บทที่ 36 ความแตกต่าง
“อ๊า!”
เด็กสาวไม่สามารถทนดูภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าได้ นางปิดตาและร้องออกมาเสียงดัง
“โครม!”
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งร่าง
ท่ามกลางสายตาที่ไม่น่าเชื่อของทุกคน กระต่ายแห่งแดนสาบสูญพุ่งชนใส่ก้อนหินขนาดเท่าตัวแตกละเอียดได้อย่างง่ายดาย!
ฝูงชนยืนดูแล้วพากันนิ่งงัน
นั่นมันกระต่ายแห่งแดนสาบสูญจอมขี้ขลาดและอ่อนแองั้นหรือ
นี่เป็นสัตว์ประหลาดอะไรกัน แสดงรูปร่างเดิมให้ข้าดูเดี๋ยวนี้!
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาเห็นยังคงเป็นฝูงของกระต่ายขาวน่ารักที่มีหูยาว พวกมันมองไปรอบ ๆ และพบว่ามันไม่ได้บาดเจ็บใด ๆ
แววตาสีแดงที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ
ทักษะพุ่งชน (ระดับ D)
ทักษะนี้ถูกสลักโดยลั่วอู๋
มันทำให้กระต่ายแห่งแดนสาบสูญก้าวร้าวเล็กน้อย
ทักษะนี้อยู่ในระดับต่ำ และกระต่ายแห่งแดนสาบสูญก็อยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น ทักษะการสร้างตราและการสลักจึงไม่จำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณมากนัก
ลั่วอู๋พูดด้วยรอยยิ้ม “กระต่ายแห่งแดนสาบสูญเหล่านี้อยู่ในระดับทองแดง มิติที่ 7 และข้ารับประกันได้ว่าพวกมันมีศักยภาพในการเติบโตได้ถึงระดับ 10”
ฝูงชนไม่มีการตอบสนอง
ระดับ 7
ศักยภาพในการเติบโตสู่ระดับ 10
นั่นไม่ได้หมายความว่ากระต่ายแห่งแดนสาบสูญเหล่านี้ จะแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสัตว์วิญญาณระดับทองแดงหรอกเหรอ
กระต่ายแห่งแดนสาบสูญแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร
แต่ความจริงก็อยู่ต่อหน้า
“ที่นี่มีสัตว์วิญญาณเยอะมาก ถ้าท่านมีคำถามอะไร ข้าไม่รังเกียจถ้าท่านจะเข้าไปตรวจสอบคุณสมบัติของกระต่ายแห่งแดนสาบสูญด้วยตัวท่านเองได้เลย” ลั่วอู๋ไม่ลังเล
ฝูงชนนั้นกระตือรือร้น
ดูเหมือนว่าทุกคนต้องการตรวจสอบคุณสมบัติของกระต่ายแห่งแดนสาบสูญ
ผู้ใช้พลังวิญญาณทั้งหลายเข้ามาตรวจสอบคุณสมบัติ พวกเขารู้สึกประหลาดใจและงงงวยไปตามกัน
ทำไมต้นกำเนิดของกระต่ายแห่งแดนสาบสูญจึงดีกว่าปกติอย่างมาก และแม้แต่ความขี้อายตามธรรมชาติยังเปลี่ยนไป มันแปลกมาก
“มีอะไรผิดปกติกับสิ่งที่ข้าพูดงั้นเหรอ” ลั่วอู๋ถาม
ผู้ใช้พลังวิญญาณต่างส่ายหัว
ไม่มีปัญหาอะไร
“มันไม่เพียงแค่อ่อนโยนและน่ารัก แต่ยังมีความสามารถในการต่อสู้ที่ดีเยี่ยม ซึ่งมันสามารถปกป้องลูกหลานของท่านได้เมื่อพ่อแม่ไม่อยู่ ไม่มีใครต้องการสัตว์เลี้ยงที่ดีขนาดนี้เลยงั้นเหรอ” ลั่วอู๋ถามด้วยรอยยิ้ม
มีแต่ความเงียบสงัด
ดวงตาของเด็กน้อยคนหนึ่งเปล่งประกาย เขาอ้อนวอนกับพ่อแม่
ซื้อหนึ่งตัว
มันน่ารักมาก ๆ
