ภายในห้องปฏิบัติการ มีคนประมาณสี่ห้าคนนั่งอยู่ด้านใน เฉินชางและอันเยี่ยนจวินกำลังแบ่งงานกันทำ

เฉินชางรักษาชายอายุประมาณยี่สิบกว่าปีคนหนึ่ง ลักษณะเรียบง่าย ร่างกายกำยำ อดเอ่ยถามไม่ได้ “พวกคุณไปทำอะไรมา ทำไมถึงมีกระจกมากขนาดนี้ครับ?”

ชายหนุ่มถอนใจ “พวกเราทำงานอยู่ที่โรงงานกระจก กระจกแผ่นหนึ่งหลุดออกมาจากเครื่องจักรไปชนกำแพงจนแตกเลยกระเด็นมาโดนพวกเราน่ะครับ”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ชายหนุ่มก็ยิ้มดีใจ “ยังดีที่ตอนนั้นผมมีปฏิกิริยาว่องไว ไม่งั้นถ้ากระจกพวกนี้แทงไปโดนหน้าคงเสียโฉมหมด!”

ในใจของเฉินชางรู้สึกหวาดกลัว!

นี่มันเรื่องของการเสียโฉมหรือไง?

จุดที่อ่อนแอในร่างกายของคนเรามีมากมาย ถ้าไม่ระวังอาจตายได้…

เมื่อคิดถึงคำพูดยินดีของชายหนุ่ม เฉินชางก็อดถอนใจออกมาหลายครั้งไม่ได้

ตอนที่เฉินชางฆ่าเชื้อ ชายคนนั้นก็ไม่ร้อง ต้องทราบว่าตอนที่ใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผลจะเจ็บมาก!

เฉินชางถามอย่างแปลกใจ “ไม่เจ็บเหรอครับ?”

ชายหนุ่มยิ้ม “ยังพอไหวครับ คราวที่แล้วผมก็ดึงกระจกออกเอง เจ็บกว่านี้เยอะ! ครั้งนี้ดูแล้วค่อนข้างลึกเลยไม่กล้าดึง…”

เฉินชางชะงักไป เกิดความรู้สึกนับถือขึ้นมา ดูท่าทางคงไม่ใช่ครั้งแรก

“คุณทนหน่อยนะครับ!”

เฉินชางหาแหนบ นำมาคีบเศษกระจก ใช้มือซ้ายจับบาดแผล ออกแรงดึง!

ขณะนั้น เศษกระจกที่ยาวประมาณสองเซนติเมตรก็ถูกดึงออกมา

บาดแผลขนาดยาวสี่เซนติเมตรลึกสองเซนติเมตรปรากฏขึ้นแล้ว!

ตอนนี้เลือดค่อยๆ ไหลออกมาช้าๆ เฉินชางรีบทำแผลทันที!

เขาต้องตรวจสอบดูว่าด้านในมีเศษกระจกหลงเหลืออยู่หรือไม่ หลังจากใช้แหนบคีบออกมาจึงค่อยเย็บแผล!

เมื่อเห็นชายคนนั้นสูดปาก เฉินชางจึงพูดว่า “ผมจะฉีดยาชาให้คุณสักหน่อยนะครับ จะได้รู้สึกชา”

ชายคนนั้นได้ฟังก็ไม่ได้ตอบอะไร กลับรู้สึกลังเลด้วยซ้ำ ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามด้วยใบหน้าเขินอายเล็กน้อย “ยาชาแพงไหมครับ?”

เฉินชางส่ายหน้า “เป็นบริการฟรี!”

ชายคนนั้นโล่งใจจนหัวเราะออกมา “ฉีดให้มากหน่อย ผมเจ็บจะตายอยู่แล้ว!”

เฉินชางรู้สึกแสบจมูกขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

คนเราแตกต่างกัน ทุกคนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน

ดูแล้วชายคนนี้ก็อายุไม่ถึงยี่สิบปี บางทีคงเพิ่งจะออกมาเจอโลก แต่มีแผลบนขาอยู่หลายสิบแผลแล้ว

ยาชาออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็ว ชายหนุ่มมีเลือดไหลออกมาไม่มาก หลังจากทำแผลเสร็จชายคนนั้นก็ยิ้ม พูดขึ้นว่า “ไม่เจ็บจริงๆ”

เฉินชางพยักหน้า “ผมจะจัดการบาดแผลให้คุณนะครับ ข้างในยังมีเศษกระจกเล็กๆ อยู่จำนวนหนึ่ง”

เฉินชางใช้กระบอกฉีดยาขนาดสิบมิลลิลิตร บรรจุน้ำเกลือฉีดเข้าไปไม่หยุด จากนั้นจึงใช้แหนบคีบเศษกระจกออกมา

สุดท้ายก็เป็นการเย็บแผล!

