้นมาในทันที

หลิวเยี่ยนก็รู้สึกได้ แต่กลับไม่ได้ใส่ใจมากเท่าแต่ก่อน ยิ้มสดใส “เป็นอะไรกัน ไม่น่ายินดีเหรอ ทะลวงร้อยแข็งแกร่งมากนะ! นอกจากพี่ใหญ่แล้วฉันก็เป็นผู้แข็งแกร่งทะลวงร้อยคนที่สองในทีมแล้ว! อีกอย่างมีตัวอย่างของผู้เฒ่าหยวนอยู่ ฉันไม่สิ้นหวังเลยสักนิด! หลังจากปรมาจารย์นักรบเลื่อนขั้นเป็นพันยุทธ์ก็ยังสามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งระดับไตรสุริยาได้!”

การปรากฏตัวของหยวนซั่ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าสร้างความหวังให้แก่ทุกคนไม่น้อย

หากพูดให้เกินจริงกว่านี้ ปรมาจารย์นักรบทั้งมณฑลหยินเยวี่ยล้วนรู้สึกมีความหวังขึ้นมาหลังรู้ข่าวนี้กันถ้วนหน้า!

พันยุทธ์เอาชนะไตรสุริยาได้!

ปรมาจารย์นักรบ ตำนานตลอดไป!

แน่นอนว่าถ้าสถานการณ์เอื้ออำนวยปรมาจารย์นักรบย่อมหวังว่าจะสามารถก้าวไปอยู่ในระบบของพลังเหนือธรรมชาติได้เช่นกัน แต่ระบบพลังเหนือธรรมชาติในปัจจุบันมีผู้แข็งแกร่งสุริยะพรายอยู่มาก ไตรสุริยาก็มีบ้าง ถึงขั้นมีข่าวแว่วมาจากทางพื้นที่ภาคกลางว่ามีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติทำลายขอบเขตก้าวไปอยู่เหนือกว่าระดับไตรสุริยาแล้ว!

แต่ปรมาจารย์นักรบล่ะ

มณฑลหยินเยวี่ยอันกว้างใหญ่มีประชากรเหยียบร้อยล้าน ทว่าไม่มีพันยุทธ์แม้แต่คนเดียว…แต่ตอนนี้มีหนึ่งคนแล้ว

แต่ก็มีแค่คนเดียว!

เทียบกับปริมาณแล้วผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมีเยอะกว่ามาก

เหนือกว่าสุริยะพรายคือไตรสุริยา เหนือกว่าไตรสุริยายังมีขอบเขตอื่นๆ อีก ซึ่งรายละเอียดว่าเป็นขอบเขตอะไรนั่นยังไม่มีข่าวถูกส่งกลับมาเพราะยังมีน้อยเหลือเกิน

แต่ปรมาจารย์นักรบล่ะ

เหนือกว่าพันยุทธ์แล้วยังมีขอบเขตอะไรอีก

แม้แต่ตัวปรมาจารย์นักรบเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำ!

หากเป็นเมื่อหลายสิบปีก่อนพันยุทธ์คงอยู่ระดับเดียวกับเทพเซียนบนดิน ผู้ที่อยู่เหนือกว่าสิบสังหาร ทะลวงร้อย พันยุทธ์…ต้องรับมือกับศัตรูหนึ่งต่อหมื่นคน ใครจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่รับมือกับศัตรูหนึ่งต่อหมื่นคนได้บ้างล่ะ

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอนาคตสดใส แต่ปรมาจารย์นักรบกลับกลายเป็นเพียงอดีต

หลิวหลงที่อยู่ระดับสูงสุดของทะลวงร้อยยังกระหายที่จะเข้าสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติ หยวนซั่วก็ใฝ่ฝันถึงพลังเหนือธรรมชาติมาโดยตลอด บัดนี้หลิวเยี่ยนที่หวังจะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติกลับก้าวสู่ขอบเขตทะลวงร้อยอย่างเหนือคาด…

นี่เป็นเรื่องดี พลังของทีมแกร่งมากขึ้นแล้ว!

และเป็นเรื่องร้ายไปพร้อมกัน ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยมีโอกาสก้าวข้ามลำดับยากมากกว่าเดิม

รวมถึงหยวนซั่วที่แม้ว่าตอนนี้จะมีคนอิจฉาเขามาก แต่ก็มีคนรอดูเรื่องสนุกๆ เช่นกัน หยวนซั่วเลื่อนขั้นเป็นพันยุทธ์จึงยากจะเลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้ ขีดจำกัดของขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติถูกขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่ขีดจำกัดของปรมาจารย์นักรบกลับมีเพียงเท่านี้!

