บทที่ 35 เก็บเกี่่ยวครั้งใหญ่

ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน

บทที่ 35 เก็บเกี่่ยวครั้งใหญ่

ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ นางจะได้รีบดึงเชือกขึ้นมา

ตอนจางชุนเถาลงไปในน้ำนั้น นางดูตื่นเต้นไม่น้อย

นางคลำอยู่ในน้ำสักพัก ก่อนจะยิ้มและพูดขึ้น “พี่ ท่านไม่ต้องห่วง แหครอบยังอยู่”

จางซิ่วเอ๋อได้ยินก็มีสีหน้ายินดี รีบเอ่ยขึ้น “งั้นเจ้าเร็วหน่อย เอาแหครอบนี่ขึ้นมาก่อนแล้วพวกเราค่อยดูกัน ในน้ำนี่หนาวเย็นเกินไป”

จางชุนเถารับคำและยกแหครอบขึ้นมา

ขณะยกขึ้นนางก็บ่นไปพลาง “หนักจัง”

“เอ๊ะ ในนี้คงไม่ได้มีปลาจริง ๆ ใช่ไหม?” จางชุนเถาตื่นเต้นเล็กน้อย

หลังจากที่จางซิ่วเอ๋อดึงแหครอบขึ้นมาแล้ว นางก็รีบดึงจางชุนเถาขึ้นมาด้วย

ในตอนนี้เองน้ำในแหครอบก็รั่วไหลออกไป

นางเพ่งมองด้านใน แต่ต่อให้มีแสงจันทร์ก็ยังมืดอยู่ดี ในแหครอบดูมืดสนิทจนจางซิ่วเอ๋อมองไม่ชัด

นางจึงเททุกอย่างในนั้นลงถังไม้

ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง แต่ก็สัมผัสได้ว่ามีปลาดิ้นอยู่ราง ๆ

เกินครึ่งถังเลยนะ!

ทั้งจางซิ่วเอ๋อและจางชุนเถาต่างตื่นเต้น

โดยเฉพาะจางชุนเถาที่ตอนนี้ดีใจจนแทบกระโดด “พี่ ท่านนี่เก่งจริง ๆ! ถึงคิดวิธีจับปลาเช่นนี้ได้!”

จางซิ่วเอ๋อมองจางชุนเถาที่ตัวเปียกโชกด้วยน้ำ ถึงเวลานี้ก็ไม่สนใจจะดูว่าในถังน้ำมีอะไรแล้ว จึงเอ่ยขึ้น “เรากลับกันก่อนเถอะ แหครอบนี่เจ้ายังไม่ต้องเอาลงน้ำต่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ลงไปวางเอง!”

“ได้เลย!” จางชุนเถาหิ้วแหครอบตามหลังจางซิ่วเอ๋อไป

ทั้งสองกลับถึงบ้าน พอเข้ามาในห้อง จางซิ่วเอ๋อก็ไล่จางชุนเถาไปเปลี่ยนชุด

เพราะแม่โจวเคยแอบเอาชุดของทั้งสองมาให้คนละชุด ทั้งสองจึงมีเสื้อผ้าไว้เปลี่ยนอยู่

เสื้อผ้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยรอยปะ เป็นของไร้ค่าที่ให้เปล่ายังไม่มีใครเอา

แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่ตอนนี้มีให้เปลี่ยน

ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งคู่จึงไม่กล้าจะใส่เสื้อผ้าพวกนี้เฉียดเข้าใกล้ตระกูลจาง แน่นอนว่าพวกนางสองพี่น้องออกจากตระกูลจางแล้วก็ไม่กลัวเรื่องนี้หรอก ทว่าเสื้อผ้านี่แม่โจวเป็นคนเอาออกมา ถึงตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าแม่เฒ่าจางจะหาเรื่องแม่โจวอย่างไรบ้าง

แต่ใส่ที่บ้านพอได้อยู่

ถึงแม้จางซิ่วเอ๋อจะไม่ได้ลงน้ำ แต่ขากางเกงก็เปียก

บุตรสาวที่ถูกเหม็นขี้หน้าอย่างพวกนางไม่มีกระโปรงดี ๆ ใส่หรอก เพราะใส่เสื้อผ้าแบบนั้นทำงานได้ไม่สะดวก จึงมีแต่เสื้อผ้าที่เป็นเสื้อกับกางเกง

จางอวี่หมินนั่นยอมเผาเสื้อที่ใส่จนขาดดีกว่าให้พวกนาง!

