ตอนที่ 5 เรื่องราวแสนงดงามทั้งหมดเริ่มต้นจากการพบกันโดยบังเอิญ

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ป๋อจิ่งชวนรู้สึกได้ถึงร่างบางในอ้อมแขนที่เขาแทบจะสามารถประคองไว้ได้ด้วยครึ่งฝ่ามือ คิ้วสวยกำลังขมวดเข้าหากันมุ่น 

 

 

เขาเผลอก้มลงไปมองร่างที่ผอมเกินไปของหญิงสาวในอ้อมแขนอย่างไม่ทันระวัง จนคางดันไปชนเข้ากับกระหม่อมของอีกฝ่าย 

 

 

ผมสลวยที่เคลื่อนไหวไปมาใต้คางของเขาจนชักจะเริ่มคัน 

 

 

สายตาเคลื่อนไปมองหลังคอขาวของเธอ 

 

 

เขานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ 

 

 

ตอนนี้ฝานซิงกลับมาขยับเขยื้อนกายอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าอาการชาเมื่อครู่ได้หายไปแล้ว เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา 

 

 

“ขอบคุณนะ…ฉันไม่เป็นไรแล้ว…” 

 

 

ป๋อจิ่งชวนจิตใจสั่นไหวเพียงน้อย แต่ก็ค่อยๆ คลายอ้อมแขนออกอย่างระมัดระวัง! 

 

 

เมื่อเห็นเธอพอที่จะยืนเองได้เขาจึงค่อยๆ ปล่อยมือจากเธอ 

 

 

“โอเคไหม” 

 

 

ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นสี พยักหน้ารับ 

 

 

“ดีขึ้นแล้ว! ต้องขอโทษด้วยนะพอดีเมื่อกี้ขามันชาน่ะ” 

 

 

ป๋อจิ่งชวนกระตุกมุมปาก “ฉันรู้ เธอไม่จำเป็นต้องอธิบาย” 

 

 

คำพูดเรียบง่าย กลับทำให้เฉินฝานซิงนิ่งไป ความขมขื่นเกิดขึ้นใจใน แต่เธอก็ไม่ได้มีท่าทีที่เปลี่ยนไป 

 

 

“ขอบใจนะ” 

 

 

ด้านของหญิงชราที่เกือบหัวใจวายไปกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ แต่พอได้เห็นท่าทีที่มีต่อกันของทั้งคู่แววตาคู่นั้นก็เปล่งประกายขึ้นมาอย่างอิ่มอกอิ่มใจ 

 

 

ดูๆ แล้ว เจ้าหลานชายคนนี้มันก็ไม่ได้โง่ไปซะทุกเรื่อง… 

 

 

ป๋อจิ่งชวนไม่ได้โง่ไปซะทุกเรื่องเสียเมื่อไหร่? 

 

 

เฉินฝานซิงยืนอยู่ที่เดิมอีกสักพัก แต่พอนึกถึงคำพูดของซูเหิงขึ้นมา เธอก็รีบหมุนตัวไปพูดกับหญิงชรา 

 

 

“คุณยายคะ ตอนนี้หนูมีเรื่องที่จะต้องไปจัดการ คุณยายพักอยู่ห้องไหนเหรอคะ หนูทำธุระเสร็จแล้วจะได้ตามไปอยู่เป็นเพื่อน” 

 

 

“อยู่ตรงโน้น! ที่ประตูนั้นไงเห็นหรือเปล่า ถ้ามาครั้งหน้าก็เดินเข้าไปทางนี้…” 

 

 

หญิงชราชะงักไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาฉายประกายความเจ้าเล่ห์ 

 

 

“พวกเรามาแลกเบอร์โทรกันไว้เถอะ เอ๊ะ…ฉันไม่มีโทรศัพท์นี่!” 

 

 

ด้านไหลหรงเดินเข้ามาพลางคว้านมือเข้าไปหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง 

 

 

“นายหญิง…” 

 

 

หญิงชราปรามบ่าวด้วยหางตา เธอจึงรู้ได้ในทันทีและยอมถอยกลับไป! 

 

 

“จิ่งชวน รีบๆ เอาโทรศัพท์มาเมมเบอร์ให้ฉันสิ!” 

 

 

ป๋อจิ่งชวนเลิกคิ้วขึ้นไม่เข้าใจจุดประสงค์ของคุณย่า แต่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วมองไปยังเฉินฝานซิง 

 

 

“183…” 

 

 

หลังจากบันทึกเบอร์มือถือของอีกฝ่ายลงเครื่องเรียบร้อยแล้ว โทรศัพท์ก็ถูกเก็บเข้าที่ไว้อย่างเดิม 

 

 

เมื่อมองไปยังรูปร่างผอมบางของอีกฝ่าย เขาจึงถอดเสื้อสูทของตัวเองออกมาห่มไว้บนตัวเธอ 

 

 

ความอบอุ่นที่มีกลิ่นหอมสดชื่นจางๆ ห่อหุ้มร่างเฉินฝานซิงเอาไว้ ไออุ่นจากกายของชายหนุ่มยังคงติดอยู่บนเสื้อตัวนั้น 

 

 

“สวมซะ ตัวเธอเย็นหมดแล้ว” น้ำเสียงราบเรียบพูดพร้อมกับมองไปยังหญิงสาวที่ยืนด้วยท่าทีไม่สะทกสะท้าน 

 

 

ก้อนเนื้อกลางอกรู้สึกอ่อนยวบ กรอบตาก็พลันเห่อร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ 

 

 

ไม่นึกไม่ฝันมาก่อน ว่าเธอจะได้รับไออุ่นและความห่วงใยในเวลาที่ต้องการมันมากที่สุดจากชายที่เจอกันโดยบังเอิญ 

 

 

สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจถอดเสื้อตัวนั้นคืนให้กับเขา 

 

 

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันก็จะกลับห้องแล้ว หากจะคืนให้คุณวันหลังก็คงลำบากเปล่าๆ” 

 

 

“ลำบาก?” ป๋อจิ่งชวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ที่เพิ่งบอกว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าเธอก็แค่พูดไปอย่างนั้นเองงั้นสิ?” 

 

 

เฉินฝานซิงมีสีหน้าแปลกใจก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ 

 

 

“ฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าแน่นอนค่ะ” 

 

 

เธอยื่นชุดสูทส่งคืนให้กับเขาก้มหน้าให้เขาเล็กน้อยแล้วเดินจากไป 

 

 

ดวงตาพร่างพราวเหม่อมองแผ่นหลังของหญิงสาวที่ทั้งบอบบางและดื้อดึงค่อยๆ เดินห่างออกไปเรื่อยๆ 

 

 

คุณย่า? 

 

 

เรียกได้น่าฟังดี 

 

 

“จิ่งชวน” 

 

 

หญิงชราเอ่ยเรียก เขาหันกลับไปมองยังต้นเสียง 

 

 

ส่งยิ้มให้จนตาเป็นสระอิ 

 

 

“มีอะไรให้รับใช้ครับ” 

 

 

เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างขัดอกขัดใจ 

 

 

“เจ้าทื่อมะลื่อนี่ ไปส่งเขาสิยะ!”