บทที่ 71 ปิดบัง

หมอผีแม่ลูกติด

บทที่ 71

ปิดบัง

หลินซีเหยียนนั้นแม้จะสงสัย แต่สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนในเวลานี้คือต้องหาวิธีจัดการกับพิษในร่างกายของตัวนางเองเสียก่อน หลังจากที่สายตาของนางกลับคืนมาแล้ว นางก็ได้ทำการหยดเลือดของตัวเองออกมาเล็กน้อย แล้วจากนั้นก็เริ่มทำการทดลองเพื่อทำยารักษา

ในช่วงเวลานี้เจียงหวายเย่ยังไม่ได้ออกไปไหนแต่ยังคงนั่งลงและมองไปที่หลินซีเหยียน ดวงตาของเขานั้นดูอ่อนโยนมาก

จากนั้นอันอี้ก็ได้เดินเข้ามาด้านในแล้วกระซิบข้างๆหูของเจียงหวายเย่ แล้วดวงตาของเจียงหวายเย่ก็เปลี่ยนไปทันทีและคิ้วก็ขมวด “หาให้ได้ว่าใครกันที่กล้ามาทำเช่นนี้ภายใต้สายตาของเปิ่นหวาง”

หลินซีเหยียนก็ได้หันหน้ามา แล้วมองไปที่เจียงหวายเย่แล้วถามด้วยเสียงเบาๆ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

เจียงหวายเย่ก็ลังเลอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจบอกกับนางไป “อันอี้รายงานมาว่า หงเสวี่ยกับเหลียนเซียงถูกวางยาพิษน่ะ”

อะไรนะ? หลินซีเหยียนก็ได้ลุกขึ้นยืนและแล้วคิดที่จะไปหาหงเสวี่ยกับเหลียนเซียง แต่ก็ถูกห้ามโดยเจียงหวายเย่เสียก่อน “เปิ่นหวางได้ส่งหมอไปรักษาพวกนางแล้ว ขอให้ เสี่ยวเหยียนเอ๋อจงใจเย็นแล้วทำยาถอนพิษให้ได้ดีกว่า”

หลินซีเหยียนก็ได้หรี่สายตาของนาง นางนั้นยังรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่ดี สุดท้ายนางก็ได้ไปที่ตำหนักของ เหลียนเซียง

ในเวลานี้เหลียนเซียงอยู่ในสภาพอาการหนักมา และหมอเองก็ได้ทำการตรวจชีพจรอย่างเร่งรีบและใช้เข็มเงินเพื่อทำการฝังเข็ม แล้วพออาการของเหลียนเซียงสงบลงแล้ว ท่านหมอก็ได้มาหาพระชายาเพื่อรายงาน

“แม่นางทั้งสองต่างก็ถูกพิษที่รุนแรง คนหนึ่งนั้นได้รับยาเข้าไปไม่มากนัก ตัวข้าจึงได้ทำการรักษาอย่างเร่งรีบ แต่อีกคนตายแล้วขอรับ” ท่านหมอได้ทำการรายงานอย่างจริงจัง

“หงเสวี่ยตายแล้วเหรอ?” หลินซีเหยียนมองไปที่ชิงอวี่เพื่อทำการยืนยัน ซึ่งชิงอวี่ก็ผงกหัว แล้วหลินซีเหยียนก็ได้ตบโต๊ะอย่างโมโห “นี่ถึงกับพยายามฆ่าคนเลยงั้นเหรอ?”

แล้วนางก็ได้สะบัดแขนเสื้อเป็นสัญญาณบอกให้ชิงอวี่ไปส่งคุณหมอกลับไป แล้วนางก็ได้เดินเข้ามาหาเหลียนเซียง นางสัมผัสชีพจรของเหลียนเซียงแล้วก็รู้สึกโล่งใจเมื่อพบว่ายังไม่เป็นไร โชคยังดีที่เหลียนเซียงยังมีชีวิตรอด

เดิมทีหลินซีเหยียนนั้นอยากที่จะรอให้นางฟื้นขึ้นมาก่อนแล้วค่อยออกไป แต่ก็มีเรื่องด่วนเข้ามาก่อนในช่วงนี้พอดี เทียนเอ๋อนั้นมีผื่นแดงไปทั่วทั้งตัว อีกทั้งยังหายใจลำบาก

หลินซีเหยียนได้ยินก็รีบไปที่โรงเตี๊ยมซื่อฟางทันที ซึ่งเจียงหวายเย่ก็ตามมาด้วย ทันทีที่หลินซีเหยียนเข้ามาในห้องนางก็พบขนมวางอยู่บนโต๊ะ นางก็ได้ทุบขนมนั้นให้แตกแล้วก็พบว่ามีไส้ของเมล็ดดอกบัวอยู่ข้างใน

เมื่อนางรู้เรื่องนี้เข้าก็พบว่าแย่แล้ว แล้วก็รีบทำให้ เทียนเอ๋ออ้วกเอาของที่กินไปออกมา ถึงแม้ว่าเมล็ดดอกบัวที่เขาทานลงไปจะอ้วกออกมาหมดแล้วก็ตาม แต่อาการของ เทียนเอ๋อนั้นกลับยังไม่ดีขึ้นเลย

ในขณะเดียวกันเจียงหวายเย่ก็ได้มองไปที่หลินซีเหยียนด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจแล้วก็ถามด้วยเสียงที่หนักแน่น “เทียนเอ๋อกินเมล็ดดอกบัวไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?”