หญิงสาวคนหนึ่งมีความสนใจในกระต่ายแห่งแดนสาบสูญ คู่ค้าของพวกเขาพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อแสดงความเอื้ออาทร
“แน่นอน ไม่ต้องรีบร้อน พวกท่านค่อยๆ คิดกันนะขอรับ” ลั่วอู๋โบกมือ
กระต่ายแห่งแดนสาบสูญเหล่านั้นกลับเข้ากรงอย่างซื่อสัตย์ หลังจากถูกกลั่นโดยไหปีศาจแล้ว สัตว์วิญญาณเหล่านี้ก็เชื่อฟังขึ้นอย่างมาก ยกเว้นเจ้านกหน้าโง่บางตัว
“เวลานี้ ให้ข้าได้แนะนำสัตว์วิญญาณสัตว์เลี้ยงตัวอื่นแก่ท่านอีก”
ลั่วอู๋เปิดกรงอันต่อมา
ข้างในนั้น เป็นสัตว์ที่มีขนสีชมพู, ตัวอ้วนสีเทา, หูสั้น, ดวงตากลมโตสำหรับการล่าอาหาร, และมันกำลังใช้มือสั้น ๆ ของมันป้อนอาหารเข้าไปในปาก
ไหนล่ะสัตว์วิญญาณ
มันเหมือนลูกชิ้นเล็ก ๆ ที่เคลื่อนไหวได้
สตรีและเด็กๆ ที่ยืนดูอยู่มีท่าทางราวกับต้องลูกศรจากกามเทพ พวกนางเอามือกุมอกและส่งเสียงวี้ดว้าย ทำไมถึงมีสิ่งมีชีวิตที่น่ารักขนาดนี้อยู่บนโลกด้วย
น่าเสียดาย ที่มันอายุสั้นเกินไป
ใครมันจะอยากมีชีวิตในรูปร่างที่น่ารักและตายจากไปเพียงไม่กี่ปีกันล่ะ
ลั่วอู๋หยิบหนูชางชางขึ้นมา แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “หนูชางชาง ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับมันดี เพราะช่วงเวลาชีวิตของมันนั้นสั้นมาก แต่หนูชางชางที่ผลิตโดยศาลาไป่หยู่ ข้ารับประกันได้ว่าช่วงชีวิตของพวกมันนั้นมากกว่า 20 ปีแน่นอน”
“และพวกมันนั้นแข็งแกร่งไม่มีความอ่อนแอ เช่นเดียวกันนั้น แต่ละตัวอยู่เหนือกว่าระดับทองแดง มิติที่ 7 และมีศักยภาพที่จะเติบโตได้ถึงระดับ 10”
หนูชางชางไม่เพียงแค่น่ารัก แต่ยังมีความสามารถพิเศษในการรับกลิ่นที่ดี เป็นความสามารถในการช่วยตามล่าสมบัติ
“ภายใต้การปรับแต่งของข้า ความสามารถในการตามล่าหาสมบัตินั้นมีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง”
“มีใครอยากจะทดสอบไหม”
หลังจากนั้น ผู้ใช้พลังวิญญาณหลายคนเดินออกมาจากฝูงชน เข้ามาตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง และพบว่าสิ่งที่ลั่วอู๋พูดนั้นเป็นความจริง
ผู้หญิงคนหนึ่งอดใจที่จะสัมผัสแตะต้องมันไม่ได้
สัตว์วิญญาณชนิดนี้เป็นที่นิยมมาก แม้ว่าช่วงชีวิตของมันจะสั้นมาก แต่หลายคนก็เต็มใจที่จะให้การสนับสนุนมัน ถึงแม้มันจะเจ็บปวดเมื่อต้องแยกจากกัน
ครั้งนี้ ได้มีหนูชางชางชนิดพิเศษที่มีช่วงชีวิตมากกว่า 20 ปี ไม่เพียงแค่น่ารัก แต่ยังทรงพลังอีกด้วย
หลายคนชอบที่จะเลือกเป็นสัตว์วิญญาณตัวแรกของพวกเขา
แม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งพอ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบการต่อสู้และฆ่าฟัน พวกเขามุ่งเน้นไปยังการพัฒนาผู้ใช้พลังวิญญาณ
ความสามารถในการล่าสมบัติของหนูชางชางนั้นสุดยอดมาก
