ตอนที่ 25 เราแค่ทำข้อตกลงกัน ไม่ได้รักกัน

เดิมพันเสน่หา

“คุณเหลิ่ง…” 

 

 

อวี้หลานซียังอยากพูดอะไร ทว่ากลับถูกเหลิ่งรั่วปิงพูดแทรกก่อน “คุณอวี้ ดิฉันสามารถบอกคุณอย่างน่าอับอาย ดิฉันกับคุณหนานกงไม่ได้รักกัน แค่มีการทำข้อตกลงกัน เป็นความสัมพันธ์ที่รับการเลี้ยงดูที่อยู่ในที่มืดไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ ดังนั้น คำว่าสามีภรรยาคงจะเป็นที่น่าอายมากๆ” 

 

 

“คุณอวี้ คุณหนานกงไม่มีทางรักฉัน ฉันก็ไม่มีวันเห็นเขาเป็นคนสำคัญในใจแน่นอน เขาเสียเงินซื้อฉัน ส่วนฉันก็แลกด้วยร่างกาย รอจนกว่าจะถึงวันที่เขาเบื่อฉัน เราก็แค่แยกจากกัน และจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันอีก ก็แค่เท่านี้” 

 

 

“…” 

 

 

“การเริ่มต้นของเราก็เป็นเรื่องที่สกปรกแล้ว นี่เป็นเหตุผลที่เราไม่มีวันมีจุดจบที่ดีอย่างแน่นอน ดังนั้นใครก็ไม่จำเป็นต้องฝืนใจแสร้งทำเป็นรักกันหรอกค่ะ เรื่องที่ต้องดูแลคุณหนานกง ก็ให้คุณอวี้เป็นฝ่ายจัดการเถอะค่ะ” เหลิ่งรั่วปิงจึงคลายยิ้มอย่างสง่าออกมา “ฉันยังมีธุระ ก็คงต้องขอตัวก่อนนะคะ” 

 

 

พูดจบ เหลิ่งรั่วปิงจึงหันหลังแล้วเดินขึ้นไปบนตึก ฝีเท้าของเธอแผ่วเบาและดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีแม้แต่อาการที่รับผลกระทบจากการพูดคุยกันครั้งนี้เลย 

 

 

อวี้หลานซีจึงใช้สายตาส่งเหลิ่งรั่วปิงขึ้นไปชั้นบน จนกว่าเธอก็หายไปจากบันได เธอจึงจะถอนหายใจแล้วหันหลังเตรียมตัวออกจากวิลล่า 

 

 

ทันทีที่เธอหันหลังไป ก็ได้เรียกขึ้นอย่างน่าตกตลึง “เยี่ย?” 

 

 

เรือนร่างอันสูงใหญ่ของหนานกงเยี่ยยืนอยู่ตรงหน้าประตู เรือนร่างของเขาบดบังดวงอาทิตย์ที่อยู่ด้านหลังไว้ แจ็คเก็ตผ้าร่มสีดำที่เขาสวมใส่ทำให้สัมผัสได้ถึงความยะเยือกเย็นแพร่กระจายออกมา ไม่รู้ความเย็นนั้นเข้าไปจากข้างนอก หรือเป็นเพราะว่ามันได้แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา ความเลือดเย็นที่ล้อมรอบตัวของเขานั้นเย็นจนทำให้คนรู้สึกตกใจ สีหน้าของเขาก็ดูเย็นชาเหมือนดั่งกำแพงที่ทำจากทองแดงและเหล็ก นัยน์ตาของเขาทำให้คนรู้สึกกำลังจะก่อตัวเป็นน้ำแข็ง 

 

 

อวี้หลานซีรู้สึกตื่นกลัวจนตัวสั่น ประสบการณ์ของเธอบอกเธอว่า หนานกงเยี่ยรู้สึกโกรธ และโกรธเกรี้ยวมาก โกรธมากๆ 

 

 

