บทที่ 30
เป็นอะไรกัน
ท้ายที่สุดหลินตาก็ไม่กล้าเสี่ยง เพราะนางไม่รู้ว่าจะโชคร้ายหรือโชคดี
“ชิ พวกตระกูล ลั่ว” ก่อนที่นางจะจากไป หลินตามองจิกลั่วอู๋อย่างขุ่นเคือง ราวกับว่านางต้องการที่จะจดจำหน้าตาของเขาไว้ในใจด้วยความโกรธแค้น
เมื่อวิกฤตสิ้นสุด ลงแรงกดดันในอากาศก็ดูเหมือนจะเตือนเขาว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น
“เมื่อกี้สุดยอดไปเลยนายน้อย!”
เหล่าคนงานทั้งสามมอง ลั่วอู๋ อย่างชื่นชม
แต่จริง ๆ แล้วขาของลั่วอู๋สั่นมาก จนเขาเกือบทรุดลงไปนั่งอยู่บนพื้น
“นายน้อย!” ใบหน้าของหลี่หยินที่ปกติจะสดใส บัดนี้เต็มไปด้วยความกังวล นางรีบไปพยุงตัวลั่วอู๋ “นายน้อยเป็นอะไรรึเปล่าเจ้าคะ”
ลั่วอู๋พูดพร้อมด้วยรอยยิ้มเฝื่อน ๆ “ไม่ต้องห่วงข้าสบายดี ขาข้าแค่สั่นนิดหน่อยน่ะ ตามที่คิดไว้เลยแรงกดดันของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเงินไม่สามารถต้านทานได้จริง ๆ แฮะ”
“มันรุนแรงมากเจ้าค่ะ คนของหอคอยหวงชานี่น่าทึ่งจริง ๆ” หลี่หยินกล่าว
ตอนนี้ทุกคนได้แต่หัวเราะอย่างขมขื่น
แม้แต่คนงานทั้งสามคนเองก็รู้ว่าคนของหอคอยหวงชานั้นทรงพลังจริงๆ
ถ้าลั่วอู๋ถูกฆ่าตายและศาลาไป่หยู่ถูกล้างบางโดยใครสักคนล่ะก็ เหล่าคนของตระกูลลั่ว ก็คงจะโกรธจัดจริง ๆ เพราะมันเป็นการท้าทายเกียรติและศักดิ์ศรีของตระกูลลั่ว
หากตระกูลลั่ว ไม่ลงมือทำอะไรเลย พวกเขาก็จะถูกเยาะเย้ย
อย่างไรก็ตามตราบใดที่ยังไปไม่ถึงจุดนั้นตระกูลลั่ว ก็คงจะไม่สนใจเรื่องนี้ นี่คือการพิจารณาตามหลักการของตระกูลใหญ่ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับธุรกิจล่ะก็ พวกเขาจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาเพื่อแก้ไข และจัดการให้เรียบร้อย
ที่ศาลาไป่หยู่เหล่านี้กระจายอยู่ทั่วแผ่นดินใหญ่ พวกมันมีไว้สำหรับตระกูลไม่ใช่เพื่อตัวเขา
ยิ่งธุรกิจที่นี่ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของหวงชา มันจึงถูกเมินจนแทบไม่ต้องพูดถึงเลย
“เจ้าของร้านเก่า” ลั่วอู๋ ปรับลมหายใจของเขาและกลับมาสุขุมอีกครั้ง
เจ้าของร้านคนเก่าเดินมาข้างหน้าและตอนนี้เขาค่อนข้างชื่นชมลั่วอู๋ เพราะลั่วอู๋ไม่กลัวเมื่อต้องเผชิญกับอันตรายและใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากสถานการณ์ ที่สำคัญที่สุดชายหนุ่มคนนี้เก่งขนาดนี้ทั้งที่ยังอายุน้อยมาก
นี่สินะที่ว่ากันว่าคนหนุ่มสาวหมายถึงความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
“นายน้อย”
“เราควรจะวางตัวให้ดีและสนใจเรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้น ท่านช่วยปล่อยข่าวทีว่า ยารวบรวมพลังวิญญาณ จะขายเพียงแค่หนึ่งร้อยเม็ดต่อวัน เราไม่ควรทำอะไรที่เป็นการประจันหน้ากับหอคอยหวงชาในตอนนี้” ลั่วอู๋พูด
เจ้าของร้านคนเก่าพยักหน้า “ใช่ ข้าเห็นด้วย”
ตราบใดที่ ยารวบรวมพลังวิญญาณ ไม่ถูกขายมากเกินไปธุรกิจของหอคอยหวงชา ก็จะไม่ได้รับผลกระทบดังนั้นหอคอยหวงชาจะไม่เพ่งเล็งมาที่ศาลาไป่หยู่มากเกินไป