แม้ว่าดูผิวเผินบาดแผลจะค่อนข้างลึกแต่ก็ไม่ได้ทำร้ายไปถึงกล้ามเนื้อและเส้นเลือดใหญ่ เย็บแผลธรรมดาก็พอ

วิธีการเย็บมีหลายวิธี ไม่ใช่ว่าวิธีการเย็บทั้งหมดจะเหมาะสมกับทุกลักษณะผิว

ยกตัวอย่างเช่นการเย็บแนวตั้งแบบขมวดซ่อนปมภายใน วิธีการแบบนี้ความจริงเหมาะกับการใช้เย็บกระเพาะอาหาร ใช้กับการเย็บแผลที่ผิวหนังไม่ได้ และอย่างเช่นการเย็บแบบต่อเนื่องจะใช้ในการเย็บปิดทางเดินอาหารและการปลูกถ่ายผิวหนัง ส่วนการเย็บแบบเลขแปด เนื่องจากเป็นการเย็บประสานได้ค่อนข้างดีจึงมักจะใช้เย็บพังผืด

ดังนั้นแต่ละแห่งจะใช้วิธีการเย็บแตกต่างกัน การเลือกวิธีเย็บย่อมต้องแตกต่างกัน

ความจริงสิ่งที่เรียกว่าวิธีการก็เหมือนกับกระบวนท่าวรยุทธ์นั่นแหละ พอเย็บขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่ใช่อะไรที่จะทำครึ่งๆ กลางๆ

สิ่งสำคัญก็คือการเลือกวิธีที่แตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้ป่วยและสถานที่ที่ต้องเย็บ เหมือนกับชายคนนี้ที่มีลักษณะร่างกายค่อนข้างดี อัตราการสมานแผลค่อนข้างไว

เฉินชางมีทักษะการเย็บผิวหนังอยู่ในระดับกลาง พูดไปแล้วการเย็บแผลทั่วไปไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่หลังจากที่มีความคมบวกหนึ่งเขาก็คล่องแคล่วยิ่งขึ้น

ไม่นานก็เย็บแผลเสร็จ

เฉินชางเตรียมใช้โฟมปิดแผล แต่ตอนนี้เอง อันเยี่ยนจวินก็พูดขึ้นว่า “ใช้ผ้าจะดีขึ้นเร็วกว่า”

เฉินชางชะงักไป ใช้ผ้าจะดีขึ้นเร็วกว่าหรือ?

แต่ว่า…เฉินชางรู้สึกสงสัย ไม่นานก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา

ผ้าราคาถูกกว่า

เขาใช้แหนบคีบผ้าก๊อซขึ้นมาหลายชิ้น วางลงไปแล้วปิดเทปกาว เมื่อคิดถึงงานของพวก เขาเฉินชางจึงพันผ้าที่แผลสองทบ พูดด้วยรอยยิ้มว่า

“แบบนี้ก็แข็งแรงแล้ว”

ต่อไปก็เป็นขาอีกข้างหนึ่ง ครั้งนี้ทั้งสองร่วมมือกันไปเงียบๆ ความเร็วก็ไม่น้อย

ตอนนี้เอง อันเยี่ยนจวินจัดการแผลให้ชายวัยกลางคนเสร็จแล้ว เศษกระจกประมาณสี่ห้าชิ้นบนร่างถูกดึงออกมาจนหมด จากนั้นก็เย็บแผลจนเสร็จ

เฉินชางอดรู้สึกทอดถอนใจในความสามารถและความเร็วของหัวหน้าแผนกอันไม่ได้

ชายอีกคนหนึ่งยังเด็กกว่าชายคนเมื่อครู่นี้ประมาณหนึ่งถึงสองปี ดูเหมือนเขารู้แล้วว่ายาชาไม่ต้องจ่ายเงินจึงเสนอขึ้นมาด้วยตัวเอง พูดเสียงเบาว่า “หมอครับ ฉีดยาชาให้มากหน่อย ผมเจ็บจะตายอยู่แล้ว”

ชายคนเมื่อครู่นี้ก็กล่าวผสมโรง “ใช่แล้ว เขาขี้ขลาด กลัวเจ็บ!”

เฉินชางยิ้ม “ฉีดมากกว่าจะมีปัญหาน่ะครับ ยาชานี้จะฉีดมั่วซั่วไม่ได้”

พูดจบก็เริ่มเย็บแผล

ทุกครั้งที่เย็บแผล เฉินชางจะรู้สึกว่าความเข้าใจที่มีต่อการเย็บผิวหนังของตนเพิ่มมากขึ้นหลายส่วน

การเย็บผิวหนังเป็นเรื่องที่พิถีพิถันมาก

อย่างแรกก็คือระดับความเร็วของการสมานตัว อย่างที่สองก็คือลดการติดเชื้อ และสุดท้ายคือปัญหาเรื่องรอยแผลเป็น

สามส่วนนี้สำคัญเป็นอย่างมาก

หลังจากเย็บแผลเสร็จ อันเยี่ยนจวินก็เดินมาดู พยักหน้าอย่างพอใจ “ไม่เลวเลย!”

