ขณะที่ซูชิงเกอกำลังพยายามครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ๆ ภาพความทรงจำที่เธอไม่รู้จักกลับปรากฏขึ้นในสมองราวกับฉากในละครก็มิปาน
ที่นี่ไม่ใช่ยุคสมัยที่เธอคุ้นเคย ไม่ใช่ต่างประเทศและไม่มีแม้แต่ช่วงเวลาทับซ้อนกันกับประเทศในปัจจุบันของเธอ
เธอ…ไม่ใช่ซูชิงเกอ แต่กลับเป็นบุตรสาวของเจิ้นหนานโหว1 แห่งเมืองจิ้น…หลินเมิ้งหยา
ตัวตนของนางเป็นที่รู้จัก นางควรจะเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของคนทุกหมู่เหล่า ทว่าสิ่งที่ทำให้ไม่เป็นเช่นนั้นก็คือ คุณหนูใหญ่แห่งสกุลหลินผู้นี้เป็นหญิงสาวสติฟั่นเฟือน
ทว่าหญิงสาวสติฟั่นเฟือนผู้นี้กลับได้รับการอภิเษกสมรสพระราชทานกับองค์ชายรัชทายาทลำดับที่สามนามว่าท่านอ๋องหยู๋
อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันอภิเษกสมรสและส่งตัวนางเข้าพระตำหนักของท่านอ๋องหยู๋
ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงถูกกำไว้ในมือ ด้านบนตัวผ้าปักดิ้นทองลายเป็ดแมนดารินด้วยความประณีตและสวยงาม ซึ่งเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในเครื่องจักรอุตสาหกรรมของโลกยุคปัจจุบัน ความสง่างามเช่นนี้เผยให้เห็นถึงฐานะอันสูงส่งของราชวงศ์
ไม่รู้ว่าเธอดวงดีหรือดวงตกกันแน่
ชีวิตของเธอจบลงในห้องทดลอง แต่กลับเกิดใหม่ในเกี้ยวเจ้าสาว
เปลือกตาค่อยๆ ปิดลงไปอย่างแผ่วเบา มือยกขึ้นลูบไล้ขนคิ้ว อยู่ๆ สมองของเธอพลันปรากฏภาพภาพหนึ่ง
มันคือภาพก่อนที่หลินเมิ้งหยาจะขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว น้องสาวต่างมารดานามว่าหลินเมิ้งหวู่มอบพุทราสดให้กับนาง พร้อมทั้งอวยพรขอให้พี่สาวต่างมารดาผู้นี้มีทายาทสืบสกุลโดยเร็ว
อีกทั้งยังกำชับแม่สื่อเป็นมั่นเป็นเหมาะว่านางกลัวพี่สาวจะอาละวาดระหว่างทาง ดังนั้นจึงมอบพุทราสดให้กับนาง เพื่อที่จะทำให้นางไม่รู้สึกเบื่อขณะเดินทาง
ซูชิงเกออดไม่ได้ที่จะกระตุกยิ้มไร้ซึ่งอารมณ์ดุจดั่งเครื่องจักรขึ้นมา
แม้จะลำบากแต่ก็ยังใส่ใจเหลือเกิน สมัยที่หลินเมิ้งหยายังเด็ก นางเคยเจ็บป่วยตัวร้อนจัดราวกับถูกไฟแผดเผา เพราะเหตุนี้สมองของนางจึงถูกทำลายและมีสติปัญญาเทียบเท่ากับเด็กอายุเจ็ดแปดขวบเท่านั้น
แน่นอนว่าสาเหตุก็เพราะพุทราเหล่านี้ถูกส่งเข้าไปในท้องของนาง
เพียงแค่…คิดไม่ถึงเลยว่าแม้หลินเมิ้งหยาจะกลายเป็นคนโง่เขลา แต่นางกลับเป็นคนรู้จักคุณค่าของอาหาร ดังนั้นหลังจากที่นางเช็ดพุทราทุกผลจนสะอาดแล้วจึงนำมันไปใส่ไว้ในกล่องราคาแพงและโอบมันเอาไว้ในอ้อมกอด
ดังนั้นจึงไร้ซึ่งหลักฐานเพราะมันถูกทำลายไปอย่างเงียบๆ
ก้มลงมองดูมือทั้งสองข้างของตนเองและหวนนึกถึงมือคู่ที่เคยทำวิจัยมาก่อน อยู่ๆ ก็รู้สึกว่ามันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
มือคู่ที่อยู่ตรงหน้าทั้งขาวทั้งนุ่มนวลเนียน นิ้วทั้งสิบแผ่เรียงกันสวยงาม อีกทั้งยังดูเล็กกว่ามือของเธอถึงหนึ่งเท่า
มือของเด็กอายุสิบหกช่างนุ่มนิ่มเสียเหลือเกิน คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะได้ครอบครองมัน!
มีแต่คนบอกว่าความเยาว์วัยนั้นไม่อาจหวนคืน แต่ซูชิงเกอคนนี้กลับฟื้นจากความตายและมีชีวิตอีกครั้ง!
เธอกลับมาอยู่ในช่วงเวลาแห่งความเยาว์วัยดั่งดอกไม้ผลิบาน!
ในเมื่อพระผู้เป็นเจ้าให้โอกาสเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่ไม่รู้จักนี้ต่อไปให้เป็นอย่างดีแทนหลินเมิ้งหยาเอง!
ก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่นา เธอเชื่อว่าเธอจะสามารถเจิดจรัสอยู่ในโลกที่ไม่รู้จักนี้ได้อย่างแน่นอน
เหตุเพราะคนเราไม่จำเป็นจะต้องมัวเสียเวลามานั่งอธิบายความอาจหาญในชีวิตของตนเอง!
เธอมองดูผนังสี่เหลี่ยมทั้งสี่ด้าน ก่อนที่นิ้วมืออันแสนบอบบางจะยกขึ้นลูบไล้ผนังเบาๆ
สิ่งที่เจ้ากล่องสี่เหลี่ยมนี้กำลังแบกอยู่คือความฝันของหญิงสาวโง่เขลาคนหนึ่งที่มีต่อสามีในอนาคตของตนเอง
บางทีอาจเพราะนางไม่เข้าใจการให้เกียรติระหว่างสามีและภรรยา แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอคอยชีวิตตอนแต่งงานของตนเอง
อย่างน้อยซูชิงเกอก็สัมผัสได้ถึงความดีใจของหลินเมิ้งหยาขณะที่นางกลืนกินผลพุทราเข้าไป
เพียงแค่…หลินเมิ้งหยาผู้น่าสงสารมิอาจล่วงรู้เลยว่าสิ่งที่ตนเองได้กินเข้าไปคือยาพิษที่ทำลายชีวิตของนางเอง!
ได้ ในเมื่อฉันเข้ามาอยู่ในร่างของเธอแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันจะแก้แค้นแทนเธอเอง!
เพราะเหตุผลนี้ ซูชิงเกอ ไม่ซิ อาจจะต้องเรียกว่าหลินเมิ้งหยาที่เกิดใหม่ยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปากทิ้งไป ก่อนจะจับผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวยกขึ้นปิดหน้าอีกครั้ง
***********************
1 เจิ้นหนานโหว เป็นตำแหน่งที่อาจเทียบได้กับเจ้าพระยา
อ่านตอนนี้แล้วถูกใจหรือเปล่า? ถ้าถูกใจอย่าลืมส่งกำลังใจให้นักเขียนของคุณนะ