หากเขาขายยารวบรวมพลังวิญญาณมากหลายร้อยต่อวัน ในเวลานี้มันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อยอดขายของหอคอยหวงชา ดังนั้น หอคอยหวงชาจะไม่ยอมแพ้และมาก่อกวนอีกเป็นแน่
หอคอยหวงชานั้นยังมีอีกหลายวิธีที่จะสามารถสร้างความลำบากให้แก่ศาลาไป่หยู่
แต่กลับกันศาลาไป่หยู่ไม่มีวิธีการจัดการกับหอคอยหวงชา นอกจากจะดับเครื่องชนและกล้าได้กล้าเสีย
บรรยากาศในศาลาไป่หยู่ดูผิดปกติแปลก ๆ ลั่วอู๋มองไปที่หลี่หยินและเหล่าคนงานชายทั้งสาม พวกเขาต่างก็ดูมีท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“เป็นอะไรกันน่ะ พวกเจ้า” ลั่วอู๋ยิ้ม
เหล่าคนงานพยักหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก
พวกเขาถูกต่างก็ถูกอีกฝ่ายเข้ามากลั่นแกล้งข่มขู่ถึงในร้าน โดยไม่มีทางสู้ มันจึงส่งผลกระทบอย่างมากต่อแรงผลักดันและความกระตือรือร้นของพวกเขา
ลั่วอู๋ยิ้ม “ข้าขอสัญญากับพวกเจ้าว่าภายในหนึ่งปีศาลาไป่หยู่ของข้าจะทำลายหอคอยหวงชาให้สิ้น และพวกเราจะครองธุรกิจในพื้นที่หวงชาทั้งหมด พวกเจ้าเชื่อใจข้ารึเปล่าล่ะ?”
คำพูดนั้นทั้งดังสนั่นและทรงพลัง
ทุกคนต่างก็ได้แต่คล้อยตามคำพูดของ ลั่วอู๋ และพยักหน้าปลก ๆ
……
……
อีกด้านหนึ่ง ณ หอคอยหวงชา
“เจ้าของร้านคนใหม่ของศาลาไป่หยู่เป็นคนหยิ่งยโสโอหังยิ่ง ลั่วอู๋นั้นไม่แม้แต่จะเกรงใจหอคอยหวงชาของพวกเราเลยเจ้าค่ะ” ใบหน้าของหลินตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ทันทีที่นางกลับไปถึงหอคอยหวงชา นางก็เข้ามาหาชิงชูในทันที
ชิงชูมองมาที่นางแล้วนั่งจิบชาน้ำผึ้งที่เขาโปรดปรานอย่างใจเย็น “เจ้าไม่ได้สูตรของยารวบรวมพลังวิญญาณกลับมางั้นหรือ”
เมื่อประเมินจากสิ่งที่ได้ยิน ร่างกายของชิงชูก็โอนเอนไปมาและเขามึนศีรษะไปครู่หนึ่ง หัวใจของเขาเต้นแรงจนเกือบกระดอนออกมาจากลำคอ
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ” หลินตาพูดออกมาอย่างเกรงกลัว
ทั้งห้องเงียบไปในทันที
มีเพียงเสียงสนับมือของชิงชูที่กระทบยอดโต๊ะ และความไม่สบายใจในสายตาของหลินตาที่ทะลักจนล้นออกมา
ชิงชู กล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “เจ้าให้ราคาเพียงให้ 50,000 หินวิญญาณ โดยพร้อมจ่ายสินะ”
หลินตาหดตัวลง นางรู้สึกประหม่ามาก
“ใช่เจ้าค่ะ…”
“และเจ้าก็ไปโอ้อวดถึงความแข็งแกร่ง ในลักษณะที่กำลังคุกคามสินะ”
“ใช่เจ้าค่ะ…”
แสงอันเย็นชาลอดส่องเข้ามาในดวงตาของชิงชูและเสียงของเขาก็ดังมากขึ้นและเย็นชาขึ้น
“กลับไปที่ทีมหวงชาแล้วไปให้พวกเขาเอาแส้เฆี่ยนสักสิบรอบ”
การโดนเฆี่ยนด้วยแส้เจาะกระดูกเป็นการลงโทษอันโหดร้าย เพื่อลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาในทีมหวงชา
โดยแส้เจาะกระดูกนั้นถูกปกคลุมไปด้วยหนาม ถ้าถูกมันฟาด ถ้าไม่มีผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองมากางพลังวิญญาณปกป้องร่างกายให้ก็คงเจ็บปางตาย
นางเริ่มกลัวว่าอายุขัยของนางจะถูกลดลงไปครึ่งหนึ่ง ถ้าต้องโดนเฆี่ยนถึง 10 ครั้ง
