บทที่ 38 ทักษะระดับทอง
ความก้าวหน้าและการเลื่อนขั้นภายใต้ขอบเขตของศักยภาพทางเผ่าพันธุ์ ตัวอย่างเช่น งูทองคำที่เป็นสัตว์วิญญาณระดับเงิน มันได้เข้าสู่กระบวนการพัฒนาจากระดับทองแดงสู่ระดับเงิน
การวิวัฒนาการ
ถือเป็นการเลื่อนขั้นชั้นยอดให้เกินขีดจำกัดทางเผ่าพันธุ์
ตัวอย่างเช่น งูทองคำของหลิวหูที่ก้าวเข้าสู่มิติระดับทอง และพัฒนากลายเป็นงูทมิฬปีกกระดูก สิ่งนี้คือกระบวนการวิวัฒนาการ
การวิวัฒนาการ นั้นยากมาก
และการวิวัฒนาการนั้นไม่มีความแน่นอน และไม่มีใครรู้ว่าจะวิวัฒนาการเมื่อใด
“แน่นอน อย่างที่ท่านรู้กัน เงื่อนไขของการวิวัฒนาการนั้นยุ่งยากมาก ดังนั้น ข้าจึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าสัตว์วิญญาณเหล่านี้จะมีวิวัฒนาการได้อย่างแน่นอน” ลั่วอู๋พูด
ฝูงชนตื่นตัวเล็กน้อย
ความจริงแล้ว พวกเขารู้ว่าการวิวัฒนาการนั้นยากแค่ไหน
สุนัขชาชี มีพละกำลังมหาศาลมาตั้งแต่บรรพบุรุษ พวกมันล้วนอยู่ในระดับทองแดง และห่างจากระดับเงินเพียงไม่ถึงฟุต
แต่ เจ้าตัวนี้มันยากเกินไป
“มีความเป็นไปได้แค่ไหน” มีบางคนตะโกนถาม
ลั่วอู๋ตอบว่า “30% แค่เพียง 30% เท่านั้นที่สัตว์วิญญาณสามารถวิวัฒนาการได้ มันก็ขึ้นอยู่กับพวกมันแล้วล่ะ”
30%
ฝูงชนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมา
ขอเดิมพัน!
ลุยเลย
ถ้าเกิดมีสัตว์วิญญาณระดับเงินและสัตว์วิญญาณที่สามารถวิวัฒนาการเป็นระดับเงินได้ อยู่ตรงเบื้องหน้าของท่าน ท่านจะเลือกอะไร
คนส่วนใหญ่มักจะเลือกข้อหลัง
ทำไม
เนื่องจากความไม่แน่นอนของการวิวัฒนาการ การวิวัฒนาการจึงต้องเดิมพันเสมอ
“ไม่มีใครมั่นใจว่าเจ้าขนปุยตัวนี้จะเป็นอย่างไร แต่เราทุกคนรู้ว่าเมื่อพวกมันทำได้ มูลค่าของพวกมันจะเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากการปรับแต่ง” ลั่วอู๋พูดต่อ
“อะไรคือการวิวัฒนาการของสัตว์วิญญาณ”
“มันแตกต่างยังไง”
“อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเด็กกันล่ะ”
“ท่านไม่เคยคิดจะซื้อสัตว์วิญญาณระดับทองแดงเลย ทุกคนนั้นหวังจะได้สัตว์วิญญาณระดับเงินเป็นตัวแรกเสมอ และไม่มีใครอยากให้ลูกของเขาต้องเสียใจ”
“แล้วโอกาสที่จะให้ความหวังกับลูกของท่านมาถึงแล้ว”
“เมื่อเหล่าดอกไม้แห่งความหวังเริ่มผลิบาน สิ่งที่ลูกของท่านได้รับไม่เพียงเป็นแค่สัตว์เลี้ยง แต่ยังเป็นคู่หูในอนาคตอีกด้วย และเป็นคู่หูที่ไม่มีใครเหมือน อาจทำให้หลายคนนั้นอิจฉาได้เลย”
“ท่านต้องการมันไหม”
“คู่หูที่ไม่มีใครเหมือน”
“เด็กงั้นเหรอ”
เสียงของลั่วอู๋นั้นลึก กลมกล่อม และเต็มไปด้วยการล่อลวง
ดวงตาของเด็กน้อยเหล่านั้นเต็มไปด้วยความหวังและความปรารถนา
ใครจะไม่ชอบกันล่ะ
ทั้งทรงพลัง น่ารัก และมีขนปุกปุย
