ตอนที่ 25 ตามกฎหมายแล้ว คุณยังไม่ได้แต่งงาน
อันโหรวกลอกตาไปมา นี่มันเป็นสไตล์การตกแต่งของเขาโดยเฉพาะ ทำไมเธอถึงต้องมาเพ่งพิจารณาแบบนี้ด้วย?
ในเมื่อเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เธอก็แค่วางแผนไว้บนโต๊ะของเขาก็เพียงพอแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอนำแผนไปวางไว้บนโต๊ะและกำลังจะหันหลังกลับไป มือของเธอก็พลันไปโดนเอกสารชุดอื่นที่อยู่บนโต๊ะ
เธอก้มลงหยิบมันขึ้นมา และบังเอิญดันเหลือบไปเป็นชื่อของตัวเองในเอกสารนั้น
มีชื่อของเธอและชื่อของพนักงานคนอื่นอยู่ ทั้งยังมีประวัติโดยย่อแบบสังเขปของเธออีกด้วย
เพียงแต่ว่าถ้าหากไฟล์พวกนี้เป็นของจริง มันก็ไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่สิ
เปลือกตาของเธอพลันกระตุกขึ้นมาทันที นี่เขาแอบสืบข้อมูลของเธอเหรอเนี่ย?
อันโหรวเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วพลางเหลือบสายตามองไปที่ประตู หลังจากที่เห็นไฟล์พวกนั้น เธอรู้สึกอยากจะรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้เป็นข้อมูลพื้นฐานของเธอ ซึ่งข้อมูลพวกนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลอันเลย แม้จะบอกว่ายังไม่พบกับตัวตนที่แท้จริงของเธอ แต่อย่างไรก็ตามทุกการเคลื่อนไหวของเธอที่อยู่อังกฤษก็ถูกจดบันทึกเอาไว้หมด
เธอเป็นคนที่วางแผนเก่งและยังมีผู้ชายหลากหลายมารุมล้อม
ความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น แม้แต่ชื่อชายคนอื่นก็ถูกบันทึกไว้ หัวข้อสำคัญที่สุดก็คือตรวจสอบการใช้ชีวิตของเธอโดยเฉพาะ
เธอจะนำเอกสารพวกนี้ไปฟาดที่จิ่งเป่ยเฉินสักครั้งดีไหม? ถ้าหากตอนนี้เธอทำได้ เธอก็คงทำไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอคือสาวขี้เหร่ที่ใช้ชีวิตแบบไม่ใช่ผู้หญิงสวย หรือว่ารสนิยมของเขาจะเปลี่ยนไปแล้ว?
อันโหรวครุ่นคิดอยู่ในใจ แต่คิดไม่ถึงว่าตอนที่กำลังจะหันหลังกลับไปนั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออกพอดี
จิ่งเป่ยเฉินสวมเสื้อสูทสีดำและกำลังเดินตรงเข้ามาในห้อง เมื่อเธอเห็นดังนั้นจังหวะหัวใจของเธอก็พลันเต้นรุนแรงขึ้นอีกครั้ง
เขาเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเธอกำลังถือเอกสารอยู่ในมือจึงเอ่ยออกมาว่า “วางมันลง ผมจะดูมัน”
เสียงที่ทุ้มต่ำกลับฟังดูเรียบง่าย แต่ก็แฝงไปด้วยความกดดัน
อันโหรวยกเอกสารในมือขึ้นและเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ประธานจิ่ง นี่เป็นเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของคุณ แต่ดูแล้วมันมีแต่เรื่องราวของฉันทั้งนั้นเลยนะคะ กระทั่งการใช้ชีวิตในต่างประเทศก็มีด้วยเช่นกัน”
เธอจงใจเน้นสี่ประโยคสุดท้ายตอนหลัง
จิ่งเป่ยเฉินดวงตาพลันหรี่เล็กลง เขามองไปที่เอกสารในมือของเธอ
เขาบอกให้ฉีเซิ่งเทียนส่งข้อมูลของเธอมาให้ทางอีเมลไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้?
