“แคลร์ ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง? เวียนหัวไหม? หิวไหม?” แคทเธอรีนกลั้นน้ำตาไว้แล้วถามอย่างเป็นห่วง 

 

 

หญิงสาวมองภาพสาวงามที่อยู่ตรงหน้า เมื่อสายตาปรับชัดเจนขึ้นแล้ว นางก็กล่าวเบาๆ “อื้ม หิวนิดหน่อยแล้ว” 

 

 

“ได้เลย แคลร์ รอก่อนนะ เดี๋ยวแม่ให้คนไปเอาอาหารมาให้เจ้า” แคทเธอรีนลุกขึ้นอย่างดีใจ แต่ก็เซไปเล็กน้อย เพราะว่านั่งอยู่นานเกินไป ทันใดนั้นก็มีบางอย่างมายึดที่ข้อศอกเอาไว้ นางจึงไม่ได้ล้มลงไปที่พื้น แคทเธอรีนหันไปมองก็เห็นใบหน้าเรียบนิ่งของแคลร์ นี่แคลร์พยุงตนเองไว้งั้นเหรอ? ในใจของแคทเธอรีนมีความคิดนี้เกิดขึ้นแต่ไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วรีบออกไปเรียกสาวใช้ที่อยู่ด้านนอก 

 

 

หญิงสาวบนเตียงค่อยๆ หันไปมองรอบตัวที่ดูแปลกตาอย่างประหลาดใจ สายตาของเธอเย็นชา รอยยิ้มมุมปากมีความโค้งที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ แต่กลับทำให้รู้สึกถึงความหนาวเย็น 

 

 

ดูเหมือนว่า ตนเองคงจะตายไปแล้วจริงๆ และวิญญาณก็เดินทางมาในโลกที่แปลกตาเช่นนี้ มองไปที่การตกแต่งที่สวยงามโดยรอบ ดูเหมือนว่าตนเองจะมาอยู่ในตระกูลร่ำรวยมากด้วย 

 

 

แคลร์ ฮิลล์ คือชื่อเจ้าของร่างเดิมนี้ใช่ไหม? คนที่สายตาเย็นชาบนเตียงใช้มือลูบเบาๆ ที่บริเวณขมับ แล้วก็เกิดอาการปวดหัวขึ้นอย่างมาก จากนั้นความทรงจำในช่วงก่อนหน้านี้ก็ค่อยๆ ผสานเข้าด้วยกัน 

 

 

ยิ่งผสานรวมกันมากขึ้นเท่าไหร่ สีหน้าของหญิงสาวก็ยิ่งแปลกไปมากขึ้นเท่านั้น นั่นก็เป็นเพราะความทรงจำเหล่านั้น สิ่งที่มีประโยชน์จริงๆ มีอยู่น้อยมาก สิ่งที่มีอยู่ส่วนใหญ่เป็นภาพของหนุ่มรูปงาม ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ไร้สาระมาก ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย สิ่งเดียวที่นางรู้ก็คือฐานะในประเทศของตระกูลนี้ดูเหมือนจะสูงมากเลยทีเดียว 

 

 

หญิงสาวหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วถอนหายใจยาว 

 

 

แคลร์ ฮิลล์ หญิงสาวค่อยๆ ก้มหัว นี่คือชื่อของตนเองนับต่อแต่นี้ไป 

 

 

แคลร์…… หญิงสาวที่อยู่บนเตียงค่อยๆ คิดเกี่ยวกับชื่อนี้ ชื่อของร่างนี้ก็ฟังดูไพเราะดี เพียงแต่นิสัยของนางยากเหลือเกินที่จะมีใครรับไหว ในความทรงจำนี้มีแต่ความบ้าผู้ชาย แล้วก็ถูกคนอื่นปฏิเสธมาทั้งนั้นเลย 

 

 

ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก เสียงบาดหูทำให้แคลร์ต้องหันไปมอง ใบหน้าของคนที่ประตูนั้นคล้ายคลึงกับใบหน้าของสาวงามก่อนหน้านี้ นางดูอายุน่าจะน้อยกว่าแคลร์เล็กน้อย แต่ใบหน้าที่มีความเกลียดชังและดูถูกนั้นดูไม่สมกับอายุของนางเลย 

 

 