ผู้ปกครองมองลูก ๆ ของพวกเขาพร้อมกัดฟัน พวกเขาไม่ลังเลและเริ่มหยิบเงินของพวกเขาออกมา
ไม่เพียงแค่เด็กเล็กที่ต้องการมัน แต่ผู้ใช้พลังวิญญาณบางคนก็เริ่มสนใจพวกมันเหมือนกัน
โดยเฉพาะผู้ใช้พลังวิญญาณบางคนที่เป็นผู้หญิง พวกมันนั้นทั้งดูดีและน่ารัก และมีโอกาสในการวิวัฒนาการ พวกนางจะไม่สนใจได้ยังไงกัน
ไม่เพียงแค่ผู้คนจากเมืองแห่งความพินาศเท่านั้น แต่ผู้คนของพื้นที่หวงชา ทั้ง 23 เขต ยังให้ความสนใจพวกมันเหมือนกัน
ประตูศาลาไป่หยู่ชลมุนอย่างบ้าคลั่ง
พวกเขาดูเร่งรีบ
มีหินวิญญาณวางอยู่จำนวนมากบนโต๊ะในศาลาไป่หยู่
โอกาสที่จะได้พบเจอสิ่งที่งดงามขนาดนี้ไม่มีอีกแล้ว
ในทำนองเดียวกัน เงินที่ได้รับจากผู้หญิงและเด็กนั้นดีที่สุดเสมอ
ลั่วอู๋มีความสุขกับผลลัพธ์ในวันนี้
“เดี๋ยวก่อน!”
ในขณะนั้น ได้มีเสียงตะโกนดังมาจากฝูงชน ทำให้ฝูงชนสงบลง
ฝูงชนแยกตัวออกห่าง มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาฝูงชน
เมื่อลั่วอู๋เห็นผู้หญิงคนนั้น เขาตกตะลึงแล้วก็ยิ้ม “ผู้จัดการหลิน บังเอิญจังเลยนะขอรับ ท่านไม่ได้ดูแลหอหวงชาอยู่งั้นเหรอขอรับ”
ผู้หญิงคนนั้นคือหลินตา
ใบหน้าของหลินตาดูอึมครึม “ข้าต้องการตรวจสอบสัตว์วิญญาณของท่าน ต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติกับพวกมัน ข้าสงสัยว่าท่านอาจจะให้ยาเลือดเดือดแก่พวกมันแน่ ๆ”
ยาเลือดเดือดจะเผาผลาญชีวิตของสัตว์วิญญาณได้อย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้น ยาตัวนี้กับเพิ่มคุณสมบัติในทุก ๆ ด้านให้แก่สัตว์วิญญาณตัวนั้น
แต่ด้วยยาตัวนี้ จะทำให้สัตว์วิญญาณตายลงในเวลาอันสั้น มีกฎเขียนเอาไว้ที่ร้านค้าทุกแห่ง ว่าสั่งห้ามใช้ยาตัวนี้โดยเด็ดขาด
ถ้าหากเป็นความจริง ศาลาไป่หยู่จะถูกปิดตัวลง
ฝูงชนมองดูสัตว์วิญญาณด้วยความสงสัย
มันไม่เป็นความจริงเลยสักนิด
ยาเลือดเดือด
ไม่ธรรมดาเลยที่จะปรับแต่งสัตว์วิญญาณชั้นยอดออกมาจำนวนมาก ถ้าท่านใช้ยาเลือดเดือดดูเหมือนว่าเป็นไปได้
“ท่านกำลังจะบอกข้าว่า ที่นี่มีสัตว์วิญญาณชั้นยอดจำนวนมาก” มีบางคนตะโกนออกมา
“ศาลาไป่หยู่แย่มาก! ข้าแน่ใจว่าเขาจะต้องหลอกเอาเงินและหนีหายไป”
“ใช่แล้ว พวกมันเป็นของศาลาไป่หยู่ เราต้องการรู้ เราต้องการยืนยันว่ามันจริงหรือไม่”
ท่านไม่สามารถตอบคำถามทุกคนได้
มีคนจำนวนมากในศาลาไป่หยู่ไม่ไว้วางใจ
ฝูงชนหยุดที่จะจ่ายเงินซื้อสัตว์วิญญาณ หลังจากได้ยินคำพูดของหลินตา พวกเขารู้สึกตื่นตระหนก ราวกับว่า พวกเขาได้จับผิด ศาลาไป่หยู่
“ยาเลือดเดือด” ลั่วอู๋อดหัวเราะไม่ได้ “แต่ครั้งนี้ มีผู้ใช้วิญญาณหลายคนตรวจสอบต้นกำเนิดของสัตว์วิญญาณแล้ว ทำไมพวกเขาถึงไม่พบมันล่ะ”
