ตอนที่ 20 การต่อสู้อันดุเดือด

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่ 20 การต่อสู้อันดุเดือด

หากเทียบขนาดตัวหมาป่ากับแมวแล้ว หมาป่านั้นตัวสูงกว่า 4 เมตร ส่วนแมวนั้นตัวสูงแค่ 80 เซนติเมตร มันคงไม่อาจจะสู้ได้อย่างแน่นอน

พวกคนที่รู้กันดีว่าหวังเย่าและจ้าวซวนมีเรื่องกันมาก่อน พวกเขาอดไม่ได้ที่จะใจสั่นเพราะนี่ไม่ใช่การต่อสู้ของเด็กอีกต่อไปแล้ว พี่น้องตระกูลจ้าวโด่งดังเรื่องการรังแกคนอื่น ๆ หลายคนจึงพากันเหงื่อตกแทนหวังเย่า

พวกระดับสูงของโรงเรียนและอาจารย์แทบทั้งหมดได้มาดูการแข่งขันนี้ด้วย ยังไงซะผู้เข้าแข่งขันก็คือนักเรียนของพวกเขา

นอกจากครูใหญ่ที่โผล่มาตอนแรกแล้วกลับไปนั้น รองครูใหญ่และครูคนอื่น ๆ ก็ยังนั่งอยู่ที่นั่งกันหมดเพื่อรอดูการต่อสู้ของเหล่านักเรียน

ในฐานะครูของโรงเรียนแล้ว ไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่ได้เห็นนักเรียนของตัวเองเติบโต

ในฐานะครูประจำชั้นและครูสอนพิเศษแล้ว พวกเขามีความสุขที่นักเรียนของตัวเองโดดเด่นขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้น หากนักเรียนที่พวกเขาสอนสามารถเอาชนะคนอื่นได้ พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า

ตอนนั้นครูประจำชั้นห้อง 2 ที่เห็นจ้าวซื่อขึ้นเวทีก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นขึ้นมา เขาหันไปหาคนข้าง ๆ แล้วพูดขึ้น  “จ้าวซื่อน่ะเป็นอันดับสามของห้อง เขาคงเข้ามหาวิทยาลัยหัวเซี่ยได้แน่ ๆ เดาว่าในการแข่งขันนี้เขาน่าจะติด 10 อันดับแรก ”

รองครูใหญ่ผมเทาพยักหน้าและยิ้มออกมา ก่อนจะชมว่า “ฉันรู้จักจ้าวซื่อ เขาแข็งแกร่งมาก ไม่ใช่แค่สัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง แต่ร่างกายของเขาเองก็ได้รับการขัดเกลาจนยอดเยี่ยม ฉันเองก็ประเมินเขาเอาไว้สูงทีเดียว”

“ฟังจากที่ทั้งสองคนพูดแล้ว งั้นคู่ต่อสู้ของเขาคงน่าสงสารน่าดู”  หัวหน้าฝ่ายพูดขึ้น  “พวกนี้เหมือนจะมีเรื่องขัดแย้งกันมาก่อน พวกเขาดูเหมือนศัตรูกันเลย ฮ่าฮ่า ศัตรูมาเผชิญหน้ากันเอง ฉันล่ะอยากเห็นจริง ๆ ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง ”

“เด็กที่เป็นเจ้าของแมวนั่นอยู่ห้องไหนนะ เขาดูคุ้น ๆ เหมือนว่าฉันจะเคยเห็นเขาส่งหนังสือพิมพ์อยู่” ครูคนหนึ่งหรี่ตาลง ก่อนจะจำหวังเย่าได้

ครูของห้อง 9 ได้ยินแบบนั้นก็อายขึ้นมาและพูดขึ้น “เขาอยู่ห้อง 9 เท่าที่ฉันรู้มา เขากับจ้าวซวนมีเรื่องกัน จ้าวซื่อเป็นพี่ชายของจ้าวซวน ดังนั้น…ฉันหวังว่าเขาคงจะไม่ทำอะไรหนักมือมากเกินไป”