แคลร์ค่อยๆ หรี่ตา เพราะว่าในความทรงจำของนางมีความหวาดกลัวเด็กสาวคนนี้อยู่ลึกๆ เด็กสาวคนนี้เป็นน้องสาวของแคลร์… ราเซีย เด็กสาวที่มีความอัจฉริยะ! เพียงอายุสิบสองปีนางก็ได้เป็นถึงนักเวทย์ชั้นสูงเพราะพรสวรรค์ที่โดดเด่นของนางแล้ว ตอนที่นางอายุได้เพียงห้าปีก็เข้าตาอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนไรซิ่งซัน และได้กลายเป็นหนึ่งในศิษย์ของอาจารย์ใหญ่แล้ว สิ่งนี้ทำให้กอร์ตั้น ฮิลล์ดีใจเป็นอย่างมาก แต่ว่าเด็กสาวที่มีพรสวรรค์คนนี้กลับเกลียดแคลร์อย่างน่าแปลกใจ นั่นก็เพราะว่าแม่ของพวกนาง แคทเธอรีนรักแคลร์มาก คิดๆ ดูแล้วที่จริงก็ไม่แปลก ราเซียเป็นเด็กสาวที่มีพรสวรรค์ มีปู่ พ่อ และพี่ชายที่รักนางมาก คนเป็นแม่จึงทุ่มใจมาที่ตัวของแคลร์ที่ไม่มีใครรักมากกว่า 

 

 

“หึ ทำให้ตระกูลฮิลล์ขายหน้าจริงๆ ตกจากหลังม้าจนกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะไล่ตามผู้ชาย” ราเซียเชิดหน้าขึ้น แล้วเดินมาใกล้เตียงและมองคนบนเตียงอย่างดูถูก ในแววตามีประกายความร้ายกาจออกมา นางยื่นหน้าไปใกล้ๆ แคลร์พร้อมกดเสียงพูด “พี่สาวที่รักของฉัน ทำไมถึงไม่ตกม้าแล้วตายไปเลยล่ะ?” 

 

 

แคลร์มองใบหน้าสวยที่อยู่ตรงหน้านิ่งๆ ใครจะไปคิดว่าคนที่ดูบริสุทธิ์แบบนี้จะพูดคำที่เป็นพิษออกมาได้ขนาดนี้ 

 

 

ราเซียเห็นว่าใบหน้าของแคลร์สงบนิ่งก็อึ้งไป ถ้าเป็นเวลาปกติ พี่สาวงี่เง่าคนนี้จะต้องตัวสั่นไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับมีท่าทีสงบนิ่งแบบนี้ 

 

 

เมื่อมีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอก สีหน้าของราเซียก็เปลี่ยนไป นางขมวดคิ้ว แล้วกระซิบพึมพำอะไรสักอย่าง จากนั้นที่มือของนางก็มือสายฟ้าเล็กๆ ปรากฏขึ้น ในขณะที่แคลร์ยังไม่เข้าใจว่านางจะทำอะไรนั้น ราเซียก็สะบัดมือไปที่ด้านหลังของแคลร์ แล้วความเจ็บปวดจากด้านหลังก็เกิดขึ้น 

 

 

“คนงี่เง่าบ้าผู้ชายอย่างพี่ ถ้าครั้งต่อไปจะทำให้ท่านแม่กังวลอีก ก็คงจะไม่ง่ายขนาดนั้นแล้วล่ะ” น้ำเสียงร้ายๆ ของราเซียดังขึ้นที่ข้างหูของแคลร์ “ถ้าพี่กล้าบอกแม่ พี่ก็น่าจะรู้นะว่าผลจะเป็นยังไง” 

 

 

ในความทรงจำที่ผสานกันแล้วของแคลร์นั้น เรื่องราวแบบนี้ดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นมาแล้วหลายต่อหลายครั้งโดยที่ไม่มีใครรู้ ดูเหมือนก่อนหน้านี้ราเซียผู้เป็นน้องสาวคนนี้จะทำความลำบากให้กับแคลร์ไม่น้อย แคลร์ไม่แสดงสีหน้าอะไร แล้วกดสายตาลง ไม่มองไปที่แผ่นหลังของเด็กสาวที่หมุนตัวเดินจากไปอีก 

 

 

เวลานี้ประตูเปิดออกเบาๆ แล้วหญิงสาวสวยคนก่อนหน้านี้ก็ปรากฏตัวด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม 

 

 

“ท่านแม่……” ราเซียเข้าไปทักทายอย่างดีใจ 

 

 

“ราเซีย ลูกกลับมาแล้วเหรอ?” แคทเธอรีนเดินเข้ามาพร้อมยิ้ม 

 

 

“ค่ะ ท่านแม่ เราไปทานข้าวกันเถอะ” ราเซียจับมือแคทเธอรีนอย่างมีความสุข 

 

 

“ลูกไปทานก่อนเถอะ เดี๋ยวแม่อยู่ที่นี่กับพี่เขาก่อน” แคทเธอรีนลูบหัวราเซียอย่างอ่อนโยนแล้วพูด “วันนี้พี่สาวลูกเขาไม่สบาย แม่จะอยู่กับพี่เขาก่อน” 

 

 

