ตอนที่ 74.2 นอนกับพญายม (2)

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

เมื่อมองคิ้วที่ขมวดแน่นของพญายมนั้นอีกครั้ง เธออยากที่จะขจัดความโศกเศร้าและเจ็บปวดระหว่างคิ้วออกไปเสียจริง

ขณะคิดในใจ มือเล็กของเล่อเหยาเหยา คล้ายมีความรู้สึกนึกคิด ค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปที่คิ้วของพญายม

อย่างช้าๆ อ่อนโยน สัมผัสที่รอยย่นตรงระหว่างคิ้วของเขา

อาจรู้สึกว่าได้มีคนกำลังให้ความอบอุ่นที่เขารอคอย น้ำตาของพญายมจึงค่อยๆ หยุดลง ทว่าเขากลับไม่ปล่อยสิ่งเล็กที่อบอุ่นในอ้อมกอด

เพราะแม้พญายมจะหลับสนิท ในจิตสำนึกกลับไม่คิดปล่อยคนในอ้อมกอดไป

เพราะคนผู้นี้ แม้จะรูปร่างเล็ก ทว่าอบอุ่นยิ่งนัก

คล้ายกับลมฤดูใบไม้ผลิในเดือนสามที่สดใสงดงาม พัดเอื่อยเข้ามาในหัวใจหนาวเหน็บของเขา

อีกทั้งนานมาแล้วที่เขาไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นเช่นนี้

จึงทำให้เขาตัดใจปล่อยมือไม่ได้

อาจเพราะทั้งหมดนี้คือความฝัน แต่เวลานี้เขาต้องโอบฝันนี้เอาไว้อย่างแน่นหนา ให้ความฝันนี้ละลายน้ำแข็งในใจของตน

ส่วนเล่อเหยาเหยาลูบรอยย่นตรงระหว่างคิ้วของชายหนุ่ม เพราะชายหนุ่มพันธนาการแน่นหนา ทำให้เธอขยับไม่ได้ สุดท้ายเธอจึงเหนื่อยล้า

จึงรออยู่เงียบๆ ให้ชายหนุ่มค่อยปล่อยมือเอง จากนั้นเธอค่อยไปจากที่นี่ คิดไม่ถึง รอเพียงไม่นาน ในที่สุดเล่อเหยาเหยากลับต้านทานความง่วงไม่ได้ สุดท้ายดวงตาจึงปิดลง ก่อนเข้าสู่ห้วงนิทราไป

หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ในที่สุดหยุดลงตอนเช้าตรู่

เมฆสีดำที่ปกคุลมค่อยๆ สลายไปหมดสิ้น ปรากฎท้องฟ้าสีน้ำเงินใสราวซักล้างออกมา

ดวงอาทิตย์เจิดจ้างดงามนั้น ค่อยๆ ตัดผ่านขอบฟ้าขึ้นมา กระจายเสน่ห์อันอบอุ่นออกไป

หลังหลับสนิททั้งคืน เมื่อตื่นนอกนขึ้น เล่อเหยาเหยารู้สึกเพียงสบายไปทั่วร่างอย่างยิ่ง

คล้ายกับเมื่อคืนเพียงไปนวดที่ซาวน่ามา เธอจึงยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนพลันบิดขี้เกียจอย่างเคยชิน ท่าทางนั้นดูราวกับแมวน้อยจอมตะกละเกียจคร้านที่แสนน่ารัก!

“อืม สบายจัง!”

เล่อเหยาเหยาบิดขี้เกียจ ริมฝีปากแดงยิ้มขึ้น ก่อนถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่อยู่

คิดไม่ถึง ขณะที่เล่อเหยาเหยายื่นมือออกไปด้านนอก กลับไม่ระวังชนเข้ากับบางอย่าง

ดูแข็งและแข็งแกร่งมาก คล้ายกับเป็น…หน้าอกของชายหนุ่ม!?

พอคิดถึงเรื่องนี้ สมองที่ยังสับสนพลันเกิดเสียง‘ตูม’ขึ้นมา ก่อนจะได้สติทันที

นอกจากนี้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนพรั่งพรูขึ้นมาในสมองของเธออย่างรวดเร็ว เล่อเหยาเหยาจึงราวตื่นตะลึงไปทั้งตัว ก่อนสั่นเทิ้มอยู่ตรงนั้น

ทันใดนั้นหลังเธอได้สติ สิ่งแรกที่คิดได้คือต้องใช้โอกาสที่พญายมยังไม่ตื่น หนีไป!

น่าเสียดาย เธอเพิ่งผุดความคิดนี้ขึ้นมา สวรรค์ก็ไม่ให้โอกาสนี้กับเธอเสียแล้ว

เสียงขึ้นจมูกเบาเบาของคนด้านข้างดังขึ้น เล่อเหยาเหยาจึงหันหน้ากลับไปมอง เห็นใบหน้างดงามที่หลับสนิทนั้น ขนตาขยับเล็กน้อยอยู่ชั่วครู่ ก่อนดวงตาเย็นชาแคบยาวคู่นั้นจะค่อยๆ ลืมขึ้นมา

นี่ไฉนถึงเป็นดวงตาคู่หนึ่ง?

ดวงตาแคบยาวที่งดงามสมบูรณ์แบบ ม่านตาดำขลับดุจค่ำคืน แฝงท่าทางสะลึมสะลือราวยังไม่ตื่นนอน ดูคล้ายผ้าแพรสีดำอันบางเบา ปกคลุมความมืดมิดเอาไว้

ดูลึกลับ อ่อนช้อย ยั่วยวนใจ

เพียงพริบตาเดียว ใจที่ตื่นตะลึงของเล่อเหยาเหยา ถูกนัยน์ตาดำขลับชวนให้หลงใหลตรงหน้าคู่นั้นดึงดูดเข้าอย่างรวดเร็ว

ขณะที่เล่อเหยาเหยาตกตะลึง เหลิ่งจวิ้นอวี๋ที่เพิ่งตื่นนอน หลังได้สติลืมตาขึ้นมา เมื่อเห็นใบหน้าประณีตปรากฏขึ้นมา ใบหน้างดงามตกตะลึงเล็กน้อย ยังไม่ทันได้สติ ภายในแววตาปรากฎความประหลาดใจขึ้นมา

ผ่านไปไม่นาน สายตาถูกดวงตากลมโตงดงามตรงหน้าคู่นั้นดึงดูดเอาไว้

คนตรงหน้า มีนัยน์ตางดงามอย่างยิ่งคู่หนึ่ง ดวงตากลมโตขาวและดำชัดเจน งดงามสดใสบริสุทธิ์

ดุจน้ำพุกลางลำธารในภูเขาที่ใสสะอาด สามารถชะล้างช่วงเวลาที่เลวร้ายทั้งหมด

แวววาวสุกใส งดงามดังหยกดำ ประกายแสงไหลวนเวียน งดงามยิ่งนัก!

พริบตาเดียวใจของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เกิดสิ่งที่ผิดปกติขึ้นอย่างรวดเร็ว

เพราะดวงตางดงามสุกใสตรงหน้านี้ ทำให้เขารู้สึกอิจฉาและชื่นชอบ

เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า ภายในห้องเงียบสงบ ไม่มีผู้ใดเอ่ยปาก เงียบราวกับสามารถได้ยินเสียงเข็มที่ตกลงบนพื้น

และสองคนบนเตียง ตาจ้องตา ปะทะกันทางสายตา เพียงครู่เดียว เกิดประกายไฟรอบด้าน แสงไฟวิ่งพล่านไปมา

บรรยากาศค่อยๆ เริ่มแปลกประหลาดขึ้นมา

สำหรับบรรยากาศเวลานี้ ใบหน้าประณีตของเล่อเหยาเหยามึนงง ในใจโมโหไม่หยุด

สวรรค์!

นี่เธอโง่ใช่หรือไม่?! เมื่อคืนเธอควรจะรอให้พญายมปล่อยมือแล้วจากไป ไฉนถึงเลอะเลือนหลับไปเช่นนี้!?

หากพญายมเอ่ยถาม เธอควรจะตอบเช่นไร?!หรือจะบอกความจริงกับเขา!?

เธอน่าจะเสียสติไปแล้ว หากพญายมเพราะถูกคนเห็นท่าทางที่เหมาะสมของตน จึงอับอายและโมโห จนสังหารเธอจะทำเช่นไร!?

ยิ่งคิด เล่อเหยาเหยาเริ่มกังวลใจขึ้นมา

ตรงข้ามกับเล่อเหยาเหยาที่กังวลใจไม่หยุด เหลิ่งจวิ้นอวี๋ตรงหน้าจากเมื่อครู่ที่ตกตะลึง ค่อยๆ คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทั้งหมดขึ้นมา

เมื่อคืน เหลังกลับถึงห้องตนเอง เพราะดื่มเหล้าไปไม่น้อย สมองจึงเริ่มไม่ปลอดโปร่งและมึนงง ดังนั้นหลังเสี่ยวมู่จื่อปรนนิบัติเสร็จ เขาก็หลับไปทันที

แต่ภายหลังเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่!?

เขาคล้ายกับฝัน โดยภายในฝันเป็นเรื่องราวตอนเด็กของเขา

เวลานั้น ด้านนอกฝนตกหนักลมแรง แต่ท่านแม่ เพราะคืนนั้นเสด็จพ่อประทับที่ตำหนักของฮองเฮา จึงเสียใจอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงผลักเขาออกจากห้อง เพราะเขาหน้าตาคล้ายกับเสด็จพ่อ

ดังนั้นท่านจึงทั้งรักและเกลียด

เมื่อนึกถึงเรื่องราวตอนเด็กนั้น เหลิ่งจวิ้นอวี๋ใจกระตุกอย่างรุนแรง เจ็บปวดยิ่งนัก

เพราะความฝันพวกนี้ หลอกหลอนเขาไม่หยุด เป็นฝันร้ายที่ไม่สลายไปของเขา

ดังนั้นทุกครั้งที่เกิดพายุฝน เขาจึงมักฝันถึงช่วงเวลาในวัยเด็กที่ทำให้เจ็บปวดพวกนั้น

เมื่อคืนก็เช่นกัน!

แต่ที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือ ที่ผ่านมาฝันร้ายพวกนี้ต้องตามหลอกหลอนเขาอยู่ทั้งคืน วันที่สองที่ตื่นมา เขาจะเมื่อล้าไปทั้งตัว แต่วันนี้กลับต่างออกไป

เมื่อคืนเป็นหนึ่งคืนที่เขาหลับสบายที่สุดในรอบหลายปี

แม้ตอนแรกจะหลับไม่ค่อยดี แต่ภายหลังกลับเป็นหนึ่งราตรีที่ปราศจากความฝัน หลับสนิมจนถึงเช้า นี้สำหรับเขาถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ

หรือว่าเพราะขันทีน้อยตรงหน้านี้!?

แต่เพราะเหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ อีกทั้งยังอยู่บนเตียงของเขา ในอ้อมกอดของเขา!?

………………………………………………………………………..