“เยี่ย…” อวี้หลานซีรู้สึกตื่นเต้นจนต้องจับชายเสื้อไว้ และกัดริมฝีปากล่างไว้ จากนั้นก็มองหนานกงเยี่ยด้วยความหวาดกลัว 

 

 

หนานกงเยี่ยไม่ได้พูดอะไรออกมา และก็หันไปมองบันไดด้วยความเลือดเย็น สายตาของเขาเหมือนสามารถทำให้ทุกอย่างจับตัวเป็นน้ำแข็งได้ ก่วนอวี้ที่ยืนอยู่ตรงข้างหลังเขาก็เหลือบตามองอวี้หลานซีด้วยความตื่นเต้น ในใจก็พูดไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกยังไงอยู่ 

 

 

หลังจากผ่านไปสักพัก หนานกงเยี่ยจึงละสายตาของตัวเองกลับมา สีหน้าที่จับจ้องอวี้หลานซีไว้ก็ดูอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย ทว่ายังคงไม่ได้คลายยิ้มออกมา “ใครสั่งให้คุณมา” 

 

 

“ฉัน…เยี่ย ฉันแค่คิดว่า…” เธอแค่หวังว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาดีกับเขาหน่อย เพราะว่าเธอรู้สึกว่าเขาโดดเดี่ยวเกินไป 

 

 

เธอรักเขา เธอสามารถทำเพื่อความสุขของเขาจนต้องทนให้ผู้หญิงคนอื่นมีตัวตนอยู่ เธอเป็นคนใจกว้างมากๆ 

 

 

เขาคือราชา เธอถูกกำหนดมาว่าต้องเป็นราชินีของเขา เธอจะได้กลายเป็นแม่แห่งแผ่นดิน ดังนั้นเธอจึงต้องเป็นราชินีที่โอบอ้อมอารี เธอจะให้ผู้หญิงทั้งหมดของเขารักเขา จะไม่ทำให้เขาต้องรู้สึกรำคาญใจเพราะผู้หญิงคนอื่น 

 

 

หนานกงเยี่ยรู้ดีว่าในใจของอวี้หลานซีคิดอะไรอยู่ เพราะว่าเขารู้จักเธอดี ทำให้เขาไม่อยากใจดำไปทำร้ายเธอ เขาจึงคลายยิ้มอันอ่อนโยนให้เธอ เพราะว่าเขาได้อ่านใจผู้หญิงทั่วโลกมาแล้ว ไม่มีใครสามารถจริงใจกับเขาเท่าอวี้หลานซี แค่เสียดายที่สิ่งนี้ไม่ใช่ความรัก… 

 

 

หนานกงเยี่ยจึงแอบถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็พยายามทำน้ำเสียงที่อ่อนโยน “กลับไปเถอะ คราวหลังไม่ต้องมาอีก” 

 

 

พอเห็นหนานกงเยี่ยไม่ได้โมโห อวี้หลานซีจึงเข้าไปโอบแขนของเขาไว้ด้วยความใจกล้า จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพลางมองหน้าเขา ไม่เจอเขาตั้งนาน เธอรู้สึกคิดถึงเขามากๆ 

 

 

หนานกงเยี่ยรู้ว่าไม่สามารถให้ความหวังเธอได้ จึงได้แข็งใจหันหน้าไปทางอื่น แล้วสั่งให้ก่วนอวี้ที่อยู่ข้างหลังเขา “ไปส่งคุณอวี้” 

 

 

“ครับ” ก่วนอวี้พยักหน้า จากนั้นก็มองอวี้หลานซี “คุณอวี้ครับ เชิญกลับเถอะครับ” 

 

 

ก่วนอวี้ อวี้หลานซี และหนานกงเยี่ยเติบโตมาด้วยกัน จึงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน ถึงแม้จะแตกต่างกันตรงที่เขาเป็นลูกน้อง แต่ว่าความรู้สึกที่มีให้กันคือความจริง ความลุ่มหลงของอวี้หลานซี ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจจริงๆ