“โอ๊ะ เสี่ยวเซวียนเซวียนหึงแล้วเรอะ มาๆๆ ข้าก็รักเจ้าเหมือนกันนา”

เซี่ยวอวี่เซวียนปัดมือของกู้ชูหน่วนอย่างไม่นึกเกรงใจ หันไปพูดกับเยี่ยเฟิงอย่างโมโหว่า “ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นบัณฑิตผู้มีความรู้ความสามารถ มาดื่มสุรากับสตรีแบบนี้ได้อย่างไร ยังไม่รีบไปอีก”

เยี่ยเฟิงเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ทั้งยังเป็นเด็กยกอาหารธรรมดาๆ เมื่อถูกเซี่ยวอวี่เซวียนดูถูกติเตียนต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้ ทุกคนคิดว่าเยี่ยเฟิงจะต้องโกรธแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำเพียงแค่ลุกขึ้นและคารวะพวกเขาอย่างสุภาพ จากนั้นจึงหันหลังเดินจากไป ทิ้งความทะนงตัวไว้เบื้องหลัง

“นี่ อย่าเพิ่งไป ข้ายังดื่มกับเจ้าได้ไม่เท่าไหร่เลย”

“แม่สาวอัปลักษณ์ นี่เจ้ายังเป็นผู้หญิงอยู่หรือเปล่า”

“เสี่ยวเซวียนเซวียน ข้าว่านับวันเจ้ายิ่งไม่น่ารักเลยนะ”

เซี่ยวอวี่เซวียนพยายามบังคับตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาอกแตกตายเพราะความโมโห

หลังจากได้เห็นเรื่องของซั่งกวนฉู่และเยี่ยเฟิง เขาก็เข้าใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นพวกเจ้าชู้ประตูดิน

เห็นใครหน้าตาดีเข้าหน่อยก็แทบจะห่อเอากลับเรือน

“คุณหนู เหตุใดจึงทำให้บัณฑิตเยี่ยขายหน้าอย่างนี้ล่ะเจ้าคะ”

“เจ้าจะไปรู้อะไร”

กู้ชูหน่วนมองไปยังทิศทางที่เยี่ยเฟิงเดินจากไป มุมปากของนางก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย

ไม่เคยมีชื่อเสียงในสังคม แต่กลับเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ในคราวเดียว

เห็นกันอยู่ว่าชื่อเสียงของเขาเลื่องลือ โด่งดังและมีโชคลาภ แต่กลับยังมาทำงานเป็นเด็กยกอาหารในหอสุรา

น่าสนใจจริงๆ

เกรงว่าคนผู้นี้คงจะมีเรื่องราวมากมายเป็นแน่

“พี่ใหญ่ ทุกอย่างที่ท่านสั่งให้ซื้อเราซื้อมาครบแล้ว จ่ายไปทั้งหมดหนึ่งแสนสองหมื่นตำลึง แต่เครื่องปรุงยาทุกอย่างล้วนมีคุณภาพดีที่สุด”

หลิ่วเย่ว์และอวี๋ฮุยรีบวิ่งหิ้วกล่องใบหนึ่งมา ทันทีที่เห็นอาหารและสุราชั้นเลิศเต็มโต๊ะ พวกเขาก็จ้องตาเป็นมันและรีบคว้าตะเกียบกินอาหารมื้อใหญ่

“อาหารรสเลิศมากมายขนาดนี้ จ่ายไปเท่าไรละนี่ อาหารและสุราที่หอสุราอวิ๋นจุ้ยมีแต่แพงๆ ทั้งนั้น”

กู้ชูหน่วนเปิดกล่องนับสมุนไพรข้างในและเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ดีมาก นี่ละสมุนไพรที่ข้าต้องการ”

ชิวเอ๋อร์นัยน์ตาแดงก่ำ “คุณหนู ท่านใช้เงินมากมายไปซื้อสมุนไพรพวกนี้มาทำไมเจ้าคะ ตอนนี้ใช่ว่าจะหาเงินกันง่ายๆ เราต้องลดค่าใช้จ่ายบ้างนะเจ้าคะ”

“ชิวเอ๋อร์ เจ้าเริ่มบ่นจู้จี้อีกแล้วนะ ให้กินก็กิน ให้ดื่มก็ดื่ม อิ่มท้องกันแล้วจะได้กลับเรือน”

ชิวเอ๋อร์กลัดกลุ้ม

เมื่อนึกถึงว่านายท่านกับอู่อี๋เหนียงและคนอื่นๆ จะต้องสร้างปัญหาให้คุณหนูของนางเมื่อกลับไปที่จวนอัครเสนาบดี นางก็กินอะไรไม่ลง ในหัวของนางเต็มไปด้วยคำถามที่ว่าจะรับมือกับนายท่านอย่างไร ทว่าคุณหนูของนางกลับกินดื่มกับคุณชายเซี่ยวและคนอื่นๆ โดยไม่สนใจผลที่จะตามมาเลย

จนกระทั่งเมื่อเห็นแก่สมควร กู้ชูหน่วนจึงยอมกลับไปจวนอัครเสนาบดี

ระหว่างทางชิวเอ๋อร์หันกลับมาอย่างร้อนใจ

“เหตุใดคุณหนูจึงไล่คุณชายเซี่ยวกับคนอื่นๆ กลับไปล่ะเจ้าคะ บางทีถ้าพวกเขาอยู่ นายท่านอาจจะไม่กล้าลงโทษคุณหนูหนักนักต่อหน้าคนนอก”

“รอพวกเขากลับไปแล้ว สิ่งที่ควรเป็นมันก็ต้องเป็นอยู่ดีมิใช่รึ”

“เช่นนั้น… ทำไมเราไม่ไปขอความช่วยเหลือจากท่านเจ๋ออ๋องล่ะเจ้าคะ ขอเพียงแค่ท่านเจ๋ออ๋องยอมออกหน้าแทนเรา นายท่านจะไม่มีทางทำให้เราต้องลำบากนัก”

กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ

ไปหาเขาน่ะหรือ

เกรงว่าแม้แต่หน้าก็คงไม่ได้เห็น

“จะกลัวอะไรขนาดนั้น ยังมีข้าอยู่ทั้งคน”

เมื่อเห็นจวนอัครเสนาบดีอยู่ตรงหน้า ชิวเอ๋อร์ก็ตัวสั่นเทา “คุณหนู เราเข้าทางประตูหลังดีหรือไม่เจ้าคะ”

“เข้าทางประตูใหญ่อย่างมีเกียรติ”

ไม่ว่าจะเข้าประตูไหนข้างในก็เต็มไปด้วยคนของพวกนั้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้ทำไมไม่ทำตัวให้ดูสง่าเข้าไว้ล่ะ