ตอนที่ 51 อาวุธกำเนิดศาสตราเทพ (2)
แต่พอลองคิดๆ ดูอีกทีก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ ก็หาอาวุธเหล่านี้มาได้ทุกเมื่อ วางไว้ในห้องทำงานก็แค่สะดวกที่จะหยิบมาใช้งานเท่านั้น
ยิ่งกว่านั้นตอนนี้จัดตั้งหน่วยงานสำเร็จแล้ว ว่ากันตามหลักการเดิมทีอาวุธของกองตรวจการณ์ก็ควรคืนกลับไปทั้งหมด
ถึงอย่างไรผู้พิทักษ์รัตติกาลพกอาวุธปืนติดตัวกันน้อยมาก
“รู้สิ!”
หลิวหลงตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ ถามอีกว่า “แค่นี้พวกนายก็กระดี๊กระด๊าย้ายของออกไปกันแล้วเหรอ”
“ไม่ใช่แค่นั้นอยู่แล้วสิ!”
เหล่าโจวตอบเสียงร่า “หัวหน้า สมแล้วที่ผู้บังคับการตรวจตราเป็นเด็กมีการศึกษา วางแผนทำการใหญ่เชียว! เขาบอกว่าย้ายไปตอนนี้ก็เพื่อกลับมามีสถานะที่ดีกว่าในวันข้างหน้า! ผมได้ยินมาว่า…คือ…จะรับสมัครคนใหม่แล้วเหรอ”
ว่าแล้วก็มองหลิวหลงอย่างคาดหวัง
เรื่องผู้พิทักษ์รัตติกาลไม่นับว่าเป็นความลับในหน่วยปฏิบัติการ
ครั้งก่อนเมื่อผู้มีพลังเหนือธรรมชาติปรากฏตัว หน่วยปฏิบัติการออกโรงร่วมต่อสู้ด้วยตัวเองกันทั้งสิ้น ทุกคนจึงรู้ดีถึงการมีอยู่ของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ
หากเป็นไปตามที่หลี่ฮ่าวบอก สถานที่แห่งนี้ถูกใช้งาน เมืองหยินเองก็มีองค์กรนั้น หน่วยปฏิบัติการก็ยิ่งมีโอกาสได้เข้าร่วมกันทุกคน เพียงแต่ต้องผ่านการคัดเลือก
ย้ายออกไปตอนนี้ อนาคตหากถูกเลือกก็กลับมาได้ตามเดิม
อีกอย่างยังเพิ่มเงินเดือนเพิ่มสวัสดิการ แถมเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้อีกต่างหาก
ทุกคนตั้งตารอคอยกันมากทีเดียว!
หลิวหลงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย “เหล่าโจว อันตรายมากนะ นายเป็นคนเก่าคนแก่ รู้อะไรก็ไม่น้อย”
ทำไมถึงตื่นเต้นเหมือนเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งไปได้ล่ะ
เหล่าโจวกลับฉีกยิ้มออกมา “หัวหน้า ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะกลายเป็นคนประเภทนั้น! ผู้บังคับการตรวจตราหลี่บอกแล้วว่ารับสมัครไม่กี่คนเข้าไปทำงานด้านเอกสาร เลื่อนตำแหน่งขึ้นทันทีหนึ่งระดับ เงินเดือนเพิ่มขึ้นเท่าตัว ยังไงซะเงินเดือนก็มาจากเบื้องบน คุณไม่ได้เป็นคนควักกระเป๋า ผู้บังคับการตรวจตราหลี่บอกอีกว่าของฟรีไม่รับไว้คงเสียดายแย่ เขาเคยถามมาแล้วว่าในสถานการณ์ทั่วไป ผู้พิทักษ์รัตติกาล…แค่กๆ สามารถเปิดองค์กรคนธรรมดาในแต่ละพื้นที่ได้ซึ่งรับจำนวนไม่น้อยด้วย แถมเป็นงานที่เพิ่มเงินเลื่อนตำแหน่งกันทั้งนั้น รับไว้ไม่เสียหาย คุณว่าใช่ไหมล่ะ”
หลิวหลงทำตัวไม่ค่อยถูก อย่างนั้นหรือ
ฉันไม่รู้
ไม่สิ ฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้ต่างหาก
ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง!
ผู้พิทักษ์รัตติกาลมีหน่วยงานรับผิดชอบด้านเอกสารด้วยหรือ
เดิมทีเขาคิดว่าให้หลี่ฮ่าวทำงานด้านนี้ก็พอ ใครจะรู้ว่าพริบตาเดียวหลี่ฮ่าวก็รับจ้างคนนอกทำงานนี้ไปเสียแล้ว
เจ้าหมอนี่ไม่เลวนี่นา!