หยวนซั่วในปัจจุบันแข็งแกร่งก็จริง แต่พื้นที่ภาคกลางมีผู้ที่อยู่เหนือกว่าไตรสุริยาปรากฏตัวแล้ว อีกทั้งอยู่เหนือขั้นกว่าหยวนซั่วสองระดับ ต่อให้ปรมาจารย์นักรบจะแกร่งกล้ามากเพียงใด แล้วจะเอาชนะผู้ที่อยู่เหนือกว่าไตรสุริยาได้หรือ

มีอีกหนึ่งจุดที่สำคัญ ปรมาจารย์นักรบพัฒนาขึ้นหนึ่งก้าวต้องใช้เวลาสิบกว่าปีถึงยี่สิบสามสิบปี แต่พลังเหนือธรรมชาติเพิ่งผงาดขึ้นเพียงยี่สิบกว่าปี ตอนนี้กลับมีผู้ที่อยู่เหนือกว่าไตรสุริยาถือกำเนิดขึ้นแล้ว และมันจะมีการพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นทุกๆ ปี

นี่เป็นจุดที่เส้นทางปรมาจารย์นักรบเทียบไม่ติด!

“เป็นอะไรกันหมด”

หลิวเยี่ยนกลับยิ้มร่าอย่างดีใจ “ฉันเลื่อนขั้นนะ! ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อย! ถ้าฉันก้าวข้ามไปขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติได้ตอนที่อยู่ขอบเขตทะลวงร้อย บางทีวันหนึ่งอาจจะเลื่อนขั้นเป็นสุริยะพรายได้ เรื่องน่ายินดีขนาดนี้ พวกนายทำหน้าแบบนี้ทำไมเนี่ย”

หลี่ฮ่าวเป็นคนได้สติก่อนพลันคลี่ยิ้มกล่าว “ยินดีด้วย! พี่ หลังจากนี้พี่ก็คือผู้แข็งแกร่งทะลวงร้อยแล้ว! ทุกคนก็ไม่ต้องห่วงอะไรมาก อาจารย์ผมบอกแล้วว่าสายทางปรมาจารย์นักรบ พันยุทธ์ใช่ว่าจะเป็นขีดจำกัด! ส่วนพลังเหนือธรรมชาติถึงพัฒนาไว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผลเสีย”

หลี่ฮ่าวเห็นทุกคนมองมาก็พูดต่อ “ปรมาจารย์นักรบพัฒนาช้า จุดนี้ทุกคนรู้ดีกว่าผม แต่พลังภายในของปรมาจารย์นักรบแผ่ออกจากภายในสู่ภายนอก เป็นพลังที่เกิดจากตัวเรา ไม่มีผลดีผลเสียที่เด่นชัดมาก แต่พลังเหนือธรรมชาติล่ะ”

“พลังเหนือธรรมชาติส่วนมากได้รับจากภายนอก พอเข้าสู่เขตไร้พลังลี้ลับ ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็จะตกอยู่ในอันตราย! อีกอย่างผู้แข็งแกร่งเหนือธรรมชาติก็มีจุดอ่อนอีกเยอะ อย่างเช่นพลังธาตุไฟจะถูกกลบพลังไว้ในวันที่ฝนตกอย่างเห็นได้ชัด แต่ปรมาจารย์นักรบกลับปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อมได้…”

อวิ๋นเหยาพูดขัดเสียงเบา “เรื่องนี้ทุกคนรู้ดี แต่นายต้องรู้ว่าปรมาจารย์นักรบ…ยี่สิบปีที่ผ่านมามณฑลหยินเยวี่ยอันกว้างใหญ่นี้มีพันยุทธ์แค่คนเดียว! นั่นก็คือหยวนซั่วอาจารย์ของนาย ฉันไม่ตัดสินว่าใครแข็งแกร่งใครอ่อนแอ ใครได้เปรียบใครเสียเปรียบ กล่าวถึงพลังเหนือธรรมชาติที่เพิ่งโผล่มาได้แค่ยี่สิบปี แต่มณฑลหยินเยวี่ยกลับมีสุริยะพรายปรากฏแล้วอย่างน้อยห้าสิบคน นี่คือคนที่เปิดเผยตัวนะ แต่ที่ไม่เปิดเผยตัวยังมีอีกหรือเปล่าล่ะ องค์กรพลังเหนือธรรมชาติบางส่วนจะไม่ปกปิดข้อมูลหน่อยเหรอ รวมถึงผู้พิทักษ์รัตติกาลด้วยเหมือนกัน!”

เธอทำท่าระอาใจหน่อยๆ “พลังเหนือธรรมชาติมีจุดอ่อน ความจริงทุกคนก็เข้าใจดี…แต่พลังเหนือธรรมชาติกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งอยู่ในช่วงพัฒนา และตอนนี้ก็ยังพยายามตีโจทย์พวกนี้ให้แตกอยู่! ปรมาจารย์นักรบกลับเสื่อมลงทุกวัน ตอนนี้ศาสตราจารย์หยวนเป็นอันดับหนึ่งในขอบเขตปรมาจารย์นักรบของมณฑลหยินเยวี่ยแล้ว!”

แต่คนๆ นี้จะเทียบชั้นกับผู้แข็งแกร่งเหล่าไตรสุริยาได้หรือเปล่า

ต่อให้เขาฆ่าไตรสุริยาไปหนึ่งคน แต่เขาจะฆ่าคนที่สองได้อีกไหม

…………………………………………………………………………………..