ถึงแม้ว่าเขาจะคิดแบบนั้นในใจ แต่การแสดงออกด้วยท่าทางสีหน้าก็ยังคงไม่เปลี่ยน จากนั้นเขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูมั่นคงไปว่า
“เอามา”
อันโหรวจงใจโยนแฟ้มเอกสารนั้นลงไปและหัวเราะเบา ๆ ออกมา “ประธานจิ่งมีงานอดิเรกชอบเก็บเกี่ยวรายละเอียดการใช้ชีวิตของลูกน้องทุกคนเลยอย่างนั้นเหรอ ทำไมถึงไม่ถามออกมาตรง ๆ ไปเลย”
จิ่งเป่ยเฉินนิ่งเงียบ ก่อนจะพูดอย่างใจเย็น “คุณทำงานใน TE ได้ดีเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งการใช้ชีวิตในอังกฤษก็นับว่าไม่เลวนัก ทันทีที่กลับมายังประเทศจีนก็ดูเหมือนจะเข้าร่วมบริษัทจิ่งเลย นับตั้งแต่อยู่ที่แผนกวางแผน มีแค่เพียงเรื่องเดียวที่ผมค่อนข้างสงสัยในตัวคุณ”
“ถ้าหากคุณมีข้อสงสัยว่าตัวของฉันนั้นเป็นสายลับหรือว่าอะไรก็ตามแต่ คุณก็ควรจะโฟกัสไปที่งาน ไม่ใช่การใช้ชีวิตตอนอยู่ในประเทศอังกฤษ หรือทำงานในบริษัทแค่ที่เดียว”
จิ่งเป่ยเฉินเดินเข้ามาใกล้เธอและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำลงเรื่อย ๆ ความรู้สึกบีบคั้นเริ่มมีมากขึ้น “นี่คือกฎของบริษัทจิ่ง ถ้าหากสามีของคุณเป็นคนของบริษัทอื่นละก็?”
จากระยะห่างที่ไม่ใกล้ไม่ไกล เธอทำได้แค่ยกเอกสารมาขวางเขาไว้ตรงหน้า เพื่อทำให้เขารู้จักเว้นระยะห่างกับเธอ
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เชิญตรวจสอบได้เลย การใช้ชีวิตของพนักงานของบริษัทจิ่งทั้งหมดนี้ ถ้าหากกรณีที่มีสามีทำงานบริษัทอื่น เช่นนั้นพวกภรรยาที่อยู่ในบริษัทจะเป็นยังไง?”
คำพูดต่อไปของจิ่งเป่ยเฉินนั้นคือระเบิดอย่างไม่ต้องสงสัย
“ตามกฎหมายแล้ว ดูเหมือนคุณจะยังไม่แต่งงานนะ”
ในขณะที่เขาพูดก็เดินเข้าไปใกล้ ๆ พลางจับไปที่เอกสารในมือเธอทันที
อันโหรวรีบเดินถอยหลังออกไป แต่กลับถูกมือใหญ่ ๆ ขวางเธอไว้ไม่ให้ไป
เขายังไม่อ่านเอกสารนั้นด้วยซ้ำ ทำไมถึงรู้ว่าเธอนั้นยังไม่แต่งงาน?
เธอหยุดดิ้นรน ก่อนจะเงยหน้าพูดกับเขา “ฉันพยายามที่จะแต่งงานไม่ได้หรือไง?”
จิ่งเป่ยเฉินหัวเราะเบา ๆ “เต็มใจไหม?”
“ประธานจิ่งคะ นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉันค่ะ”
เธอเผยสีหน้าที่จริงจัง ซึ่งมันไม่ใช่นิสัยของเธอเลย แต่เธอก็ทนไม่ไหวแล้ว ห้าปีก่อนหน้านั้นเหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดกับเขามาก่อน