ตอนที่ 62 : ผู้ตรวจสอบ
หวังเย่าเค่นเสียงอย่างเย็นชาและพูดขึ้น “ใช่ เพราะเรื่องนี้แหละ ครั้งนี้แค่สั่งสอนเล็กน้อยเท่านั้น”
“เดิมที ฉันกับแกก็ไม่ได้รู้จักกัน ไม่มีอะไรที่จะต้องเกี่ยวข้องกัน แต่จากการที่แกทำตัวสูงส่งไม่เห็นหัวใคร แกก็ควรได้รับบทลงโทษ”
คำพูดของหวังเย่าดูมีเหตุผลและหนักแน่น จนทำให้ตงฟางจิ้งหน้าเปลี่ยนสีและแทบกระอักเลือดออกมา
นี่มันนึกว่าตัวเองเป็นผู้พิทักษ์ความยุติธรรมรึไงกัน ?
ตงฟางจิ้งกัดฟันแน่นและพูดขึ้นด้วยความเคียดแค้น “แล้วคอยดู”
เมื่อหวังเย่ากลับมาที่นั่ง เขายังไม่ทันได้นั่งลง จ้าวเมิ่งซีก็ได้พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่คิดเลยว่านายจะโดดเด่นกว่าตงฟางจิ้งได้”
เมื่อฟังเช่นนั้น หวังเย่าก็ลูบคางและพูดขึ้นมาด้วยท่าทีที่มั่นใจ “เธอจะบอกว่าฉันหล่อกว่าตงฟางจิ้งงั้นรึ ? ”
“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย” จ้าวเมิ่งซียิ้ม “แต่ฉันเกลียดเขา ครั้งนี้นายดูหมิ่นเขาอย่างแรง นายทำให้ผู้หญิงหลายคนต้องปวดใจ เดาว่าในใจของพวกเธอคงเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ถ้าสายตาฆ่าคนได้จริง ๆ นางคงตายไปเป็นพันครั้งแล้ว”
หวังเย่าได้ยินแบบนั้นก็อึ้งก่อนจะมองไปรอบ ๆ
จ้าวเมิ่งซีพูดถูก ตอนนี้สายตาของสาวๆจำนวนมากมองมาที่เขาด้วยความแค้นเคือง ราวกับสายตาของงูพิษที่จ้องมองดูเหยื่อ เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะเหงื่อตก
“ฉันจะระวังตัวไว้” เขารีบก้มหน้าด้วยใจที่สั่น เขารู้สึกว่าการต่อสู้เมื่อตะกี้เขาทำเกินไปหน่อย
“จริง ๆ แล้วนายมีชีวิตที่ดีกว่านี้ก็ได้ ตราบใดที่นายไปหาเขา นายก็ไม่จำเป็นต้องกลัวรึระวังตัวจากใคร” จ้าวเมิ่งซีเหมือนจะบอกบางอย่าง
“ใครหรือ ? ฉันไม่เข้าใจว่าเธอพูดอะไร” หวังเย่าพูดขึ้น “เธอพูดถึงผู้ปกครองฉันหรือ ? ”
“ใช่ เขานั่นแหละ นายก็รู้ว่าเขาเป็นผู้ตรวจสอบระดับ 4 ดาว” จ้าวเมิ่งซีพูดขึ้น
“ผู้ตรวจสอบระดับ 4 ดาวหรือ ? ” หวังเย่าสับสน
“ใช่ นายคงไม่รู้จักผู้ตรวจสอบสินะ” จ้าวเมิ่งซีเห็นแบบนั้นก็พูดขึ้นมา “นี่คือตำแหน่งพิเศษ มันคือตำแหน่งทางการ ในเมืองนี้มีคนไม่มากที่รู้จักตำแหน่งนี้น่ะ…”
หลังจากที่จ้าวเมิ่งซีอธิบายจบ หวังเย่าก็ต้องแปลกใจ ผู้ตรวจสอบนั้นมีอำนาจไม่ต่างอะไรจากอัยการที่มีหน้าที่ตรวจสอบเกี่ยวกับด้านการเมือง เศรษฐกิจและพลเรือน