“นายท่านข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้วเจ้าค่ะ” หลินตาก้มลงคุกเข่าอย่างสั่นกลัว
“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าเจ้าทำผิดตรงไหน?” ชิงชูกล่าว
“ข้าไม่ควรรับผิดชอบในการซื้อ ขาย และข้าไม่ได้ทำตามกฎเจ้าค่ะ”
“ผิดแล้ว!” ชิงชูส่ายหัวด้วยความผิดหวัง “ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่สำนึกว่าตัวเองผิดอะไร”
“ในเมื่อเจ้าได้เผยธาตุแท้ไปแล้วและใช้การข่มขู่ ทำไมเจ้าไม่ทำมันจนจบกัน? เจ้ากลับออกไปอย่างท้อใจ โดยไม่ได้ยารวบรวมวิญญาณกลับมาด้วยซ้ำ”
เสียงของหลินตาสั่นไหว “แต่ว่าถ้าทำแบบนั้นตระกูล ลั่วก็จะ … “
“แน่นอนเราไม่ควรไปมีปัญหากับตระกูล ลั่ว แต่ถ้าเจ้าฆ่าคนของศาลาไป่หยู่ ทั้งหมดในตอนนั้นแล้วอ้างว่าพบโจรสักสองสามคน ตระกูล ลั่วก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว” ชิงชูพูด
ทันใดนั้นหลินตาก็ตระหนักได้ว่านางคิดผิดไป
“ข้าจะไปอีกรอบเจ้าค่ะ … “
“ไปตอนนี้มันก็ไม่ได้อะไรแล้ว!” ชิงชูตบโต๊ะแล้วตะโกนด้วยเสียงเยือกเย็น
“ตอนนี้พวกมันคงมีเวลาคำนวณไว้หาวิธีแก้ไว้แล้ว”
ใช่ ลั่วอู๋ลงมือทำวิธีแก้ไว้แล้วเรียบร้อย
เขาได้เตรียมจดหมายหลายฉบับ ซึ่งจะถูกส่งไปยังตระกูลลั่ว ผ่านช่องทางต่าง ๆ หากศาลาไป่หยู่ ถูกทำลายจริง ๆ โดยหวงชา
หลินตาได้แต่นึกเสียดายในใจ
ในเวลานั้นนางถูกข่มโดยเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าลั่วอู๋และตอนนี้มันก็สายไปแล้ว
“เจ้าของร้าน ตัวข้านั้นช่างไร้ประโยชน์” หลินตาลดระดับศีรษะลง
“หึ!” ชิงชูสบถอย่างเฉยเมยแล้วพูดต่อ “ข้าเพิ่งได้ยินข่าวว่าศาลาไป่หยู่จะลดจำนวนการขายยารวบรวมวิญญาณเหลือเพียงแค่ 100 เม็ดต่อวัน”
หลิน ตา เงยหน้าขึ้นมอง “อะไรกัน?”
“แน่นอนสิ พวกอ่อนแอเกินไป เจ้าคิดว่าพวกมันกล้าที่จะท้าทาย ขายหักหน้าเรางั้นเหรอ” ชิงชูเอาน้ำชามาจิบ “ยารวบรวมวิญญาณเพียง 100 เม็ดต่อวัน มันไม่คิดจะหักหน้าหรือยุ่งเกี่ยวกับเราในพื้นที่ของหวงชา”
“นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดมาก ตามหลักแล้วเราก็ควรจะปล่อยพวกมันไป เหมือนกับพวกเราหอคอยหวงชากินเนื้อสัตว์แล้วแบ่งน้ำซุปให้กับคนอื่น”
“ท่านเจ้าของร้านอย่าปล่อยพวกมันไปนะเจ้าคะ” หลินตาอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
หลังจากนั้นครู่หนึ่งชิงชูพูดช้าๆ “ไปสืบว่าสมุนไพรชนิดไหนที่ศาลาไป่หยู่ซื้อมาล่าสุด แล้วไปเอามันมาให้ข้า”
“รับทราบเจ้าค่ะ!” หลินตาพูด
แน่นอนว่าการเล่นแร่แปรธาตุกลั่นยาต้องการสมุนไพรวิญญาณเสมอ
ตราบใดที่ไม่มีหญ้าวิญญาณเพียงพอ ยารวบรวมวิญญาณก็จะไม่สามารถถูกกลั่นออกมาได้
หอคอยหวงชานั้นผูกขาดธุรกิจในพื้นที่หวงชาทั้งหมด มันจึงง่ายมากที่จะหาซื้อสมุนไพรบางอย่าง
“อย่าลืมไปรับโทษโดนถูกเฆี่ยน 10 ครั้ง ของเจ้าด้วยล่ะ!” หลินตาที่กำลังจะเดินจากไป พอนางได้ยินเสียงแผ่วเบาของชิงชู คำพูดนั้นทำให้หัวใจของนางนั้นรู้สึกขมขื่นขึ้นมาทันที
“รับทราบเจ้าค่ะ” หลินตาถอนหายใจ นางยิ่งผูกใจเจ็บโกรธแค้นศาลาไป่หยู่มากขึ้นไปอีก