บทที่ 6 ผมมาเพื่อขอทำสัญญา

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

บทที่ 6 ผมมาเพื่อขอทำสัญญา

‘ผู้ชายคนนี้ช่างสุดยอดจริง ๆ!’ นี่คือสิ่งที่เฉิงชิวอวี้คิดในใจหลังจากเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

“คุณเป็นลูกสาวของเจ้าของบริษัทนี้ใช่ไหม? ตอนนี้พ่อคุณอยู่ที่ไหนกัน?” อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาไม่สนใจพวกเรื่องราวตามแบบในหนังที่พระเอกช่วยสาวงามไว้อะไรเทือกนั้น เขาอยากจะทำธุระที่นี่ให้เสร็จ ๆ และรีบกลับไปรับลูกให้ทันเวลา!

เมื่อได้ยินเช่นนี้เฉิงชิวอวี้แสดงสีหน้างุนงง จากเมื่อครู่ที่เธอกำลังชื่นชมชายคนนี้อยู่ในใจ ตอนนี้ความรู้สึกต่าง ๆ มันกลับดำดิ่งอย่างฮวบฮาบกับความแข็งทื่อของชายผู้นี้

“คุณ…คุณช่วยแก้มัดให้ฉันก่อนได้ไหม?”

“อา!”

อวี้ฮ่าวหรานเดินเข้ามาแก้มัดให้เฉิงชิวอวี้ด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน เพราะเขาลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท มันคงดูไม่ดีอยู่แล้วใช่ไหมที่เขาไม่ได้แก้มัดให้ฝั่งตรงข้ามก่อนที่จะพูดคุยธุระ?

แค่เพียงอึดใจเดียวเชือกทั้งหมดก็ถูกคลายออก จากนั้นอวี้ฮ่าวหรานก็ยืนจ้องเฉิงชิวอวี้

เขาไม่ได้ยืนจ้องชื่นชมความงามของเธอ แต่เขายืนจ้องเธอเพราะรอคำตอบของเธอต่อ!

ทางด้านของเฉิงชิวอวี้เมื่อลุกออกจากเก้าอี้ได้เธอก็ยืดเส้นยืดสายของตัวเอง และสำรวจร่างกายของตัวเองอยู่สักพักก่อนที่จะเบนสายตาไปมองที่อวี้ฮ่าวหราน

‘อืม ผู้ชายคนนี้หน้าตาไม่เลวเลยนี่นา พอดูใกล้ ๆ แบบนี้รูปร่างของเขาก็ดูสมส่วนดีเหมือนกัน แขนของเขาถึงแม้จะมีกล้ามไม่ใหญ่โตแต่มันก็มีกล้ามที่สมส่วน แถมอายุของเขาก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเราเลยใช่ไหม?’ เฉิงชิวอวี้คิดกับตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนหญิงงามย่อมนิยมชมชอบฮีโร่ที่ช่วยเหลือตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งเฉิงชิวอวี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

ในทางกลับกัน เมื่ออวี้ฮ่าวหรานสัมผัสได้ว่าอัตราการเต้นของหัวใจเฉิงชิวอวี้เร็วขึ้น และหน้าของเธอก็แดงขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็แสดงสีหน้างุนงง แต่เมื่อเขานึกขึ้นได้ว่านี่มันใกล้เวลาเลิกเรียนของลูกสาวแล้วเขาก็ถามย้ำอีกที “สรุปแล้วพ่อของคุณไม่ได้อยู่ในเมืองงั้นเหรอ?”

อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ‘นี่ข้าเพิ่งช่วยชีวิตเจ้าแท้ ๆ เจ้าไม่ขอบคุณไม่เป็นไร แต่นี่เจ้ากลับไม่ยอมแม้แต่จะตอบคำถามของผู้มีพระคุณของเจ้าเนี่ยนะ? เจ้านี่มันเป็นผู้หญิงที่ใช้ไม่ได้เลย!’

“เอ่อ…นี่..นี่คุณเพิ่งช่วยชีวิตฉันเอาไว้ มันไม่มีอะไรอย่างอื่นให้คุณถามแล้วงั้นเหรอ นอกจากคำถามว่าพ่อของฉันอยู่ที่ไหน!?”

เธอคือเฉิงชิวอวี้เชียวนะ! ตั้งแต่เล็กจนโตไม่มีผู้ชายคนไหนไม่สนใจเธอแบบนี้มาก่อนเลย ผู้ชายคนนี้นี่เป็นคนยังไงกันแน่? อยู่ต่อหน้าผู้หญิงสวย ๆ อย่างเธอทำไมเขายังทำตัวเหมือนกับท่อนไม้แบบนี้!?

