บทที่ 45 สาดน้ำเสีย

นี่เป็นครั้งแรกที่จางซิ่วเอ๋อปะทะกับแม่เถา

พูดถึงแม่เถาแล้ว จางซิ่วเอ๋อไม่มีความทรงจำดี ๆ กับนางเท่าไรนัก เมื่อก่อนตอนอยู่ตระกูลจาง ถึงแม้แม่เถาจะอยู่ใต้การกดขี่ของแม่เฒ่าจางเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เห็นใจพวกนางที่อยู่บ้านสี่

นางกลับถือตัวว่าตนเองมีลูกชายสองคนให้ตระกูลจางแล้วล้อเลียนและรังแกแม่โจวเป็นประจำ

ยิ่งกับบุตรสาวทั้งสามคนของแม่โจวแล้ว นางก็เอาแต่ชี้นิ้วสั่งตลอด

ตอนนี้แม่เถาทำตามที่แม่เฒ่าจางพูด ปรี่เข้ามาจับตัวจางซิ่วเอ๋อไว้

แม่เฒ่าจางเอ่ยเสียงเย็น “จับนางไว้ ข้าจะดูซิว่าในตะกร้าสานของนังตัวซวยนี่มีของดีอะไร!”

“เฮอะ ครั้งที่แล้วบอกว่าตัวเองใช้เงินจนหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? วันนี้มีชุดดี ๆ ใส่เสียแล้ว แถมยังเข้าเมืองอีก คิดจะหลอกใครรึ?” แม่เฒ่าจางรู้สึกว่าจางซิ่วเอ๋อโกหกตัวเองแล้วก็โมโหขึ้นมา

จางซิ่วเอ๋อหลบหลีกการจับกุมจากแม่เถาไปพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธขึ้งไปพลาง “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของที่ข้าซื้อมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้ข้าไม่มีเงินแล้วจริง ๆ! ต่อให้ข้ามีเงินแล้วเกี่ยวอะไรกับท่าน?”

“พวกท่านทำแบบนี้มันเรียกว่าแย่งกันชัด ๆ!” จางซิ่วเอ๋อกัดฟันพูด

ตอนนี้แม่เถาจับยึดเสื้อผ้าจางซิ่วเอ๋อไว้ ส่วนแม่เฒ่าจางผู้หูตาไวก็ยื่นมือออกไปดึงของบางอย่างออกจากตะกร้าสานของจางซิ่วเอ๋อ

ตอนนี้มีคนจำนวนไม่น้อยมามุงอยู่รอบ ๆ

หมู่บ้านนี้ก็ดีตรงนี้แหละ บ้านไหนมีอะไรก็จะมีคนมามุงไม่น้อย

อย่างไรเสียชีวิตในยุคโบราณก็น่าเบื่อเกินไป ทำให้ทุกคนต่างหวังจะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นแบบนี้ไปคุยเล่นซุบซิบหลังมื้ออาหาร

จางอวี่หมินเห็นมารดาตนดึงของออกมาได้ก็เข้ามาใกล้

จางซิ่วเอ๋อเห็นเช่นนี้ก็เอามือผลักแม่เฒ่าจาง

หญิงชราเซไปชนจางอวี่หมิน ทำให้ไส้หมูในมือหกกระจายเต็มตัวนาง

ไส้นั่นก็คือสารพัดเครื่องในมัดรวมกันเป็นพวงหนึ่ง ยังไม่ได้ชำระล้าง จะไม่เหม็นคาวได้อย่างไร?

วันนี้จางอวี่หมินติดดอกไม้ผ้าไว้บนศีรษะสองดอก ถ้าไม่ใช่ท่าทางแข็งกระด้างนั่น นางก็ดูเหมือนดอกไม้ขาวดอกน้อย

แต่พอเป็นแบบนี้ ภาพลักษณ์ของจางอวี่หมินก็ไม่ค่อยดีเท่าไร

จางซิ่วเอ๋อออกแรงสลัดจนหลุดจากแม่เถา ก่อนจะออกแรงคว้าเก็บไส้หมูเข้าตะกร้าสานตัวเอง

ของแบบนี้นางไม่ยอมให้แม่เฒ่าจางได้ไปหรอก!

