บทที่ 68 ไม่กินเสียของแย่
วันนี้เห็นจางซิ่วเอ๋อซื้อของตั้งมากมาย ก็หลงนึกว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นพวกใช้เงินมือเติบ ชอบละลายทรัพย์เสียอีก
พอตอนนี้มาคิดถึงชีวิตของจางซิ่วเอ๋อในบ้านผีสิง ก็เกรงว่าคงจะไม่มีอะไรเลย เป็นปกติที่ต้องหาซื้อพวกหม้อพวกกระทะต่าง ๆ
แม่เฒ่าจางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็ได้ยินจางซิ่วเอ๋อพูดต่อ “ข้าไม่ได้กินเนื้อมานานแล้ว ท่านย่านี่รักข้าจริง ๆ เช่นนั้นวันนี้ข้าจะกินเยอะ ๆ หน่อย”
“เจ้าไม่ต้องเกรงใจนะ ที่วันนี้ทำเนื้อก็เพื่อให้เจ้าได้กินเชียวล่ะ!” แม่เฒ่าจางเอ่ยยิ้ม ๆ
ใต้กะละมังนี่คงไม่มีเนื้อแล้ว เนื้ออยู่ด้านบนหมด จางซิ่วเอ๋อพูดพลางคีบเนื้อด้านบน นางคีบใส่ถ้วยของแม่โจวก่อน
ก่อนจะคีบเนื้ออีกครั้งอย่างฉับไวให้จางซานหยา
จางอวี่หมินที่อยู่อีกด้านเห็นว่าเนื้อใกล้หมด ก็ร้อนใจจะยื่นตะเกียบไปคีบ
จางซิ่วเอ๋อกลับไวกว่าจางอวี่หมิน นางคีบเนื้อเข้าถ้วยตัวเอง พอเป็นแบบนี้แล้วในกะละมังจึงเหลือเนื้อเพียง 1 ชิ้น
สือโถวก็มองเนื้อตาละห้อย พลางเอ่ยปาก “ท่านแม่ ข้าอยากกินเนื้อ”
แม่เถาได้ยินก็สงสารลูก และคิดว่าตอนนี้มีคนด้านนอกไม่น้อยแอบมองสถานการณ์ในลานบ้านอยู่ แม่เฒ่าจางต้องเก็บอาการแน่ ๆ จึงตัดสินใจยื่นตะเกียบไปคีบเนื้อ
ตะเกียบของนางและจางอวี่หมินชนกัน ไม่มีใครยอมปล่อย
“ปล่อยนะ!” สีหน้าจางอวี่หมินดูไม่สู้ดี
แม่เถาไม่ใช่แม่โจว ถึงแม้นางไม่ได้อยากปะทะกับจางอวี่หมิน แต่ก็ไม่ใช่คนที่ยอมให้รังแก โดยเฉพาะเวลานี้เพื่อลูกชายตัวเองนางยอมได้หมด
“อาเล็กของสือโถว สือโถวอยากกินเนื้อ เจ้าก็ให้สือโถวกินสักชิ้นเถอะ” แม่เถาเอ่ย
จางอวี่หมินหน้าเสีย “ข้าเองก็อยากกิน!”
แม่โจวกลับไม่ยอมกินเนื้อในถ้วยตัวเอง นางลังเลเหมือนอยากยกให้คนอื่น นางกลัวว่าถ้าตัวเองไม่ยกให้แม่เฒ่าจางจะใส่อารมณ์กับนาง
จางซิ่วเอ๋อกลับส่งสายตาให้แม่โจว ก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม “ท่านแม่ รีบกินสิ ต่อให้ท่านไม่ชอบกินก็ต้องกินเพื่อน้องชายในท้องนะ!”
แม่โจวเห็นลูกสาวตัวเองพูดเช่นนี้ เวลานี้ก็ได้แต่กินข้าวเงียบ ๆ
ตอนนี้นางไม่ขาดแคลนเนื้อ แม้เด็กสามคนนี้มักจะหาทางนำเนื้อมาให้นางได้กิน แต่ตอนนี้นางไม่อยากเสียสละเนื้อชิ้นนี้แล้ว
นี่เป็นเนื้อที่ลูกสาวคนโตคีบให้ตัวเองเลยนะ!
