ตอนที่ 61 :  ต้นเหตุ

แต่สายตาของสิงโตก็ยังสะท้อนแสงอันน่ากลัวออกมาอีกครั้ง

“ได้ผล” ตงฟางจิ้งสูดหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมสีหน้าที่แสดงความยินดีออกมา เขาไม่คิดว่ามันจะได้ผลเร็วแบบนี้

แต่เขาก็คิดหาเหตุผลได้ บางทีความแข็งแกร่งทางวิญญาณของหวังเย่านั้นไม่ได้สูง บวกกับการควบคุมสัตว์อสูรระดับทอง 2 ตัว สิ่งนี้มันคือภาระที่ทำให้หวังเย่าพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย

นี่คือโอกาสที่ไม่ควรพลาด

เมื่อเห็นหวังเย่ายืนนิ่ง ตงฟางจิ้งและสิงโตทองคำก็ได้ใช้เงาสังหารอีกรอบ ครั้งนี้ไม่มีเงาติดตามากนัก และพุ่งเข้าไปหาหวังเย่าโดยตรง

ตอนที่อีกฝ่ายยังสับสนอยู่นั้น เขาก็ได้ใช้สกิลกระโดดเพื่อล็อคเป้าหมายเอาไว้

กลยุทธ์ของเขามันช่างสมบูรณ์แบบ

แต่ตอนที่เขาเข้าใกล้หวังเย่าเข้าทุกขณะ  หวังเย่ากลับลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาสะท้อนแสงสีทองออกมา ก่อนที่จะฮึดฮัดลิงและแมวทั้งสองได้พุ่งเข้าใส่ตงฟางจิ้งทันที

“ไม่นะ แกหลอกฉัน ! ”  ตงฟางจิ้งได้สติกลับมาแต่ก็ไม่ได้เกรงกลัว เขาพร้อมเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายและทำการโจมตีต่อ แม้เขาจะถอยกลับมา แต่ใช้แค่สิงโตทองคำโจมตีก็น่าจะเอาชนะได้

สิงโตทองคำนั้นทั้งใหญ่และแข็งแกร่ง การเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรที่อยู่ในระดับเดียวกัน 2 ตัวนั้นไม่ได้หนักหนาอะไร แค่ตะครุบทีเดียวก็น่าจะจัดการกับลิงได้แล้ว

ในมุมมองของสิงโตทองคำแล้ว ระดับของลิงนั้นต่ำเกินไป ลิงนี่คงทนการโจมตีของมันไม่กี่ครั้งก็พ่ายแพ้แล้ว จากนั้นมันค่อยจัดการกับแมวต่อ

แม้ว่าเลเวลของแมวจะสูงแต่ก็มีขนาดที่จำกัด แมวนี่ไม่อาจจะสร้างความเสียหายที่ร้ายแรงกับมันได้ในเวลาอันสั้น

จัดการกับลิงก่อนคือการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว

แต่สิงโตทองคำมองข้ามจุดสำคัญไป มันเลือกที่จะจัดการกับลิงก่อน แต่ลิงนี่รวดเร็วและสามารถระเบิดพลังธรรมชาติออกมาได้

ปัง !

หงอคงปล่อยให้อีกฝ่ายโจมตีที่อก ก่อนจะกำหมัดขวาต่อยสวนสิงโตทองคำทันที

ตอนนั้นเองทั้งลานเกิดการสั่นไหวเล็กน้อย

หมัดนี่มีพลังที่น่าเหลือเชื่อและพุ่งเข้าใส่ที่หน้าผากของสิงโตจนทำให้เสียงกระดูกแตกดังขึ้น ดวงตาทั้งสองข้างของสิงโตถึงกับมีเลือดพุ่งออกมา

หงอคงถอยกลับไปถึงปลายลานก่อนจะยืนได้อย่างมั่นคง แม้ว่ามันจะไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่การปะทะครั้งนี้ก็ทำให้แขนของมันชาเลยทีเดียว

สิงโตคำรามออกมา การโจมตีของมันไม่ได้ผล มันถึงกับโดนต่อยกลับมาจนอยู่ในสภาพที่น่าอนาถเช่นนี้ด้วย ความยิ่งใหญ่ของราชาเจ้าป่าของมันหายไปไหน

การ์ฟิลด์เองก็เข้าโจมตีที่ท้องน้อยของสิงโต กรงเล็บของมันที่ยาวกว่าครึ่งฟุตได้สะบัดออกไปพร้อมเสียงตัดสายลม ก่อนที่จะเกิดรอยเล็บที่ท้องน้อยของสิงโตพร้อมเลือดที่ไหลอาบพื้นโดยรอบ

สิงโตร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มันทำให้ผู้คนต่างก็พากันตะลึง

“หวังเย่า แกกล้าดียังไง ? ”  ตงฟางจิ้งตาแดงก่ำ เขาเผยอีกด้านที่น่ากลัวที่ทุกคนคาดไม่ถึงออกมา