ขณะนั้นจางซิ่วเอ๋อก็มองแม่เฒ่าจางอย่างโมโหแล้วเอ่ยขึ้น “นี่เป็นของที่ข้าซื้อมาบำรุงร่างกายให้ชุนเถา! ตอนนี้ข้าไม่มีเงินซื้อเนื้อ ซื้อได้เพียงของแค่นี้พวกท่านยังจะแย่งอีกเหรอ?”

ไส้หมูมีราคาถูก ไม่ค่อยมีคนซื้อของแบบนี้กิน

เมื่อทุกคนเห็นจางซิ่วเอ๋อซื้อเจ้านี่มา ก็นึกเห็นใจขึ้นมาทันที

จางอวี่หมินคลานขึ้นจากพื้นอย่างทุลักทุเลพลางร้องไห้โวยวาย “เจ้าขอโทษข้าเดี๋ยวนี้!”

จางซิ่วเอ๋อมองจางอวี่หมินอย่างนึกขำ “เรื่องอะไรข้าต้องขอโทษเจ้า? การที่พวกเจ้าแย่งของของข้านี่คิดว่าทำถูกเหรอ?”

จางอวี่หมินกัดฟันพูด “เจ้าทำเสื้อผ้าข้าเลอะ ถอดเสื้อผ้าบนตัวเจ้ามาให้ข้า!”

วันนี้จางอวี่หมินสวมชุดสีชมพูอ่อน เนื้อผ้าไม่เลว แค่ซักจนซีดไปหน่อย ดูแล้วสีไม่สดเท่าเสื้อผ้าของจางซิ่วเอ๋อ

อีกอย่าง มีใครบ้างที่ไม่กลัวเสื้อผ้าของตนจะเลอะ?

เมื่อก่อนจางซิ่วเอ๋อใส่แต่เสื้อผ้าที่มีรอยปะ จางอวี่หมินเองยังไม่เห็นนางอยู่ในสายตา และกลัวว่าจะเปื้อนเสื้อผ้าของตนเสียด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อสวมเสื้อผ้าดูดีขึ้น

ดังนั้นความคิดแรกของจางอวี่หมินก็คือนางอยากได้เสื้อผ้าชุดนี้ อีกความคิดหนึ่งก็คือคนฐานะอย่างจางซิ่วเอ๋อมีสิทธิ์อะไรได้แต่งตัวดีแบบนี้?

ดังนั้นในวันนี้นางจึงอยากจะถอดชุดจางซิ่วเอ๋อออก

ต่อให้นางไม่เอาไปใส่ ก็ไม่อยากให้จางซิ่วเอ๋อแต่งตัวดีแบบนี้!

จางซิ่วเอ๋อมองจางอวี่หมินด้วยสายตาประหนึ่งมองคนโง่ “อาเล็ก เจ้าจะไร้เหตุผลเกินไปแล้วนะ ไส้หมูของข้าอยู่ดี ๆ ในตะกร้าสานของข้า ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเจ้าจะแย่งกันให้ได้ จะไปโดนตัวเจ้าได้อย่างไร?”

“หรือว่าถ้าเสื้อผ้าเจ้าเปื้อนคราบน้ำมันบ้านคนอื่นเองแล้วต้องให้คนอื่นชดใช้ให้เจ้าเหรอ? ใต้หล้านี้ไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้นะ?” จางซิ่วเอ๋อพูดแล้วก็รู้สึกว่าสมองของจางอวี่หมินมีปัญหา

แต่คิด ๆ ดูก็น่าจะใช่ จางอวี่หมินมีแม่ที่สุดโต่งแบบนี้ ดังนั้นมันแปลกตรงไหนหากนางจะมีความคิดความอ่านไม่เหมือนคนปกติ?

จางอวี่หมินโดนจางซิ่วเอ๋อสบประมาทจนหน้าร้อน และรู้สึกว่ามีคนมองนางด้วยสายตาดูถูก จึงรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก

ถึงอย่างไรจางอวี่หมินก็ไม่ใช่แม่เฒ่าจาง ถึงนางจะไม่มีเหตุผลไปหน่อย อย่างไรเสียนางก็เป็นแค่แม่นางน้อย หน้าไม่หนาเท่าแม่เฒ่าจาง

แต่จะให้จางอวี่หมินยอมแพ้แบบนี้ก็เป็นไปไม่ได้!