อีกอย่าง ลูกในท้องตัวเองไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็เป็นสายเลือดตระกูลจาง ทำไมจะกินเนื้อสักชิ้นไม่ได้ล่ะ?
จางต้าหูเห็นแม่โจวกินเนื้อในถ้วยจนจะหมดแล้ว จึงมองแม่โจวเป็นเชิงให้แม่โจวเลิกกินได้แล้ว ให้ยกเนื้อชิ้นนึงให้จางอวี่หมินและสือโถว เป็นแบบนั้นสองคนนี้จะได้ไม่ต้องแย่งกัน
แต่แม่โจวทำเหมือนไม่เห็นสายตาของจางต้าหู คีบเนื้อเข้าปากตัวเองอย่างรวดเร็ว
จางต้าหูได้แต่ทอดสายตาไปที่จางซานหยา จางซานหยาเห็นแบบนั้นก็รีบก้มหน้ากินเนื้อ ไม่เห็นจางต้าหูอยู่ในสายตาสักนิด
จางต้าหูมองจางซิ่วเอ๋ออย่างหงุดหงิด “ซิ่วเอ๋อ ในถ้วยเจ้ามีเนื้ออยู่อีกชิ้นไม่ใช่เหรอ? คีบให้อาเล็กเจ้าสิ”
จางซิ่วเอ๋อเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะลึง “ไหนว่าเลี้ยงเนื้อข้าไม่ใช่เหรอ? ข้าเพิ่งจะได้กินชิ้นเดียวเอง….”
จางอวี่หมินแค่นเสียงเย็น “ใครใช้ให้เจ้าเอาเนื้อให้แม่เจ้าหมดเลยล่ะ!”
จางซิ่วเอ๋อพูดพลางขมวดคิ้ว “ตอนนี้แม่ข้าท้องอยู่ กินเนื้อบ้างก็ไม่ได้เหรอ?”
จางอวี่หมินยังอยากพูดต่อ แต่จางซิ่วเอ๋อกลับยื่นตะเกียบไปยังเนื้อที่จางอวี่หมินและแม่เถาแย่งกันอยู่
สองคนนี้ยังขัดตะเกียบเขม่นกัน จึงเปิดทางสะดวกให้จางซิ่วเอ๋อ
จางอวี่หมินเห็นท่าก็อ้าปากด่าทันที “เจ้ามียางอายบ้างไหม? เนื้อชิ้นนี้เจ้าก็จะแย่งเหรอ?”
จางซิ่วเอ๋อกลับคีบเนื้อใส่ถ้วยของแม่เฒ่าจางและเอ่ย “ท่านย่ายังไม่ได้กินเนื้อเลย เจ้าเป็นลูกสาว ไม่รู้จักกตัญญูบ้างหรือไง?”
จางอวี่หมินเสียหน้าในบัดดล
จางซิ่วเอ๋อไม่อยากได้เนื้อที่โดนตะเกียบของคนสองคนแย่งกันไปแย่งกันมาหรอกนะ ที่นางทำแบบนี้ก็ไม่ใช่เพราะกตัญญูต่อแม่เฒ่าจางจริง ๆ
นางยกเนื้อให้แม่เฒ่าจาง เพราะถ้าแม่เฒ่าจางกินเองคงไม่เท่าไร แต่ถ้านางไม่กินเองแต่ยกเนื้อชิ้นนี้ให้ใครสักคน ได้มีเรื่องสนุกแน่
ต่อให้ตอนนี้ยังไม่ปะทุ แต่ต้องมีคนบางคนไม่สบอารมณ์แน่ ๆ
แม่เฒ่าจางอยากกินเนื้อชิ้นนี้อยู่ แต่เห็นท่าทางของจางอวี่หมิน สุดท้ายก็คีบเนื้อใส่ถ้วยของจางอวี่หมิน
นางแอบเก็บเนื้อไว้แล้ว รอให้ทุกคนแยกย้ายก่อนแล้วนางจะกินคนเดียว
สือโถวมองจางอวี่หมินเอาเนื้อเข้าปากด้วยตาละห้อย ตอนกินยังไม่ลืมเลียปาก
สือโถวน้ำลายไหล เขาโวยวาย “ท่านแม่ ข้าอยากกินเนื้อ!”
