ตอนที่ 74.3 นอนกับพญายม (3)

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

หลังรู้สึกตัว เหลิ่งจวิ้นอวี๋อดตาเบิกกว้างเล็กน้อยไม่ได้

มิน่าเมื่อครู่ถึงรู้สึกว่าแขนหนักเล็กน้อย ที่แท้มีคนนอนอยู่ในอ้อมกอดเขา

สำหรับความตกตะลึงของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ ทางด้านเล่อเหยาเหยาเห็นชัดว่ารู้ทุกอย่างที่เขาคิดจากแววตาที่ตกตะลึงของเขา

อดตกใจไม่ได้ ทันใดนั้นร่างกายเด้งขึ้นมา ราวกับติดสปริงเอาไว้ ออกจากอ้อมกอดของพญายม

อันที่จริงเธอใช้ชีวิตมาสิบแปดปี นี่เป็นครั้งแรกที่สนิทสนมกับผู้ชายเช่นนี้ อีกทั้งคนตรงหน้ายังเป็นที่สังหารคนโดยกระพริบตา!

สวรรค์!

หวังว่าเขาจะไม่โมโหก็พอแล้ว!

ขณะเล่อเหยาเหยาภาวนาในใจ กลับไม่รู้เลยว่า เพราะท่าทางเกินควรของตนเมื่อครู้ ทำให้บางคนบนเตียยงอดหรี่ตาลงไม่ได้

เห็นชัดว่าในใจไม่พอใจอย่างยิ่ง

หรือเขารังเกียจอ้อมกอดตนมากขนาดนี้!?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจเหลิ่งจวิ้นอวี๋ผิดหวังอย่างมาก กระทั่งน้ำเสียงยังเข้มขึ้น

“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้เช่นไร!?”

“เอ้อ คือว่า…”

เล่อเหยาเหยาที่เพิ่งหนีออกจากอ้อมกอดของพญายม คิดว่าในที่สุดตนก็อยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว เมื่อได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชานั้น พลันหนังศีรษะชาวาบ ในใจอยากร้องไห้ แต่ไร้น้ำตาขึ้นมา

ฮือๆ สวรรค์!พญายมเขาโมโหจริงๆ แล้ว!

สวรรค์ ควรทำเช่นไรดี!? พ่อจ๋า รีบมาช่วยหนูเร็วเข้า…

ฮือๆ เธอกลัวมากเลย

เล่อเหยาเหยาคร่ำครวญในใจ บนใบหน้าปรากฏความขลาดกลัวและหวาดกลัวออกมาอย่างไม่ปิดบัง ศีรษะก้มต่ำลง ไม่กล้าแม้แต่มองหน้าพญายม

เพราะเธอหวาดกลัว!

ขนาดน้ำเสียงของพญายมยังทำให้เธอขลาดกลัวเช่นนี้ หากมองใบหน้าตายของเขาอีก เธอไม่ตกใจจนตายถึงจะแปลก!

ดังนั้น เล่อเหยาเหยาจึงเป็นนกกระจอกเทศที่ไร้ศักดิ์ศรี

มือเล็กผุดผ่องคู่นั้น เพราะหวาดกลัวกังวลจึงพันกันไม่หยุด จนแทบกลายขนมหมาฮวา[1]

“ท่านอ๋อง นี่คือว่า…”

จะพูดเช่นไรดี!? หรือจะพูดความจริงไป? แต่ตอนนี้พญายมน่ากลัวยิ่งนัก

หากเธอพูด เมื่อคืนได้ยินเขาเสียงร้องไห้เสียใจของเขา ดังนั้นจึงเข้ามาดู จากนั้นถูกเขาโผกอด เธอสลัดไม่หลุด จึงนอนหลบไป!?

แต่พญายที่หยิ่งยโส จะให้คนอื่นรู้ถึงเรื่องน่าอับอายอ่อนแอของตนได้เช่นไร ถึงตอนนั้นเขาคงไม่คิดสังหารคนปิดปากใช่หรือไม่!?

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยากังวลจนเต็มไปด้วยเหงื่อ จนเปียกชุ่มไปทั้งตัว

จากนั้นเวลานี้พญายมเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง อีกทั้งน้ำเสียงยังดุดันกว่าเมื่อครู่ เรียบเฉยราวกับลมหนาวในเดือนสิบสองที่พัดผ่านมา จนหนาวเหน็บไปถึงกระดูก

 “เงยหน้าขึ้นมาพูดกันเถอะ!”

“เอ้อ”

เมื่อได้ยินคำพูดของพญายม แม้แล่อเหยาเหยาจะคล้ายไม่ยินยอมเล็กน้อย แต่เธอยังเชื่อฟัง เงยใบหน้าเล็กที่ก้มต่ำขึ้นมา

ดวงตางดงามที่ขลาดกลัวคู่นั้นแอบมองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้า ในใจหวาดกลัวไปพร้อมกัน ทว่าอดไม่ได้ที่จะถูกกลิ่นอายสูงศักดิ์แลเกียจคร้านของชายหนุ่มดึงดูดไว้

เสื้อชั้นในสีขาวเบาบางแยกออกตัวนั้น เผยให้เห็นหน้าอกอันแข็งแรงนั้นของเขา

บนผิวหนังสีน้ำตาลนั้น  แยกลายกล้ามเนื้อชัดเจน ลายเส้นสมบูรณ์แบบ

ดุจหมึกสีดำเข้มไหลพุ่งลงมา เหมาะสมกับความสูงศักดิ์ทว่าเกียจคร้านของเขา ดูชั่วร้ายและน่าหลงใหล!

แม้เขาเพียงนอนสบายอารมณ์อยู่ตรงนั้น ทว่ากลับปรากฎท่าทางงามล่มเมืองได้อย่างถึงอกถึงใจ!

ทว่าหากไม่มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชาเคร่งขรึมของเขา

เห็นบนใบหน้าชายหนุ่ม เยือกเย็นดุจน้ำค้างแข็ง ดวงตาล้ำลึกแคบยาว ราวกับบ่อน้ำพันปีอันหนาวเย็นจนติดลบ

ส่วนสายตาเย็นชา เวลานี้จ้องเขม็งอยู่บนตัวเธอ ทำให้เธอด้านหลังชาวาบ พลันรู้สึกกดดันอย่างยิ่ง!

ทว่าแม้เวลานี้เล่อเหยาเหยาจะอยากหนีไปจากที่นี่ หนีไปจากสายตาของพญายม แต่เธอแขนขาที่เล็กสั้นของเธอ การคิดหนี ถือเป็นเรื่องที่เพ้อฝันอย่างแท้จริง

ทว่าเธอไม่กล้าเอ่ยบอกความจริง ดังนั้นเพื่อรักษาชีวิตตนเอง เล่อเหยาเหยาจึงจำใจโกหกออกไป

 “เอ้อ ท่านอ๋อง ความจริงเป็นเช่นนี้ขอรับ บ่าวป่วยมาตลอด…”

 “อะไรนะ!? เจ้าป่วย!? เจ้าป่วยอันใด!?”

เมื่อได้ยินคำพูดของเล่อเหยาเหยา ดวงตาเย็นชาของเหลิ่งจวิ้นอวี๋เปล่งประกายอย่างรวดเร็ว ก่อนคำพูดที่ห่วงใยพลันดังออกมาจากปากเขา

ทันใดนั้น เขาคล้ายรู้สึกตัวว่าเมื่อครู่ตนตื่นเต้นเกินไป โดยเฉพาะเมื่อเห็นแววตาตกตะลึงในท่าทางที่ตื่นเต้นเกินไปของตนของเล่อเหยาเหยา เห็นเช่นนั้น พญายมจึงมีสีหน้ามึนงง บนแก้มทั้งสองข้างนั้นแดงก่ำอย่างรวดเร็ว

คล้ายกับเพิ่งทาชาดสีแดงชั้นดี เพียงเพิ่มสีเท่านั้น!

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของพญายม เล่อเหยาเหยาจึงหวั่นไหวอย่างยิ่ง

ดวงตางดงามเบิกกว้าง ภายในดวงตาตกตะลึงอีกครั้ง ในใจรู้สึกคล้ายไม่เชื่อสายตา

เมื่อครู่เธอมองไม่ผิดใช่หรือไม่ พญายมเขา…เหมือนเป็นห่วงเธอ!

หลังรับรู้เรื่องนี้ แม้ในใจเล่อเหยาเหยาจะหวั่นไหว ทว่าสำหรับชายหนุ่มตรงหน้า ไม่มีความหวาดกลัวเมื่อครู่แล้ว กลับรู้สึกดีใจขึ้นมาเล็กน้อย

อันที่จริงได้รับความห่วงใยจากพญายม ทำให้เธอรู้สึกคาดไม่ถึงเลยจริงๆ

ส่วนทางด้านพญายม เวลานี้ในใจกลับสับสน ใบหน้างดงามดูเขินอาย โดยเฉพาะเมื่อเห็นรอยยิ้มในดวงตางดงามสุกใสคู่นั้นของเล่อเหยาเหยา ใบหน้างดงามจึงแดงก่ำขึ้น

ดังนั้น เมื่อเกรงว่าผู้อื่นจะรับรู้ถึงความเขินอายของตน พญายมจึงไอหนักๆ ออกมา ก่อนพลันเปลี่ยนใบหน้าให้เย็นชาดุจน้ำค้างแข็งเช่นเดิม แม้เขาอยากจะทำหน้าให้ดูเย็นชา

แต่แก้มแดงก่ำของเขา กลับทำลายความเย็นชาเคร่งขรึมบนหน้าเขาให้ลดลง ทำให้คนที่มองรู้สึกอึดอัดและรู้สึกว่าเขา…ช่างน่ารัก!

อย่างน้อยที่สุด เล่อเหยาเหยาเวลานี้รู้สึกว่าพญายมดูน่ารักและอึดอัดเล็กน้อย

เมื่อนึกถึงชายหนุ่มที่คิดว่าเธอคือขอนไม้ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไร้ที่พึ่งเมื่อคืน ความวาดกลัวในใจเล่อเหยาเหยาที่มีต่อพญายมพลันสลายไปจนหมดสิ้น

ดังนั้น การจะโกหก ใบหน้าต้องไม่แดง ไม่หายใจติดขัด

 “เรียนท่านอ๋อง ความจริงบ่าวป่วยเป็นโรคประหลาดประเภทหนึ่ง นอกจากนี้ท่านหมอจำนวนมากเอ่ยว่ารักษาไม่หายขอรับ การป่วยประเภทนี้ ความจริงจะพูดว่าร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรงก้ได้ขอรับ แต่กลับสร้างความลำบากให้บ่าวไม่น้อย”

“โอ้ งั้นเจ้าป่วยเป็นอันใดกันแน่!?”

แม้จากดวงตากลมโตงดงามคู่นั้นของเล่อเหยาเหยาจะรู้ว่าเธอโกหก แต่เหลิ่งจวิ้นอวี๋กลับอดเอ่ยถามเธอไม่ได้

เพราะเห็นเวลานี้ขันทีน้อยอธิบายอย่างสมจริงสมจัง เป็นขั้นเป็นตอน เขาพลันรู้สึกสนใจขึ้นมา

[1] ขนมหมาฮวา เป็นขนมของจีนชนิดหนึ่ง เป็นการนำแป้งที่บิดผสานกันไปทอด มีความกรุบกรอบ รูปร่างคล้ายการทักเปีย