จางอวี่หมินกัดฟันมองจางซิ่วเอ๋อและเอ่ยขึ้น “เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ว่าเสื้อผ้าของเจ้านี่มาจากไหน! ถ้าเจ้าไม่เอาเสื้อผ้าให้ข้า ข้าจะแฉเรื่องที่เจ้าทำ!”

จางซิ่วเอ๋อจะไปยอมโดนจางอวี่หมินขู่ได้อย่างไร “เจ้าก็พูดสิ ว่าข้าทำอะไร”

จางอวี่หมินเอ่ยเสียงเย็น “เจ้ามันก็แค่แม่ม่ายจะมีเงินได้อย่างไร? ส่วนเรื่องที่เจ้าบอกว่าไปเจอสมุนไพรบนเขา ในบรรดาพวกเรามีใครไม่เคยขึ้นเขาบ้าง? ทำไมคนอื่นถึงไม่เจอสมุนไพรล่ะ? ในสายตาข้าแล้ว ข้าว่าเจ้าคงไปทำเรื่องไม่ดีในเมืองมาชัด ๆ!”

“ไม่แน่นะ อาจจะไปปรนนิบัติแขกที่ไหนมาก็ได้ถึงได้มีเงิน!”

นางถากถาง ก่อนเชิดคางและวางท่าโอหัง “เจ้าไม่ยอมเอาเสื้อผ้าให้ข้า ข้าก็ไม่อยากได้เสื้อผ้าที่เจ้าใช้เงินสกปรกซื้อมาเหมือนกัน!”

จางซิ่วเอ๋อยิ้มบาง พลางเอ่ยตอบ “ดูท่าเจ้าคงไม่ใส่ใจสิ่งที่ข้าเตือนเมื่อครู่จริง ๆ…เช่นนั้นเจ้าอยากจะทำลายชื่อเสียงข้า ก็ทำลายต่อไปเถอะ”

พูดมาถึงตรงนี้ จางซิ่วเอ๋อก็ชะงักก่อนจะพูดต่อ “ตอนนี้ข้าเป็นแม่ม่าย ไม่มีทางได้แต่งงานแล้ว สภาพชุนเถาตอนนี้ก็ไม่ค่อยดี ซานหยาก็อายุยังน้อย ไม่รีบร้อนเรื่องแต่งงาน……”

“แต่เจ้าสิ อายุเท่าข้า นับแล้วโตกว่าข้าหลายเดือนด้วย เจ้ายังจะได้แต่งงานอีกเหรอ? ถ้าคนไม่รู้เรื่องมารู้เข้าว่าเจ้ามีหลานสาวที่ประพฤติไม่ดี เกรงว่าชื่อเสียงเจ้าก็จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่…..”

“ใครใช้ให้พวกเราอายุเท่ากัน แถมยังโตมาด้วยกันล่ะ” จางซิ่วเอ๋อพูดมาถึงตรงนี้ก็ยิ้มตาหยี อารมณ์ดีจนหัวเราะออกมา ราวกับกำลังหัวเราะเยาะความโง่เง่าของจางอวี่หมิน

จากนั้นนางก็มองแม่เถาที่คิดจะเข้ามาดึงตัวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ มีแววอันตรายอยู่ในดวงตา

แม่เถาใจกระตุกเล็กน้อย ไม่รู้ทำไม เมื่อครู่นี้จู่ ๆ นางก็รู้สึกว่าสายตาของจางซิ่วเอ๋อดูน่ากลัวมาก

จางอวี่หมินคิดจะด่าอีก แต่พอคิดว่าชื่อเสียงตัวเองก็จะพลอยเสียไปด้วย อีกหน่อยอาจจะหาสามียาก เวลานี้ก็ได้แต่หุบปาก

แต่แม่เฒ่าจางกลับด่าอย่างไม่สนอะไร “นังนี่ ทำเรื่องหน้าด้านเองแล้วยังจะลากอาเล็กเจ้าลงน้ำไปด้วย! ทำไมตระกูลจางของเราถึงมีตัวซวยอย่างเจ้ากันนะ?”

…………………………………………………