“ก่อนหน้านี้ท่านหมอที่เคยมาดูอาการเจ้าต่างก็บอกว่าเส้นลมปราณของเจ้าอุดกั้น ดังนั้นจึงไม่อาจรับสัมผัสปราณวิญญาณในอากาศได้ ด้วยเหตุนี้จึงบำเพ็ญไม่ได้ ปีนั้นตอนที่บิดาของเจ้าอุ้มเจ้ากลับมาก็เคยบอกว่ามารดาของเจ้าได้รับบาดเจ็บตอนที่อุ้มท้องเจ้า อาจจะกระทบถึงเจ้าก็เป็นได้ ทั้งหมดล้วนส่งผลต่อพัฒนาการของเจ้าได้ทั้งสิ้น ทำไมเจ้าถึงอยากจะถามเรื่องนี้ขึ้นมาหรือ” ซือหม่าเลี่ยมองซือหม่าโยวเย่ว์อย่างประหลาดใจ
“ท่านปู่ ข้าสงสัยว่าการที่ข้าไม่อาจบำเพ็ญได้นั้นจะมิได้เป็นมาแต่กำเนิด แต่เป็นไปได้ว่ามีสาเหตุที่เกิดขึ้นภายหลังน่ะสิขอรับ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“เจ้าจะบอกว่า…” ซือหม่าเลี่ยมองนางอย่างไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง
ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าพลางเอ่ยว่า “ข้าถูกพิษเข้าเสียแล้วขอรับ นอกจากนี้ก็เป็นพิษที่อุดกั้นเส้นลมปราณพอดีเสียด้วย ดังนั้นข้าจึงคิดว่าการที่ข้าไม่อาจบำเพ็ญได้นั้นจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างแน่นอนเลยขอรับ”
“ตึง!” ซือหม่าเลี่ยผุดลุกขึ้นจากม้านั่งอย่างประหลาดใจ เพราะออกแรงมากเกินไป ม้านั่งจึงพลิกล้มลง
“นี่… นี่เจ้าพูดจริงหรือ” ซือหม่าเลี่ยจ้องมองซือหม่าโยวเย่ว์พลางเอ่ยถาม
ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าแล้วพูดว่า “ข้าแน่ใจเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว ท่านปู่ พิษที่ข้าเจอชนิดนี้แม้จะพบเห็นได้ยากยิ่ง แต่ก็มิได้ตรวจพบได้ยากเลยนะขอรับ นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าพิษชนิดนี้จะอยู่ในร่างกายของข้ามาเนิ่นนานแล้วด้วย ดูคล้ายว่าข้าจะถูกวางยามาตั้งแต่เกิดเลยนะขอรับ”
“ก่อนหน้านี้องค์จักรพรรดิก็เคยส่งคนมาตรวจดูตั้งหลายต่อหลายครั้ง ผู้ที่เชิญมาต่างก็เป็นท่านหมอหรือไม่ก็นักหลอมยาที่มีชื่อเสียง แต่ละท่านต่างก็บอกเพียงแค่ว่าร่างกายของเจ้ามีปัญหา แต่กลับมิได้ค้นพบเลยว่าเจ้าถูกพิษ!” ซือหม่าเลี่ยพูด
ซือหม่าโยวเย่ว์รู้ว่าสิงจั้นเทียน องค์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรตงเฉินให้ความเคารพต่อซือหม่าเลี่ยเป็นอย่างยิ่งมาโดยตลอด คนที่เขาส่งมาก็ย่อมมิใช่คนหยาบช้าธรรมดาทั่วไปแน่นอนอยู่แล้ว แม้กระทั่งพวกเขายังไม่อาจค้นพบได้ พิษนี้จะต้องมิได้พบเห็นได้บ่อยในโลกแห่งนี้อย่างแน่นอน
