หลังจากกล่าวอำลาหลินจิ้งหงและหานโม่ฉือ ฉินอวี้โม่ก็มุ่งตรงไปยังโรงเตี๊ยมที่มารดาและสาวใช้ตัวน้อยอาศัยอยู่
ยามนี้ตะวันได้ลับขอบฟ้าไปแล้ว และท้องฟ้าก็เริ่มจะมืด ฉินอวี้โม่ออกไปเกือบทั้งวัน จึงเป็นกังวลว่าจะทำให้อวี๋เสี่ยวอวิ๋นกับเสี่ยวโร่วเป็นห่วง
อดีตคุณหนูสี่ได้เงินมาเป็นจำนวนมาก แถมยังมีแก่นมายาอีกจำนวนหนึ่งและสมุนไพรอีกบางส่วน นางตัดสินใจที่จะนำมันออกไปขายในวันพรุ่งนี้ และจะนำเงินที่ได้มาซื้อที่ดินสักผืนเป็นอันดับแรกเพื่อที่พวกนางจะได้ไม่ต้องเช่าอยู่ภายในโรงเตี๊ยมเล็กๆ
ฉินอวี้โม่ที่ใช้ผ้าคลุมปิดบังใบหน้าดังเดิมเร่งรีบเดินเข้าไปภายในโรงเตี๊ยมและตรงขึ้นไปยังห้องที่พวกเขาพักอาศัยอยู่
ขณะที่นางเข้าใกล้ประตูห้อง ฉินอวี้โม่ก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง….ห้องของนางนั้นเงียบจนเกินไป….เงียบจนน่าประหลาด
อาจเป็นเพราะสัญชาตญาณแห่งนักฆ่าจึงทำให้นางเริ่มระวังภัยมากขึ้นมา อดีตคุณหนูผลักประตูเข้าไปอย่างเบามือ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบา “ท่านแม่ เสี่ยวโร่ว ข้ากลับมาแล้ว”
ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจากภายในห้องราวกับว่าไม่มีผู้ใดอยู่ หากเป็นยามปกติ มารดาและสาวใช้จะต้องชะเง้อคอรอคอยการกลับมาของนาง ดังนั้นเพียงผลักบานประตูพวกเขาจะต้องส่งเสียงหรือรีบเดินมาต้อนรับ แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่…..
…..ยิ่งไปกว่านั้นฉินอวี้โม่ก็ยังได้กลิ่นเลือดจางๆ
หัวใจดวงน้อยบีบรัด อดีตคุณหนูรีบก้าวเข้าไปสำรวจภายในห้องทันที ก่อนจะเห็นว่าเสี่ยวโร่วนอนอยู่ที่พื้น เนื้อตัวของสาวใช้เต็มไปด้วยเลือด นางนอนแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหว….
….ส่วนอวี๋เสี่ยวอวิ๋นหายตัวไปแล้ว
“เสี่ยวโร่ว เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”
ฉินอวี้โม่ก้าวเข้าไปช้อนร่างของสาวใช้ขึ้นมาอุ้มอย่างรวดเร็วและพาร่างเล็กๆ ไปวางบนเตียงของมารดา ก่อนจะตรวจสอบชีพจร
หลังจากตรวจดูอย่างคร่าวๆ นางก็พบว่าเสี่ยวโร่วได้รับความเจ็บปวดจากแผลภายนอกร่างกายเป็นส่วนมาก และแม้ว่าลมหายใจของนางจะอ่อนล้าแต่ก็ไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
ฉินอวี้โม่ถ่ายปราณมายาเข้าไปในร่างกายของสาวใช้ ในขณะเดียวกันนางก็พยายามควบคุมจิตใจของตนเองไม่ให้ฟุ่งซ่านเรื่องอวี๋เสี่ยวอวิ๋นไปด้วยเพื่อไม่ให้ส่งผลต่ออาการของเสี่ยวโร่ว
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เสี่ยวโร่วก็ได้สติ สาวน้อยลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
เมื่อเห็นฉินอวี้โม่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าซีดเซียวของเสี่ยวโร่วก็ยิ่งดูย่ำแย่ขึ้นไปอีก แววบางอย่างที่บ่งบอกความรู้สึกโกรธแค้นและไม่ยินยอมปรากฏอยู่ในดวงตาของนาง
“คุณหนู คุณหนู ฮะ ฮูหยินเจ้าค่ะ ฮูหยิน ได้โปรดไปช่วยฮูหยินด้วยเถอะเจ้าค่ะ” เสี่ยวโร่วพูดอย่างร้อนรนปนตื่นตระหนก ก่อนที่นางจะถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้คุณหนูของนางได้รู้
…..หลังจากที่ฉินอวี้โม่ออกจากโรงเตี๊ยมได้ไม่นาน คนกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามาภายในห้องที่อวี๋เสี่ยวอวิ๋นและเสี่ยวโร่วอยู่
คนเหล่านั้นทั้งแข็งแกร่งและโหดร้าย ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มเป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตมายารัตนะ
ทันทีที่พวกเขาเข้ามา พวกเขาก็แสดงเจตนาว่าต้องการจะจับตัวอวี๋เสี่ยวอวิ๋นไปให้ได้
แน่นอนว่าเสี่ยวโร่วย่อมไม่ยอมนิ่งเฉยยืนดูผู้บุกรุกนำตัวฮูหยินของนางไป สาวใช้พยายามถ่วงเวลาคนกลุ่มนั้นเอาไว้และบอกให้อวี๋เสี่ยวอวิ๋นวิ่งหนี
อย่างไรก็ตาม เพราะเหล่าผู้บุกรุกแข็งแกร่งกว่านางมาก เสี่ยวโร่วที่เป็นเพียงผู้ที่อยู่ในขอบเขตจิตมายาสองดาราตัวน้อยๆ จึงไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาไว้ได้
คนกลุ่มนั้นลงมือกับเสี่ยวโร่วอย่างหนักหน่วงจนนางสลบไป หลังจากนั้นนางก็ไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นอีก เมื่อตื่นขึ้นมานางก็พบว่าอวี๋เสี่ยวอวิ๋นหายตัวไปแล้ว นางจึงคิดว่าฮูหยินจะต้องถูกคนพวกนั้นจับตัวไปแน่ๆ
อารมณ์ของเสี่ยวโร่วทั้งตื่นตระหนกและร้อนรน จิตใจของนางเต็มไปด้วยความกังวล
นางเป็นเด็กกำพร้า หากไม่ใช่เพราะอวี๋เสี่ยวอวิ๋นพานางกลับอยู่ด้วยที่ตระกูลฉิน นางก็อาจจะตายไปนานแล้ว หลายปีที่ผ่านมานางไม่สามารถปกป้องอวี๋เสี่ยวอวิ๋นและฉินอวี้โม่ได้ นางจึงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เมื่อถึงวันนี้อวี๋เสี่ยวอวิ๋นยังถูกจับไปโดยที่นางไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้อีก มันทำให้นางยิ่งรู้สึกผิดและโทษตัวเองหนักยิ่งขึ้น
“เสี่ยวโร่ว สงบสติหน่อย”
หลังจากฟังเรื่องราวที่เสี่ยวโร่วเล่ามา ฉินอวี้โม่ก็โล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย กลุ่มคนเหล่านั้นบุกมาที่นี่เพื่อจับตัวอวี๋เสี่ยวอวิ๋น ฉะนั้นแล้วนางจึงไม่น่าจะมีอันตรายถึงชีวิต เพราะถ้าหากเป้าหมายของพวกมันคือการสังหารอดีตฮูหยินใหญ่ตระกูลฉินตั้งแต่แรก คนพวกนั้นก็คงจะไม่ทำอะไรให้ยุ่งยากด้วยการพาตัวไปเช่นนี้อย่างแน่นอน หากมีคำสั่งฆ่าก็ควรรีบฆ่าทิ้งเสียเลยจะง่ายดายกว่า
ในเมื่อพวกมันจับตัวอวี๋เสี่ยวอวิ๋นไปเช่นนี้ พวกมันจะต้องมีจุดประสงค์บางอย่างอย่างแน่นอน ตั้งแต่เธอมาที่ดินแดนแห่งนี้ เธอก็ยังไม่เคยก่อเรื่องบาดหมางกับใครเลยนอกจากเยี่ยเสี่ยวตี๋ฮูหยินรองแห่งตระกูลฉิน
ตอนอยู่ตระกูลฉิน ฉินอวี้โม่เพิ่งจะเล่นงานเยี่ยเสี่ยวตี๋และเหยียดหยามนางไปอย่างหนัก *…..ถ้าหากลองคิดว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของเยี่ยเสี่ยวตี๋ที่สั่งการให้จับอวี๋เสี่ยวอวิ๋นไปเพื่อกดดันให้ฉินอวี้โม่ปรากฏตัวให้นางได้แก้แค้น….*แบบนั้นดูจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด
หลังจากวิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่ง ฉินอวี้โม่ก็เริ่มคาดเดาบางอย่างได้
“คุณหนู เป็นความผิดของข้าเองที่ปกป้องฮูหยินไม่ได้”
เสี่ยวโร่วตำหนิตัวเองเป็นอย่างมาก ตอนนี้นางกำลังไอออกมาเพราะออกแรงเล่าเรื่องด้วยอารมณ์ในขณะที่ยังบาดเจ็บและมีจิตใจฟุ้งซ่านยุ่งเหยิงอยู่
“เจ้าไม่ต้องตำหนิตัวเอง เป็นข้าที่ไม่รอบคอบเอง”
ฉินอวี้โม่พยายามจะทำให้อารมณ์ของเสี่ยวโร่วสงบลงและพยายามทำให้นางเลิกโทษตัวเอง
ตอนนี้เรื่องสำคัญที่สุดคือนำตัวท่านแม่กลับมาให้เร็วที่สุด!
“เสี่ยวโร่ว ข้าจะพาเจ้าไปโรงหมอก่อน หลังจากนั้นให้เจ้ามารอข้ากลับมาอยู่ที่นี่ ข้าจะไปช่วยท่านแม่ ระหว่างนี้เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วยล่ะ เมื่อข้ากลับมาแล้ว พวกเราจะไปจากเมืองหลิงซีกัน”
ฉินอวี้โม่แบกร่างเสี่ยวโร่วขึ้นบนหลัง หลังจากทำแผลให้นางไปบางส่วนและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ให้นางแล้ว อดีตคุณหนูสี่แห่งตระกูลฉินก็พาสาวใช้ของนางไปยังโรงหมอที่อยู่ใกล้ที่สุด