เขาเองก็บาดเจ็บไปพร้อมกับอสูร อสูรของเขารับการโจมตีจากศัตรูทั้งสองจนทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดไปตาม ราวกับว่าหัวใจของเขากำลังจะฉีกขาด

หวังเย่ามองไปที่อีกฝ่ายโดยไม่พูดอะไรออกมาแต่สายตาของเขากลับเย็นชามากยิ่งขึ้น

หงอคงพุ่งเข้าไปตบสิงโตจนทำให้มันอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ

“หยุด หยุดมันซะ” ตงฟางจิ้งตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ทำไม แกจะยอมแพ้งั้นหรือ ? ”  หวังเย่าแสดงท่าทีดูถูกออกมาและพูดขึ้น  “การแข่งขันเพิ่งจะเริ่มเองนะ แกจะยอมแพ้และทำลายชื่อเสียงหนึ่งในสี่คนที่โดดเด่นที่สุดของเมืองไปงั้นหรือ แกมองไปรอบ ๆ สิ คนอื่นจะคิดยังไง ? ”

“แก…”  ตงฟางจิ้งโกรธจนแทบกระอักเลือดออกมา เขาอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายแต่กลับต้องมาพ่ายแพ้แบบนี้

“แกจะสั่งสอนฉันไม่ใช่รึไง ? ”  หวังเย่ายังคงถากถางต่อ  “ก่อนหน้านี้แกหยิ่งทะนงนักไม่ใช่รึไง แกไม่เห็นหัวฉันด้วยซ้ำ แกจะสั่งสอนฉันแทนพ่อแม่นี่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะตรงกันข้ามกับที่แกพูดไว้นะ”

ตงฟางเหลยที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์เมื่อเห็นสถานการณ์นี้สีหน้าก็บิดเบี้ยวไป เขาโกรธจนพูดไม่ออก เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า  อยู่ ๆ ในใจเขาก็เกิดจิตสังหารขึ้นมา

คนอื่น ๆ ที่นั่งข้างเขานั้นแม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ก็อดแสดงสีหน้าที่พอใจไม่ได้  ไม่ไกลออกไปมีกล้องที่จับสีหน้าของตงฟางเหลยเอาไว้หมด

“แก…อย่าคิดว่าตัวเองสูงส่งไป”  ตงฟางจิ้งปวดใจที่เห็นอสูรของตัวเองต้องมาบาดเจ็บเช่นนี้ แต่เขาจะยอมรับกับความพ่ายแพ้ได้ยังไง

“หึหึ…โชคดีที่เป็นฉัน ไม่งั้นแล้วมันอาจจะบาดเจ็บจนต่อสู้ในการแข่งต่อไปไม่ได้  หึหึ…การต่อสู้ของเราดูน่าสนใจไม่พอ ฉันเลยเพิ่มเรื่องสนุกเข้าไปหน่อย”  หวังเย่ายิ้มออกมาก่อนที่จะมีเงาหนึ่งพุ่งตัดลานออกไป

มันคือการ์ฟิลด์ที่พุ่งไปอยู่ด้านข้างของสิงโตก่อนที่จะทำการข่วนออกไป ตอนนั้นได้มีรอยเล็บปรากฏขึ้นที่ลำตัวของสิงโต พร้อมกับขนที่หลุดร่วงออกเผยให้เห็นอวัยวะภายในของสิงโตทันที

“ก็ได้ ฉันยอมแพ้“  ตงฟางจิ้งตะโกนออกมา เขาไม่ใช่คนหยิ่งทะนงในตอนแรกอีกต่อไป เขาเหมือนกับโดนตบหน้าเข้าอย่างจัง และการต่อสู้นี้จะกลายเป็นเงาคอยหลอกหลอนเขาไปตลอดชีวิต

หวังเย่าพยักหน้าก่อนจะเรียกหงอคงและการ์ฟิลด์กลับมา จากนั้นเขาก็พูดด้วยรอยยิ้ม  “สุดท้ายแกก็รู้ว่าควรต้องทำยังไง ในที่สุดแกก็เข้าใจความจริงได้ ฉันไม่คิดเงินที่สั่งสอนบทเรียนนี้ให้กับแก”

เมื่อพูดจบเขาก็หันหลังกลับและเดินลงจากลานทันที

“หวังเย่า รอก่อนเถอะ ความแค้นนี้ฉันจะเอาคืนแน่” ตงฟางจิ้งตะโกนออกมา

“โอ้…งั้นฉันจะรอ สบายใจได้ ฉันเองก็อยากสะสางกับแกอยู่เหมือนกัน ยังไงซะแกก็ทำให้ฉันต้องเสียเงินเพิ่มอีก 250,000 เครดิต”

“แกจำได้รึยังว่าฉันเป็นใคร ? ”  หวังเย่าเผยรอยยิ้มลึกลับออกมา

“ฉันเข้าใจแล้ว เพราะแบบนี้แกถึงแค้นฉันสินะ ? ”  ตงฟางจิ้งนึกถึงบางคนขึ้นมา