หลินซีเหยียนที่กำลังตาแดงก็ได้ผงกหัวแทนการพูด จากนั้นนางก็ได้รีบเขียนสูตรยาให้จี๋เฟิง จี๋เฟิงก็ได้รีบรับมาแล้วมุ่งหน้าไปที่ร้านยาทันที

“คุณหนูเจ้าคะ มันเป็นความผิดของข้าน้อยเองเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่รู้มาก่อนเลยว่านายน้อยจะกินเมล็ดดอกบัวไม่ได้” จิ่งชุนที่หมอบอยู่ที่พื้นก็ได้ตะโกนออกมา แล้วเล่าให้ฟังว่าเดิมทีนางอยากที่จะให้นายน้อยได้ลองชิมเมนูใหม่ของโรงเตี๊ยม แต่นางก็ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้

หลินซีเหยียนก็ได้นวดขมับของนางราวกับนวดเนื้อแล้วกล่าว “จิ่งชุนอย่าได้โทษตัวเองเลย เจ้าลุกขึ้นมาก่อนเถอะนะ”

จิ่งชุนนั้นเดิมทีอยากที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่เมื่อเห็นว่าหลินซีเหยียนนั้นดูเหนื่อยล้ามาก นางจึงได้ปิดปากและไม่สร้างความวุ่นวายอะไรให้คุณหนูของตัวเองเพิ่มอีก

เจียงหวายเย่ที่ยืนอยู่ข้างๆก็คิดแล้วคิดอีก จากนั้นเขาก็ได้เดินมาข้าหน้าแล้วตบไหล่ของหลินซีเหยียนเบาๆ “เสี่ยวเหยียนเอ๋อใจเย็นๆก่อนนะ เปิ้นหวางพอจะมีวิธีช่วย เทียนเอ๋ออยู่”

เมื่อหลินซีเหยียนจึงได้มองไปที่เขา เขาก็พบว่ามีน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของนาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าถึงความกังวลและกระวนกระวายของหลินซีเหยียน และอธิบายได้ว่านางนั้นมีเทียนเอ๋ออยู่ในหัวใจของนาง

เจียงหวายเย่ก็ได้หยิบเอาขวดหยกออกมาจากแขนเสื้อของเขา แล้วจากนั้นก็เทเอายาออกมาเม็ดหนึ่ง “เข็นรถเข็นพาเปิ่นหวางไปใกล้ๆเทียนเอ๋อ”

ถึงแม้ว่าหลินซีเหยียนนั้นไม่รู้ว่าองค์ชายต้องการจะทำอะไร แต่นางก็ยังทำตามที่เขาบอกแล้วก็พบว่าเจียงหวายเย่ได้ป้อนยาในมือของเขาเข้าไปในปากของเทียนเอ๋อ

“ไม่ต้องกังวลไปเสี่ยวเหยียนเอ๋อ ยาเม็ดนี้เป็นยารักษาอาการแพ้เมล็ดดอกบัวโดยเฉพาะ” เจียงหวายเย่กล่าว แล้วมองไปที่หลินซีเหยียนด้วยสายตาที่สงสัยแล้วก็พูดเสริม “เสี่ยวเหยียนเอ๋อรู้หรือไม่ว่า คนที่จะมีอาการแพ้เมล็ดดอกบัวนั้นจะพบได้แค่ในเชื้อพระวงศ์ของรัฐเจียงเท่านั้น?”

เรื่องนี้หลินซีเหยียนย่อมไม่รู้อยู่แล้ว ดังนั้นหลังจากที่นางได้ยินเรื่องนี้ ในหัวของหลินซีเหยียนก็ได้ว่างเปล่าไปชั่วขณะ เชื้อพระวงศ์รัฐเจียงงั้นเหรอ แล้วชายเมื่อตอนนั้นเป็นใครกันล่ะ?

ในเวลานี้เจียงหวายเย่เองก็ตกใจมากเช่นกัน หรือว่าคนเมื่อตอนนั้นหรือว่าจะเป็นเสี่ยวเหยียนเอ๋อ? นี่อาจจะต้องเป็นโชคชะตาแน่ๆ!

ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองกันอยู่นั้น เจ้าลูกชิ้นขาวเทียนเอ๋อก็ได้ฟื้นขึ้นมา เขาขยี้ตาของตัวเองแล้วจากนั้นก็ตะโกนเรียกแม่ของเขาด้วยเสียงที่ออดอ้อน

หลินซีเหยียนที่นั่งอยู่ที่ปลายเตียงก็ได้เผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปากของนาง

เทียนเอ๋อก็พบว่าแม่ของเขานั้นมีสีหน้าที่เศร้าหมองมาก จึงได้รีบพูดปลอบ “ท่านแม่อย่าร้องนะ อย่างเทียนเอ๋อน่ะโชคดีตลอดอยู่แล้ว”

เจียงหวายเย่ที่นั่งอยู่ข้างๆก็ได้มองดูเรื่องทั้งหมดนี้ จากนั้นก็เหมือนคิดบางอย่างออกจึงได้มองไปรอบๆแล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก “เปิ่นหวางไม่ต้องการให้เรื่องในวันนี้เผยแพร่ออกไป ไม่อย่างนั้น…..”

แม้จะพูดออกมาไม่จบ แต่ผู้คนต่างก็เข้าใจได้ทันทีว่าองค์ชายเย่หมายถึงอะไร หลังจากที่ส่งทุกคนกลับไปแล้ว หลินซีเหยียนกับเจียงหวายเย่ก็ได้กลับไปที่พระราชวังพร้อมกับเทียนเอ๋อ

มีสิ่งหนึ่งที่เจียงหวายเย่ทำหลังจากที่กลับไปที่พระราชวังแล้วคือสั่งให้อันอี้สืบมาให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลินซีเหยียนเมื่อ 5 ปีที่แล้วกันแน่ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่เจียงหวายเย่ก็คิดว่าเทียนเอ๋อนั้นจะต้องเป็นลูกชายของเขาแน่ เขารู้สึกโชคดีอย่างมากในเวลานี้

ในค่ำคืนที่ไร้การหลับใหลนี้ เหลียนเซียงที่ในที่สุดก็ฟื้นขึ้นมาแต่ดูเหมือนว่านาง สายตาของนางนั้นหาได้ขี้กลัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่กลายเป็นคลุ้มคลั่งขึ้นมา นางได้ยิ้มขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิดนั้น “หงเสวี่ย เจ้าวางใจได้เลยข้าจะล้างแค้นให้เจ้าอย่างแน่นอน”

วันต่อมาเทียนเอ๋อก็ได้หายเป็นปกติ หลินซีเหยียนเองก็รู้สึกโล่งอก แต่แล้วนางก็พบว่าความกังวลของนางก็ได้กลับมาอีกครั้ง

“ท่านแม่ เกิดอะไรขึ้นกับท่าน?” เทียนเอ๋อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับแม่ของเขา เขาจึงได้เอื้อมมือไปแล้วเขย่าหลินซีเหยียน แต่ก็ไม่ได้ตอบสนองอะไรกลับมา

“ท่านแม่ตาของท่าน!” ด้วยความตกใจเสียงจึงได้ดังมากขึ้นเรื่อยๆ

หลินซีเหยียนจึงได้เอามืออุดหูอย่างไม่พอใจ “เจ้าเด็กตัวแสบ เจ้าอยากให้แม่ของเจ้าหูหนวกรึยังไง?

“ท่านแม่” เทียนเอ๋อร้องไห้ออกมา แต่ก่อนที่หลินซีเหยียนจะได้ปลอบเขา นางก็ได้ยินเทียนเอ๋อพูดว่า “ท่านแม่ป่วยเช่นนี้ นี่มันทำลายชื่อเสียงของท่านในฐานะหมอผีเลยนะเนี่ย ท่านแม่ต้องรีบรักษานะขอรับ ไม่งั้นน่าอายแย่เลย”

ในเวลานี้หลินซีเหยียนรู้สึกอยากจะเอาผงยาพิษขว้างใส่เจ้าเด็กตัวแสบนี่จริงๆ ไม่รู้ว่าไปเรียนการใช้วาจาดั่งพิษร้ายนี้มาจากใครกัน?

“เจ้าช่วยไปหาป้าชิงอวี่ให้แม่แล้วนางต้มยามาให้แม่สักถ้วยที” หลินซีเหยียนกล่าว

เทียนเอ๋อเช็ดน้ำมูกที่ไหลออกมาอย่างตื่นเต้น เขาก็ได้รีบขานรับแล้วรีบออกไป จากนั้นเขาก็พบกับชิงอวี่แล้วก็ถามอย่างเป็นกังวล “โรคของท่านแม่สามารถรักษาให้หายได้ใช่ไหมขอรับ?”

ในเวลานี้เทียนเอ๋อก็ได้แสดงสีหน้ากลัวขึ้นมาบนใบหน้าของเขา