ผู้ตรวจสอบนั้นอยู่นอกเมืองคอยตรวจตราอาณาเขตของเมือง บางครั้งก็อาจจะตระเวนไกลออกไป เพื่อค้นหาที่อยู่ของสัตว์อสูรและทรัพยากรต่าง ๆ ก่อนจะสั่งการให้ทีมสำรวจรึทหารออกไปล่า พวกเขามีหน้าที่สำคัญอย่างมาก
ผู้ตรวจสอบมีการแบ่งระดับเป็น 1-5 ดาว และหัวหน้าผู้ตรวจสอบ
ในหัวเซี่ยนั้นมีหัวหน้าผู้ตรวจสอบแค่เพียงคนเดียว และแต่ละเมืองก็จะมีผู้ตรวจสอบระดับ 4 และ5 ดาว อยู่ประมาณสามถึงสี่คนเท่านั้นภายในเมืองทั้งเมือง
ผู้ตรวจสอบระดับ 4 ดาวจะรับหน้าที่ในการสำรวจ พวกเขาราวกับคบไฟที่นำทางให้กับมนุษย์ในการล่าสัตว์อสูร
เนื่องจากผู้ตรวจสอบระดับ 5 ดาวจะต้องประจำการอยู่ที่เมือง คอยเป็นหัวหน้าดูแลหน่วยงานผู้ตรวจสอบ จึงทำให้ผู้ตรวจสอบระดับ 4 ดาวกลายเป็นคนที่กุมอำนาจอย่างแท้จริง และผู้ตรวจสอบระดับ 4 ดาวแต่ละคนต่างก็มีผู้ตรวจสอบระดับอื่น ๆ ที่ต่ำกว่า รวมไปถึงกองกำลังอยู่ในบัญชาการด้วย
ดังนั้นบทบาทของผู้ตรวจสอบจึงชัดเจนอยู่แล้ว พวกเขาเป็นเป้าหมายในการพึ่งพาของกองกำลังต่าง ๆ
ต้องรู้ก่อนว่าพื้นที่ในการบุกเบิกนั้นจะสร้างประโยชน์อย่างมากให้กับกองกำลังทหารรับจ้างที่ออกล่าในพื้นที่นั้น ๆ
เนื่องจากผู้ตรวจสอบระดับ 4 ดาวมีข้อมูลสำคัญ ๆ ในพื้นที่ด้านนอก จึงสามารถเรียกระดมพลทหารรับจ้างได้เป็นจำนวนมาก
บางคนยอมรับว่าหลังจากที่โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา นอกจากเรื่องที่พวกสัตว์อสูรปรากฏขึ้นมาแล้ว ในด้านอื่น ๆ นั้นแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปเลย นอกจากว่าเกิดการค้นพบมิติใหม่และมันจะส่งผลให้ลักษณะภูมิประเทศเปลี่ยนแปลงไปด้วย
อันที่จริงแล้ว การที่โลกเชื่อมต่อกับมิติภายนอก นอกจากจะทำให้เกิดสัตว์อสูรหลากหลายสายพันธุ์ขึ้นมาแล้ว โครงสร้างมิติของมิติภายนอกก็ยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิประเทศของโลก
บ่อยครั้งที่มีการค้นพบมิติใหม่ต่าง ๆ และรวมถึงการพบกับฝูงสัตว์อสูรสายพันธุ์ใหม่จำนวนมาก รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศในพื้นที่นั้น ๆ จนทำให้บางทีภูเขาอาจจะถล่มกลายเป็นที่ราบ และมันก็เป็นไปได้ที่จะกลายเป็นรังของสัตว์อสูร
ดังนั้นแผนที่โลกที่มีก่อนหน้านี้จึงไม่อาจจะใช้การได้
และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เป็นอุปสรรค์ของการสำรวจจากดาวเทียมก็คือ มันมีสนามพลังที่คล้ายกับสนามแม่เหล็กใกล้ ๆ กับมิติภายนอก ซึ่งทำให้ดาวเทียมไม่อาจจะตรวจสอบและส่งข้อมูลออกมาได้
….