คำพูดตั้งแต่เขาคุยกับเธอทั้งหมดมันมีแค่ประเด็นเดียวคือพ่อของเธออยู่ที่ไหน?

ทำไมเขาถึงไม่ถามบ้างเลยว่าฉันเป็นยังไงบ้าง?

“ที่ผมมาที่นี่วันนี้ก็เพราะผมต้องการคุยสัญญาธุรกิจกับพ่อของคุณ”

เมื่อเห็นดวงตา และท่าทางที่ซื่อตรง และไร้อาการหยิ่งผยองของอวี้ฮ่าวหราน อารมณ์ไม่พอใจของเฉิงชิวอวี้ก็เบาบางลง

“ถ้าเป็นเรื่องธุรกิจคุณคุยกับฉันก็ได้” เฉิงชิวอวี้ตอบกลับพร้อมกับวางมาดผู้บริหารอย่างที่เธอชอบทำ

เมื่อเห็นฝั่งตรงข้ามวางมาดใส่ อวี้ฮ่าวหรานก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่ในใจ

‘ในดินแดนแห่งเทพไม่มีใครกล้าวางท่าทางเหนือกว่าใส่ข้าแบบนี้สักคน แต่มนุษย์ผู้นี้กลับกล้าวางมาดใส่เทพผู้นี้งั้นเหรอ เจ้ารู้ไหมว่าถ้าข้าอยากให้เจ้าตายแค่ไม่ถึงวินาทีเจ้าก็ตายแล้ว!’

อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงแค่ความคิดแวบแรก แต่เมื่อเขานึกถึงหน้าถวนถวนที่คิดถึงแม่ และเขาเองก็ต้องมีเงินเอาไว้เลี้ยงลูกเขาก็ต้องสงบใจลง

“บริษัทของผมส่งผมมาเจรจาเรื่องผลิตภัณฑ์ยาจีน และอาหารเสริมกับบริษัทของคุณ อยากให้คุณช่วยซื้อและ…”

“พอแล้ว! คุณเอาสัญญามาด้วยหรือเปล่า? ฉันจะเซ็นมันเดี๋ยวนี้”

เฉิงชิวอวี้โบกมือให้อวี้ฮ่าวหรานหยุดพูด เธอทำราวกับว่าสัญญานี้มันเป็นแค่สัญญาเล็ก ๆ ที่มีราคาไม่กี่หยวน ซึ่งจริง ๆ แล้วสัญญาฉบับนี้มีมูลค่าถึง 10 ล้านหยวน!

อวี้ฮ่าวหรานอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่ง ปากของเขายังอ้าค้างกำลังจะพูดต่อ เขามองไปที่เฉิงชิวอวี้ด้วยความงงงวย

“อุบ!”

เฉิงชิวอวี้เกือบจะหลุดขำกับสีหน้าของชายตรงหน้าเธอ “คุณมาคุยธุกิจแท้ ๆ แต่ทักษะการพูดของคุณกลับสวนทางกับอาชีพของคุณจริง ๆ แต่ก็ช่างเถอะ ที่ผ่านมาคุณคงจะใช้หน้าตาในการขายซะเป็นส่วนใหญ่สินะ หึหึ”

เฉิงชิวอวี้เข้าใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้แท้จริงแล้วไม่ใช่คนบื้ออะไร แต่เขาแค่เป็นผู้ชายที่เถรตรงมาก ๆ ก็เท่านั้น เมื่อคิดได้เช่นนี้สายตาที่เธอมองอวี้ฮ่าวหรานก็เปลี่ยนไปเป็นยิ่งสนใจกว่าเดิม

“เอ้า ทำไมยังทำหน้าทำตางงแบบนั้นอยู่อีก? รีบเอาสัญญาของคุณมาสิ ฉันจะได้เซ็นให้ หรือว่าคุณยังไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงตกลงกับคุณง่าย ๆ ใช่ไหม? เหตุผลแรกมันเป็นเพราะว่าคุณไม่น่าจะใช่คนที่ชอบโกหกใคร เหตุผลที่สองตลาดทุกวันนี้มีความต้องการพวกยาจีน และอาหารเสริมเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ดังนั้นสัญญาของเรามันก็ถือได้ว่าได้กำไรทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ เข้าใจหรือยัง?”