“เป็นไปได้ว่าพิษชนิดนี้เป็นสิ่งที่มิได้พบเห็นบ่อยๆ ในดินแดนแห่งนี้ นอกจากนี้ผู้ที่ถูกพิษ นอกจากเส้นลมปราณถูกอุดกั้นแล้วก็มิได้มีอาการอื่นใดอีก ถ้าหากมิใช่เพราะคลำเจอว่ามีจุดสองจุดอยู่ใต้รักแร้ ข้าก็คงมิอาจค้นพบได้หรอกขอรับ ดังนั้นการที่ท่านหมอคนอื่นๆ มิอาจตรวจพบได้นั้นก็เป็นเรื่องปกติขอรับ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“ตอนนั้นที่บิดาของเจ้าอุ้มเจ้ามาก็พูดเพียงแค่ว่ามารดาของเจ้าได้รับบาดเจ็บตอนที่ตั้งครรภ์เจ้า ดังนั้นเขาจึงรู้สึกได้ว่าร่างกายของเจ้าไม่ค่อยดีนัก และก็คิดเพียงว่านั่นคือสาเหตุ คิดไม่ถึงว่าที่จริงแล้วจะเป็นเพราะถูกพิษ!” ซือหม่าเลี่ยพูด
“ท่านปู่ ตอนที่ข้าเกิด มิได้เกิดที่นี่หรือขอรับ เหตุใดจึงบอกว่าบิดาข้าอุ้มข้ามาเล่า” ซือหม่าโยวเย่ว์รู้สึกว่าคำพูดของซือหม่าเลี่ยแปลกประหลาดอยู่บ้างจึงเอ่ยถาม
“แค่กๆ… ตอนที่บิดามารดาเจ้าให้กำเนิดเจ้านั้นมิได้อยู่ที่อาณาจักรตงเฉิน เจ้าอายุได้เกินครึ่งปีแล้วจึงถูกอุ้มกลับมา ตอนนั้นมีเพียงแค่บิดาเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น พอเขาทิ้งเจ้าเอาไว้แล้วก็บอกว่าจะไปตามหามารดาเจ้า นับตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย” ซือหม่าเลี่ยเล่าระลึกความหลัง “ใช่แล้ว เย่ว์เอ๋อร์ แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรกันว่าตนเองถูกพิษ ใครเป็นผู้ตรวจร่างกายเจ้าพบกันหรือ รีบบอกข้ามาเร็วเข้าสิ ข้าจะได้ไปพบเขาให้เขามาถอนพิษให้เจ้าเสีย”
ซือหม่าโยวเย่ว์ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ท่านปู่ไม่ต้องรีบร้อนหรอกขอรับ ไม่ได้มีใครตรวจให้ข้าหรอก เป็นตัวข้าที่ตรวจพบเองน่ะขอรับ”
“ตัวเจ้าเองอย่างนั้นหรือ” ซือหม่าเลี่ยมองซือหม่าโยวเย่ว์อย่างไม่เชื่ออยู่บ้างแล้วพูดว่า “เจ้าอย่ามาหลอกปู่เลย ยังมีอะไรที่มิอาจบอกปู่ได้อีกอย่างนั้นหรือ คนผู้นั้นให้เจ้ารักษาความลับใช่หรือไม่”
“เอ่อ…” ซือหม่าโยวเย่ว์นึกขึ้นมาได้ว่าแต่ไหนแต่ไรเจ้าของร่างเดิมนั้นเป็นคนที่ทำอะไรก็ไม่ได้สักอย่าง อยู่ดีๆ มาพูดเช่นนี้ ซือหม่าเลี่ยไม่เชื่อก็เป็นเรื่องปกติ จากนั้นเธอก็หยิบเอาเทียบยาสองแผ่นนั้นออกมาแล้วเอ่ยว่า “ท่านปู่ขอรับ นี่คือเทียบยาถอนพิษ ท่านให้คนไปจัดหายานี่มาสักหลายๆ ชุด จำเอาไว้ว่าต้องให้พวกเขาเก็บเป็นความลับด้วยนะขอรับ ไม่เช่นนั้นเมื่อถึงเวลาหากข้าทำไม่สำเร็จก็คงจะขายหน้าคนอย่างใหญ่โตเลยทีเดียว!”
“อืม ปู่รู้แล้วล่ะ” ซือหม่าเลี่ยพยักหน้า รอจนซือหม่าโยวเย่ว์กลับไปแล้วก็หยิบเทียบยามาดู ก็เห็นว่าตัวหนังสือบนนั้นถึงแม้ว่าจะไม่น่าดูอยู่บ้าง แต่ตัวอักษรเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้ซือหม่าโยวเย่ว์ไม่เคยรู้จักมาก่อน จึงเอ่ยว่า “ข้าว่าแล้วเชียว จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ใครเข้ามานี่ทีซิ ไปข้างนอกแล้วจัดหายาตามตำรับนี้กลับมาสักหลายๆ ชุด”
“ขอรับท่านแม่ทัพ” ทหารยามสองคนเข้ามาจากด้านนอกแล้วรับตำรับยาในมือซือหม่าเลี่ยมาก่อนจะออกไป
ส่วนซือหม่าโยวเย่ว์เมื่อจัดการธุระเรียบร้อยแล้วก็กลับไปอย่างผ่อนคลาย หลังจากที่กลับไปยังเรือนของตนเองแล้วเธอก็ขังตัวเองอ่านหนังสืออยู่ในห้อง เธอวางแผนเอาไว้ว่าเมื่อมีเวลาก็จะอ่านตำราแพทย์เหล่านี้เพื่อศึกษาอย่างลึกซึ้ง
เพียงไม่นานเครื่องยาที่ซือหม่าโยวเย่ว์ต้องการก็ถูกส่งมาให้ เธอตรวจดูเครื่องยาเหล่านั้นรอบหนึ่ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีปัญหาก็ให้อวิ๋นเย่ว์นำชุดหนึ่งไปยังห้องครัวในเรือนตนแล้วต้มมาเป็นยาชามหนึ่ง หลังจากที่ดื่มลงไปแล้วก็ให้พวกนางเตรียมถังอาบน้ำให้ หลังจากนั้นก็ให้คนอื่นออกไปแล้วขังตัวเองอยู่ในห้อง เธอโยนยาอีกชุดหนึ่งลงไปในถังอาบน้ำ รอจนน้ำในถังอาบน้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงสดแล้วเธอจึงค่อยถอดเสื้อผ้า ก่อนจะค่อยๆ แช่ตัวลงไปในน้ำช้าๆ
“โอ๊ย….” ความรู้สึกแสบร้อนห่อหุ้มตัวเธอเอาไว้ในขณะที่แช่ลงไปในน้ำ ความเจ็บปวดแผ่กระจายไปทั่วร่าง
“บ้าเอ๊ย คิดไม่ถึงเลยว่าจะเจ็บขนาดนี้!” เธอรู้สึกคล้ายกับทั่วทั้งร่างกายถูกแผดเผาอย่างไรอย่างนั้น เส้นประสาททั้งหมดไวต่อความรู้สึกเกินกว่าปกติ ทำให้เธออดที่จะก่นด่าในใจมิได้
ตัวยาภายในร่างกายก็เริ่มต้นออกฤทธิ์แล้วเช่นกัน ภายใต้การผสานรวมกันทั้งสองทาง เธอก็รู้สึกว่าร่างกายของตนคล้ายจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว!