พวกหลิวเยี่ยนที่ฟังอยู่ข้างๆ ก็หลุดหัวเราะ เฉินเจียนก็เอ่ยเสียงกลั้วขำอย่างอดไม่ได้ “ความคิดหลี่ฮ่าวไม่เลวเลย รู้จักหาสวัสดิการให้เราด้วย ก็ถูก เรื่องเลื่อนตำแหน่งเราไม่สนใจ พวกเหล่าโจวกลับสนใจ เลื่อนได้ก็เลื่อน ยังไงซะเบื้องบนก็เป็นคนควักเงินจ่าย”
เหล่าโจวที่กำลังย้ายของอยู่ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ใช่สิ! หัวหน้า ผมนึกว่าคุณทำไปเพื่อดูแลพี่น้องเป็นพิเศษซะอีก หรือไม่ใช่เหรอ”
เขาดูผิดหวังประมาณหนึ่ง
เรื่องดีๆ แบบนี้หัวหน้าไม่ได้คิดเผื่อพี่น้องอย่างพวกเขาเลยหรือ
ผู้บังคับการตรวจตราหลี่มีน้ำใจมากจริงๆ!
หลิวหลงดูอึดอัดใจประมาณหนึ่ง ไม่นานก็กลับมาเย็นชาหยิ่งยโสเหมือนเดิม “ไสหัวไปเลย! ฉันเคยคิดมาตั้งนานแล้ว แค่เป็นห่วงว่าพวกนายจะเป็นอันตราย…”
“ฟังหัวหน้าพูดเข้าสิ ช่างเถอะ ไว้ผมจะลองไปถามผู้บังคับการตรวจตราหลี่ว่ามีตำแหน่งว่างสำหรับผมไหม…ไม่คุยกับหัวหน้าต่อแล้ว”
ว่าแล้วเหล่าโจวก็สะบัดก้นเดินจากไป
หลิวหลงทำเอือมระอา คนเราช่างเลือดเย็นกันเสียจริง นี่เรายังไม่ไปไหนด้วยซ้ำ เจ้าพวกนี่ก็วิ่งหาที่พึ่งใหม่เสียแล้ว
ไม่นานหลี่ฮ่าวก็กลับมา
เมื่อเห็นทุกคนกำลังยุ่งอยู่ก็รีบตะโกน “ทุกคนเร่งมือกันหน่อย พยายามย้ายให้เสร็จก่อนตะวันตกดินนะ! สถานที่ทำงานใหม่ไม่เลว อีกอย่างเมื่อกี้ผมไปหาผู้อำนวยการมู่มาแล้ว ผู้อำนวยการมู่ไม่อยากปล่อยทุกคนไป ผมลองโน้มน้าวดูก็ได้โควต้าตำแหน่งมาสิบที่! อีกทั้งมากสุดเลื่อนได้หนึ่งระดับ หากเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้บังคับการตรวจตราคงยากไป…ฉะนั้นผมขอแนะนำว่าถ้าเป็นผู้ตรวจการณ์ระดับสองจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุด! ”
“แน่นอนว่าถ้าผู้ตรวจการณ์ระดับหนึ่งอยากได้รับโอกาสนี้เหมือนกันก็รอหน่อย! รอหน่วยงานเราขยายกว้างขึ้นกว่านี้ ผมจะลองขอให้พี่ๆ หน่วยปฏิบัติการมาช่วย!”
“ผู้บังคับการตรวจตราหลี่ใจป้ำจริงๆ!”
“สมแล้วที่เป็นนักศึกษาจากกู่ย่วนแห่งเมืองหยิน!”
“ผู้บังคับการตรวจตราใจเด็ดมาก!”
