ตอนที่ 335 เจ้ากลัวภรรยา!

เซียนหมากข้ามมิติ

ตอนที่ 335 เจ้ากลัวภรรยา!

จี้หยวนกระโดดลงจากตัวเรือในทันที เหาะไปถึงบนหลังของแม่ทัพวาฬยักษ์ ธิดามังกรรีบตามมาถึง ฝ่ายฉือกุยและหลินเจี้ยนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ลงมาด้วย

จี้หยวนถามวาฬยักษ์ทันที

“แม่ทัพวาฬยักษ์ ได้ยินเสียงกลองเมื่อครู่หรือไม่ มองเห็นแสงสีแดงบนท้องฟ้าเมื่อครู่หรือไม่”

สภาวะของแม่ทัพวาฬยักษ์ในตอนนี้แปลกอยู่บ้าง มันลังเลก่อนกล่าว

“เรียนท่านจี้ ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย มองไม่เห็นแสงสีแดงอะไรเช่นกัน ทว่า ทว่าเมื่อครู่ข้ารู้สึกถึงแรงกดดัน แทบควบคุมตนเองไม่ได้ เกือบดำน้ำว่ายไปยังทะเลลึกแล้ว สุดท้ายจึงส่งเสียงเรียกอย่างทนไม่ได้ จากนั้น…”

ลูกตาของวาฬยักษ์กลอกขึ้นข้างบน มองจี้หยวนที่อยู่บนหลัง

“จากนั้นข้าได้ยินเสียงร้องแปลกๆ เสียงนั้นทำเอาข้าตกใจเกือบตาย โชคดีที่มันหายไปทันที!”

“เจ้าได้ยินเสียงเรียกนั้นหรือ”

จี้หยวนรู้สึกแปลกและรู้สึกว่าสมเหตุสมผลอยู่กลายๆ

“ถูกต้อง ข้าได้ยินเสียงเรียกนั้น เสียงแปลกมากและแหบพร่าอยู่บ้าง เหมือนกับอยู่ใกล้แค่คืบและเหมือนกับอยู่ไกลถึงขอบฟ้า ตอนเจ้าแม่โมโหข้ายังไม่กลัวขนาดนี้เลย!”

ผิวน้ำทะเลใต้ร่างวาฬยักษ์กระเพื่อมขึ้นลงระลอกหนึ่ง จากนั้นถามจี้หยวนด้วยความกลัวที่ยังคงอยู่

“ท่านจี้ ท่านเป็นผู้สูงส่งอัศจรรย์ ความรู้ประสบการณ์มากมาย ท่านรู้หรือไม่ว่าเสียงเรียกนั้นคืออะไร เป็นปีศาจจากที่ใด”

“เดี๋ยวก่อน เจ้าก็ได้ยินหรือนี่ แล้วเหตุใดข้าไม่ได้ยินกัน”

อิงรั่วหลีถามแม่ทัพวาฬยักษ์อย่างหาได้ยาก ฝ่ายแม่ทัพวาฬยักษ์มีระดับการฝึกปราณน้อยกว่านาง แล้วเหตุใดมันถึงได้ยินเล่า

“เอ๋? เทพีรั่วหลีไม่ได้ยินหรือ”

แม่ทัพวาฬยักษ์ยิ่งแปลกใจ รีบอธิบายความรู้สึกกดดันและหวาดกลัวเมื่อครู่นี้กับอิงรั่วหลี ฝ่ายหลังฟังแล้วมองจี้หยวนพลางครุ่นคิด

เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน แม้แต่ท่านอาจี้เองก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจ

“เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องคิดมาก ในเมื่อไม่มีต้นสายปลายเหตุก็อย่าไปคิดมากเลย อาหารเต็มโต๊ะนั้นข้ายังไม่ได้จ่ายเงิน ข้าจะไปจ่ายเงินก่อน”

เมื่อกลับไปถึงบนเรือเหาะ จี้หยวนตรงกลับไปยังร้านอาหาร ก่อนจะจ่ายเงินโดยไม่คิดจะอยู่ต่อสักเท่าไหร่ เตรียมจากที่นี่ไปทันที

