ตอนที่ 26 เธอไม่น่ารักเลยสักนิด

เดิมพันเสน่หา

อวี้หลานซีรู้ดีว่าหนานกงเยี่ยไม่ชอบให้ใครขัดคำสั่งเขา ดังนั้นไม่ว่าเธอจะอาลัยอาวรณ์แค่ไหน เธอก็เลือกที่จะปล่อยแขนของเขา พร้อมเอ่ยพูดด้วยความเป็นห่วง “ซีไปก่อนนะ เยี่ยต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ” 

 

 

“อืม ไปเถอะ” หนานกงเยี่ยคลายยิ้มบางๆ จากนั้นก็ตบมือของอวี้หลานซีเบา 

 

 

อวี้หลานซีไม่กล้าอยู่นาน เธอรีบตามก่วนอวี้ออกไปในทันที 

 

 

หลังจากที่อวี้หลานซีออกไปแล้วนั้น หนานกงเยี่ยรีบหุบยิ้มของเขาลงในทันที จากนั้นแสยะยิ้มด้วยความเย็นชา 

 

 

แม่บ้านรีบเดินเข้ามาช่วยเขาถอดแจ็คเก็ตผ้าร่ม จากนั้นก็ยื่นน้ำอุ่นๆ ให้กับเขาหนึ่งแก้ว 

 

 

หนานกงเยี่ยไม่ได้รีบเดินขึ้นชั้นบน แต่กลับนั่งตรงโซฟา ขมวดคิ้วเป็นปม นั่งไขว่ห้าง ทำให้เท่ห์และดูสง่ามาก 

 

 

คำพูดทุกคำของเหลิ่งรั่วปิงดังเข้ามาในโสตประสาทของเขา แล้วส่งเข้าไปอยู่ภายในใจของเขา เหมือนกับก้อนหินก้อนเล็ก ที่ทุกก้อนล้วนมีน้ำหนัก ตอนที่สัมผัสโดนมันนั้นไม่รู้สึกดีเท่าไหร่ ทั้งยังมีความรู้สึกหน่วงๆ 

 

 

ตัวเขาเองก็รู้ดี สิ่งที่เหลิ่งรั่วปิงพูดนั้นไม่ผิดแม้แต่น้อย ระหว่างพวกเขาก็เป็นแค่ข้อแลกเปลี่ยน โดยเธอเปลือยกายส่วนเขาให้เงินก็เท่านั้น ไม่มีความรักและไม่มีความรู้สึก แต่ตอนที่คำพูดนี้ออกมาจากปากของเธอนั้น ตอนที่เข้ามาในโสตประสาทของเขา เขากลับรู้สึกแย่ 

 

 

ผู้หญิงของเขาคนที่ผ่านมานั้น ทุกคนล้วนพยายามเอาอกเอาใจเขาอย่างสุดความสามารถ เขาไม่รู้หรอกว่าภายในใจของผู้หญิงพวกนั้นคิดอะไร แต่ลมปากของพวกเธอเอาแต่บอกว่ารักเขา ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่เลิกลากัน พวกเธอก็เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด เมื่อก่อนสิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือการที่ผู้หญิงยังตามตอแยทั้งๆ ที่เลิกกันไปแล้ว แต่ผู้หญิงอย่างเหลิ่งรั่วปิ่งที่สามารถพูดคำว่าเลิกได้ง่ายแบบนี้ หลังจากที่เลิกลากันไปแล้วไม่อยากจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันอีก ทำให้เขารู้สึกผิดหวัง 

 

 

ผู้หญิงคนนี้ดื้อด้านมาก เพราะว่าเธอไม่ได้รักเขา ดังนั้นแม้แต่คำพูดโกหกเธอก็ยังไม่ยอมพูด พยายามเอาอกเอาใจเสี่ยเลี้ยงดูก็ไม่เป็น จริงๆ เลย เธอมันไม่น่ารักเลยสักนิด 

 

 

เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโมโหเรื่องอะไร เหลิ่งรั่วปิงมองเรื่องนี้ได้อย่างกระจ่างชัดถึงขั้นนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการหรอกหรอ เขาไม่ต้องกังวลว่าหลังจากเลิกกันแล้วเธอจะตามตอแย และไม่ต้องกังวลว่าเธอจะใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อได้มายังตำแหน่งที่ไม่ควรได้ แต่ว่า เขารู้สึกหน่วงๆ ในใจ 

 

 

เขาไม่มีเสน่ห์เลยหรือไง เธอถึงไม่มีใจให้แม้แต่น้อย ทั้งยังสามารถพูดคำว่า “ไม่ชอบ” ได้อย่างหนักแน่นชัดเจน! 

 

 

นี่เป็นครั้งแรก ที่ผู้หญิงคนหนึ่งทำให้เขารู้สึกไม่สามารถจับต้องเธอได้ ไม่มีเรี่ยวแรงและทำอะไรไม่ได้อีกด้วย 

 

 

ความเป็นจริงนั้น ก่อนที่จะกลับมาเขาก็อารมณ์ไม่ดี เขาปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ระยะเวลาครึ่งเดือนที่ไม่อยู่ที่นี่นั้น เขาคิดถึงเธอ และคำตอบที่เขาให้กับตัวเองก็คือ คิดถึงเรือนร่างของเธอ เขาโสดมานานกว่าสองปีแล้ว จึงมีความต้องการสูง 

 

 

ฟังจากที่แม่บ้านรายงานนั้น เธอไม่ได้เอ่ยถึงเขาแม้แต่คำเดียว อีกทั้งยังคงทำงาน กินข้าว นอนหลับเหมือนปกติ ราวกับว่าไม่มีอะไรแตกต่าง ในทางตรงกันข้ามเธอดูสุขสบายมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ เขาโมโหโดยไม่มีเหตุผล รู้สึกว่าตัวเองนั้นแพ้ให้กับผู้หญิงคนนี้ เขาคิดถึงเธอ แต่เธอกลับไม่คิดถึงเขา หนานกงเยี่ยเคยพ่ายแพ้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ 

 

 

พอกลับมาถึงก็ได้ยินคำพูดว่าเธอไม่รักเขา ความโมโหที่อยู่ในใจของเขาเหมือนเปิดก๊อกน้ำ มันพุ่งพล่านออกมามากมาย แต่เพราะมีอวี้หลานซีอยู่ด้วย เขาจึงต้องเก็บมันเอาไว้ไม่ระเบิดออกมา 

 

 

ตอนนี้ความโกรธในใจเริ่มเย็นลงแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนย้อนแย้งมาก ผู้หญิงที่มองทุกอย่างได้ทะลุปุโปร่งแบบนี้ คือผู้หญิงแบบที่เขาต้องการไม่ใช่หรอ ช่วงเวลาที่ทำสัญญากันนั้นก็ทำหน้าที่เมียเก็บให้ดี ไม่ต้องคิดฝันถึงเรื่องที่ไม่ใช่ของตนเอง หลังจากที่จบความสัมพันธ์ก็ไม่ตามตอแย แล้วเขามีอะไรให้โมโหกันล้ะ 

 

 

หลังจากที่เขาควบคุมความโกรธได้แล้วนั้น ชาก็เย็นหมดแล้ว เขาไม่ได้ดื่มมันเลยสักคำ 

 

 

จากนั้นก็ปรายตามองขึ้นไปชั้นบนด้วยสายตาเย็นชา แล้วลุกขึ้นยืน เดินตรงไปชั้นบน เปิดประตูไปที่ห้องของเหลิ่งรั่วปิง 

 

 

เหลิ่งรั่วปิงในเวลานี้ กำลังนั่งอยู่ข้างๆ โต๊ะ ทำโมเดลโรงแรมอิมพีเรียลที่เธอออกแบบด้วยตนเอง เธอยังคงไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า และยังคงไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟัน 

 

 

หนานกงเยี่ยเลิกคิ้วขึ้นขมวด พูดตามตรงว่าเขาตกใจเล็กน้อย