ตอนที่ 77 ศักดิ์สิทธิ์
ฉู่หลิวจ้องไปที่ประตูที่พังแล้วด้วยสายตาเหม่อลอย สักพักนางก็ค่อยๆ ได้สติกลับมา
เมื่อครู่นี้… นางแค่สร้างคลื่นในทะเลสาบเองมิใช่หรือ
ทำไมถึงได้มีพลังระเบิดออกมาอย่างน่ากลัวขนาดนี้
ในขณะนั้นเอง ก็มีร่างหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาจากด้านนอกประตู
“เยว่เอ๋อร์!”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ฉู่หลิวเยว่ก็ลืมตาขึ้นโดยไม่รู้ตัว แล้วเห็นว่าคนที่เข้ามาคือหรงซิวนั่นเอง
เห็นได้ชัดว่าเขามาหลังจากได้ยินเสียงแตกของประตู
จู่ๆ ก็มีความคิดแวบเข้ามาในหัวของฉู่หลิวเยว่ สถานที่ที่เขาพักอยู่ไกลจากที่นี่ แล้วทำไมเขาถึงมาเร็วขนาดนี้
สายตาของหรงซิวกวาดไปที่แผงประตูอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงก้าวจ้ำอ้าวเข้ามาข้างในทันที
“เป็นอย่างไรบ้าง เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น”
อันที่จริงตอนแรกที่เขาเข้ามา เขาก็สังเกตเห็นว่าฉู่หลิวเยว่ไม่ได้เป็นอะไรมาก เขาจึงผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ถึงกระนั้นเขาก็ยังเป็นห่วงนางอยู่ดี
ฉู่หลิวเยว่เกิดความรู้สึกหวั่นไหว นางชินกับน้ำเสียงที่ฟังดูอ้อยอิ่งของเขา แต่คราวนี้เมื่อได้ยินนางกลับรู้สึกประหม่าขึ้นมา
เมื่อมองเข้าไปใกล้ ๆ ระหว่างคิ้วทั้งสองข้างเผยให้เห็นถึงความกังวลที่ไม่สามารถสังเกตได้โดยง่าย
นี่เป็นสิ่งที่หายากมากสำหรับหรงซิว เพราะเขาไม่ค่อยแสดงอารมณ์หรือสีหน้าเท่าใดนัก
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้า
“ข้าไม่เป็นไร ข้าแค่พยายามควบแน่นหยวนตัน ทว่ามีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น และก็ไม่สามารถควบคุมพลังให้ดี”
“จริงหรือ”
หรงซิวมองนางด้วยความสงสัย
แค่หลอมรวมหยวนตันทำไมจึงก่อให้เกิดความรุนแรงถึงเพียงนี้ได้
ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกว่าคำพูดนี้ดูไม่สมเหตุสมผลนัก เมื่อครู่นี้ ต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่สามก็ไม่มีทางปล่อยพลังขนาดนั้นออกมาได้!
แต่ความจริงมันก็เป็นเช่นนี้…
นางขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
“ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ องค์ชายไม่ต้องเป็นห่วง”
ขณะนั้นเองเสวียเสวี่ยก็รีบกระโดดเข้ามาจากด้านนอกและเดินมาใกล้ๆ เพื่อสูดดมกลิ่น เพราะมันกลัวว่าจะมีอะไรผิดปกติกับร่างกายฉู่หลิวเยว่อะไรหรือไม่
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกจั๊กจี้ที่คางเพราะสัมผัสโดนขนหัวของมัน นางจึงอดหัวเราะไม่ได้
“พอแล้วๆ! เสวียเสวี่ย ข้าไม่เป็นอะไร ไม่ได้รับบาดเจ็บสักหน่อย!”