ความจริงเดิมทีจี้หยวนอยากโดยสารยานข้ามแดนของเขาเก้ายอดสักครู่ แต่อย่างไรก็ดีการเดินทางครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน และจุดมุ่งหมายนี้แตกต่างกับเขา อีกทั้งไม่อาจทิ้งแม่ทัพวาฬยักษ์ไว้ลำพัง เรือเหาะลำนี้แล่นบนผิวน้ำทะเลน้อยมาก นอกจากนี้ให้แม่ทัพวาฬยักษ์ว่ายน้ำตามไม่ได้ด้วยเช่นกัน

ราคาอาหารบนเรือเหาะเซียนแพงตามคาด หมดเงินไปสิบตำลึงเงินเต็มๆ จี้หยวนเสียเงินเก็บไปมากกว่าครึ่งในคราวเดียว แต่ความจริงแล้วอาหารชั้นเลิศและสุรารสดีทั่วไปก็เป็นเงินหนึ่งตำลึงแล้ว ได้กำไรอย่างแท้จริง และเป็น ‘พืชผลเซียนตามฤดูกาล’ ตามที่ว่าไว้

รสชาติไม่ได้พิเศษแตกต่าง ทว่าราคาแพงหูฉี่

กินอิ่มแล้ว จี้หยวนคิดไป เซียนเขาเก้ายอดสองคนย่อมไปส่งที่ข้างเรือ

“ท่านจี้ ได้พบกันนับว่ามีวาสนาต่อกัน ข้าเห็นว่าปราณมรรคเซียนของท่านบริสุทธิ์ดีงาม เป็นผู้ฝึกเซียนคุณธรรมสูงส่งของโลกนี้ เขาเก้ายอดของพวกข้าอยู่ที่เกาะนิรันดร์ทางเหนือ ทุกปีชวดจะจัดงานชุมนุมเซียนพเนจร คำนวณวันเวลาดูแล้วอีกไม่กี่ปีเท่านั้น งานชุมนุมจะเริ่มต้นขึ้นในฤดูร้อนของปีอู๋ซู หากตอนนี้ท่านเซียนมีเวลาว่าง เดินทางมาเยี่ยมเยียนเขาเก้ายอดของพวกเราได้เลย”

ฉือกุยพูดถึงตรงนี้แล้วหยิบไม้ไผ่ชิ้นหนึ่งออกจากตัว จากนั้นส่งให้จี้หยวนด้วยสองมือ

“ท่านจี้ นี่คือของที่ระลึกเขาเก้ายอดของพวกข้า หากท่านมาเยี่ยมเยียน คนที่หน้าเขาจะนำท่านมาหาข้าหรือหลินเจี้ยน อีกทั้งหวังให้ท่านจี้มีเวลาว่างให้เกียรติมาเยือน ไม่จำเป็นต้องเป็นตอนที่มีงานชุมนุมเซียนพเนจรก็ได้ พวกข้าต้อนรับท่านทุกเมื่อ!”

จี้หยวนไม่ปฏิเสธเช่นกัน ยื่นมือไปรับมาดู บนแผ่นไม้ไผ่เขียนว่า ‘บัญชาเก้ายอด’ มีอาคมพิเศษซ่อนอยู่ในนั้นด้วย

“ตกลง หากว่างจะต้องไปเยี่ยมเยียนแน่นอน!”

จี้หยวนรับแผ่นไม้ไผ่แล้วประสานมือ

“เช่นนั้นพวกข้าขอตัวก่อน ไม่ต้องไปส่ง!”

“ท่านจี้รักษาตัวด้วย!”