นี่เป็นการเย็บแผลขั้นพื้นฐาน ไม่ต้องปราณีตอะไรมาก

ก่อนเดินไป ชายคนนั้นยิ้มถามว่า “หมอครับ เท่าไหร่หรือครับ?”

อันเยี่ยนจวินขมวดคิ้ว “อะไรเท่าไหร่?”

ชายคนนั้นเบิกตากว้าง “เย็บแผลน่ะครับ?”

อันเยี่ยนจวินพูดว่า “ผมจะออกใบเสร็จให้คุณ คุณไปชำระค่าบริการที่จุดชำระเงินเถอะครับ”

ชายคนนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม “ครับ ได้ครับ!”

เขาถือใบแจ้งค่าบริการออกไป จุดชำระเงินของแผนกฉุกเฉินมีคนค่อนข้างเยอะ

ขณะที่ชายคนนั้นกำลังเข้าแถวก็รู้สึกเศร้า ถึงอย่างไรการเข้าโรงพยาบาลก็นับเป็นการสิ้นเปลือง นี่เขาเย็บไปตั้งหลายเข็ม ทั้งฉีดยาชา ทั้งฆ่าเชื้อ ทั้งผ้าก๊อซ จะต้องใช้เงินเท่าไหร่?

งานหนึ่งอาทิตย์ของเขาเสียเปล่าแล้ว!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็เศร้าโศก

ชายหนุ่มหลายคนมาจากหมู่บ้านเดียวกัน พวกเขาออกมาทำงานใช้แรง จะปล่อยให้พวกเขาควักเงินจ่ายไม่ได้

คิดถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็มองไปยังแอพอาลีเพย์

ยังมีเงินเหลืออยู่ห้าร้อยกว่า…

พอหรือเปล่า?

เขาจะกู้มาใช้ไม่ได้ เขารู้สึกว่าทำแบบนี้เป็นการเบิกเงินเกินบัญชี จะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย!

ไม่นานก็ถึงคิวของเขา เขาส่งใบแจ้งค่าบริการไปให้

พยาบาลในจุดชำระเงินเคาะคีย์บอร์ดอย่างชำนาญ ไม่นานก็มีผลออกมา

ในใจของชายคนนั้นรู้สึกไม่สบายใจ คล้ายกับกำลังรอตัดสินโทษอย่างไรอย่างนั้น

พนักงานเก็บเงินกล่าวว่า “สามสิบ”

ชายคนนั้นชะงักไป “เท่าไหร่นะครับ?”

พนักงานกล่าวต่อ “สามสิบหยวนค่ะ! จ่ายเป็นเงินสดหรือรูดบัตรคะ?”

ชายคนนั้นรีบส่งโทรศัพท์มือถือไป “จ่ายอาลีเพย์ครับ”

พนักงานรับมาสแกน “ค่ะ เรียบร้อยแล้ว นำใบเสร็จรับเงินไปให้คุณหมอก็เรียบร้อยแล้วค่ะ”

ชายคนนั้นพยักหน้า จากนั้นจึงเดินจากไป จู่ๆ ก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงหันมาถาม “คุณครับผมขอถามสักหน่อยนะครับ ค่าหมอของหัวหน้าแผนกอันเท่าไหร่เหรอครับ?”

พนักงานกล่าวตอบ “ค่าหมอของหัวหน้าแผนกอัน 17.5 หยวน รวมกับค่าบริการฉุกเฉิน 10 หยวน รวมทั้งหมดเป็น 27.5 หยวน”

ชายหนุ่มชะงักไป!

เขามองไปยังใบเสร็จรับเงิน มีค่าหมอที่ไหนกัน บนนี้มีแค่ค่าใช้จ่ายในการทำแผล แม้แต่ค่าเย็บแผลก็ไม่นับรวมเข้าไป ยิ่งไปกว่านั้น…พวกเขาไม่ได้มาคนเดียว!

ไม่ต้องจ่ายค่าหมอ ค่าเย็บแผลก็ไม่มี…

ชายคนนั้นมองไปยังคนมากมายที่กำลังต่อแถวด้านหลัง พูดกับพยาบาลผู้ทำหน้าที่รับบริการชำระเงิน “ขอบคุณครับ! รบกวนคุณแล้ว”

หลังจากออกมาจากจุดชำระเงิน ชายคนนั้นก็ยังไม่อาจสงบใจ

ในสมองปรากฏภาพของหมออันที่มักจะพูดว่า “ไม่ได้!”

อันเยี่ยนจวิน หน้าตาเย็นชาแต่หัวใจอบอุ่น หมอปากร้ายใจดี