แม่เถาถลึงมองสือโถวตาเขียว “กินน้งกินเนื้ออะไรเล่า? รีบกินข้าว! ไม่อย่างนั้นก็ไม่เหลืออย่างอื่นให้กินแล้ว!”
แม่เถาข่มกลั้นความขุ่นเคืองอยู่ในอก ลูกชายของนางต่างหากที่จะสืบทอดตระกูลให้ตระกูลจาง จางอวี่หมินเป็นใครกัน แม่สามีตัวเองนี่เลอะเลือนขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ! เมื่อไรชีวิตแบบนี้จะจบเสียที?
วันนี้ซื้อเนื้อมาแค่ครึ่งชั่ง แต่คนกินมากขนาดนี้ แถมแม่เฒ่าจางยังซ่อนหนึ่งในสามไว้อีกต่างหาก ในกะละมังนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว ด้านล่างเป็นผักเกือบหมด
จางซิ่วเอ๋อเห็นเศษเนื้อก็ไม่ปล่อยไป คีบให้จางซานหยาทันที
ถ้าเป็นปกติ แม่เฒ่าจางเห็นแบบนี้ต้องด่าแน่ ๆ แต่วันนี้นางมีแผนของตัวเองในใจ จึงอดกลั้นเอาไว้
นอกจากจะไม่ว่าจางซิ่วเอ๋อแล้ว ก็ไม่ตำหนิกับพฤติกรรมการกินของจางซานหยาด้วย นางกลัวว่าถ้าตัวเองด่าจางซานหยาจะทำให้จางซิ่วเอ๋อไม่พอใจ
จางซิ่วเอ๋อเหรอ? จริง ๆ แล้วไม่สนใจเนื้อพวกนั้นเลยสักนิด
แค่ซานหยาอยู่กับนาง นางได้กินอะไรบ้างล่ะ? ตั้งแต่นางย้ายออกไป ทั้งเนื้อปลาเนื้อหมูกินกันยิ่งกว่าพอ เดี๋ยวนี้นางซื้อพวกไก่ย่างด้วย
ทุกคนไม่แยแสกับเนื้อที่กินได้แค่คำสองคำแบบนี้หรอก
แต่ถึงนางไม่แยแส แม่เฒ่าจาง จางอวี่หมิน และแม่เถาแยแสนี่!
เป้าหมายของจางซิ่วเอ๋อก็คือยั่วโมโหคนพวกนี้ พวกเขาทำทุกวิถีทางให้ตัวนางกลับบ้าน ก็เพื่อเลี้ยงเนื้อนางไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นนางจะกินให้พอ! เอาให้พวกเขาปวดใจเหมือนโดนมีดกรีดได้ยิ่งดี! เอาให้พวกเขาไม่กล้าเลี้ยงข้าวตัวเองอีกได้ยิ่งดี!
บอกตามตรงว่าได้เห็นสีหน้ามืดครึ้มของแม่เฒ่าจางและหน้าตาโมโหโทโสของจางอวี่หมิน รวมถึงความอดกลั้นของแม่เถาแล้ว นางกินข้าวมื้อนี้ได้อร่อยสุด ๆ
ส่วนแม่เฒ่าจางจะมีแผนอะไรกับนาง?
จางซิ่วเอ๋อลองไตร่ตรองดู ตอนนี้นอกจากตำลึงเงินที่ไถมาจากแม่หลิน ตัวเองก็ไม่มีอะไรให้ใครหมายตาแล้ว
อย่างไรเสียสภาพของชุนเถาในตอนนี้ ต่อให้แม่เฒ่าจางอยากขายก็ขายไม่ได้
เรื่องที่ตัวเองได้ตำลึงเงินมาคงลือกันไปทั่วหมู่บ้านแล้ว แถมวันนี้ซื้อของกลับมาด้วย แม่เฒ่าจางจึงหมายตา
แม่เฒ่าจางคงรู้แล้วว่าตัวนางไม่เหมือนเมื่อก่อน ถ้าขอตรง ๆ คงไม่ได้แน่ ส่วนจะแย่งเลย พวกเขาก็ไม่กล้าไปบ้านผีสิง ตอนนี้จึงต้องใช้ไม้อ่อนในการขอเงินแทน
………………………………………………