หลินตาตะโกนออกมา “แค่ผลของยาเลือดเดือดมันก็เพียงพอที่จะปกปิดพวกมันได้แล้ว ผู้ใช้พลังวิญญาณปกติไม่สามารถเข้าใจมันได้หรอก”
“โอ๊ะ!” เมื่อลั่วอู๋หันหน้าออกไป เขาเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่าง เขาจึงยิ้มออกมา “ท่านต้องการอะไร”
“ข้าต้องการตรวจสอบสัตว์วิญญาณของท่าน” หลินตาพูด
“เชิญตามสบาย” ลั่วอู๋ไม่สนใจ
“หืม! ข้ารู้ว่าท่านมันดื้อด้าน ท่านอาจารย์หยู ช่วยตรวจสอบมันด้วย” หลินตาพูดและหันหน้าออกไป
ข้าเห็นชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังของหลินตา
ลมหายใจของชายชรานั้นดูแปลก ๆ มีกลิ่นของยาลอยออกมาเล็กน้อย มันทำให้หลายคนรู้สึกอึดอัด
มีบางคนอุทานขึ้นมา “ท่านอาจารย์หยู ผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องการปรับแต่งสัตว์วิญญาณ หนึ่งในสองผู้ปรับแต่งระดับกลางแห่งหอคอยหวงชา”
“ท่านอาจารย์หยูเชิญเจ้าค่ะ”
“ท่านอาจารย์หยูข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ข้าได้ยินมาว่าเขามีความสามารถในการปรับแต่งสัตว์วิญญาณ เขาน่าจะเป็นผู้ปรับแต่งวิญญาณอาวุโส”
เกิดการพูดคุยกัน
ใบหน้าของลั่วอู๋เปลี่ยนไปเล็กน้อย “ท่านอาจารย์หยู”
เมื่อเห็นลั่วอู๋เปลี่ยนสีหน้า, หลินตาเต็มไปด้วยกำลังใจในการทำงาน: “การตรวจสอบของผู้ใช้พลังวิญญาณทั่วไปเราขอไม่นับ ท่านกล้าให้ท่านอาจารย์หยูตรวจสอบมันหรือไม่”
“ทำไมข้าถึงต้องให้ท่านอาจารย์หยูตรวจสอบงั้นหรือ” ลั่วอู๋พูดอย่างรวดเร็ว
เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คนส่วนใหญ่เริ่มนินทาในใจ
เป็นความจริงเหรอ
ท่านใช้ยาเลือดเดือดจริง ๆ ใช่ไหม
“ท่านไม่กล้างั้นเหรอ” หลินตาถาม
ลั่วอู๋เงยหน้าขึ้น แต่ดูเหมือนเขาจะไม่มีความกล้ามากพอ “ข้าไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย ทำไมต้องตรวจสอบมันอย่างไม่มีเหตุผลด้วย”
หลินตามีความสุข “ถ้าหลังจากการตรวจสอบแล้วว่าข้าเป็นคนผิด ข้าจะขอโทษด้วยตัวเอง ท่านกล้าให้ตรวจสอบมันหรือไม่”
“แล้วท่านจะชดใช้เท่าไหร่ล่ะ” ดวงตาของลั่วอู๋ประกาย
“ท่านต้องการอะไร” หลินตาพูด
“ถ้ามันเป็นทักษะระดับทองจริง” ลั่วอู๋หลังจากลังเลมานาน จึงพูดขึ้น “งั้น ก็ขอเป็นระดับทองคำละกัน”
หลินตาลังเล
ขีดจำกัดของทักษะ นั่นหมายถึงขีดจำกัดของพลังวิญญาณ
แม้แต่ในหอคอยหวงชา ยังมีสัตว์วิญญาณทักษะระดับทองอยู่ไม่มากนัก และแต่ละตัวก็มีราคาสูงกว่า 100,000 หินวิญญาณ
แต่ หลินตายังเห็นความลังเลบนใบหน้าของลั่วอู๋
“ดี! งั้นให้ท่านอาจารย์หยูตรวจสอบทักษะระดับทองนี้ ถ้าข้าเป็นคนผิดจริง ๆ ข้าจะชดเชยทักษะระดับทองให้กับท่าน” หลินตาพูดด้วยความมั่นใจ
ในสายตาของ ลั่วอู๋ มีแววฉลาดแกมโกงปรากฏขึ้นมาวูบหนึ่ง: “ตกลง เชิญเลย”
ทันใดนั้น หลินตาก็รู้สึกตกใจและสับสนอย่างมาก
ไม่มีทางน่า