ลั่วอู๋พอใจอย่างมาก เพราะผู้ชายหลายคนถูกบังคับจากคู่ค้าของเขา ให้จ่ายเงินเพื่อซื้อหนูชางชาง
นั่นเอง
เงินของผู้หญิงและเด็กนั้นดีที่สุด
แต่ผู้ชายนั้นใช้เหตุผลมากเกินไป
พวกเขามักจะชอบวิเคราะห์คุณค่าก่อนจะเลือกสินค้า และผู้ชายนั้นชอบการต่อสู้ของสัตว์วิญญาณ ถึงมันจะดูน่ารักแต่มันไม่มีพลังมากมาย ทำให้มันดูไม่เข้าตาพวกเขา
“ต่อไป ข้าขอแนะนำนกกางเขนทราย” ลั่วอู๋เปิดกรงอันต่อไป
นกกางเขนทรายหลายสิบตัวกระพือปีก พวกมันมีขนาดเท่าฝ่ามือ ขนของพวกมันเด่นและสวยงามมาก ปีกของมันมีสีดำ มีจุดสีขาวขนาดใหญ่บนไหล่ มีหางยาวกว่าปีกและรูปร่างคล้ายลิ่ม
ราวกับเป็นการกระโดดโลดเต้นของสัตว์วิญญาณบนฟากฟ้า
มีเสียงร้องที่ชัดเจนและไพเราะ
ราวกับงานแสดงดนตรีแสนไพเราะและสมบูรณ์แบบกำลังเริ่มขึ้น
เช่นเดียวกับเวลากลางคืน ดั่งท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงจากดอกไม้ไฟ ที่คอยผลิบานความงดงามและความสว่างไสว
ผู้คนอดไม่ได้ที่จะดื่มด่ำกับการร้องเพลงไปพร้อมกับนก เสียงสะท้อนจากก้อนเมฆบนท้องฟ้าที่ยาวนาน
“มันงดงามมาก” เด็กสาวที่มีตาดั่งฤดูใบไม้ผลิ รู้สึกเศร้าเล็กน้อย “น่าเสียดาย ที่นกกางเขนทรายอาศัยอยู่แต่ในทะเลทรายเท่านั้น เมื่อมันออกจากทะเลทรายมันจะตายทันที มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะส่งเสียงอันไพเราะนี้ยังสถานที่อื่น แม้แต่ขุนนางในเมืองหลวงก็มิอาจได้ฟังเสียงของมัน”
ลั่วอู๋ส่ายหัว “ไม่ มันต่างกันมาก”
หัวใจของทุกคนไม่สามารถหยุดสั่นได้
ไม่ใช่แค่นั้น
ศาลาไป่หยู่ได้ปรับแต่งนกกางเขนทรายด้วยความสามารถในการปรับตัว
และนั่นเอง ลั่วอู๋โค้งคำนับฝูงชน และตะโกนบอกผู้ชายพวกนั้นว่า “ส่งทุกอย่างมาให้ข้า”
ช่วงเวลาต่อมา
ในสายตาอับเงียบสงัดของทุกคน พวกเขานำถังน้ำขนาดใหญ่ แหวนไฟขึ้นมา
“อาบน้ำซะ เจ้าหนู” ลั่วอู๋สั่งนกกางเขนทราย
ฝูงชนดูเหมือนไร้อำนาจและตกใจ
นกกางเขนทรายอาบน้ำไม่ได้ เมื่อพวกมันตัวเปียก พวกมันก็จะป่วยและตายทันที
แต่
เกิดอะไรขึ้นกับฝูงนกกันแน่ พวกมันพากันยืนเรียงแถวกระโดดลงไปในถังน้ำทีละตัว แล้วกระโดดกลับขึ้นมาพลางสะบัดขนเหมือนกับนกปกติ และยังบินต่อไปได้อีก
ว่าอย่างไร! ว่าอย่างไร!
ท่านทำอะไรกับวงแหวนแห่งไฟงั้นหรือ
อย่าเข้าไปยุ่งกับมัน นกกางเขนทรายสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ แต่พวกมันไม่สามารถสัมผัสไฟได้โดยตรง พวกมันไม่สามารถเอาตัวรอดจากพิษของไฟป่าได้เลย
แต่
พวกมันจะล้างตัวเมื่อต้องการ และสามารถที่จะเต้นบนวงแหวนแห่งไฟได้อย่างสบาย
ฝูงคนที่มุงดูพากันส่งเสียงแสดงความแปลกใจและงงงวย
ถ้ามีอะไรอีกที่น่าทึ่งอีก ก็ขอให้นำออกมาในคราวเดียวเลย มันเหนื่อยมากแล้วที่จะลุ้น