สำหรับหวังเย่าแล้ว ครูประจำชั้นห้อง 9 ดูแลเขามา 3 ปี เขาคิดว่าเด็กคนนี้เป็นแค่คนที่อ่อนแอและคงตกรอบอย่างแน่นอน

แต่ไม่นานมานี้เด็กคนนี้กลับโด่งดังขึ้นมา สัตว์อสูรของเขากลับพัฒนาขึ้นมาจนแม้แต่จ้าวซวนก็ไม่อาจจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้

แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้สนใจอะไรหวังเย่านัก ปกติก็ไม่ค่อยสนิทกับเด็กในชั้นอยู่แล้วและไม่เข้าใจเด็กอีกด้วย

“ครูหยางหมายถึงอะไร ? ” ครูจางครูประจำชั้นห้อง 2ไม่พอใจ “ หนักมืออะไรกัน ? จ้าวซื่อน่ะเป็นคนที่แข็งแกร่ง นายคิดว่าหวังเย่าจะรับมือกับจ้าวซื่อไหวรึไง ? ”

“จะเป็นไปได้ยังไง ความแข็งแกร่งในชั้นเรียนของเขาไม่ได้สูงนัก ฉันแค่จะบอกว่าเขาคงไม่ถึง 20 วินาที ไม่สิ…ไม่น่าจะถึง 10 วินาที หวังเย่าก็คงจะแพ้” ครูหยางกลัวจนไม่กล้าที่จะพูดต่อ

อีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าเขา เขาได้แต่ต้องพูดเอาดีเข้าตัวและประจบอีกฝ่ายเอาไว้

“ดีแล้ว อย่าคิดทดสอบความอดทนของฉัน”

ตอนนั้นเวลานับถอยหลังก็หมดลง

ที่เวที 3 หมาป่าตาแดงได้คำรามออกมาพร้อมกับพุ่งเข้าใส่หวังเย่าที่อยู่ห่างออกไป 2 ฟุต มันยกขาหน้าทั้งสองของมันขึ้น เพื่อที่จะตะปบหวังเย่า

สีหน้าของหวังเย่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่กล้าที่จะประมาทและรีบถอยออกมาพร้อมกับสั่งให้การ์ฟีลด์ไม่ต้องยั้งมือ และโจมตีเต็มกำลัง

การ์ฟีลด์เมื่ออยู่ต่อหน้าหมาป่าตาแดงนี้ทำให้มันดูมีขนาดไม่ต่างจากกระต่าย ผู้ชมโดยรอบอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและรู้สึกว่าการ์ฟีลด์คงกลายเป็นเหยื่อของหมาป่าตาแดงอย่างแน่นอน

แต่การ์ฟีลด์กลับร้องออกมาและพุ่งออกไป

หลายคนอดไม่ได้ที่จะหลับตาลงเพราะทนดูฉากนี้ไม่ได้ เนื่องจากเขี้ยวของหมาป่านั้นคมพอที่จะฉีกกระชากแมวอ้วนตัวนี้เป็นชิ้น ๆ ได้

“โง่จริง ๆ ยังไม่ทันทำอะไรก็คิดจะพุ่งเข้าไปหาความพ่ายแพ้ซะแล้ว เขาส่งสัตว์อสูรของตัวเองไปตาย แม้ว่ามันจะเป็นแค่สัตว์เลี้ยงที่ดูอ่อนแอ แต่เขาก็ไม่ควรปล่อยให้มันกลายเป็นอาหารของหมาป่าตาแดง เขาไม่ดูน่าสมเพศไปหน่อยรึไง ? ” ครูจางห้อง 2 อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา

แต่ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็เห็นว่าการ์ฟีลด์หลบกรงเล็บของหมาป่าไปได้และพุ่งไปที่หัวของหมาป่า จากนั้นมันก็อ้าปากแล้วกัดเข้าไปอย่างแรง ก่อนจะสะบัดหัวไปมาพร้อมกับเนื้อก้อนโตที่หลุดออกมาจากหัวของหมาป่า

ตกตะลึง !