เมื่อสองพี่น้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ พวกนางก็จุดเทียนเพิ่มแสงสว่าง และตรวจดูของที่ได้มาอย่างอดรนทนไม่ไหว

เวลานี้ทั้งสองมองเห็นอย่างชัดเจนแล้ว นอกจากตะไคร่ที่ปะปนมาในถังไม้บ้าง ล้วนแล้วแต่เป็นปลาหลากหลายขนาด มีกุ้งอยู่บ้าง และรวมถึงพวกด้วง

ด้วงที่อาศัยอยู่ในน้ำนั้นกินได้ แต่จางซิ่วเอ๋อไม่กล้าทำเป็นอาหาร

นางตั้งใจจะทิ้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ต่อให้ทำเป็นอาหารจริงก็ไม่มีใครกล้ากิน

บางทีจางต้าหูอาจจะกินได้ แต่ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อไม่อยากยุ่งกับพ่อตัวเองเลยสักนิด

จางชุนเถายกกะละมังเข้ามา พวกนางตั้งใจจะแยกของข้างในให้เป็นสัดส่วน

อันดับแรกเลือกเอาปลาตัวใหญ่ออกมาก่อน มีปลาขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือถึง 20 ตัว! และมีปลาใหญ่ที่หนักมากกว่า 2 ชั่งถึง 2 ตัว! เป็นการเก็บเกี่ยวที่ไม่เลว

ปลายังดิ้นอยู่เลย ในเมื่อกินไม่หมด จางซิ่วเอ๋อจึงเอาปลาใส่ในโอ่งน้ำในบ้าน

ปากโอ่งน้ำบิ่นก็จริง แต่ยังใส่น้ำได้อยู่ ตอนเจ้าของเดิมทิ้งที่นี่ไปนางไม่ได้เอาอะไรไปเลย แล้วนางจะนำโอ่งน้ำแบบนี้ไปด้วยทำไม?

นอกจากโอ่งน้ำแล้ว ยังมีหม้อดินเผาด้วย

ของนี่ถ้าซื้อจากข้างนอกต้องใช้หลายเหรียญ ตอนนี้สองพี่น้องเลยได้ใช้อย่างสบาย ๆ

จางซิ่วเอ๋อล้างหม้ออีก 2 ใบ กะจะใส่ปลาที่เล็กลงมาหน่อย

ปลาขนาดใหญ่ส่วนใหญ่แล้วเป็นปลาหลีและปลาเฉ่า มีปลาจี้บ้างนิดหน่อย ส่วนปลาขนาดเล็กมีหลากหลายสายพันธุ์ นอกจากลูกปลาของสามชนิดนั้นแล้ว ยังมีปลากินยุงและปลาเกล็ดขาว ปลาสองชนิดนี้ตัวเล็กนิดเดียว ใหญ่สุดก็แค่ตัวเท่านิ้ว

นอกจากนี้ยังได้กุ้งมาไม่น้อย

กุ้งตัวนี้มีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ตัวใหญ่นั้นไม่เล็กไปกว่าปลากินยุงเลย

จางซิ่วเอ๋อเลี้ยงปลาพวกนี้ในน้ำ นึกในใจว่าถ้าพรุ่งนี้มีเวลาจะออกไปขายปลา

แต่อย่างไรก็ตาม…จางซิ่วเอ๋อยังกังวลนิดหน่อยว่าถ้าตัวเองออกไปขายปลา แล้วคนในหมู่บ้านมาเห็น จะอธิบายพวกเขาอย่างไรดี

แม่นางน้อยไตร่ตรองอยู่หลายหน สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าจะไป

ถึงตอนนั้นระวังตัวหน่อยก็จบ ถ้าโดนจับได้จริง ๆ นางก็ทำอะไรไม่ได้

จะไม่กินข้าวเพราะกลัวติดคอตายก็คงไม่ได้ถูกไหมล่ะ?