“…”
ทุกคนต่างพูดเยินยอประจบประแจง สำหรับพวกเขานี่เป็นเรื่องที่ชวนน่าตื่นเต้นอย่างมาก ทำงานก็ลำบากเหนื่อยสายตัวแทบขาด พวกเขาไม่ได้โสดตัวคนเดียวเหมือนพวกหลิวหลงที่กินอิ่มท้องโดยไม่ต้องสนใจปากท้องของคนทั้งครอบครัวได้
พวกเขายังต้องหาเลี้ยงทั้งครอบครัวแหนะ
เลื่อนตำแหน่งเพิ่มเงินเดือน สำหรับพวกเขาแล้วเป็นเรื่องที่ดีมาก
……
หลิวหลงคอยดูอยู่เงียบๆ ผ่านไปพักใหญ่ก็มองไปทางหลิวเยี่ยนพลางเอ่ยเสียงเบาว่า “หลายปีมานี้เรามัวแต่ใฝ่ฝันถึงพลังเหนือธรรมชาติจนลืมชีวิตปกติไปซะได้ มิน่าหน่วยปฏิบัติการก่อนหน้านี้ถึงดูวุ่นวายนัก”
เพราะพวกเขาลืมไปว่าพี่น้องเหล่านี้ต้องการอะไร
เลื่อนตำแหน่งเพิ่มเงินเดือน ขอเพียงไม่อยู่นอกเหนือระบบ นี่ล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาใฝ่ฝันกันทั้งสิ้น
ส่วนหลิวหลงกลับไม่เคยให้พวกเขาเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา
แต่ในทางกลับกันจนถึงตอนนี้หลี่ฮ่าวก็ยังคิดว่าตนเป็นคนธรรมดา เขารู้ว่าคนกลุ่มนี้ต้องการอะไร ฉะนั้นจึงสามารถสนองความต้องการพวกเขาได้ ดังนั้นต่อให้เขาเพิ่งเลื่อนตำแหน่งทุกคนก็ยินดีที่จะเรียกเขาว่าผู้บังคับการตรวจตรา
เรียกคำเดียวไม่ขาดทุนสักหน่อย ขอเพียงอนาคตสามารถก้าวขาเข้าไปทำงานฝ่ายเอกสารนี้ได้ ก็เท่ากับว่ารวยแล้ว
หลิวเยี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย ยิ้มเอ่ยว่า “ไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันเป็นแค่รองหัวหน้าเท่านั้น ลูกพี่ นั่นความผิดของพี่นะ อย่าคิดจะโยนความผิดมาให้ฉันเชียว”
ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้น หลี่ฮ่าวก็วิ่งมาหาพลางเอ่ยอย่างดีใจว่า “ทุกคนยอมย้ายแล้ว ผมคุยกับผู้อำนวยการมู่แล้วด้วย ผู้อำนวยการมู่บอกว่าตึกข้างๆ ให้หน่วยปฏิบัติการใช้ได้ เดิมทีก็ว่างอยู่แล้ว แค่ทำความสะอาดนิดหน่อยก็พอ! ลูกพี่ แบบนี้เราก็มีแหล่งปักหลักของเราเองแล้ว!”
หลิวหลงหลุดขำ “คุณนี่ทำงานเก่งซะจริง!”
เดิมทีคิดว่าเขาจะทำให้คนอื่นๆ พร่ำบ่นโอดครวญเสียงดังเสียอีก
“ทำไมคุณถึงคิดจะเปิดรับสมัครคนกลุ่มหนึ่งมาทำงานฝ่ายเอกสารเบื้องหลังล่ะ”
“หวังหมิงเป็นคนบอกครับ”
หลี่ฮ่าวยังจำเรื่องนี้ได้ดี “ตอนนั้นเขาชวนผมไปที่เมืองไป๋เยวี่ย ถึงผมจะเป็นคนธรรมดาก็ไม่เป็นไร ทางเมืองไป๋เยวี่ยก็ต้องการคนธรรมดาทำงานฝ่ายเอกสารเหมือนกัน ผมเลยลองถามดูสุดท้ายหน่วยงานย่อยของผู้พิทักษ์รัตติกาลก็มีอำนาจเปิดรับสมัครคนธรรมดาเหมือนกัน แค่ไม่ได้ทำงานแนวหน้าเท่านั้น ส่วนเปิดรับกี่โควต้าไม่ได้ระบุไว้ แต่ในสถานการณ์ทั่วไปขอแค่ไม่เยอะไปกว่าสมาชิกผู้พิทักษ์รัตติกาลก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว”
“คุณนี่ความจำดีจริงๆ!”
หลิวหลงเอ่ยชมประโยคหนึ่ง พลันก็พูดขึ้นว่า “แต่อย่าลืมเรื่องสำคัญ! อย่ามัวแต่คิดถึงเรื่องตำแหน่ง หากลุ่มหลงในอำนาจไปคงไม่ดี คุณคิดหาทางพัฒนาความสามารถคุณหน่อยดีกว่า คุณเป็นถึงรองหัวหน้าแล้ว แต่ความสามารถระดับนี้…ไม่เข้าท่าเท่าไร!”
หลี่ฮ่าวยิ้มแห้งเอ่ย “ลูกพี่วางใจได้ ผมพยายามอยู่ตลอด จะรีบเลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติในเร็ววันครับ!”
ความสามารถหรือ
ทะลวงร้อยแล้วก็ยังถือว่าใช้ได้หรือเปล่า
ทำอะไรต้องเตรียมการไว้ให้ดี หลี่ฮ่าวไม่ได้คิดจะทำงานฝ่ายเอกสารตลอดไปจริงๆ ตอนนี้หาคนมาแบ่งเบาภาระก็จะได้เผื่อเวลาไปฝึกวิชายุทธ์ได้มากพอ
…………………………………………………………………………..