ตอนที่ 50 นี่เธอกำลังถูกเกลียด?

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

เฉินฝานซิงวางสายลง ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียด ดูเหมือนว่าการคุยโทรศัพท์กับป๋อจิ่งชวนจะสูบพลังของเธอไปไม่น้อย 

 

 

เธอก็รู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ได้โง่ หลายปีมานี้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจากสังคมที่หน้าไหว้หลักหลอกแบบนั้น เธอก็นับว่าเป็นคนฉลาดแกมโกงระดับหนึ่ง 

 

 

ทำไมพอถึงตาป๋อชวนแล้ว เธอถึงกับไปไม่ถูก 

 

 

ก่อนจะหลับเธอก็กำลังรอสายนี้อยู่ ไม่ว่าใจความของบทสนทนาจะเป็นยังไงตอนนี้มันสิ้นสุดลงไปแล้ว จู่ๆ เธอก็รู้สึกได้ถึงความว่างเปล่า 

 

 

นี่มันความรู้สึกแบบไหนกัน? 

 

 

ไม่มีความหวังอะไรทั้งนั้น 

 

 

ดูเหมือนเธอจะปล่อยวางลงไม่ได้เลย 

 

 

ตอนยุ่งๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าขาดหายอะไร พอว่างขึ้นมากลับรู้สึกว่า…ตัวเองไม่มีอะไรเลย 

 

 

ความรู้สึกว่างเปล่าแบบนี้ เป็นอะไรที่รับมือได้ยากจริงๆ 

 

 

สูดหายใจเข้าลึก หันไปดูเวลาหนึ่งครั้ง แล้วพาตัวเองเดินออกจากห้องนอนไปยังห้องรับแขก เปิดทีวีกดดูข่าวสารใหม่ๆ 

 

 

น่าเบื่อสิ้นดี 

 

 

ทั้งๆ ที่เพิ่งตื่นนอน เธอนั่งไขว่ห้างบนโซฟา มือวางบนพนักแขน ก้มหน้าลง สะลึมสะลือเหมือนจะหลับลงอีกครั้ง 

 

 

หากไม่ได้เสียงกริ่งที่ประตูปลุกเธอขึ้นมา เธอก็คงได้หลับคาโซฟาไปแล้ว 

 

 

ว่าแต่ ใครกันที่มาในเวลาแบบนี้ 

 

 

คนที่มาหาเธอจะเป็นใครได้บ้าง 

 

 

ชิงจือ? 

 

 

ก็รู้อยู่ว่าเธอยุ่งจนตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต แค่จะโทรหากันได้นี่ก็ถือว่ามากพอแล้ว 

 

 

มาผิดห้องหรือเปล่า 

 

 

เธอขยี้ผมที่ปล่อยอยู่ 

 

 

เธอเปิดประตูด้วยความสงสัย เมื่อได้เห็นคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเธอถึงกับฉงน 

 

 

ในมือของอวี๋ซงมีถุงอยู่สองใบ ข้างในเห็นเป็นเงาของเส้นสีเขียวๆ บางอย่าง น่าจะเป็นพืชผักอะไรพวกนั้น 

 

 

อวี๋ซงมองมายังเธอที่มีแววตาตื่นๆ พร้อมฉีกยิ้มอันแข็งทื่อ 

 

 

เธอพบกับอวี๋ซงมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เขาก็มักจะมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่เคยมีอารมณ์ใดๆ บนใบหน้ามาก่อน 

 

 

เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นรอยยิ้มของเขา จริงๆ แล้วแอบไม่เหมาะกับเขา 

 

 

แต่ลึกๆ ในใจของอวี๋ซงกลับมีหลายสิ่งที่ยากจะบรรยายได้เป็นคำพูด 

 

 

เหนือสิ่งอื่นใด เขาต้องเก็บความคิดก่อนหน้านี้ในห้องทำงานของคุณผู้ชายที่ว่า ‘คุณเป็นแบบนี้ไม่มีวันจีบหญิงติดหรอก’ 

 

 

เขาพลาดแล้ว! 

 

 

เขาพลาดไปแล้วจริงๆ! 

 

 

ในโลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดที่อยากได้แล้วไม่ได้สำหรับคุณผู้ชายของเขา 

 

 

ที่ผ่านมาเขาแค่ไม่มีค่าพอเท่านั้นเอง! 

 

 

แม้ว่าคุณหนูเฉินจะไม่ได้ดูจะยอมง่ายๆ แบบนั้น แต่หากคุณผู้ชายจะรุกด้วยวิธีนี้ ดูๆ แล้วอีกไม่นานคงได้สาวงามมาอยู่ในอ้อมกอดในไม่ช้า 

 

 

สองวันมานี้ทุกอากัปกิริยาของคุณผู้ชาย แม้แต่เขาที่เป็นผู้ชายตัวโตๆ ยังใจสั่นเลย 

 

 

มองว่าที่ภรรยาของผู้บริหารสูงสุดที่กำลังมองมายังเขาอย่างงงงวย อวี๋ซงโน้มศีรษะลงอย่างกดดัน แล้วพูดกับเฉินฝานซิงอย่างสุภาพ 

 

 

“สวัสดีตอนเที่ยงครับ” 

 

 

เฉินฝานซิงเองก็อึดอัดเล็กน้อยแต่ยังคงโน้มศีรษะรับตามมารยาท 

 

 

หลังจากนั้นสายตาก็เคลื่อนไปหยุดข้างๆ … 

 

 

ร่างสูงสง่าของป๋อจิ่งชวนยืนอยู่ตรงประตู สูทหรูหราราคาแพงและสง่างาม ประสบการณ์หลายปีในตำแหน่งทำให้คิ้วของเขาประทับความเข้มงวดและเยือกเย็น 

 

 

นัยน์ตาสีต้นจันทน์ลึกล้ำเกินคาดเดา ใบหน้าหล่อเหลาไม่ปรากฏความรู้สึกและความหมายใดๆ 

 

 

เสี้ยวนาทีที่เฉินฝานซิงเปิดประตูออกมา บึงลึกที่เงียบสงบค่อยๆ ยกตัวขึ้นเป็นเกลียวคลื่น หว่างคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างเยือกเย็น 

 

 

สิ่งที่ป๋อจิ่งชวนรับรู้นั่นก็คือเฉินฝานซิงตกตะลึงอย่างมาก 

 

 

ทว่าความมืดมัวที่ปรากฏขึ้นเพียงเล็กน้อยในดวงตาของเขากลับทำให้หัวใจเธอเริ่มทำงานหนัก 

 

 

เธอเป็นยังไงเหรอ 

 

 

ทำไมอยู่ๆ เขาถึงมองเธอแบบนั้น 

 

 

อยู่ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนพูดอะไรไม่ออก 

 

 

นี่เธอโดนเกลียดแล้วงั้นเหรอ? 

 

 

“คุณมาได้ยังไง” เธอถาม