สองพี่น้องเริ่มเก็บกวาดห้อง จางชุนเถาที่หิ้วแหครอบอยู่จู่ ๆ ก็ร้องขึ้น “อ๊าย”

จางซิ่วเอ๋อตกใจและรีบเข้ามาใกล้ “ชุนเถา เป็นอะไรไป? โดนไม้ไผ่บาดมือหรือเปล่า?” แหครอบของนางถูกทำไว้ลวก ๆ ถ้าไม่ระวังจะโดนบาดเอาง่าย ๆ

จางชุนเถารีบบอก “พี่ ดูนี่สิ”

จางซิ่วเอ๋อมองเข้าไปในแหครอบตามนิ้วที่จางชุนเถาชี้

ก็เห็นปลาใหญ่ตัวหนึ่งนอนตัวบิดอยู่ในแหครอบ

ปลาตัวนี้ใหญ่มาก จนตอนเทปลาออกมาข้างนอกติดอยู่ด้านใน บวกกับแหครอบโดนน้ำจึงหนักเป็นทุนเดิม ตอนที่ยกแหครอบกลับมาจึงไม่รู้ตัวว่าในนี้ยังมีปลาอยู่

จางซิ่วเอ๋อรีบเอาปลาตัวนี้ออกมา

มองเผิน ๆ ปลาตัวนี้ก็ยาวอย่างน้อยครึ่งเมตร!

มันคือปลาดุก แต่น่าเสียดายที่ติดอยู่ในนั้นนานไป ปลาดุกตัวนี้จึงตายไปแล้ว

แต่ถึงจะตายไปแล้วก็ยังกินได้อยู่!

สองพี่น้องเพ่งมองปลาตัวนี้อยู่นาน ต่างมีสีหน้าดีใจ

จางชุนเถาชม “พี่ ท่านนี่เก่งจริง ๆ ครั้งนี้พวกเราเก็บเกี่ยวมาได้ครั้งใหญ่เลย”

“เมื่อคืนน้ำขึ้น ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีปลามากมายขนาดนี้หรอก” จางซิ่วเอ๋อเอ่ย

จางชุนเถาเอ่ยขึ้นอีก “ว่าแต่ว่าพี่ไปรู้วิธีถักแหครอบนี่ได้อย่างไร ในหมู่บ้านเราไม่มีใครเคยคิดวิธีจับปลาแบบนี้เลยนะ!”

จางซิ่วเอ๋อได้ยินก็แอบสะดุ้งในใจ คิดก่อนจะเอ่ย “ข้าเก็บหนังสือมาได้เล่มนึงโดยบังเอิญ ข้าอ่านตัวอักษรบนนั้นไม่ออก แต่มีภาพอยู่ ข้าดูรู้เรื่อง นี่ข้าก็ดูมาจากหนังสือ”

จางซิ่วเอ๋อกลัวว่าจางชุนเถาจะถามถึงที่ไปของหนังสือเล่มนั้น จึงถอนหายใจ “น่าเสียดายที่ตอนท่านย่าให้ข้าก่อไฟ ข้าจุดไม่ติดจึงฉีกหนังสือเล่มนั้น”

จางชุนเถาได้ฟังก็ร้องอย่างตกใจ “พี่ หนังสือน่ะมีราคามาก โดยเฉพาะในหนังสือจารึกสิ่งที่เป็นประโยชน์ไว้ไม่น้อย พี่เอาไปเผาได้อย่างไรเจ้าคะ?”

……………………………………………