“อ๋อ” ราเซียส่งเสียง แต่ประกายชั่วร้ายในสายตาของนางนั้นแคทเธอรีนมองไม่เห็น เมื่อเห็นแคทเธอรีนไปข้างเตียง ราเซียก็แอบส่งเสียงเย็นชาเบาๆ แบบไม่ให้ใครได้ยิน แล้วก็หมุนตัวเดินออกไป 

 

 

“แคลร์ พวกสาวใช้กำลังเอาอาหารเย็นมาให้นะ” แคทเธอรีนเดินมาถึงที่เตียงแล้วก็นั่งลงพร้อมจับมือของแคลร์ แคลร์สะดุ้งเล็กน้อย ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมือทำให้นางเสียสติไปชั่วขณะ อบอุ่นจัง ความรู้สึกอบอุ่นมาก เหมือนความอบอุ่นของคนๆ นั้นตอนที่จับมือนางแล้วขอให้นางมีความสุข 

 

 

“ท่านแม่…” แคลร์ค่อยๆ เปล่งเสียงออกมา 

 

 

“เป็นอะไรลูก?” แคทเธอรีนยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วจู่ๆ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที แล้วพูดอย่างร้อนใจ “หรือว่ามีตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า?” 

 

 

“ไม่ค่ะ ท่านแม่” แคลร์ยิ้ม “ท่านแม่ก็ยังไม่ได้ทานข้าว หิวไหมคะ?” 

 

 

แคทเธอรีนอึ้งไป แล้วจู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างเงียบๆ นี่เป็นครั้งแรกที่แคลร์ถามอะไรแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่พูดอย่างเป็นห่วงนาง 

 

 

แคลร์มองหญิงสาวที่น้ำตาแห่งความสุขไหลลงมา แล้วหลุบตาลง สายตาของนางภายใต้ขนตายาวเป็นแพนั้นไม่สามารถมองเห็นได้เลย 

 

 

แคลร์ แคลร์ ต่อไปนี่ก็จะเป็นชื่อของนางเองแล้ว สายตาของหญิงสาวมีประกายแปลกๆ ขึ้นมา แคลร์คนก่อนอาจจะถูกราเซียรังแกแล้วไม่กล้ามีปากเสียงและไม่สามารถที่จะตอบโต้กลับได้ แต่ว่า ต่อไปนี้… แคลร์รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากทางด้านหลัง แล้วก็หลุบตาลงอย่างไม่แยแส 

 

 

เวลานี้ ท้องฟ้ายามค่ำคืนของแผ่นดินลังกามีดวงดาวส่องสว่างขึ้นมาหนึ่งดวง แต่ไม่มีใครรู้ว่านั่นเป็นเพราะอะไร 

 

 

เช้าวันรุ่งขึ้น ที่คฤหาสน์ดยุกฮิลล์ เหล่าสาวใช้ต่างพากันกระซิบกระซาบ แล้วมองไปที่ห้องหนังสือด้วยความสงสัย ความจริงไม่ได้มีเรื่องอื่นใด เพียงแต่ว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเขาดูแปลกไป! ในเวลาปกติ คุณหนูใหญ่จะต้องออกไปตามหาชายหนุ่มรูปงามทั่วทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่โรงละคร หรือไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดกลางเมือง… เพราะว่าสถานที่เหล่านั้นจะเป็นที่ที่ชายหนุ่มทั้งหลายไปรวมตัวกันอยู่ วันนี้กลับไปอยู่ที่ห้องหนังสือของท่านดยุก! ในช่วงเวลาที่ท่านดยุกไม่ได้ทำงานในห้องหนังสือ ท่านก็จะอนุญาตให้เหล่าลูกหลานเข้าไปศึกษาเล่าเรียนในห้องหนังสือได้ แม้ว่าเมื่อวานคุณหนูจะตกจากม้า แต่หมอก็บอกแล้วว่านางไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง แล้วด้วยนิสัยของคุณหนูแล้วไม่มีทางที่นางจะเข้าไปในห้องหนังสือที่นางเกลียดที่สุดเป็นแน่! 

 

 

ภายในห้องหนังสือขนาดใหญ่ที่ทั้งสะอาดและสงบเงียบ มีชั้นหนังสือขนาดใหญ่ตั้งชิดกำแพงอยู่หลายชั้น บนชั้นหนังสือนั้นมีหนังสืออยู่หลากหลายประเภท ถูกจัดวางแยกหมวดหมู่ไว้อย่างเรียบร้อย สาวสวยผมทองนั่งพิงอยู่ที่ขอบหน้าต่างแล้วพลิกเปิดหนังสือเล่มหนา ชื่อหนังสือเล่มนั้นคือประวัติศาสตร์แผ่นดินลังกา 

 

 