หมาป่ากรีดร้องออกมาด้วยความโกรธ มันใช้อุ้งมือตบไปที่หัวของตัวเอง  การ์ฟีลด์หลบอุ้งมือนั้นได้และโดดไปที่หางของหมาป่า ก่อนจะใช้กรงเล็บทั้งสองข้างฉีกเนื้อที่หางของหมาป่าออก

จ้าวซื่อเห็นแบบนั้นก็โกรธขึ้นมาทันที “ไม่ต้องสนใจแมวนั่น จัดการเจ้าของมันก็พอ”

หมาป่าได้สติกลับมาและเลิกสนใจการ์ฟีลด์ทันที มันได้พุ่งเข้าไปหาหวังเย่า ราวกับเสือที่หลุดออกจากกรงและพร้อมที่จะขย้ำเหยื่อ

หวังเย่าทำเสียงฮึดฮัดออกมา เขาดึงความสามารถจากการ์ฟีลด์มาใช้ เขากระโดดขึ้นสูงกว่า 10 เมตร ทำให้หมาป่าพุ่งชนแต่ความว่างเปล่า

“จ้าวซื่อ ทำไมแกไม่ลงมาเล่นด้วยหน่อยล่ะ ? ” หวังเย่าตะโกนท้าทายอีกฝ่าย

จ้าวซื่อแสดงสีหน้าเย็นชาออกมา  “ได้ แกรนหาที่ตายเองนะ  ฉันจะจัดให้ตามที่แกต้องการ.. ”

กล้ามเนื้อของเขาบวมเปล่งขึ้นมาจนฉีกเสื้อผ้าออก เขาได้ก้าวออกไปจนทำให้พื้นแตกร้าวพร้อมกับกระโดดขึ้นไปหาหวังเย่า

หวังเย่าได้อ่านสถานะของหมาป่าตาแดงจากระบบมาแล้ว เขารู้ว่าจ้าวซื่อได้สกิล 3 อย่างมาจากหมาป่าตาแดง ซึ่งก็คือเพิ่มความแข็งแกร่งร่างกาย, คลื่นสายฟ้าและกลืนกิน

สกิลสองอันแรกพอเข้าใจได้ ส่วนสกิลที่สามนั้นคือการเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ ซึ่งจะเป็นการใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วง

ดังนั้นแม้ว่าหวังเย่าจะท้าสู้กับอีกฝ่าย แต่เขาก็ไม่กล้าจะเปิดฉากก่อน  เขาคิดจะใช้โอกาสนี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการต่อสู้ของตัวเอง รวมไปถึงไม่ปล่อยโอกาสที่จะได้แก้แค้นไปอีกด้วย

ในอีกด้าน การ์ฟีลด์ยังคอยรับมือกับหมาป่าอยู่ มันคอยปั่นหัวอีกฝ่ายจนทำให้จิตใจของหมาป่าแทบพังทลายลงไป

หวังเย่าไม่คิดใส่ใจการต่อสู้อีกฝั่ง เขายังคงมองไปที่จ้าวซื่อ

อีกฝ่ายเหมือนจะมีจิตใจที่แข็งแกร่ง เขาค่อย ๆ เข้ามาใกล้ทีละนิด ๆ ก่อนจะต่อยหมัดที่ดูธรรมดาออกมา แต่กลับก็มีเล็บที่คมกริบยาวกว่า 1 ฟุตอยู่ด้วย

หวังเย่าเองก็มีเล็บที่คมกริบราวกับใบมีดเช่นกัน

เมื่อเห็นหมัดนั้นพุ่งเข้ามา หวังเย่าได้เบี่ยงตัวหลบพร้อมกับพุ่งเข้าโจมตีอีกฝ่าย เขาใช้กรงเล็บกรีดเข้าไปที่แขนของจ้าวซื่อจนทำให้เลือดกระเซ็นออกมา