เฉิงชิวอวี้อธิบายให้ฝั่งตรงข้ามฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

จากนั้นสัญญาทั้งหมดก็ถูกเซ็นอย่างสมบูรณ์ และทั้งคู่ก็แลกเบอร์โทรศัพท์กัน

“เอาไว้หากมีอะไรเพิ่มเติมฉันจะโทรหาคุณ” เฉิงชิวอวี้พยักหน้าอย่างพึงพอใจ

“เอ่อ…เดี๋ยวนะขอผมดูก่อนว่า…อ้อ สินค้าทั้งหมดทางผมจะส่งให้คุณภายในสองวัน คุณโอเคใช่ไหม?”

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็คุยกันอีกนิดหน่อย และอวี้ฮ่าวหรานก็จากไปอย่างเร่งรีบ ซึ่งนี่มันทำให้เฉิงชิวอวี้รู้สึกขบขันเป็นอย่างมากกับท่าทางของผู้ชายคนนี้

จากนั้นเมื่อห้องเงียบลงเธอก็หันกลับไปมองนักฆ่าทั้งสองคนที่ถูกมัดเอาไว้เรียบร้อยด้วยสายตาเย็นชา และเธอก็โทรเรียกตำรวจ

….

อวี้ฮ่าวหรานออกมาจากตึกด้วยความรู้สึกสับสน

“เนี่ยน่ะเหรอที่หลี่หรงบอกว่ายาก? มันก็ไม่เห็นว่าจะยากอะไรเลยนี่นา”

อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวเขาเองทำงานเสร็จแล้วเขาจึงโทรไปหาหลี่หรงเพื่อขอที่อยู่บริษัท เพื่อที่เขาจะได้ไปหาเธอเพื่อรายงานเรื่องนี้

จากนั้นไม่นานอวี้ฮ่าวหรานก็นั่งแท็กซี่ไปถึงบริษัทของหลี่หรง แต่แล้วเมื่อเขาเดินไปถึงหน้าทางเข้าบริษัทเขาก็ได้เห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังฉุดกระชากกันอยู่

ชายหนุ่มผู้นั้นมีอายุไล่เลี่ยกับอวี้ฮ่าวหราน เขาใส่สูท Armani และรองเท้าหนังเงาวับราคาแพง ส่วนผู้หญิงก็คือหลี่หรง!

เมื่อครู่ที่เผชิญหน้ากับนักฆ่าทั้งสองสีหน้าของอวี้ฮ่าวหรานไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อเขาเห็นหน้าของชายหนุ่มผู้นี้ อวี้ฮ่าวหรานกลับกัดฟันกรอดและเดินตรงเข้าไปหาทันที และพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “อู๋เส้าฮัว!”

แม้แต่อวี้ฮ่าวหรานก็ยังประหลาดใจกับตัวเองว่าทำไมตอนนี้เขาเหมือนกับควบคุมตัวเองไม่อยู่เมื่อเจอกับชายผู้นี้

ทางด้านของอู๋เส้าฮัวเมื่อได้ยินคนเรียกชื่อตัวเองด้วยเสียงต่ำเขาก็หันขวับมาทันที และเมื่อเขาเห็นอวี้ฮ่าวหรานที่แต่งตัวด้วยชุดล้าสมัย และในมือยังถือกระเป๋าเอกสารเก่า ๆ เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น

“ฮ่าฮ่าฮ่า บ้าเอ๊ยฉันก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็เป็นลูกเขยขยะของตระกูลหลี่นี่เอง เอ๊ะ ว่าแต่แกตายไปแล้วไม่ใช่เหรอเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ไหงแกมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะเนี่ย? อ้อใช่ แกรู้หรือเปล่าว่าในตอนที่แกไม่อยู่เมียของแกมันต้องตายเพราะแก แกรู้บ้างไหม ฮ่าฮ่าฮ่า”

ถึงแม้ว่าหลี่หรงจะยังคงโกรธอวี้ฮ่าวหรานอยู่ในใจ แต่เมื่อเธอเห็นว่าอู๋เส้าฮัวรังแกพี่เขยของเธอแบบนี้เธอก็รู้สึกหดหู่และเวทนาในตัวเขา

“พี่เขย พวกเรากลับบ้านกันเถอะ อย่าไปสนใจอะไรกับไอ้คนแบบนี้เลย”

หลี่หรงกังวลใจว่าอวี้ฮ่าวหรานจะเจ็บช้ำใจไปมากกว่าเดิมหากยังอยู่ที่นี่ต่อไป เพราะอู๋เส้าฮัวมีสถานะที่สูงกว่าพวกเขาทั้งคู่ ไม่ว่าอู๋เส้าฮัวจะดูถูกพวกเขายังไงพวกเขาก็ไม่อาจตอบโต้ได้