ตอนที่ 51 เชื่อฟังเหมือนลูกแมวขี้ตกใจ

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

สองมือของป๋อจิ่งชวนสอดอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขายืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่วงท่าทรงพลัง สายตาติดเย็นชานิดๆ จ้องมองไปยังใบหน้างัวเงียของคนเพิ่งตื่น 

 

 

เฉินฝานซิงคิดว่าไม่ควรยืนขวางประตูคุยกันเช่นนี้ 

 

 

ในเมื่อการเชิญคนเข้ามานั่งเป็นเรื่องที่สมควร 

 

 

เธอจึงเปิดประตูให้กว้างขึ้นตามความคิด 

 

 

แววตาของป๋อจิ่งชวนขุ่นข้น หว่างคิ้วเลิกขึ้นอย่างเยือกเย็นยิ่งกว่าเก่า 

 

 

เฉินฝานซิงรู้สึกสับสน 

 

 

อยู่ๆ เขาก็มาปรากฏตัวที่นี่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย พอมาถึงก็เอาแต่ยืนจ้องเธอ 

 

 

ป๋อจิ่งชวนไม่ได้ตอบโต้ ทำเอาเฉินฝานซิงต้องเบนสายตากลับไปมองอวี๋ซงที่ยืนอยู่ข้างๆ อีกครั้ง 

 

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นในเสี้ยวนาที 

 

 

อวี๋ซงเองก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ เมื่อเห็นเฉินฝานซิงขยับปาก เขาก็จึงรีบรุดออกมาด้านหน้าแล้วยกสองถุงใหญ่ในมือขึ้น 

 

 

“คุณหนูเฉินคือพวกเรา…” 

 

 

อวี๋ซงยังพูดไม่ทันจบจู่ๆ ป๋อจิ่งชวนที่เก้ๆ กังๆ อยู่เมื่อครู่ ก็ได้แทรกตัวขึ้นมาข้างหน้าดวงตาดุจพญาเหยี่ยวจับจ้องเธออย่างไม่ลดล่ะ 

 

 

เฉินฝานซิงถึงกับตกใจจนต้องร่นถอยหลังหลบไปด้วยสัญชาตญาณ 

 

 

ผลคือป๋อจิ่งชวนย่างเข้าประตูมาในสองก้าว คว้าหมับเข้าที่ข้อมือของเธอจากนั้นฝ่ามือหนาก็รั้งเอวของเธอเข้ามาแนบในอ้อมกอด กลิ่นหอมสดชื่นจางๆ เข้าปกคลุมเธอไว้ในเสี้ยวนาที 

 

 

เธอดิ้นรนตามสัญชาตญาณ กลับได้ยินเสียงของอวี๋ซงที่ยืนอยู่หน้าประตูแว่วขึ้นมา “คุณผู้ชาย…” หลังจากนั้น ปั้ง ตามมาด้วยเสียงประตูที่ปิดลง 

 

 

ร่างของเธอแข็งทื่อไปและหยุดเคลื่อนไหวลงทันที 

 

 

อวี๋ซงกุมจมูกตัวเอง เจ็บจนน้ำตาแทบเล็ด 

 

 

จู่ๆ คุณผู้ชายก็เป็นอะไรขึ้นมาเนี่ย 

 

 

สองร่างในห้องตกอยู่ในความเงียบ ป๋อจิ่งชวนก้มลงมองหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอ้อมกอดเข้าอย่างว่าง่าย ในหน้าแนบอยู่บนอกของเขา มองไม่เห็นสีหน้า มีเพียงก็แต่กลิ่นหอมจางๆ จากเส้นไหมสีดำขลับที่สยายอยู่บนศีรษะที่ลอยเข้ามาเตะจมูก 

 

 

ท่าทางน่าเอ็นดูเช่นนี้ช่างไม่ต่างอะไรกับลูกแมวที่กำลังเสียขวัญ ไม่กล้าแม้แต่จะกระดิกตัว 

 

 

ป๋อจิ่งชวนค่อยๆ ลดสายตาเย็นชาเมื่อครู่ลง ประกายแสงเปล่งขึ้นในดวงตา 

 

 

ผู้หญิงคนนี้พอได้กอดแล้วรู้สึกดีสุดๆ ไปเลย แม้จะผอมไปหน่อยก็ตาม 

 

 

กลุ่มผมของคนในอ้อมกอดขยับเขยื้อนเล็กน้อย ป๋อจิ่งชวนก้มหน้าลงมอง 

 

 

เธอลองหยั่งเชิงดูก่อนจะพบว่าไม่มีอะไรแล้วจึงได้ผละออกมาจากอ้อมกอดของเขา 

 

 

แม้ในใจจะรู้สึกเสียดาย แต่ก็ยอมคลายอ้อมแขนออกจากเธอ 

 

 

เธอถอยออกมาสองก้าวเพื่อออกห่างเขาเล็กน้อย 

 

 

ความสับสนเกิดขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวที่เงียบอยู่นาน เรียวนิ้วขาวนุ่มยกขึ้นเกี่ยวเส้นผมที่กระจัดกระจายไปทัดไว้ที่ใบหู 

 

 

แสงในห้องนี้สว่างไม่น้อย ทำให้ป๋อจิ้งชวนเห็นไปจนถึงขนอ่อนเส้นบางๆ ตรงใบหู 

 

 

“…คุณจะทำอะไร” ดูเหมือนจะปรับตัวเรียบร้อยแล้วเฉินฝานซิงจึงได้เงยหน้าขึ้นถามเขา 

 

 

เขาก้มหน้าลงจ้องเธอพร้อมทั้งขยับปาก 

 

 

“มาทานข้าวกับคุณ” 

 

 

เธอชะงักเล็กน้อย พลางนึกถึงบทสนทนาในโทรศัพท์เมื่อครู่ 

 

 

“คุณบอกว่าคุณยุ่งมากไม่ใช่เหรอ” 

 

 

“อืม ผมยุ่งมาแต่ผมก็ยังมา” 

 

 

น้ำเสียงทุ้มต่ำเรียบเฉยเหมือนอย่างเคย 

 

 

ป๋อจิ่งชวนยังคงมองเธออยู่เช่นนั้น แววตาติดยึดพื้นที่เล็กน้อย 

 

 

คอชุดนอนหลุดลุ่ยเปิดออกกว้าง ไหปลาร้าขาวเรียบเนียนน่ามอง ยามที่หันหน้ามา เผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าอันงดงามตั้งแต่คางมนจนถึงลำคอ 

 

 

คลื่นใต้น้ำได้ผุดขึ้นในดวงตาสีนิล 

 

 

ตกลงว่าเธอมีเสน่ห์เย้ายวน มากแค่ไหน เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเมื่อกี้อวี๋ซงได้เห็นเธอในสภาพแบบนี้ไปแล้ว 

 

 

ความร้อนระอุถูกสุมอยู่ในอก เขากำลังคิดอยู่ว่าควรจะควักเอาลูกตาของอวี๋ซงออกมาดีไหม