เซียนสองคนกล่าวอำลา จี้หยวนพยักหน้าแล้วบินออกจากยานข้ามแดนอีกครั้ง อิงรั่วหลีที่อยู่ข้างๆ ยิ่งไม่บอกลาสองคนนั้น บินลงไปทันที

ก่อนหน้านี้เซียนสองคนจากเขาเก้ายอดมอบป้ายไม้ไผ่และเชื้อเชิญจี้หยวนเพียงคนเดียว ชัดเจนว่าไม่ได้คิดเชิญธิดามังกรอย่างนางด้วย แม้ธิดามังกรไม่แปลกใจ ทว่าอย่างไรก็รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง เสแสร้งสักนิดไม่ได้หรือไรกัน

ครั้นเหยียบหลังแข็งแกร่งของวาฬยักษ์อีกครั้ง ยานข้ามแดนบินขึ้นทันที ฉือกุยและหลินเจี้ยน รวมถึงผู้ฝึกปราณเขาเก้ายอดจำนวนหนึ่งประสานมือคารวะไปทางจี้หยวน ฝ่ายจี้หยวนเพียงพยักหน้า ไม่ได้คารวะกลับ

“เฮอะ ผู้ฝึกเซียนเหล่านี้คุณธรรมสูงส่งนัก ทว่าไม่เห็นข้าเผ่าปีศาจอยู่ในสายตา”

เห็นอิงรั่วหลีทำท่างอนอย่างหาได้ยาก จี้หยวนพลันยิ้มปลอบใจว่า

“อย่างไรเสียก็เป็นเช่นนี้ไปแล้ว หากเจ้าแสดงฐานะเทพีแม่น้ำอาจดีกว่านี้หน่อย อีกอย่างหากเมื่อครู่พวกเขาเชื้อเชิญจริง ตอนนี้เจ้าไปจริงก็อาจทำให้เกิดความอึดอัด มิสู้ไม่เชิญดีกว่า”

“ข้าก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดี! แม่ทัพวาฬยักษ์ ช้าอะไรอยู่ ยังไม่รีบว่ายน้ำอีกหรือ”

“อ้อๆๆ! รับบัญชา!”

ได้ยินอิงรั่วหลีกล่าวอย่างมีน้ำโห วาฬยักษ์เคลื่อนตัวไปข้างหน้าทันที ตอนนี้ยานข้ามแดนบินไปไกลแล้ว เหลือเพียงเงาเรือส่องสว่างกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน

ตอนนี้จี้หยวนไม่สนใจเขียนตัวอักษรแล้ว เพียงยืนรับลมทะเลอยู่บนหลังวาฬ ความคิดลอยไปไกลถึงขอบฟ้า

เสียงกลองพิเศษนั้นคืออะไรกันแน่ เสียงเรียกนั้นคืออะไร เหตุใดแม่ทัพวาฬยักษ์ได้ยินเช่นกัน ทว่าเหตุใดเขาได้ยินไม่หมด ทางทะเลบูรพามีอะไร

จี้หยวนเชื่อว่าเกิดเรื่องแปลกแบบนี้ขึ้นตอนเปลี่ยนผ่านปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ต้องมีเหตุผลแน่ อีกทั้งถูกเขามองเห็นอีก ไม่แน่ว่าอาจเกี่ยวข้องกับเสียงร้องของแม่ทัพวาฬยักษ์เช่นกัน

“เฮ้อ…เมื่อกำลังคนมีจำกัด เป็นเรื่องยากที่จะเห็นความลึกลับทั้งหมดของโลก”

จี้หยวนถอนหายใจ ธิดามังกรเห็นว่าเขาอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา

จวนบาดาลแม่น้ำเทียมฟ้า ในที่สุดบุตรมังกรอิงเฟิงที่ไปเที่ยวเล่นดื่มสุรากับสหายก็กลับมาถึงจวนบาดาลแล้ว

เงามังกรว่ายเข้ามาในเขตอาคมของจวนบาดาล พบว่ามีตำหนักหลายหลังพังทลายแล้ว นอกจากนี้หลายสถานที่ดูเหมือนสร้างขึ้นมาใหม่เช่นกัน

มังกรเจียวกลายร่างเป็นบุรุษในชุดคลุมผ้าไหม จากนั้นคว้าหญิงสาวครึ่งคนครึ่งปลาที่ผ่านมาไว้

“เกิดอะไรขึ้น มีใครกล้าบุกจวนบาดาลแม่น้ำเทียมฟ้าของพวกเราหรือ”

“องค์ชายกลับมาแล้วหรือ ไม่มีใครกล้าบุกจวนบาดาลเจ้าค่ะ ทว่าประมุขมังกรจามขณะหลับฝันสองครั้ง ทำเอาทั้งน่านน้ำแม่น้ำเทียมฟ้าสั่นคลอน”

อิงเฟิงพยักหน้าเข้าใจ

“อ๋อ ที่แท้เป็นเช่นนี้ ท่านพ่อจามเป็นด้วยหรือนี่ หลายปีมานี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย แต่น่าเสียดายทีเดียว…”

อิงเพิงไม่ถามมากอีก ตรงไปยังตำหนักหลัก จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่แสนสบายไม่ขยับเขยื้อน ขาพาดอยู่บนพนักแขน ยื่นมือคว้าขนมมาใส่ปากเคี้ยว ก่อนจะหยิบสุรากาหนึ่งออกมาจากในอกเสื้อ หลังจากดมกลิ่นดูแล้วก็อ้าปากดื่มทีละนิดอย่างระมัดระวัง

“จิ๊ๆๆ…ดื่มมากไม่ได้ๆ นี่ต้องมอบให้ท่านอาจี้!”

กาสุราทำจากอัญมณีหยกขาว เรียกว่า ‘กาเชียนโต่ว’ นับว่าเป็นของมีค่าชิ้นหนึ่ง ชื่อของมันมีความหมาย อย่ามองว่ามันเป็นกาขนาดเล็กจ้อย ในนั้นบรรจุสุราได้มากกว่าพันกระบวย นับว่ามากมายนัก

“ฮ่าๆ ท่านอาจี้ต้องชอบแน่! หากเขาอารมณ์ดี สอนเวทอสนีให้ย่อมดีที่สุด เช่นนั้นข้าก็จะ…”

อิงเฟิงฝันหวานอีกครั้ง จากสหายนักดื่มนามเกาเทียนหมิง เขารู้ว่าท่านอาจี้ของตนมีวิชาอัศจรรย์ที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างอื่นด้วย เพลิงสมาธิอันเป็นหนึ่งในวิชาเหล่านั้นย่อมสร้างความกลัวได้ ทว่าที่อิงเฟิงสนใจที่สุดคือเวทอสนี

เดินเตร่อยู่ในตำหนักแล้วหลายรอบ ทว่าไม่เจอน้องสายตนเองเสียอย่างนั้น

“รั่วหลีเล่า”

อิงเฟิงมุ่นคิ้ว น้องสาวเขานอกจากช่วยบิดารวมเมฆสร้างฝน แต่ไหนแต่ไรนางไม่ออกไปข้างนอกเท่าไหร่ หากใช้คำพูดในชาติก่อนของจี้หยวนก็คือติดบ้านมาก แต่วันนี้เขากลับมาตั้งนานแล้วกลับไม่เห็นน้องสาวออกมา

“เจ้า เจ้าเห็นรั่วหลีบ้างหรือไม่”

อิงเฟิงถามเงือกสาวที่ยกขนมสดใหม่เข้ามา อีกฝ่ายส่ายหน้าระรัว

“เทพีแม่น้ำไม่อยู่ที่จวนบาดาลเจ้าค่ะ บ่าวไม่ทราบเหมือนกันว่านางไปที่ไหน!”

อิงเฟิงมุ่นคิ้วอีกครั้ง ลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง เดินไปข้างนอกเห็นยักษ์มุ่งหน้ามาถึง จึงถามออกไปตามตรง

“พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่ารั่วหลีไปที่ใด”

ยักษ์สองตนเดิมทีมารายงาน ย่อมหยุดฝีเท้าประสานมือตอบ

“ทูลองค์ชาย ก่อนหน้านี้ท่านจี้มาที่นี่ เชิญประมุขมังกรและเทพีแม่น้ำ รวมถึงองค์ชายไปยังสถานที่หนึ่ง ตอนนี้เทพีแม่น้ำไปกับท่านจี้”

“เอ๋? บิดาข้าก็ไปหรือ เหลือแค่ข้าคนเดียวที่ไม่ได้ไป?”