ขณะอ่านหนังสือที่ในมืออยู่นั้น สีหน้าของหญิงสาวก็แสดงออกถึงความซับซ้อน เพียงเพราะนางอ่านเจอว่าในประวัติศาสตร์ของประเทศอันพาแกรนด์นั้น ผู้ที่มีส่วนเป็นอย่างมากในการก่อตั้งประเทศนี้ก็คือตระกูลฮิลล์ ตระกูลที่มีดอกกุหลาบป่าเป็นสัญลักษณ์ของตระกูล หญิงสาวเงยหน้ามองไปที่ป้ายสัญลักษณ์กุหลาบป่าขนาดใหญ่ที่ติดอยู่บนผนังเหนือโต๊ะหนังสือ แล้วมีท่าทีเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ดูท่าทางตระกูลนี้จะไม่ใช่แค่ตระกูลชั้นสูงธรรมดาแล้วล่ะ 

 

 

เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังมาจากด้านนอก แล้วมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู แม้ว่าเสียงจะเบามากๆ แต่ว่าแคลร์ก็รู้สึกตัวได้ทันที 

 

 

“คุณหนู ท่านดยุกกลับมาแล้วครับ” เสียงเรียบนิ่งดังมาจากหน้าประตู 

 

 

“อื้อ” แคลร์รับคำเรียบๆ แล้วก็ปิดหนังสือ คนที่อยู่ด้านนอกนั้น นางสามารถรู้ได้จากในความทรงจำว่าคือจินเหยียนผู้ที่เป็นอัศวินของนาง 

 

 

แคลร์ลุกขึ้นจะเก็บหนังสือเข้าที่ชั้นหนังสือตามเดิม ที่หน้าประตูก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา เสียงสุภาพของจินเหยียนดังมาจากหน้าประตู 

 

 

ประตูถูกผลักเข้ามา ชายชราท่าทางสง่างามคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ดูแล้วชายผู้นี้น่าจะอายุประมาณห้าสิบกว่า เขาดูมีพลังมาก ด้วยช่วงคิ้วที่มีความคล้ายคลึงกันกับแคลร์ก็ทำให้นางเข้าใจได้เลยว่านี่คือท่านปู่ บุคคลที่เป็นคนสำคัญของประเทศอันพาแกรนด์ในตอนนี้ และคือท่านดยุกผู้กุมอำนาจในบ้านนี้ 

 

 

“ท่านปู่” แคลร์ทำความเคารพอย่างสุภาพ ไม่ได้มีความขลาดกลัวแบบเมื่อก่อน 

 

 

กอร์ตั้น ฮิลล์ขมวดคิ้วมองหญิงสาวตรงหน้า แล้วในสายตาก็มีความรู้สึกแปลกๆ ตอนที่ได้ยินว่าหลานสาวผู้เอาแต่ใจคนนี้มาอ่านหนังสืออยู่ในห้องหนังสือ เขาก็ไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่ได้เห็นตรงหน้าคือเรื่องจริง แล้วการแต่งตัวของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่เหมือนอย่างเคย ปกติแล้วนางจะแต่งตัวสวยงามราวกับผีเสื้อ แต่วันนี้แต่งเพียงแค่ชุดกระโปรงยาวสีขาวเรียบๆ เท่านั้น ผมยาวเป็นลอนสีทองก็แค่หวีจัดทรงอย่างง่ายที่สุด เมื่อวานที่ตกจากม้า นางมีปัญหาอะไรหรือเปล่านะ? 

 

 

“แคลร์ เมื่อวานหลานตกจากม้าเหรอ?” กอร์ตั้นเดินเข้ามาแล้วถาม คนที่อยู่ด้านหลังหยุดอยู่ข้างนอกแล้วปิดประตูห้องหนังสือเบาๆ 

 

 

“ไม่ได้ร้ายแรงอะไรค่ะ” แคลร์ตอบเบาๆ 

 

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว” กอร์ตั้นมองหนังสือในมือของแคลร์แล้วก็อึ้งไป นี่อ่านประวัติศาสตร์แผ่นดินลังกางั้นเหรอ? เขารู้จักหลานสาวผู้นี้ดี นางเอาแต่ใจ เย่อหยิ่ง อีกทั้งยังดูจะหลงใหลในเพศตรงข้ามเป็นอย่างมากเลยด้วย… นางผู้เกลียดการเรียนเป็นที่สุดจะมามานั่งอ่านประวัติศาสตร์แผ่นดินลังกาที่น่าเบื่อสุดๆ ที่นี่น่ะเหรอ?! 

 

 

“อ่านประวัติศาสตร์แผ่นดินลังกาแล้วมีความคิดเห็นเช่นไรบ้างล่ะ?” กอร์ตั้นเดินไปที่โต๊ะหนังสือ แล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้ เขามองนางแล้วถามอย่างไม่จริงจังนัก 

 

 

“ธงกุหลาบป่าจะโบกสะบัดไปตลอดกาล” แคลร์ยิ้มเรียบๆ แล้วก็พูดออกไปเบาๆ 

 

 

……………………………………………………………………………………..