น้ำสีแดงค่อยๆ เปลี่ยนกลายเป็นใสแจ๋วอย่างช้าๆ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะ รสหวานเจือกลิ่นคาวอย่างหนึ่งเอ่อล้นขึ้นมาที่คอหอย
“พรวด…”
ซือหม่าโยวเย่ว์กระอักโลหิตสีดำออกมาคำหนึ่ง โลหิตเหล่านั้นกระเซ็นออกมาบนพื้นราวกับดอกเหมยที่ถูกย้อมด้วยน้ำหมึก แต่หลังจากที่กระอักโลหิตสีดำออกมาแล้วอาการเวียนศีรษะของเธอก็ค่อยๆ บรรเทาลง
“เล็กลงไม่น้อยเลย” ซือหม่าโยวเย่ว์ยื่นมือไปคลำจุดที่ใต้รักแร้ตนก็รู้สึกได้ว่าเล็กลงไปมากแล้ว “ดูท่าทางจะต้องจัดการเจ้าพิษนี่อีกหลายครั้งกว่าจะขจัดมันออกไปได้หมดเกลี้ยงสินะ!”
เธอออกมาจากถังอาบน้ำ หลังจากสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เตะถังอาบน้ำครั้งหนึ่ง ถังอาบน้ำถูกกระแทกจนน้ำที่อยู่ข้างในกระฉอกออกมาไม่น้อย ชำระล้างรอยเลือดบนพื้นได้สะอาดพอดี
“คุณชาย เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือไม่เจ้าคะ” อวิ๋นเย่ว์และชุนเจี้ยนถามขึ้นมาจากด้านนอก
“อ้อ… ข้าไม่ระวังเลยสะดุดถังอาบน้ำเข้าทีหนึ่ง น้ำหกเลอะพื้นเลย พวกเจ้าเข้ามาทำความสะอาดทีสิ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
อวิ๋นเย่ว์และชุนเจี้ยนผลักประตูเข้ามา มองเห็นพื้นที่เปียกปอนแล้วก็รีบเก็บถังอาบน้ำไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็เช็ดคราบน้ำบนพื้นจนสะอาด
ในเวลาต่อมา นอกจากซือหม่าโยวเย่ว์จะไปกินข้าวกับซือหม่าเลี่ยแล้ว เวลาอื่นๆ ก็อ่านหนังสืออยู่ในห้องตลอด ดูเหมือนว่าเธอจะอ่านตำราแพทย์ที่เธอหยิบออกมาจากห้องหนังสือสะสมไปไม่น้อยแล้ว
เวลาเจ็ดวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว นี่เป็นการอาบน้ำยาครั้งสุดท้ายแล้ว
ซือหม่าโยวเย่ว์แช่ทั้งร่างกายลงไปในน้ำ หลังผ่านไปสิบห้านาทีก็กระอักเลือดพิษที่สีสันแทบจะเหมือนกันกับสีเลือดปกติออกมาคำหนึ่ง เธอเอื้อมมือไปคลำใต้รักแร้ ไม่มีจุดเล็กๆ ที่อยู่ทั้งสองฝั่งนั้นอีกต่อไปแล้ว!
เธอคลำชีพจรตัวเองดูอีกครั้ง พิษในร่างกายถูกขจัดออกไปอย่างสมบูรณ์แล้ว! ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่รู้ว่าหลังจากขจัดพิษนี้ออกไปแล้วจะบำเพ็ญได้หรือไม่ แต่ไม่อาจบดบังอารมณ์อันชื่นมื่นในตอนนี้ของเธอได้ซือหม่าโยวเย่ว์ให้พวกอวิ๋นเย่ว์สองคนเข้ามาทำความสะอาดเหมือนกับที่ล้างรอยเลือดมาหลายวันก่อนหน้านี้ ส่วนตนเองก็ถือกุญแจไปยังห้องหนังสือสะสมอีกครั้ง คราวนี้เธอจะหาหนังสือเกี่ยวกับการบำเพ็ญสักกองหนึ่งมาศึกษาดู
เธออยากลองดูสักหน่อยว่าเมื่อตนขจัดพิษออกไปเรียบร้อยแล้วจะบำเพ็ญได้หรือไม่!
………………