ยักษ์รีบตอบอย่างระมัดระวัง

“ประมุขมังกรหลับลึก ท่านจี้และเทพีมังกรเรียกอยู่หลายครั้งก็ยังไม่ตื่น จึงยังอยู่ในบึงมังกรขอรับ”

อิงเฟิงเบิกตามองไปยังบึงมังกรที่อยู่ข้างหลังตำหนัก

“บิดาข้าไม่ตื่น? อย่ามาพูดเหลวไหล! เขาต้องแกล้งหลับเป็นแน่! ท่านอาจี้มาพบแต่ไม่ไป แปลกนัก!”

ยักษ์สองคนแม้อยู่ในน้ำก็ยังคงเหงื่อตก รีบก้มหน้าลงทันที ตามองจมูกและปากตนเอง

อิงเฟิงถามต่อ

“เช่นนั้นพวกเขาไปไหนแล้ว ข้าจะได้ตามไป!”

“ได้ยินว่าไปทางสุดทะเลบูรพา ตรงที่ติดกับทะเลอุดร ปีศาจวาฬที่เรียกตนเองว่าแม่ทัพวาฬยักษ์ขอร้องท่านจี้ หวังว่าจวนบาดาลของพวกเราจะไปช่วยโน้มน้าวเจ้าแม่”

“ท่านแม่!”

อิงเฟิงร้องเสียงดัง บนใบหน้าปรากฏแววกระวนกระวาย

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ท่านแม่ข้าเป็นอะไร ไยขอร้องท่านจี้เช่นนี้ เหตุใดไม่มาที่แม่น้ำเทียมฟ้าโดยตรง เอาล่ะบอกข้ามาว่าต้องไปอย่างไร ข้าจะไปหาพวกเขา!”

“องค์ชายอย่าเพิ่งรีบร้อน ท่านจี้ไปกับเทพีแม่น้ำนานมากแล้ว พวกข้าไม่รู้ว่าไปทางไหนเช่นกัน ตอนนี้ท่านอาจตามไปไม่ทันแล้ว”

ยักษ์อีกตนหนึ่งโน้มน้าว

“ใช่แล้วองค์ชาย ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลไป ครั้งนี้มีจี้หยวนไปเป็นเพื่อน ไม่ต่างอะไรกับประมุขมังกรไปด้วย ไม่มีทางเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นแน่!”

อิงเฟิงหันซ้ายหันขวา ฟาดฝ่ามือสองข้างอย่างแรง

“เฮ้อ ข้าจะไปหาท่านพ่อ!”

อิงเฟิงที่ฝีเท้ารีบร้อนมาถึงนอกบึงมังกรทันที เห็นท่าทางเขาโมโหร้าย ยักษ์ด้านข้างจึงไม่กล้าขวาง อิงเฟิงคิดเพียงแต่จะพุ่งเข้าไป ทว่าถูกสายน้ำดีดออกมาแล้ว

“ท่านพ่อ! อย่าแกล้งหลับเลย หากไม่อยากให้ข้าเข้าไปก็บอกข้าว่าจะไปหาท่านแม่อย่างไรก็ได้! ท่านพ่อ ท่านทำเกินไปแล้ว!”

อิงเฟิงทุบประตูทางเข้าประตูมังกรดังตึงๆ ทว่าทำให้เขตอาคมฟองกาศเป็นรอยบุ๋มเท่านั้น ไม่นานก็กลับคืนสู่สภาพปกติ

“ท่านพ่อ ท่าน…ท่านๆๆ…ท่านกลัวภรรยา!”

“โฮก…เจ้าลูกทรพี…”

เสียงคำรามเพราะความโกรธของมังกรเฒ่าดังขึ้น

ครืน…

คลื่นน้ำขนาดใหญ่ม้วนพัดออกมา กระแทกอิงเฟิงลอยหวือไปในทันที น่านน้ำของแม่น้ำเทียมฟ้าสั่นสะเทือนอีกครั้ง ทั้งจวนบาดาลเจอกับความวุ่นวายอีกแล้ว…