เสวียเสวี่ยกะพริบตาและเห็นว่านางไม่เป็นไรจริงๆ แล้วจึงถูขอนางเป็นการออดอ้อน
หรงซิวเหลือบมองไปที่เสวียเสวี่ย
เสวียเสวี่ยที่ตอนแรกระริกระรี้มากกลับรีบลุกขึ้นคำรามหนึ่งเสียง จากนั้นก้าวถอยหลังออกมาอย่างเชื่อฟังและทิ้งตัวนอนหมอบลงกับพื้น
ฉู่หลิวเยว่ลูบหัวมันป้อยๆ และมองหน้าหรงซิวก่อนจะถามด้วยความสงสัย
“องค์ชาย ทำไมพระองค์ถึงได้วิ่งมาเร็วขนาดนี้หรือเพคะ”
เสวียเสวี่ยก็เป็นสัตว์อสูรระดับสูง แต่ก็เป็นสัตว์จำพวกสิงโตด้วยดังนั้นจึงมีความเร็วมากเช่นกัน
มันควรจะมาทันทีเมื่อได้ยินการเคลื่อนไหว กระนั้นก็ยังตามหลังหรงซิวอยู่ดี
“…หรือว่า พระองค์ทรงอยู่แถวนี้พอดี”
เมื่อหรงซิวเห็นว่าสายตาของนางค่อยๆ ดูแปลกไป เขาจึงอดหยิกแก้มนางด้วยความมันเขี้ยวไม่ได้
“อย่าคิดเรื่องเหลวไหลพรรค์นั้น ข้าแค่นอนไม่หลับก็เลยออกมาเดินเล่นเท่านั้น พอได้ยินเสียงข้าจึงรีบมา”
ฉู่หลิวเยว่ดึงมือของเขาออก แต่ในใจของนางก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี
ทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้
ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าเขาจะเดินเล่นอยู่ใกล้ๆ ทว่าเมื่อเขาเข้ามา กลับเคลื่อนไหวตัวเร็วมาก และนางก็ยังจำมันได้ชัดเจน!
ร่างกายที่อ่อนแอ”นี้ขององค์ชายหลีอ๋อง มีบางอย่างซ่อนเร้นจริงๆ…
ถึงกระนั้นฉู่หลิวเยว่ก็ไม่คิดจะเซ้าซี้ถามต่อ
“องค์ชาย มันก็แค่อุบัติเหตุเท่านั้น พระองค์กลับไปพักผ่อนเถิด”
หรงซิวเหลือบมองประตูที่หักพังอย่างมีเลศนัย
“ถ้าข้าไป เจ้าแน่ใจนะว่าจะพังข้าวของที่นี่อีก”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
เรื่องนี้อธิบายไม่ได้จริงๆ…
“หากเจ้ายังอยากหลอมรวมหยวนตันต่อ ข้าก็จะอยู่ที่นี่และจะไม่รบกวนเจ้า”
เมื่อพูดจบ หรงซิวก็นั่งลงบนเก้าอี้ตรงมุมห้อง จากนั้นก็หยิบหนังสือขึ้นมาเปิดดู ราวกับว่าเขาไม่ได้คิดจะจากไปไหน
ฉู่หลิวเยว่พูดไม่ออกชั่วขณะ
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครหน้าหนาไปกว่าคนผู้นี้อีกแล้ว
จะมองก็มองไปสิ
ทะเลสาบอยู่ภายในจุดตันเถียนของนาง คนนอกไม่สามารถสังเกตได้ ส่วนใหญ่พวกเขาสัมผัสได้เพียงพลังที่ระเบิดออกมาจากมันเท่านั้น
แล้วสิ่งนั้นก็สามารถใช้หยวนตันอธิบายได้
เดี๋ยวนะ!
ฉู่หลิวเยว่เกิดประกายแสงในใจ และในที่สุดก็เข้าใจความหมายของประโยคนั้น
มันหมายถึง…ใช้มันเป็นหยวนตัน!?
ตอนที่ 78 เจ้าของของข้า
เมื่อฉู่หลิวเยว่ตกตะกอนจุดนี้ได้ก็แทบจะรู้แจ้งในทันที!
ในตอนนี้พิสูจน์ได้แล้วว่านางสามารถระดมพลังในทะเลสาบแห่งนี้ได้ ซึ่งจริงๆ มันก็มีประโยชน์เหมือนกันกับหยวนตันนั่นเอง!
นอกจากนี้ พลังที่ทะเลสาบแห่งนี้สามารถบรรจุได้นั้นแข็งแกร่งกว่าหยวนตันหลายเท่าอย่างเห็นได้ชัด!
ถึงกระนั้นมันก็ทำให้เกิดคลื่นและระเบิดออกมาด้วยพลังมหาศาล หากนางปล่อยพลังจนสุดแรงของนาง ถ้าอย่างนั้น…มันก็จะสามารถสร้างการโจมตีที่ทรงพลังกว่าได้อย่างแน่นอน!
สิ่งนี้ยังคงอยู่ในจุดตันเถียนของนาง และดูเหมือนว่าการหลอมรวมหยวนตันจะเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
หากเป็นเช่นนั้น วิธีเดียวก็คือใช้มันแทน หยวนตัน ของตัวเอง!
ทว่า ทำเช่นนี้ก็จะมีหนึ่งปัญหา สิ่งนี้มีจิตสำนึกของตัวเอง เห็นได้ชัดว่ามันไม่ฟังคำสั่งของนางเลยได้ทั้งหมด หากควบคุมได้ไม่ดี มันอาจจะสร้างหายนะให้กับตัวนางเอง!
ทันใดนั้นเอง ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกมีความเคลื่อนไหวบางอย่างในร่างกายของนาง นางจึงรีบกลั้นหายใจและมองไปที่จุดตันเถียนของนาง
นางเห็นว่าทะเลสาบค่อยๆ กลายเป็นหยดน้ำขนาดมหึมา และบนหยดน้ำนั้นก็มีแผนภาพลวดลายน่าพิศวงค่อยๆ ปรากฏขึ้น!
มันเป็นลวดลายเหมือนที่เคยปรากฏครั้งแรกในฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่!
ขณะนั้นเอง ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกว่ามีความเชื่อมโยงกันระหว่างนางกับหยดน้ำนั้น!
ดูเหมือนว่าหยดน้ำนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของนางไปแล้ว!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นไหว และนางก็ลองพยายามระดมพลังในหยดน้ำ
เกิดเป็นคลื่นที่แผ่วเบากว่าแต่ก่อนมาก และในขณะเดียวกัน พลังก็แผ่กระจายไปทั่วทุกส่วนของร่างกายของนางอย่างรวดเร็ว!
นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเพียงเพราะการเชื่อมโยงที่ละเอียดอ่อนนั้น คราวนี้มันจึงง่ายกว่ามาก!
สมดั่งใจหมาย!
นางพยายามหลายครั้งและในที่สุดก็ตัดสินใจว่าหยดน้ำนี้ได้สร้างความสัมพันธ์บางอย่างกับนางแล้ว!
ขณะนั้นเอง เสียงที่ดังก้องและกังวานราวกับว่าเดินทางข้ามกาลเวลามาตั้งแต่สมัยโบราณซึ่งกำลัง สะท้อนอยู่ในจิตใจของฉู่หลิวเยว่
“สามพันโลก สวรรค์เกิดความโกลาหล เจ้าของของข้ามีขึ้นและมีลง”
…
ฉู่หลิวเยว่ฟังเสียงนี้จบไปตั้งนานแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถเรียกสติกลับคืนมาได้
ประโยคนี้ช่างดูมีอำนาจและทรงพลังยิ่งนัก
ในอดีตชาติ นางเคยเห็นมหาอำนาจชั้นนำมากมายทั่วทั้งอาณาจักร แต่กลับไม่มีใครกล้าพูดเรื่องแบบนี้!
อาณาจักรเสวียนอู่นั้นกว้างใหญ่ไพศาลและมีหลายเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ ใครสามารถยืนบนจุดสูงสุดได้จริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ที่สำคัญคือผู้ที่พูดประโยคนี้คือ “เจ้าของของข้า”
นั่นไม่ได้พูดถึงนางหรือ
นี่ไม่น่าขันไปหน่อยหรือ…
เสียงค่อยๆ หายไป และมีเพียงหยดน้ำใสขนาดมหึมาที่ยังคงอยู่ในจุดตันเถียนของฉู่หลิวเยว่อย่างเงียบ ๆ ราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
ฉู่หลิวเยว่ไม่อยากสนใจประโยคนั้น แต่พบว่าเสียงนั้นกลับฝังลึกอยู่ในใจของนางและยังคงวนเวียนอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหน
นางรอสักครู่แล้วหยุดคิดเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อสิ่งนี้ยอมรับให้นางเป็นเจ้าของแล้วน่าทำอันตรายใดๆ กับนาง ดังนั้น ห้ถือว่ามันเป็นหยวนตันสำหรับนางในตอนนี้ก็แล้วกัน!
ก่อนหน้านี้มันเคยมาในรูปร่างของทะเลสาบ แต่ยามนี้เพราะมันยอมรับนางให้เป็นเจ้าของของมันอย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้นมันจึงกลายเป็นหยดน้ำหยดหนึ่ง
ฉู่หลิวเยว่ยังคงจำได้อย่างชัดเจนว่าตอนฟื้นฟูชีพจรเดิมได้มีน้ำหยดเล็กๆ ไหลออกมาจากทะเลสาบ ซึ่งมันมีพลังมหาศาลและกระจัดกระจายไปทั่วร่างกายของนาง
ตอนนี้นางมีชีพจรตี้จิงแล้ว และดูเหมือนว่าจะมีผลต่อน้ำหยดนั้นด้วยเช่นกัน
และหยดน้ำนั้นมีน้ำน้อยกว่าหนึ่งในพันของหยดน้ำนี้!
ทันใดนั้น ระลอกคลื่นสีแดงหนึ่งระลอกก็ปรากฏขึ้นบนหยดน้ำ!
ดูเหมือนน้ำทั้งหยดจะถูกห่อด้วยเยื่อหุ้มน้ำที่โปร่งใสแวววาว และลายเส้นระลอกคลื่นสีแดงบนนั้นไว้เพื่อให้หยดน้ำกระเพื่อมช้าๆ แต่ตัวมันเองกลับไม่มีการเคลื่อนไหวเลยสักนิด
ลักษณะเช่นนี้จะดูค่อนข้างคล้ายคลึงกับหยวนตัน
เมื่อระดับพลังของผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปเพิ่มขึ้น หยวนตันในร่างกายก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง หยวนตันจะปรากฏออกมาเป็นลายเส้นหนึ่งเส้น
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่สองก็เป็นลายเส้นสองเส้น เช่นนี้เป็นต้น
ฉู่หลิวเยว่มองดูหยดน้ำและคิดอย่างจริงจัง
อันที่จริง นอกจากรูปร่างของสิ่งนี้จะแตกต่างจากหยวนตันแล้ว อย่างอื่นก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างมากนัก
อ้อ จริงสิ มันยังมีจิตสำนึกของมันเองอีกด้วย
ทว่าแบบนี้ก็สะดวกกับนางมากกว่าเยอะ
ถึงอย่างนั้น…ทำไมมีแค่เส้นเดียวล่ะ
ตอนนี้จะว่ายังไงนางก็ถือว่ามี หยวนตัน แล้ว ตามพลังความสามารถของนางในตอนนี้ นางควรจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่สามถึงจะถูกต้องนี่นา!
มีเพียงแค่ลายเส้นเส้นเดียวได้อย่างไร!
ฉู่หลิวเยว่ไม่พอใจและพยายามเพิ่มอีกหนึ่งเส้นให้จงได้ แต่ลายเส้นบนหยดน้ำกลับไม่มีความเคลื่อนไหวเลยสักนิด
หลังจากดูลายเส้นนั้นอยู่นานสองนาน ฉู่หลิวเยว่ก็ตระหนักได้ว่า เพราะหยดน้ำนี้คิดว่าพลังความสามารถของนางในตอนนี้ยังไม่เพียงพอที่จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่สองหรือ
“เจ้าดูถูกความสามารถข้าหรือ!”
ฉู่หลิวเยว่ถามอย่างไม่อยากเชื่อ
“อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะให้ข้าสักสองเส้นสิ!”
เส้นเดียวจะไปใช้ทำอะไรได้ ดิ้นรนมาทั้งวันเป็นได้แค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่หนึ่งเองหรือ
น้ำหยดนั้นไม่กระเพื่อมสักนิด
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกว่าโดนรังเกียจอย่างอธิบายไม่ถูก
นางจ้องมองที่หยดน้ำอยู่ครู่หนึ่ง กลับก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดก็ลืมตาขึ้นด้วยความโกรธ!
“หืม เจ้าหลอมรวมหยวนตันสำเร็จแล้วหรือ”
เมื่อหรงซิวรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวทางด้านนี้จึงหันมามองทันที
และเขาก็สัมผัสได้ถึงปราณของฉู่หลิวเยว่ทันทีที่เห็น…ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขามองฉู่หลิงเยว่หัวจรดเท้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามอย่างไม่แน่ใจ
“เจ้า…แน่ใจว่าจะไม่ทะลวงขั้นต่อแล้วหรือ”
ความสามารถของนางไม่ได้อยู่ที่ระดับนี้อย่างแน่นอน
ฉู่หลิวเยว่บดกราม นางจะยอมรับได้อย่างไรว่าเป็นเพราะนางไม่สามารถสร้างลายเส้นที่สองใน หยวนตัน ต่อไปได้
“ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่หนึ่งก็ดี คมในฝัก!”
หรงซิวทำหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
“วุ่นวายเสียจนสำนักเทียนลู่และทั้งเมืองหลวงแทบพลิกฟ้าดิน คราวนี้คิดว่าเป็นดาบคมในฝักอย่างนั้นหรือ พระองค์ยังบอกอยู่เลยว่าให้ดื่มฉลองอย่างยิ่งใหญ่มิใช่หรือ”
ฉู่หลิวเยว่ส่งเสียง “หึ” ออกมา
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”
นางไม่เพียงแค่ตัดขาดกับตระกูลฉู่เท่านั้น นางจะเอาคืนคนที่เคยเยาะเย้ยเหยียดหยามเป็นร้อยเท่าพันเท่าด้วย
เมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดของนางแล้ว เขาจึงอดหัวเราะไม่ได้
“สงสัย เยว่เอ๋อร์คงอยากชวนข้าดูละครน้ำดีแน่เลย”