เล่มที่ 1 บทที่ 2 ข้ามภพมาอยู่ในเกี้ยว

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

อันที่จริงเวลาที่จำเป็นต้องใช้นั้นเพียงหนึ่งนาทีครึ่งเท่านั้น แต่ทำไมเธอรู้สึกว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน

ยี่สิบวินาที

ศีรษะ…เจ็บปวดราวกับกำลังจะระเบิด นักวิจัยซึ่งสวมใส่ชุดสีขาวยืนมองดูสถานการณ์อยู่ด้านหลังกำแพงกระจกโปร่งใส

ฝืนทนอีกสักนิดเถอะนะ ทว่าในขณะที่เครื่องทดลองเดินเครื่องต่อจากนั้นอีกสิบกว่าวินาที อยู่ๆ สติของเธอก็เริ่มเลือนราง

สามสิบวินาที

ความเจ็บปวดซึ่งไม่อาจทราบที่มาที่ไปได้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง

น่ากลัวเหลือเกิน…อวัยวะภายในของเธอกำลังปริออกจนเผยให้เห็นถึงร่องรอยของการถูกทำลาย

สามสิบแปดวินาที

ในชั่วขณะก่อนที่ดวงตาของเธอจะพร่ามัว ซูชิงเกอกลับนึกถึงใบหน้าซึ่งเปี่ยมไปด้วยความกังวลของอาจารย์ขึ้นมาได้

สุดท้ายร่างกายที่แสนบอบบางก็ไม่อาจทานทนต่อแรงสั่นสะเทือนที่มีอัตราความถี่สูงเช่นนี้ได้…อีกทั้งยังในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่สิบวินาทีเท่านั้น

ไม่อยากจะยอมรับเลยจริงๆ!

นี่คือห้วงความคิดในชั่วอึดใจสุดท้าย ก่อนที่ความมืดมิดจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างไป

ท่ามกลางความสับสนและมึนงง ซูชิงเกอสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ทำให้เธอรู้สึกรำคาญไปทั่วทั้งร่าง

ไม่ใช่ว่าเธอตายไปแล้วหรือ? อวัยวะภายในของเธอล้มเหลว แม้จะถูกช่วยชีวิตแต่ก็ไม่อาจฟื้นคืนมาได้มิใช่หรือ?

“หญ้าอู๋หยา…แม้จะใช้เพียงเล็กน้อยแต่ก็สามารถทำให้ตายได้ เพราะจะออกฤทธิ์กับระบบประสาทของมนุษย์”

“ดอกหิรัญญิการ์…แม้จะใช้เพียงเล็กน้อยแต่ก็สามารถทำให้ร่างกายของมนุษย์ได้รับความเสียหายจนถึงขั้นพิการ อีกทั้งยังมีฤทธิ์รุนแรงจนทำให้เป็นอัมพาตได้”

“แมลงหมิงหลิงเจ็ดวัน เป็นแมลงมีพิษในมณฑลอู่ซาน โดยมีพิษทั่วทั้งตัว อีกทั้งพิษยังมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนที่ค่อนข้างรุนแรง”

นี่คืออะไร? อยู่ๆ ข้อมูลมากมายก็หลั่งไหลออกมาจากสมองจนซูชิงเกอที่เพิ่งจะฟื้นขึ้นมารู้สึกตื่นตัวเล็กน้อย

ตอนที่เป็นผู้ช่วยของอาจารย์ สิ่งที่เธอได้เรียนล้วนเป็นทฤษฎีทางการแพทย์ตะวันตก แต่ว่า…ข้อมูลที่หลั่งไหลออกมาจากสมองในเวลานี้กลับเป็นความรู้เกี่ยวกับการแพทย์แผนจีน

แต่ถึงอย่างนั้นข้อมูลเหล่านั้นกลับดูแปลกมากเสียจนเธอรู้สึกว่าตนเองไม่เคยได้ยินมันมาก่อน

เธอรู้สึกว่ามุมปากของตนเองเหนียวหนืดเล็กน้อย ซูงชิงเกอจึงยกมือขึ้นลูบไล้ แปลกชะมัด…ทำไมเจ้าสิ่งดำๆ แดงๆ นี้ถึงได้มีกลิ่นเหมือนเลือดเลยล่ะ?

แต่…เพราะอะไรดวงตาของเธอจึงเห็นสิ่งของสีแดงสดตรงหน้า?

สิ่งที่ทำให้เธอสงสัยยิ่งไปกว่านั้นคือ ทำไมเธอจึงรู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังโคลงเคลงไม่หยุดเช่นนี้?

ที่นี่คือที่ไหน? นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เวลาผ่านไปสักพักใหญ่กว่าซูชิงเกอจะสามารถรับข้อมูลที่หลั่งไหลออกมาจากสมองเหล่านั้นจนหมด เธอลองประเมินดูคร่าวๆ ก่อนจะพบว่ามันคือข้อมูลของยาพิษที่มีมากถึง 118 ชนิด

โดยยาพิษหนึ่งร้อยกว่าชนิดนั้นมีทั้งจากแมลงมีพิษและพืชมีพิษ

ซูชิงเกอพูดไม่ออก เธออาจหาญชาญชัยเกินไปหรือไม่? หรือเธอโกรธเกลียดตัวเองมากขนาดไหนกันนะถึงเอาตัวเองมาเป็นหนูทดลองเช่นนี้?

ทว่าในชั่วขณะที่ข้อมูลเหล่านั้นกำลังหลั่งไหลออกมา ซูชิงเกอกลับรู้สึกปีติเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้รับรู้ว่าการปลูกถ่ายคลื่นสมองเข้าสู่ร่างกายของเธอประสบความสำเร็จแล้ว

พระเจ้า! ผู้ที่จะได้ขึ้นรับรางวัลโนเบลคนถัดไปจะต้องเป็นเธอกับอาจารย์อย่างแน่นอน เพียงแค่…

เสียงอึกทึกครึกโครมราวกับงานเลี้ยงฉลองที่ด้านนอกนั้นคืออะไรกันแน่?

เธอแหวกสิ่งกีดขวางสีแดงตรงหน้าออก จากนั้นซูชิงเกอที่เคยเป็นคนสงบนิ่งมาโดยตลอดถึงกับตกตะลึง

สิ่งที่ได้เห็นคือสีแดงสว่างจ้าจนทิ่มแทงดวงตา

อีกทั้งตัวเธอในตอนนี้ยังอยู่ในสถานที่ซึ่งมีลักษณะเป็นทรงเหลี่ยมๆ และถูกเขย่าไปมาเป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอกัน

เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นในโรงพยาบาลได้อย่างไร?

ขนาดคนที่ถูกขนานนามว่าเจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างซูชิงเกอยังตกตะลึง

นี่คือเกี้ยวอย่างนั้นหรือ?

เมื่อก้มหน้าลงมองชุดที่ตนเองสวมใส่

ชุดสีแดงแจ๋ ผ้าไหมปักดิ้นทองลวดลายคล้ายเป็ดแมนดาริน เมื่อลองเพ่งมองให้ดีแล้ว มันคล้ายกับชุดเจ้าสาวสมัยโบราณในช่วงราชวงศ์ใดราชวงศ์หนึ่ง

ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ทันใดนั้นความคิดหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในใจของเธอ ซูชิงเกอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ

เธอเดินทางข้ามภพมาอย่างนั้นหรือ?

อีกทั้งยังข้ามเข้ามาอยู่ในเกี้ยวของคนอื่นอีก?