หลังจากที่เข้าใจความจริงทั้งหมดแล้ว หวังเย่าก็รู้สึกเสียดายขึ้นมา เขาไม่คิดเลยว่าหลี่ว่านเฟิงจะมีอำนาจและร่ำรวยขนาดนี้
“ถ้าฉันอยากจะเป็นผู้ตรวจสอบ จะต้องทำยังไง ? ” เขาเริ่มสนใจตำแหน่งนี้ และถามขึ้นมา
จ้าวเมิ่งซีมองไปที่เขาด้วยสีหน้าแปลกใจและพูดขึ้น “นายอยากเป็นผู้ตรวจสอบงั้นหรือ ? ”
“ใช่ ฉันสนใจตำแหน่งนี้” หวังเย่าตอบตามความจริง
“เอาจริง ๆ แล้วบางครั้งฉันก็อิจฉาผู้ตรวจสอบและคิดว่าพวกเขาคือวีรบุรุษที่แท้จริง แต่ตำแหน่งนั้นน่ะไม่ได้มาง่าย ๆ การจะได้ตำแหน่งนั้นมาต้องเข้ามหาวิทยาลัยหัวเซี่ยและจบให้ได้ด้วยคะแนนที่มากกว่า 80 คะแนน ถ้าน้อยกว่า 80 คะแนนก็เป็นได้แค่เตรียมผู้ตรวจสอบ“ จ้าวเมิ่งซีถอนหายใจออกมาและพูดต่อ “ผู้ตรวจสอบคือสาขาที่โด่งดังที่สุดในมหาวิทยาลัยหัวเซี่ย แต่มีคนไม่มากที่เข้าเรียนสาขานี้ เนื่องจากรายได้ที่สูงและมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูง อีกทั้งตำแหน่งนี้ก็มีอัตราในการเสียชีวิตที่สูงมากอีกด้วย”
หวังเย่าพยักหน้าเห็นด้วย การสำรวจพื้นที่ที่แปลกประหลาดย่อมมีอันตรายแฝงอยู่นับไม่ถ้วน หากประมาทก็อาจจะตายได้
ความเสี่ยงที่อาจถึงตายนั้นไม่อาจจะประเมินได้ด้วยเงิน
“แต่ฉันก็ยังสนใจมันอยู่ดี” หวังเย่ายังคงไม่เปลี่ยนใจ หน้าที่ของผู้ตรวจสอบกับเป้าหมายของเขานั้นคล้ายกัน มันคือการสำรวจโลกเพื่อทวงคืนอาณาเขตของมนุษย์
มันคงจะดีหากยึดครองมิติภายนอกได้ด้วย
เขาเคยเห็นข่าวมาก่อน มันบอกว่าในบางมิตินั้นไม่ได้เล็กไปกว่าโลกเลย มันถึงกับกว้างกว่าโลกก็มี พวกสัตว์อสูรในมิติภายนอกนั้นถูกเรียกว่าราชา
หากยึดมิติภายนอกที่ใหญ่โตแบบนั้นมาได้ งั้นไม่ต้องเดาเลยว่าจะต้องเป็นข่าวดีสำหรับมนุษย์แค่ไหน มันอาจจะใช้เป็นที่อพยพเพื่อรับมือกับการรุกรานของสัตว์อสูรได้
แน่นอนว่านั่นเป็นแค่ความคิด ยังไงซะมิติภายนอกก็เป็นรังของสัตว์อสูร จำนวนสัตว์อสูรที่นั่นน่ะมากกว่าและแข็งแกร่งกว่าในโลกนี้อีก
เมื่อคิดแบบนั้น หวังเย่าก็คึกคักขึ้นมา ตาของเขาเป็นประกาย เขารู้สึกว่าเป้าหมายของเขาไม่ใช่โลกอีกต่อไปแต่เป็นมิติภายนอกขนาดใหญ่ ไม่สิ ควรจะเรียกมันว่าโลกมิติจะดีกว่า
การแข่งขันในวันต่อมานั้นผู้เข้าแข่งขันตกรอบไปกว่าครึ่ง แต่ก็ยังเหลือคนหลายหมื่นคนอยู่ดี
หวังเย่าชินกับตารางการแข่งขันแล้ว เขารู้ว่ามันจะแข่งอย่างนี้ต่อไปจนเหลือ 500 คนเพื่อให้ได้นักเรียนชั้นนำมา
แน่นอนว่านักเรียนทุกคนที่อันดับน้อยกว่า 10,000 นั้นสามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้
แต่ละมหาวิทยาลัยจะรับนักเรียน 10,000 คนต่อปี ดังนั้นพวกที่ผ่านการแข่งขันในวันที่สองมาได้ก็ถือว่าได้ก้าวขาเข้าไปในมหาวิทยาลัยแล้ว
หากได้อันดับสูงขึ้นไปอีก โอกาสในการก้าวหน้าก็จะเพิ่มมากขึ้น